วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 01:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 09:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: เคล็ด..การใช้อำนาจบุญแก้กรรม-ปัญหาชีวิต :b42:
.....ผู้เปิดเผยเคล็ดเรื่องนี้คือ....
ท่านพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล
....ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยเจ้าแห่งวัดภูจอก้อ จ.มุกดาหาร อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ท่านมีประสบการณ์ทางจิตที่โลดโผนพิศดาร แม้เดินจงกรมก็สามารถเดินเหยียบอากาศ เอาผ้าไปพาดไว้บนกิ่งไม้สูงสิบเมตรได้ ทั้งสามารถมองเห็น ภูติผีปีศาจ เทวดา นาค ครุฑ ยักษ์ อย่างชัดแจ้ง แม้กระทั่งลืมตา มีญานระลึกชาติย้อนหลัง ได้มากมายหลายชาติ เป็นพระสงฆ์ที่ใช้เวลาท่องเที่ยวไปในนรกสวรรค์ปานเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์โลกนับไม่ถ้วน ด้วยท่านเป็นพระที่ไม่สนใจใน ลาภ ยศ ชื่อเสียง ทั้งเทพยดาสูง-ต่ำ ตลอดจนภูติผีปีศาจ ต่างให้ความเคารพท่านมาก วัดของท่านจึงเป็นศูนย์รวมของเทพยดา และ ภูติ ผี -ปีศาจ-เปรต-อสูรกาย สัมภเวสีที่ตกทุกข์ ได้ยากทั่วทุกสารทิศ พากันหลั่งไหลมุ่งไปหาขอความช่วยเหลือจากท่าน แต่ละวันผู้คนมากหน้า หลายตาต่างดั้นด้นข้ามป่าข้ามเขา ผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่าน เพื่อให้ท่านช่วยแก้ไข ปัญหาเคาระห์กรรมต่างๆ ซึ่งท่านก็เพียงแต่ แนะนำหลักการใช้บุญแก้กรรมแบบง่ายๆ แต่ทว่า...ได้ผลชงักงันอย่างคาดไม่ถึง อย่างชนิดที่ ไม่มีพระรูปไหนกล้าพูดแนะนำได้อย่างนี้ เรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่าเวรกรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่นให้ฟ้าผ่าห่ากิน...แก้ได้ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่ต้องทำพิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียเวลา เสียเงินทองให้มากมาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 10:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้วันพระใครที่ได้ทำบุญขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ
จริง ๆ แล้วนับถือและศรัทธาหลวงพ่อเกษมมากค่ะแต่ไม่เคยไปที่วัดได้แต่อ่านหนังสือของท่านบางเล่ม
อยากทราบวิธีการ เคล็ดลับ ใช้อำนาจบุญแก้กรรม แก้ปัญหาชีวิต เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 10:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


(ต่อ..)
....แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า ทุกวันนี้ คนทำบุญทำกันไม่เป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่ตะบันก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมอย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียว
หลายท่านเมื่อนำคำสอนที่ท่านแนะนำไปปฏิบัติต่างก็ได้ผลดีเกินคาด แต่ด้วยความที่ท่านไม่อยากเด่นอยากดัง หากใครจะขอนำประวัติของท่านมาลงหนังสือ ท่านจะไม่ยอมพูดด้วย ท่านจะมีเมตตามากในการเทศน์การสอนญาติโยม แม้กลางคืนก็ยังต้อนรับผู้มาเยือนจากแดนทิพย์ไม่หยุดหย่อน พร่ำสอนเผยแพร่เคล็ดนี้ทั้งวันทั้งคืน ท่านมีแผ่นซีดีแจกจ่ายให้นำไปฟังแล้วบอกว่า "ฟังแล้วให้นำไปปฏิบัติ แล้วแจกจ่ายกันฟังต่อ ฟังเข้าใจ แล้วไม่จำเป็นต้องถ่อไปหาท่านที่วัด เพราะวันๆ ท่านก็เหนื่อยพอแล้ว การจะทำบุญจะทำที่ไหนก็ได้ เช่น ทำบุญกับพ่อ-แม่เป็นพระอรหันต์อยู่ในบ้าน แล้วอุทิศบุญให้เทวดา และเหล่าสรพพสัตว์ในโลกทิพย์ก็ได้ผลเท่ากับถวายทานให้พระอรหันต์ วัดของท่านมีพอกินพอใช้แล้ว ไม่ขาดแคลนอะไร จึงไม่จำเป็นต้องหลั่งไหลมา ทำบุญกับท่านก็ได้"
....วิชาเจริญเมตตาแผ่บุญกุศลนี้ พระอาจารย์กล่าวว่า เคยใช้กันมากมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่เพิ่งสาบสูญไปเมื่อ ๓๐๐-๔๐๐ ปี มานี่เอง ถ้าค้นคว้าในพระไตรปิฎกก็พบมากแห่งที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญและเทวดาผู้รับบุญ ท่านมีเรื่องราวพิศดารมหัศจรรย์ในกรรมฐานอย่างมากมาย การตอบคำถามถึงปัญหาในการปฏิบัติธรรม ท่านจะตอบอย่างห้าวหาญ ทั้งคำถามในด้านโลกียะและโลกุตระ ความหมายละเอียดของอารมณ์ พระอริยเจ้าแต่ละระดับ ทะลุไปจนถึงพระนิพพาน ทุกคำถามมีคำตอบจากท่าน สุดแต่ผู้ถามจะถามปัญหาใด ลีลาการตอบคำถามของท่านจะออกแบบชาวบ้านๆ ฟังแล้วเข้าใจง่ายไม่ต้องตีความ นำไปสู่การพัฒนาทางจิตยิ่งๆ ขึ้นไป
(ต่อ..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: หนังสือที่ประมวลสรุปไว้นี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่ออ่านแล้วนำไปประพฤติปฏิบัติ ท่านก็จะประสบความสุขความสำเร็จตามปรารถนา แต่เรื่องนี้มิได้มุ่งหวังที่จะไม่ให้ใคร ไม่ต้องตาย..มิได้มุ่งหวังจะทำให้ใครอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล กฏของไตรลักษณ์ย่อมเป็นไปตามไตรลักษณ์ ไหนๆ เราก็ต้องตาย แต่เมื่อเรามีทางเลือกที่จะตายได้อย่างสุขสบาย ตายอย่างไม่ต้องมีทุกข์ เวทนา และตายได้อย่างมีสติถึงพร้อมแล้วอย่างนี้ เราจะปฏิเสธได้หรือ อีกอย่างหนึ่ง ข้อมูลสาระนี้ จะไม่เป็นประโยชน์อันใดกับท่านที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับมานะสังโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ขาดซึ่งอิทธิบาท ๔ เช่นนี้แม้ฟ้าดินก็หมดปัญญาที่จะเข้าไปยุ่งอะไรกับท่าน เมื่อป้อนยาเข้าปากแต้ไม่ยอมกลืน จะคายทิ้งก็สุดแท้แต่เถิด.
:b43: ที่มาของการเปิดเผยเคล็ดการแผ่บุญแก้กรรม :b43:
...ชีวิตของมนุษย์สัตว์ ทั้งในโลกนี้และในโลกทิพย์ ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กันในเรื่องกฏแห่งกรรมอยู่ตลอดเวลา ในการเวียนว่ายตายเกิดไปๆมาๆ จะหาที่ไม่เคยเป็นญาติไม่เคยเป็นเพื่อน ไม่เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันไม่มี ชีวิตของทุกผู้ทุกตนจึงมีส่วนสัมพันธ์กันไม่มากก็น้อย ทั้งในส่วนดีมากและดีน้อย ทั้งในส่วนเลวมากและเลวน้อย ทั้งในส่วนที่ทำให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังมากชิงชังน้อย ทั้งในส่วนที่รักมากและรักน้อย ตามแต่กรณี
.....การได้ดีตกยาก เจ็บไข้ได้ป่วย ของมนุษย์และสัตว์ส่วนหนึ่งเกิดจากผลกรรมในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ อีกส่วนหนึ่งได้รับเหตุปัจจัยกระทบจากสิ่งรอบข้าง อีกส่วนหนึ่งเกิดจากการกระทำของวิญญานลี้ลับที่เรามองไม่เห็น เช่นเทวดาช่วยเหลือ เทวดาให้โทษ เจ้ากรรมนายเวรที่เคียดแค้นชิงชังให้โทษ ในคนทุกคน สัตว์ทุกตัว จะมีเทวดารักษาอย่างน้อย ๒ องค์
(ต่อ..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: เทวดาประจำตัวนี่แหละที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างคาดไม่ถึง บ้างก็ชอบช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จ หรือช่วยปกป้องคุ้มครองให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายที่น่าหวาดเสียวมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งบางทีเราก็ยกให้เป็นอานุภาพของวัตถุมงคลที่แขวนคอเสียก็มี เด็กน้อยบางคนแม้ไม่มีวัตถุมงคลแขวนคอเลย เวลาตกบ้านตกเรือนด้วยความซุกซน แต่ไม่ได้รับอันตรายเพราะเหมือนมีใครมาอุ้มไว้ก่อนตกถึงพื้นก็มี บุคคลบางคนไม่มีวัตถุมงคลติดตัวเลย แต่สามารถหลุดพ้นจากอุบัติเหตุและการดักทำร้ายของศัตรูมาได้อย่างปาฏิหารย์ นั่นคือการปกป้องรักษาจากเทวดาประจำตัวเขาและหรือ ญาติในโลกทิพย์ของเขา
...ในเรื่องกฏของกรรม เราชาวพุทธคงไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อตนเองกำลังเดือดร้อน กำลังเครียดหรือกำลังทุกข์ทรมานในเรื่องใดๆ ที่จำต้องยอมทนอย่างไม่มีทางเลือก หลายๆ ท่านมักจะจงนึกจงคิดแต่เพียงว่า จะขอรับชะตากรรมนั้น หวังจะชดใช้ให้มันหมดเวรหมดกรรมจบๆกันไป การคิดเช่นนี้ดูจะเข้าท่า ตามหลักการยอมรับในกฏของกรรม แต่ออกจะหยาบและดูจะปิดโอกาสปิดช่องทางของตนเองอย่างสิ้นเชิง นี่เองท่านพระอาจารย์กล่าวว่า พวกเราไม่รู้ว่ามันยังมีทางออก มีทางเลือกที่แสนจะง่าย ทั้งๆ ที่เรามีทางเลือก ที่จะยอมรับในผลกรรมด้วยวิธีของตนเองได้ ทั้งๆที่เรามีวิธีจะชำระล้างหนี้แค้นหนี้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขาโดยที่เราก็ไม่ได้เบี้ยวหนี้ โดยที่เราก็ยังเคารพในกฏของกรรม โดยที่เราไม่ต้องทุกทรมาน ไม่ต้องกลุ้มไม่ต้องเครียด ขณะเดียวกันเจ้ากรรมนายเวรเขาก็พอใจกับประโยชน์สุขอย่างนี้เต็มที่ ความเคียดแค้นพยาบาทอะไรต่างๆ ที่มีต่อเราก็จางมลายหายไปสิ้น เขาก็เป็นสุขเราก็เป็นสุข แต่นี่...เรากลับปล่อยให้เขาเลือกที่จะเล่นงานเราอยู่ฝ่ายเดียว ต่างฝ่ายต่างก็เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งคู่ เขาก็ทุกข์กรุ่นอยู่กับความพยาบาทอาฆาต เราก็ทุกกข์ด้วยเวทนาเพราะเขาคอยจ้องแต่จะมาเล่นงานอย่างไม่เลิกลา....
(ต่อ..)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 10:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...อย่ากระนั้นเลย เรามายอมรับกฏของกรรรมแต่โดยดี ในแบบฉบับที่เราเลือกได้ด้วย "บุญ" กันดีกว่า
...คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานกันมาแล้วทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญมันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธีชำระหนี้แค้นให้เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยได้รับผลบุญในสรวงสวรรค์ แล้วก็พากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตก็ไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสอนสั่งกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอนกรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็เลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่เทวดาที่ช่วยดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเองแถมบางทีการแผ่อุทิศบุญก็ให้ไม่เฉพาะเจาะจงเข้าอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดไปแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์ อาจมีบุญน้อย มีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับ อานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย

:b43: วิธีการทำบุญให้เกิดสัมฤทธิผล :b43:
...พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่มาแห่งบุญไว้ ๓ ประการย่อๆ คือ...
๑. บุญเกิดจากการให้ทาน
๒. บุญเกิดจากการรักษาศีล
๓. บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ

(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.....การสร้างความดีทุกประการนั้นล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทุกเรื่อง..
:b48: บุญเกิดจากการให้ทาน....เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะให้ของแก่พ่อ-แม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะเกิดกระแสบุญ เป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก...ดังนั้นจึง***ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร/ถวายของให้พระสงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญในทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนสวด "ยถาสัพพี..." เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯ อย่างที่เคยปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจางหายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า "บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูติ-ผี-ปีศาจ-เปรต-ครฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานบ้านเรือนของข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบุตรของข้า จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดา มารดาของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน
:b48: บุญอันเกิดจากการภาวนา....ให้อธิษฐานก่อนเช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย(เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่มภาวนาได้เลย หลังจากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้อีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรงยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูติผีชั้นต่ำมักรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะได้เตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากจะให้ตอนภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบเหมือนเราปล่อยน้ำพุ่งจากท่อดับเพลิง แต่เอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิตของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อนก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับบุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถุงขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงนั่นเอง.
(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 11:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: บุญอันเกิดจากการรักษาศีล...การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อยก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า "บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษาศีลนี้จงถึงแก่..." หรือในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปีติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที
:b43: การเบิกบุญ...
การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่เราสะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนหรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญ นั้นเขาแจกจ่ายอุทิศ ให้แก่ผู้อยู่ในโลกวิญญานได้เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคาร เราก็ใช้บัตร เอ ที เอ็ม กดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย ...แต่การเบิกบุญนั้น ที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือให้ตั้งจิตคิดอธิษฐานว่า "ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจของพระธรรม ด้วยอำนาจของพระสงฆ์ จงบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าที่ทำมาแต่ก่อนในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่.."จะให้ใครก็คิดนึกให้เอาเอง การเบิกบุญ แจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกเวลาเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อุจจาระ ปัสสาวะอยู่ก็ตาม
:b48: นานาปัญหาเคราะห์กรรมแก้ได้ด้วยบุญ :b48:
..ท่านที่ทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกิดกับตัวเรานั้นสืบเนื่อง จากการกระทำของเจ้ากรรมนายเวร ผู้เคียดแค้นชิงชัง พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อมสุขภาพไม่ดี เชื้อโรคร้ายแรงต่างๆ ที่มีอยู่ในร่างกาย ก็ล้วนแต่เป็นเจ้ากรรมนายเวรทั้งนั้น โรคที่เรื้อรังร้ายแรงการรักษาด้วยวิธีการกินยา ฉีดยาเข้าไปฆ่าทำลายเขา หรือการใช้พลังจิต อำนาจสมาธิอย่างใดเข้าไป ขับไล่ นอกจากจะเป็นการรักษาที่ขาดเมตตาปราณีอย่างรู้เท่าไม่การณ์แล้ว ขณะเดียวกันก็ยิ่งทำให้เหล่าเจ้ากรรมนายเวร ยิ่งทวีความพยาบาทเคียดแค้นผู้ป่วยมากขึ้นไปอีก..(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...หลายโรคจึงหมดหนทางเยียวยา ผู้ป่วยต้องจมอยู่กับทุกข์เวทนาไปต่างๆนาๆ จะตายก็ไม่ให้ตาย จะหายก็ไม่ให้หาย ทรัพย์สินที่มีก็พินาศไปกับการรักษา ทุกข์ทั้งคนป่วย ทุกข์ทั้งคนที่เป็นญาติๆ เป็นบริวาร ในที่สุดหลายรายต้องจบชีวิตลงไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่มีทางเลือก ทั้งๆที่ มีโอกาส ทั้งๆที่มีบุญ อยู่ก็มากมายแต่ไม่รู้จักเบิกมาล้างแค้นให้แก่เขา ดังนั้นการเยียวยารักษาที่ถูกต้อง ต้องโอนบุญเบิกบุญไปให้ เฉพาะเจาะจงแก่เจ้ากรรมนายเวร ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยนั้นๆ (อย่าไปบอกว่า ให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย..หมือนอย่างที่เคยทำ) และให้แก่เทวดาที่รักษาตัวเราไปในขณะเดียวกัน การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่รบกวนควรทำวันละหลายๆครั้ง จนเขาพอใจ อาการป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น
.....วิธีการให้บุญแก่เจ้ากรรมนายเวรควรทำดังนี้ เป็นตัวอย่างเช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ก็ส่งโอนบุญ อย่างเฉพาะเจาะจงว่า "บุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วยมะเร็งตรงปอด ฯลฯ (สุดแต่มะเร็งหรือเป็นอะไร) พวกเชื้อโรคมะเร็งเมื่อได้รับบุญแล้วขอให้เจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีภพถูมิที่สูงขึ้น จงหลุดจากภาวะชีวิตชั้นต่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหายแล้วเราจะทำบุญให้พวกเจ้า ส่งชีวิตพวกเจ้าให่สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิกจองเวรจองกรรมในเราเสียที ตั้งแต่นี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลธรรม เลิกเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่น ขอส่งบุญที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย.
...ท่านกลัดกลุ้มเรื่องบุตรหลาน บริวาร ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่ฟัง แบบนี้ต้องให้เทวดาผู้รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้นท่านจะสั่งการดลไปที่ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเขา ถ้าเทวดาประจำตัวของเขาเป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆ เทวดาท่านจะรู้สึกถึงการเปลี่นแปลงในทิพย์ของตนเอง มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจขึ้น เขาจะทราบได้เองว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นมาจากไหน เมื่อเราอุทิศบุญให้ ท่านก็อธิษฐานด้วยว่า "เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้วขอให้มีความสุขๆ มีกินมีใช้ มีเสื่อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้ช่วยอบรมตักเตือนให้ลูกของข้าเป็นคนดีด้วย" ดังนี้ไม่นานหรอก จะเกิดเรื่องพิศดารขึ้นกับบุตรเกรเคนนั้นจนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีแน่นอน.... (ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...คนที่กลุ้มเรื่องแฟน เรื่องครอบครัว สามี/ภรรยา เรื่องเพื่อน/คนรอบข้าง คู่ครองของตนเองเป็นคนที่น่าเอือมระอาเหลือเกิน อยากให้คู่ครองเป็นคนดี รักเรา ละเลิกจากการประพฤติชั่วเหลวไหล ก็ให้ทำยุทธวิธีแบบเดียวกับที่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาบุตร แล้วท่านจะพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แบบไม่น่าเชื่อ
...หากกิจการ ธุรกิจค้าขายของท่านล้มเหลว หรือซบเซา เมื่อท่านทำบุญทุกครั้งควรอุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวของท่านและเทวดาที่ดูแลกิจการค้าด้วยพร้อมกันไป แล้วอธิษฐานว่า "เทวดารับบุญของเราแล้วโปรดช่วบเหลือ กิจการค้าธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จด้วยเถิด ถ้าเราร่ำรวยขึ้นก็จะทำบุญให้ท่านยิ่งๆขึ้นไปอีก" จะใช้คำเรียกตนเอง ว่าข้า ว่าเรา ก็ได้ทั้งนั้น

...ท่านที่เปิดร้านค้าขาย จะเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำบุญก็ให้อุทิศบุญแก่เทวดาที่รักษาร้านค้านั้นด้วย แล้วบอกว่า "เทวดาเมื่อได้รับบุญแล้วโปรดเรียกลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆ ด้วย"
....การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศเอาตอนกรวดน้ำ ให้ใช้เพียงแค่..การคิด และ ต้องรีบคิดให้ทัน.. อย่ามัวรีริชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายวับไปอยู่ในสวรรค์ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ เราจะชำนาญในการคิด เพราะการคิด...กระแสบุญจะแรงกว่าการพูดออกจากปาก เวลาหย่อนของลงไปในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทีนที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของหลุดจากมือปุ๊บ เราต้องคิดส่งบุญให้ปั๊บทันทีอย่าช้า...
...ผู้มีอาชีพเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าสัตว์หรือเบียดเบียนสัตว์ เช่นเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ ชาวประมง คนขายปลาสดในตลาด เชือดไก่ขาย คนเหล่านี้ ต้องสร้างบาปกรรมทุกๆวัน จึงก่อความเคียดแค้นชิงชังให้แก่สัตว์ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวี่ทุกวัน เขาก็พยายามจองล้างจองผลาญ แต่ในขณะที่บุญเก่าของผู้นั้นยังมีอยู่ เจ้ากรรมนายเวรก็ทำอะไรไม้ได้ แต่หากว่านายเวรเขาสบโอกาสได้ช่องเมื่อไหร่ วิญญานสัตว์ที่เคียดแค้นเหล่านั้น(นายเวร) จะให้เคราะห์หามยามซวยให้เราได้ทันที ดังนั้นต้องพยายามไถ่ถอนกรรมของตัว ด้วยการทำบุญแล้วโอนอุทิศให้วิญญานสัตว์ที่ตัวเองฆ่า ทำบ่อยๆ ส่งบ่อยๆ เอาเนื้อสัตว์ที่เราขายนั้นทำอาหารถวายพระหรือเลี้ยงผู้อื่น อธิษฐานว่า "บุญนี้ให้สัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือ ผู้อื่นเพราะคำสั่งเรา เหล่าสัตว์เหล่าใดได้รับบุญแล้วขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีชีวิตวิญญานที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากเวรกรรมที่ตัวเองเคยสร้างไว้แล้ว จงมีภพภูมิที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นเทวบุตรเทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อได้รับบุญแล้วจงอโหสิกรรมให้เราด้วย อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย เจ้าตายเพราะเรา แต่ก็มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะเรา ดีกว่าเจ้าตายเองหรือตายเพราะฝีมือผู้อื่น ซึ่งมีชีวิตทุกข์ทรมาน"
(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 12:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...ผู้ที่ถูกผีเข้า จงเอาของให้ทานแก่ผู้ทรงศีล จะพระหรือฆราวาสก็ได้แล้วอุทิศบุญเจาะจงถึงผีในร่างผู้ป่วยขอให้ได้รับบุญนี้ เมื่อได้บุญแล้ว โปรดออกจากร่างผู้ป่วยเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ยอมออกก็ให้บ่อยๆ ให้สิ่งของเล็กๆน้อยๆ ให้เงิน ๕ บาท สิบบาท ให้กาแฟ ๑ แก้ว โอวัลติน ๑ แก้ว แล้วอุทิศได้ทั้งนั้น
...ผู้ที่ถูกคุณไสย ให้อธิษฐานดังนี้ "ด้วยอำนาจพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจพระธรรม ด้วยอำนาจพระสงฆ์ โปรดจงลล้างอำนาจชั่วช้าต่ำทรามที่มีผู้ส่งเข้าผู้ป่วยให้สูญสลายไป ณ บัดนี้" จากนั้นให้ทานแก่ผู้ทรงศีลขณะนั้นอธิษฐานว่า "ขอบุญนี้จงถึงวิญญานชั่วร้ายที่มีคนส่งเข้าร่างผู้ป่วยเมื่อเจ้าได้รับบุญแล้วจงมีความสุขความเจริญ จงมีฤทธิ์มีอำนาจหลุดพ้นจากการบังคับข่มขี่ของผู้ทรงเวทวิทยาคมที่ส่งเจ้ามา จงออกจากร่างคนป่วยเดี๋ยวนี้" ถ้าไม่หายให้ทำบ่อยๆ เดี๋ยวอาการก็ดีขึ้นเองโดยไม่ต้องไปทำพิธีอะไรอื่น ไม่ต้องไปเสาะหาจ้างหมอผีผู้มีวิทยาคมที่ไหนมาแก้ เพราะอำนาจของพระรัตนตรัยนั้นยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างในสากลจักรวาลอยู่แล้ว.

...หลีกเลี่ยงการสวดมนต์เพื่อขับไล่วิญญาน บทสวดมนต์แต่ละบทมีอำนาจขับไล่และเบียดเบียนพวกวิญญานชั้นต่ำในโลกทิพย์ให้ได้รับความเดือดร้อน พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติห้ามมิให้ภิกษุทำน้ำมนต์ขับไล่ผีไว้ในพระวินัยบัญญัติดังนั้น การสวดมนต์เพื่อเจริญพุทธานุสติ ธัมมานุสติ และสังฆานุสติ โปรดอย่าตั้งใจไปกำหราบคุกคามภูติผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลายให้ได้รับความเดือดร้อน เมื่อสวดให้ตั้งจิตระลึกเสียก่อนว่า "ภูติผีปีศาจชั้นต่ำทั้งหลาย บัดนี้เราจะกล่าวบทสวดมนต์ ใครชอบฟังเอาบุญกุศลก็ให้ตั้งใจฟัง หากใครฟังแล้วทรมานก็ให้หลีกหนีไปที่อื่น จนกว่าเราจะสวดมนต์เสร็จแล้วจึงกลับมาเถิด เราไม่ได่สวดเพื่อขับไล่ใคร แต่สวดเพื่อเจริญในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเท่านั้น"
(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...โปรดอย่านิมนต์พระมาทำพิธีขับไล่ภูติผีในที่อยู่อาศัย ควรงดเด็ดขาดเพราะวิญญานนั้น เขาอยู่อาศัยที่นั่นมาก่อนเราอย่างสงบสุข บางตนก็เป็นญาติที่เราเคารพรักมาก่อน ตายไปแล้วมีบุญน้อยกุศลน้อยก็เป็นภูติผีอาศัยอยู่ในบ้านนั้น ภูติผีบางตนมีความทุกข์เดือดร้อน พยายามส่งกระแสความเดือดร้อน ให้เรารู้สึกเพื่อจะได้ทำบุญส่งให้เขา แต่คนไม่เข้าใจคิดว่าเขาเบียดเบียนหลอกหลอน จึงนิมนต์พระมาสวดขับไล่ เมื่อเราไปทำพิธีขับไล่เขาก็ยิ่งเดือดร้อนหนักเข้าไปอีก แล้วพวกวิญญานเหล่านั้นจะรวมหัวกันกลั่นแกล้งผู้คนในบ้านให้เดือดร้อนวุ่นวายกันมากขึ้น มีแต่เรื่องทะเลาะขัดแย้งกันเนืองๆ สังเกตุดู บ้านไหนที่มีคนถือวิชาอาคมสวดมนต์ไล่ผีบ่อยๆ คนในบ้านจะหาความสุข ความสงบไม่ได้เลย พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา ทะเลาะ ขัดแย้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนฆ่ากันตายมานักต่อนัก ฉะนั้นต่อไปเมื่อมีเหตุเดือดร้อนภายในบ้านหรือภายในองค์กรควรทำบุญอุทิศให้พวกเขาอยู่สุขสบาย ก็เลิกรบกวนเรา แล้วจะกลับเป็นองครักษ์ชั้นดีที่คอยปกป้องรักษาเราต่อไป..
.....หลีกเลี่ยงการติดผ้ายันต์กันภูติผีในบ้าน หรือการพกเครื่องรางของขลังที่เบียดเบียนวิญญานชั้นต่ำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะกระทบกระเทือนถึงวิญญานชั้นต่ำให้ได้รับความเดือดร้อนและเคียดแค้น อันจะส่งผลให้เขาหันกลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรจองล้างจองผลาญเราไม่มีที่สิ้นสุดโดยที่เราไม่รู้ตัว บ้านเรือนเคหะสถานเป็นของที่มีอยู่ในโลกนี้ เป็นทั้งที่อยู่ของผู้มีชีวิตในโลก และในอีกมิติหนึ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ควรเห็นแก่ตัวว่าเป็นสมบัติของเราเพียงผู้เดียว ควรรวมกันอยู่กันอย่างสงบสุข พวกวิญญานต้องอาศัยบุญกุศลถึงอยู่ได้ ถ้าได้รับบุญจากมนุษย์ผู้อาศัยอญุ่ในผืนแผ่นดินเดียวกันเขาย่อมพึงพอใจ และจะรักษามนุษย์ให้มีความสุขความเจริญ แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนไว้ในเทวตาทิสสทักขิณานุโมทนา ว่า...
(ต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: ยัสมิง ปะทเส กัปเปติ วาสัง ปณฑิตะชาคิโย
สีลวันเตตถะ โภเชตวา สัญญะเต พรหมะจาริโน
ยา ตัตถะ เทวตา อาสุง ตาสัง ทักขิณะมาทิเส
ตา ปูชิตา ปูชะยันติ มานิตา มานะยันติ นัง
ตะโต นัง อนุกัมปันติ มาตา ปุตตัง วะ โอระสัง
เทวะตานุกัมปิโต โปโส สะทา ภัทรานิ ปัสสะติ :b42:

...แปลความว่า ผู้ฉลาด ชาติบัณฑิต เมื่ออาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งใด ควรเชื้อเชิญผู้ทรงศีลเข้าไปดู ในสถานที่แห่งนั้น แล้วอุทิศบุญให้แก่เทวดาผู้อาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น เทวดาเมื่อได้รับการบูชาแล้วย่อมบูชาตอบ คือ ทำความอนุเคราะห์ ช่วยเหลือผู้อุทิศบุญให้แล้วนั้นเหมือนบิดามารดา ผู้รักบุตรย่อมอนุเคราะห์บุตร ผู้ใดได้รับการช่วยเหลือจากเทวดาแล้วย่อมประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นนิจ.
...การให้ทานแก่บุคคลย่อมมีผลบุญต่างกัน ให้ในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานย่อมเกิดผลมากกว่าใหพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว ให้ในพระพุทธ้จ่าย่อมมีผลมากกว่าให้ในพระอรหันต์ ให้ในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติย่อมมีผลมากกว่าในพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ในสถานภาพปรกติ ให้ในพระอรหันต์ย่อมมีผลเหนือกว่าพระอนาคามี ให้ในพระอนาคามีย่อมมีผลมากกว่าพระสกิทาคามี ให้ในพระสกิทาคามีย่อมมีผลมากกว่าให้แก่พระโสดาบัน ให้ในพระโสดาบันย่อมมีผลมากกว่าให้ผู้ทรงญาน ให้ในผู้ทรงญานย่อมมีผลเหนือกว่าให้ในผู้ประพฤติศีลตามปกติ ให้ในผู้มีศีลย่อมมากกว่าให้ผู้ไม่มีศีล ให้ในคนย่อมมากกว่าให้ในสัตว์ ให้ในสัตว์ผู้โพธิสัตว์ย่อมมีผลมากกว่าให้แก่สัตว์ที่ไม่มีคุณ และแม้แต่ให้อาหารแก่พวกมดปลวกก็ยังเกิดผลบุญกุศล ดังนั้น ชื่อว่าการให้ย่อมเกิดบุญกุศลทั้งสิ้น แต่จะมากจะน้อยก็ต่างกันไป เงิน ๑ บาท ถวายพระอรหันต์มีผลมากมายนับไม่ได้ แต่ให้ในพระภิกษุทุศีลมีผลน้อย นี่คือความแตกต่างของนาบุญ ถ้ารู้จักเลือกก็ให้เลือกเถิด ถ้าเลือกไม่ได้ก็ให้ถวายในสงฆ์ส่วนรวมก็มีอานิสงส์มาก.
(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 17:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


...คนในศาสนาไหนก็ส่งบุญได้ ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ซิก ล้วนมีวิธีสร้างกุศลผลบุญสะสมคุณงามควมดีด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อเกิดบุญกุศลขึ้นสามารถส่งถึงผู้อยู่ในโลกทิพย์ ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ถึงเช่นกัน ก่อผลลัพธ์แบบเดียวกัน
:b43: ผลที่จะบังเกิดจากการโอนบุญ-เบิกบุญ :b43:
...ทำให้เทวดาที่ได้รับบุญแล้วท่านจะมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น สามารถช่วยเหลือผู้ส่งบุญให้ได้รับความสำเร็จ เทวดาที่รักษาเคหะสถานบ้านช่องบางหลังก็แสดงฤทธิ์แทนเจ้าของบ้าน เปิด-ปิด ทีวี วิทยุ และไฟในบ้านได้เอง ทำให้พวกโจรขโมยไม่กล้าเข้าไปยกเค้าเพราะเหมือนมีคนอยู่ในบ้านทั้งที่ความจริงไม่มีใครอยู่บ้านเลย เทวดาสามารถป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้บ้าน ป้องกันภัยอันตรายจากพายุ ต้นไม้หักโค่นล้มทับบ้าน บ้านไหนถูกไฟไหม้แสดงว่าเทวดาไม่รักษาเพราะเจ้าของบ้านมีบาปกรรมและไม่เคยส่งบุญให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวร ที่บ้านข้าพเจ้าผู้เขียน ก็มีเหตุแปลกเกิดขึ้นบ่อยๆ พัดลมเปิดเอง ถ้าทำอะไรไม่เหมาะสม จะมีสิ่งตักเตือนเกิดขึ้น.
....ทำให้เจ้ากรรมนายเวรหยุดการจองเวร แล้วกลับมาเป็นเทวดาที่ปกปักรักษาตัวเรา
....ทำให้เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์-สัตว์ทั้งหลาย ไปทางไหนมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น การเดินทางไปไหนมาไหนก็จะแคล้วคลาดจากอันตราย
....ธุรกิจการค้า หน้าที่การงาน จะราบรื่น จะพบช่องทางทำมาหากินที่แจ้งชัด ถ้าตกงานก็จะได้งานทำ ถ้าเจ้านายเกลียดก็จะรักชอบขึ้น
.....ร้านอาหาร ร้านขายของจะมีแขกเข้าร้านมากกว่าเดิม และอย่าลืม ถ้ามีคนมาอุดหนุน ให้อธิษฐานบุญให้แก่เทวดาที่รักษาลูกค้าที่มาอุดหนุนทันที ต่อมาเทวดาก็จะดลใจให้ลูกค้า กลับมาหาเราอีก
.....จะหลับง่าย จะนอนก็สบาย ไม่ต้องใช้ยานอนหลับ ไม่ต้องสะดุ้งผวาตกใจ แม้ฝันก็ฝันดี สุขภาพร่างกายก็แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน.

(ต่อ...)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2010, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


..ครอบครัวก็จะอยู่กันอย่างอบอุ่น มีความสุข มีความเข้าอกเข้าใจกัน
....เพื่อนบ้านที่เขม่นชิงชัง เป็นเกาเหลาต่อกัน ก็จะหันมาเป็นมิตร รักใคร่ใยดี ให้ความเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน
.....ดังที่ข้าพเจ้ากล่าวมานี้เป็นแค่ตัวอย่างย่อๆ เท่านั้น รายละเอียดประสบการณ์ของผู้ที่ได้ปฏิบัติตามแล้วได้ผลอย่างสุดจะบรรยายยังมีอีกมาก ในแต่ละวัน ขอให้ท่านขยันในการโอนเบิก/เปิดบุญ ให้ถี่ๆ อยู่บ่อยๆ ท่านยิ่งให้ท่านก็จะได้ผลอย่างคาดไม่ถึง ทั้งบุญก็ได้เพิ่มทวีคูณ อีกทั้งยังเป็นการเจริญเมตตาอยู่ในตัว ยิ่งถ้าท่านเป็นนักศีลนักบุญด้วยแล้ว ยิ่งจะเห็นผลเร็วอย่างมาก
....คนจะเลิกทำบาปมาแสวงบุญก็เพราะได้ฟังธรรม คนจะสนใจให้ทาน รักษาศีลบำเพ็ญภาวนา ก็เพราะได้ฟังธรรม พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "ธรรมทานคือการให้ธรรมเหนือกว่าการให้สิ่งอื่นๆ ทั้งหมด แม้ถวายทานในพระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานก็ยังไม่เหนือกว่าการให้ธรรมทานได้"

....บุญกุศลที่เกิดจากธรรมทานนี้ ข้าพเจ้าขอมอบแด่เทวดาที่รักษาท่านผู้อ่านและผู้ฟังทุกท่าน เมื่อเทวดาได้รับบุญนี้แล้ว จงมีความสุขความเจริญ มีฤทธิ์มีอำนาจ จงช่วยเหลือท่านผู้อ่านและผู้ฟัง ให้ประสบความรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดกาลนานเทอญ.

:b48:" การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทานทั้งปวง
....แต่ก็ไม่ควรลืมทานทั้งปวง เพื่อธรรมทานจะได้บริบูรณ์"


( พระเกษม อาจิณฺณสีโล )
วัดป่าสามแยก หมู่ ๙ บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง
อ.น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ ๖๗๒๖๐


:b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 33 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร