วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 13:51  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2012, 10:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


อรรถกถา ขุททกนิกาย เปตวัตถุ อุพพรีวรรคที่ ๒

๑๒. กรรณมุณฑเปตวัตถุ

อรรถกถากัณณมุณฑเปติวัตถุที่ ๑๒

เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงพระปรารภกัณณมุณฑเปรต ตรัสพระคาถานี้มีคำเริ่มต้นว่า โสณฺณโสปานผลกา ดังนี้.
ได้ยินว่า ในอดีตกาล ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ในกิมิลนคร ยังมีอุบาสกคนหนึ่งเป็นพระโสดาบัน มีฉันทะร่วมกันกับอุบาสก ๕๐๐ คนเป็นผู้ขวนขวายในบุญกรรมมีการปลูกดอกไม้ สร้างสะพานและสร้างที่จงกรมเป็นต้นอยู่ สร้างวิหารถวายพระสงฆ์ ได้ไปวิหารตามกาลเวลาพร้อมกับอุบาสกเหล่านั้น.
ฝ่ายภริยาของอุบาสกเหล่านั้นเป็นอุบาสิกามีความพร้อมเพรียงกันและกัน ต่างถือดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้เป็นต้น ไปยังวิหารตามกาลเวลา ไปพักผ่อนในสภาอันเป็นที่รื่นรมย์เป็นต้น ในระหว่างทาง.
ภายหลังวันหนึ่ง นักเลงหญิง ๒-๓ คนนั่งประชุมกันที่สภาแห่งหนึ่ง เมื่ออุบาสิกาเหล่านั้นพากันไปพักผ่อนในที่นั้น เห็นรูปสมบัติของอุบาสิกาเหล่านั้น มีจิตปฏิพัทธ์ รู้ว่า อุบาสิกาเหล่านั้นถึงพร้อมด้วยศีล อาจารและคุณธรรม จึงสนทนากันว่า ใครสามารถจะทำลายศีลของอุบาสิกาแม้คนหนึ่ง ในบรรดาอุบาสิกาเหล่านั้นได้.
ในนักเลงเหล่านั้น นักเลงคนหนึ่งกล่าวว่า เราสามารถ. นักเลงเหล่านั้นได้ทำความเสนียดจัญไรว่า พวกเราจะทำกรรมอันเป็นเสนียดจัญไร ด้วยค่าจ้าง ๑,๐๐๐. เมื่อท่านทำได้ เราจะให้ทรัพย์ ๑,๐๐๐ แก่ท่าน เมื่อท่านทำไม่ได้ ท่านพึงให้ทรัพย์แก่เรา.
เขาพยายามด้วยอุบายเป็นอเนก เมื่ออุบาสิกาเหล่านั้นมายังสภา จึงดีดพิณ ๗ สายมีเสียงเปล่งออกไพเราะเพราะพริ้ง ขับเพลงขับอันประกอบด้วยกามคุณ มีเสียงไพเราะทีเดียว ให้หญิงคนหนึ่งในบรรดาอุบาสิกาเหล่านั้นถึงศีลวิบัติด้วยเสียงเพลงขับ กระทำการล่วงเกิน ให้นักเลงเหล่านั้นพ่ายแพ้ไปด้วยทรัพย์ ๑,๐๐๐.
นักเลงเหล่านั้นพ่ายแพ้ไปด้วยทรัพย์ ๑,๐๐๐ แล้วจึงบอกแก่สามีของนาง.
สามีถามนางว่า บุรุษเหล่านั้นได้กล่าวโดยประการที่เธอเป็นอย่างนี้หรือ?
นางปฏิเสธว่า ฉันไม่รู้เรื่องเช่นนี้ เมื่อสามีไม่เชื่อ จึงแสดงสุนัขที่อยู่ใกล้ ได้ทำการสบถว่า ถ้าฉันทำกรรมชั่วเช่นนั้นไซร้ ขอสุนัขดำตัวหูขาดนี้จงกัดฉัน ซึ่งเกิดในภพนั้นๆ เถิด.
ฝ่ายหญิง ๕๐๐ คนรู้ว่าหญิงนั้นประพฤตินอกใจ ถูกสามีท้วงว่า หญิงนี้ทำกรรมชั่วเช่นนี้หรือว่าไม่ได้ทำ จึงกล่าวมุสาว่า พวกเราไม่รู้กรรมเห็นปานนี้ จึงได้ทำสบถว่า ถ้าพวกฉันรู้ ขอให้พวกดิฉันพึงเป็นทาสหญิงของหญิงนั้นแหละทุกๆ ภพไปเถิด.
ลำดับนั้น หญิงผู้ประพฤตินอกใจนั้นมีหทัยถูกความเดือดร้อนนั้นนั่นแลแผดเผาจึงซูบซีดไป ไม่นานนักก็ตายไปบังเกิดเป็นเวมานิกเปรตอยู่ที่ริมฝั่งสระกัณณมุณฑะแห่งหนึ่ง บรรดาสระใหญ่ ๗ สระ ที่ขุนเขาหิมวันต์. และรอบๆ วิมานของนาง ได้บังเกิดสระโบกขรณีขึ้นสระหนึ่ง อันประกอบด้วยการเสวยวิบากแห่งกรรมของนาง.
ส่วนหญิง ๕๐๐ คนที่เหลือทำกาละแล้ว บังเกิดเป็นนางทาสีของหญิงนั้นนั่นแล ด้วยอำนาจกรรมที่ทำสบถไว้.
นางเสวยทิพยสมบัติตลอดกลางวัน เพราะผลแห่งบุญกรรมที่ตนทำไว้ในกาลก่อนนั้น พอถึงเที่ยงคืนก็ถูกพลังแห่งกรรมชั่วตักเตือน จึงลุกขึ้นจากที่นอน ไปยังฝั่งสระโบกขรณี.
สุนัขดำตัวหนึ่งประมาณเท่าลูกแพะ มีรูปร่างน่ากลัว หูขาด มีเขี้ยวโง้งยาวคมกริบ มีนัยน์ตาเสมือนกองถ่านไม้ตะเคียนที่ลุกโพลงดีแล้ว มีลิ้นเหมือนกลไกแห่งสายฟ้าที่แลบออกมาไม่ขาดระยะ มีเล็บโง้งคมกริบ มีขนน่าเกลียดยาวแข็ง มาจากสระกัณณมุณฑะนั้น แล้วทำนางผู้ไปในที่นั้นให้ล้มลงที่ภาคพื้น เป็นเสมือนถูกความหิวจัดครอบงำ ขู่ข่ม กัดกินให้เหลือเพียงร่างกระดูก แล้วคาบไปทิ้งที่สระโบกขรณีแล้วก็หายไป. พร้อมกับที่สุนัขทิ้งในสระโบกขรณีนั้นนั่นแหละ นางก็มีรูปเป็นปกติเดิมแล้วขึ้นสู่วิมาน นอนอยู่บนที่นอน.
ฝ่ายหญิงนอกนั้นเสวยทุกข์เป็นทาสของนางนั้นนั่นแล.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=26&i=109


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร