ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ทำบุญแล้วทำไมยังตกยาก‏
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=42006
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  wincha [ 07 พ.ค. 2012, 21:41 ]
หัวข้อกระทู้:  ทำบุญแล้วทำไมยังตกยาก‏

ถาม – เคยเห็นคนตกยากแล้วมีแต่ใครๆ อยากช่วยเหลือ ก็นึกแปลกใจครับว่าขัดแย้งกันอยู่ คือถ้ามีกรรมแบบที่จะได้รับความอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับความสงสารเห็นใจจากใครๆ ก็น่าจะต้องทำบุญ น่าจะเคยช่วยเหลือคนอื่นมามาก แต่ทำบุญมากอย่างนั้นแล้วไฉนตกยากได้ ? ภาพที่ขัดแย้งกันแบบนี้บางทีก็ทำให้กังขาได้ว่ากรรมวิบากมีจริงหรืออย่างไร แน่

พอเกิดเป็นมนุษย์ในแต่ละชาตินี่มีโอกาส ‘ก่อกรรม’ ที่ขัดแย้งกันได้มากไหมล่ะครับ? ลองมองไปรอบๆให้เห็นตามจริงเถอะ ตำรวจบางคนวัยหนุ่มเป็นวีรบุรุษ ที่สุดตบท้ายกลายมาเป็นนักโทษวัยชราก็มีให้เห็นแล้ว

ผมเคยเจอมา มีอยู่รายหนึ่ง มองสัตว์ในแง่ดี แต่มองคนในแง่ร้ายตลอด ผลคือกรรมทางความคิด คำพูด และการกระทำนั้น จะเป็นทำนองใจดีกับสัตว์ แต่ใจร้ายกับคน คงพอนึกออกนะครับ เหมือนอย่างที่นานมาแล้วมีเพลงๆหนึ่ง บอกว่าทำบุญกับคนไม่เคยขึ้น น้อยใจเลยหันไปทำคุณกับหมาแทน

อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับปมอันสลับซับซ้อนของแต่ละราย น่าเห็นใจและว่ากันไม่ได้ครับ เกิดมาด้วยความไม่รู้ ทำๆอะไรกันไปด้วยความไม่รู้เป็นพื้นยืน กว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติ กว่าจะมีโอกาสเงี่ยหูสดับฟังการชี้ถูกผิดจากพระองค์ท่าน แต่ละคนต่างก็ต้องเคยหลงก่อบาปเป็นวรรคเป็นเวร ย่ำแย่กันถ้วนหน้า ไม่มีใครพลาดพลั้งน้อยหน้าไปกว่ากัน

แม้เห็นชีวิตจริง หรือความเป็นไปได้จริงของชีวิตกันจะจะด้วยตาเปล่า ว่าคนเรากลับไปกลับมา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกันเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็มักจะทึกทักสร้างภาพในอุดมคติ ว่าคนดีย่อมทำกรรมดีได้อย่างเดียว คนชั่วย่อมทำกรรมชั่วได้อย่างเดียว หรืออีกนัยหนึ่งคือคนทำกรรมดีน่าจะต้องเป็นคนดีเสมอไป คนทำกรรมชั่วน่าจะต้องเป็นคนชั่วเสมอไป

ความจริงอันเป็นที่สุดก็คือไม่มีใครชั่วจริงตลอด ไป ไม่มีใครดีจริงตลอดกาล จะมีก็แต่คนหลงผิด คนไม่รู้แจ้งแทงตลอดในกฎแห่งกรรมวิบากเท่านั้น

เมื่อไม่รู้ก็ออกอาการหลงไปตามผัสสะ ผัสสะดีมาก็อยากดีตอบ ผัสสะร้ายมาก็อยากร้ายตอบ เรื่องของเรื่องคือเราไม่รู้หรอกว่าที่ดีๆร้ายๆไปแต่ละครั้งนั้น เจอปังตอ เจอของแข็งเข้าให้กี่ครั้ง

ทำความเข้าใจด้วยจุดนี้น่าจะคลายความกังขา หญิงชายหลายคนรักสัตว์ เลี้ยงสัตว์ให้อยู่ดีมีสุข เวลาป้อนข้าวป้อนน้ำกับมือก็ทำด้วยอาการอ่อนน้อม มีจิตคิดอนุเคราะห์เต็มเปี่ยม ผลที่ทำแม้เพียงกับสัตว์เดรัจฉานจิตวิญญาณตกอยู่ในอบายภูมิ ก็จะได้ดีมีกุศลวิบากติดตัวไป คือจะเป็นผู้อยู่ดีกินดี ไปไหนใครเห็นก็อยากให้การอุปถัมภ์ ดูอ่อนโยน น่ารัก น่าหยิบยื่นข้าวของเงินทองให้ หวังว่าคุณคงเคยเจอคนประเภทนี้ พวกเขาจะมีแม่เหล็กดึงดูดใจ และดึงดูดข้าวของจากเราไปง่ายๆ อาจไม่ต้องเปลืองแรงเอ่ยขอเลยด้วยซ้ำ นี่แหละผลของกรรมที่เคยช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตทั้งหลายด้วยจิตอนุเคราะห์อย่าง สม่ำเสมอ

คราวนี้คนๆเดียวกันนี่แหละครับ พอเงยหน้าขึ้นมาจากสัตว์ เห็นมนุษย์ด้วยกันเข้า จิตก็อาจเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ เขาเดินมาหาก็นึกระแวงไว้ก่อนว่านี่กะจะเอาอะไรจากเรา แล้วเราจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เราจะโดนต้มเอาซึ่งๆหน้าหรือไม่ ฯลฯ

ด้วยความคิดหวาดวิตกชนิดนี้ อาจเป็นเพราะโดนมาเยอะ ในที่สุดก็อาจจะถือสุภาษิตชกก่อนได้เปรียบ คือเขาจะเอาอะไรจากเราหรือเปล่าไม่สน รู้แต่ว่าเราจะฉกเอาจากเขาก่อนล่ะ นี่แหละครับ เห็นสัตว์ทำหน้าน่าสงสารก็สงสารมัน เห็นคนทำหน้าน่าหมั่นไส้ก็หมั่นไส้เขา ปรากฏอยู่ทั่วไป

ถ้าหมั่นไส้คนแล้วคุณไปทำร้ายคน หรือไปโกงคน หรือทำให้คนตกระกำลำบาก เมื่อเกิดใหม่คุณก็ต้องโดนทำร้าย หรือโดนโกง หรือหมดเนื้อหมดตัว ระหกระเหเร่ร่อน สถานการณ์จะหนักเบาเพียงใดขึ้นอยู่กับความแรงของเจตนาของคุณ รวมกับระดับคุณธรรมของคนที่คุณไปเล่นเขาไว้ พูดง่ายๆว่าเจอกระทงหนักก่อน

แต่ด้วยกรรมที่คุณเคยช่วยสัตว์ด้วยจิตอนุเคราะห์ ก็อาจตามมาช้อนรับไว้ไม่ให้ตกเตี้ยติดดินเต็มๆตัว ชะตากรรมอาจซัดพาคุณไปเจอคนใจดี เห็นหน้าคุณแล้วเมตตาเอ็นดู อยากช่วยขนาดควักกระเป๋าสตางค์หยิบเงินเป็นฟ่อนให้เดี๋ยวนั้น นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน และจะไม่ยุติลงในอนาคต

พวกที่มีกรรมดำและกรรมขาวตัดกันอย่างรุนแรงในตัวคนเดียวนั้น ไม่ค่อยหาได้ง่ายๆ บุคคลประเภทนี้เวลาสุขก็สุขจริง แต่เวลาทุกข์ก็ทุกข์ปางตาย และมักสับสนกับชีวิต เพราะเสวยผลสุดโต่งสองด้านของชีวิตจนมึนงง แทบไม่อยากเชื่อว่าเหตุใดชีวิตผกผันกันได้ขนาดนั้น

คนส่วนใหญ่มีกรรมดำและกรรมขาวปนกันมั่วๆ แต่ไม่ได้ตัดกันรุนแรงมากนัก เช่นมีเมตตากับสัตว์ปานกลาง คือไม่ถึงกับค้อมตัวลงไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้มันกับมือ ไม่ถึงกับหาของดีเลิศมาปรนเปรอพวกมัน ไม่ถึงกับจับหมาแมวจรจัดที่ป่วยไข้ส่งสัตวแพทย์ และขณะเดียวกันก็มีความหมั่นไส้มนุษย์ด้วยกันเพียงปานกลาง คือไม่ถึงกับเห็นมนุษย์แล้วระแวงไปหมด ไม่ถึงกับคิดฉกชิงฉ้อฉลใคร ไม่ถึงกับคุมแค้นขนาดเอาคืนคนทำร้ายเป็นสิบเท่า

สรุปคือถ้ามองโลกตาเปล่า เห็นตามจริงว่าคนเราก่อกรรมอันขัดแย้งได้ ก็ต้องมีสิทธิ์รับผลกรรมอันขัดแย้งสุดโต่งคนละขั้วได้เป็นธรรมดาเช่นกัน ไม่น่าคลางแคลงกฎแห่งกรรมวิบากแต่อย่างใดเลยครับ
http://becandlelight.exteen.com/20110808/entry

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 31 ธ.ค. 2014, 22:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำบุญแล้วทำไมยังตกยาก‏

:b8: เรื่องของกรรมและวิบากกรรม ไม่มีคำว่าบังเอิญ :b8:

:b44: (♡✿◕‿◕✿♡) กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน มีดวงตาเห็นธรรม มีความสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม รู้แจ้งเห็นจริง มีความสุขความเจริญ และอยู่เย็นเป็นสุขนะเจ้าค่ะ :b8: :b8: :b8: :b20: (♡✿◕‿◕✿♡)

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/