ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เหตุที่ทำให้เกิดความโลภในขณะที่เป็นมนุษย์ และผลของความโลภ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=47226
หน้า 4 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  SOAMUSA [ 20 ก.พ. 2016, 19:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุที่ทำให้เกิดความโลภในขณะที่เป็นมนุษย์ และผลของความโล

:b8: ขอบพระคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ

แม้อยู่ในเขตพัทธสีมา ก็ใช่ว่าจะซึ้งในรสพระธรรม
บุคคลที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ย่อมเทิดทูนไว้เหนือชีวิต จึงตัดสินได้ว่าสิ่งใดสำคัญที่ควรจะต้องทำ
น้ำย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ จิตคนก็ไม่ต่างกัน เมื่อไม่ตั้งจิิตไว้ให้แน่วแน่ ย่อมไหลลงต่ำไปตามกระแสกิเลสตัณหา
เมื่อไม่มีสติเป็นประธานอยู่เนืองๆ กิเลสตัณหาก็เกิดต่อเนื่องเรื่อยไป และยิ่งทวีพอกพูนมากขึ้น

แม้จะศึกษาพระธรรมมามากมายเพียงไร ก็ใช่ว่าจะซึ้งในรสพระธรรม
เพราะได้แต่ศึกษา ได้แต่สอนคนอื่น แต่ไม่เคยมีสติหยุด ยับยั้งชั่งใจ สอนใจตนเอง ฝึกใจตนเอง
ความรู้ก็ได้แค่รู้ ยังอยู่ในเขตน้ำตื้นๆ แต่เมื่อปฏิบัติตาม จะรู้ว่าพระธรรมนั้นช่างลึกซึ้ง เกิดศรัทธามั่นคง จิตใจไม่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติดี กิเลสตัณหาจรมา ก็สามารถทวนกระแสไปได้ จิตไม่ไหลไปตามกระแสกิเลสตัณหา
------------------------------------------------
:b8: นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส.
อ่านอรรถกถา จุลลปโลภนชาดก
ว่าด้วย หญิงทำบุรุษให้งงงวย
(ขอเชิญอ่านทั้งหมดได้ที่) http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=27&i=388

ขอความตอนหนึ่งว่า

หญิงฟ้อนกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์เป็นเจ้า การประเล้าประโลมเป็นภาระของกระหม่อมฉัน พระองค์อย่าทรงปริวิตก ดังนี้แล้วเข้าไปหาคนผู้ทำหน้าที่อารักขา แล้วกล่าวว่า ในเวลาใกล้รุ่ง เราจักมายืนที่หอคอยภายนอกพระวิสูตร ใกล้ที่บรรทมของพระลูกเจ้า แล้วจักขับร้อง ถ้าพระราชกุมารจักทรงกริ้ว พวกท่านพึงบอกเรา เราจะหลบไปเสีย ถ้าทรงสดับ พวกท่านช่วยบอกแก่เราเช่นเดียวกัน. คนผู้ทำหน้าที่อารักขาทั้งหลายต่างพากันรับคำนาง. ฝ่ายหญิงฟ้อนนั้น ในเวลาใกล้รุ่งได้ไปยืนอยู่ ณ ประเทศที่นั้น แล้วขับเสียงเพลงประสานกับเสียงพิณ บรรเลงเสียงพิณประสานกับเสียงเพลงขับด้วยเสียงอันไพเราะ. พระกุมารทรงบรรทมฟังอยู่ ทรงยอมรับว่า ดี มีประโยชน์. วันรุ่งขึ้น ทรงสั่งให้นางยืนขับร้องในที่ใกล้ รุ่งขึ้นวันที่สอง รับสั่งให้ยืนขับร้องในหอคอย รุ่งขึ้นวันที่สาม รับสั่งให้ยืนขับร้องในที่ใกล้กับพระองค์

ด้วยวิธีการอย่างนี้ พระองค์ทรงทำตัณหาให้เกิดขึ้นโดยลำดับๆ จนถึงส้องเสพโลกธรรม ได้รู้รสกามเข้าแล้ว ออกพระโอษฐ์ว่า ขึ้นชื่อว่ามาตุคาม เราจักไม่ยอมให้แก่ชายอื่น ถือพระแสงดาบเสด็จลงสู่ท้องถนน เที่ยวไล่ติดตามบุรุษทั้งหลาย.

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

ถ้าไม่ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ปล่อยให้จิตมีการเริ่มต้นเสพ สุดท้ายก็ลงเอ่ยด้วยการส้องเสพ
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ทรัพย์สินเงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์ อำนาจ ความสุขสบายต่างๆ
ถ้าเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์แล้ว เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ ก็เหมือนเอามือจับหญ้าคาไม่ดี
ผู้ประพฤติพรหมจรรย์นั้น เปรียบเหมือนคนที่เอามือจับใบหญ้าคาไว้ตลอดเวลา ถ้าจับไม่ดี บาดมือทันที

ดังข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ วินัยพระน่ารู้คู่มือโยม

" หญ้าคาที่บุคคลจับไม่ดี ย่อมตามบาดมือนั่นเอง ฉันใด ,
คุณเครื่องความเป็นสมณะ ที่บุคคลลูบคลำไม่ดี ย่อมคร่าเขาไปนรก ฉันนั้น.

การงานอย่างใดอย่างหนึ่งที่ย่อหย่อน,
วัตรใดที่เศร้าหมอง,
พรหมจรรย์ที่ระลึกด้วยความรังเกียจ,
กรรมทั้งสามอย่างนั้น ย่อมไม่มีผลมาก

หากว่าบุคคลพึงทำกรรมใด ควรทำกรรมนั้นให้จริง,
ควรบากบั่นทำกรรมนั้นให้มั่น เพราะว่า สมณธรรมเครื่องละเว้นที่ย่อหย่อน ยิ่งเกลี่ยธุลีลง "
(ขุ.ธ.๑/๒๐๙-๒๑๐)

จากหนังสือวินัยพระน่ารู้คู่มือโยม


:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Duangtip [ 05 ส.ค. 2018, 06:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุที่ทำให้เกิดความโลภในขณะที่เป็นมนุษย์ และผลของความโล

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  AAAA [ 14 ก.ย. 2019, 09:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุที่ทำให้เกิดความโลภในขณะที่เป็นมนุษย์ และผลของความโล

4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:

หน้า 4 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/