ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=57708 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | รสมน [ 05 มิ.ย. 2019, 05:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) |
แม่กระรอกกับงูเขียว :: หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ------------- บ่ายสามโมง วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๓๕ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลังจากท่านสรงน้ำเสร็จแล้ว ท่านให้พระเณรเข็นจงกรมท่านที่ศาลาบำเพ็ญกุศลวัดป่าโคกมน เณรเมี่ยงเข็นจงกรมท่านไปได้ประมาณ ๒๐ นาที องค์ท่านหลวงปู่ชอบบอกให้เณรเมี่ยงหยุดรถเข็น ท่านกวักมือเรียกให้พระอุปัฏฐากเข้ามาหาท่าน หลวงปู่ชอบท่านบอกกับพระอุปัฏฐากว่า “แม่ออก (โยมผู้หญิง) เขาขอให้เราไปช่วยลูกเขา ตอนนี้ลูกเขากำลังจะถูกงูกิน” พระเณรห้า-หกองค์ที่เฝ้าท่านอยู่ในตอนนั้นต่างพากันงงกับคำพูดที่หลวงปู่ชอบท่านบอก พระอุปัฏฐากถามท่านว่า “หลวงปู่ งูที่ไหนจะมากินคนได้ ถ้ากินคนได้มันก็ต้องเป็นงูเหลือมเท่านั้น” หลวงปู่ชอบท่านบอก “บ่แม่นงูมันจะกินลูกคน งูมันจะกินลูกกระรอก แม่มันร้องขอให้เราไปช่วยลูกมัน ตอนนี้งูกำลังอยู่ในฮังมันแล้ว (ตอนนี้งูกำลังอยู่ในรังของมันแล้ว) ฟ้าวไปช่วยมันเร็วๆ (รีบไปช่วยมันเร็วๆ) พระเณรก็งงไม่รู้ว่าท่านจะให้ไปช่วยกระรอกที่ไหน เพราะกระรอกอยู่ที่วัดป่าโคกมนมันมีกระจายกันอยู่ทั่ววัด..” พระอุปัฏฐากถามท่านว่า “แล้วกระรอกมันอยู่ที่ไหนล่ะหลวงปู่” หลวงปู่ชอบท่านบอกกับพระว่า “อยู่ทางเข้ากุฏิเบอร์สี่ ไปเร็วๆ ลูกมันถูกกินแล้ว” พระเณรที่อยู่ในเหตุการณ์พากันเข็นรถหลวงปู่ชอบไปอย่างเร็ว เข็นแบบวิ่งไปเพื่อให้ไปถึงที่เกิดเหตุตามที่หลวงปู่ท่านบอก.. พอเข้าไปใกล้กุฏิเบอร์สี่ พระเณรทุกองค์ได้ยินเสียงแม่กระรอกร้องเสียงดังเหมือนกับมันกำลังตกใจ กระโดดไปมาระหว่างกิ่งไม้ แต่ก็เป็นเรื่องที่แปลกมาก พอแม่กระรอกตัวนี้มันเห็นหลวงปู่และพระเณร แม่กระรอกตัวนี้มันรีบลงมาจากต้นไม้มาอยู่ที่พื้นดินต่อหน้าหลวงปู่ มันร้องอยู่ต่อหน้าหลวงปู่ เสียงร้องของแม่กระรอกตัวนี้ดังระงมไปทั่วจนกระรอกตัวอื่นๆ ในระแวกแถวนั้นร้องรับเสียงกันจนดังไปทั่ววัดป่าโคกมน.. หลวงปู่ชอบท่านชี้มือไปที่โพรงไม้ ท่านบอกกับพระเณรว่า “งู มันอยู่ในนั่น” แต่ตอนนั้นพระเณรทุกองค์ยังไม่เห็นงู.. ท่านสมัยรับอาสาปีนต้นไม้เพื่อขึ้นไปดูที่โพรงไม้ ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณสิบเมตร ท่านสมัยอยากจะพิสูจน์ว่าที่ในโพรงไม้ที่เป็นรังกระรอก มีงูอยู่จริงหรือไม่.. พอท่านสมัยปีนขึ้นไปถึงโพรงไม้ ท่านสมัยเห็นงูนอนอยู่ในโพรงไม้ โดยมีลูกกระรอกสามตัวที่ยังไม่ลืมตา ไต่ลนลานหนีตายตามสัญชาตญาณการปกป้องดูแลชีวิตของตนเอง ท่านสมัยร้องตะโกนลงมาบอกหลวงปู่และพระเณรว่า “หลวงปู่ๆ งูเขียวมันอยู่ในโพรงกระรอก สงสัยมันจะกินลูกกระรอกแล้วท้องมันป่องๆ”.. พระอุปัฏฐากรูปหนึ่งตะโกนบอกท่านสมัยว่า “เฮ้ย..ไหม เอางูออกมาจากรังกระรอกเดี๋ยวนี้ ดึงหางมันออกมาเลย”.. ท่านสมัยเป็นคนที่ไม่กลัวงู ท่านสมัยถอดอังสะแหย่เข้าไปในโพรงไม้ เพื่อให้งูเขียวมันฉกผ้าอังสะ พองูเขียวฉกผ้าอังสะแล้วเขี้ยวของมันก็ติดที่ผ้า ไม่สามารถถอดเขี้ยวตัวเองออกมาได้ ท่านสมัยจึงถือโอกาสนี้จับคองูเขียวโยนมันลงมาที่พื้นดิน.. พระอุปัฏฐากเดินไปจับงูเขียวแล้วนำมาให้หลวงปู่ชอบท่านดู งูเขียวนี้เป็นงูเขียวพระอินทร์ มีลำตัวขนาดใหญ่พอๆ กับขวดกระทิงแดง ความยาวของงูตัวนี้ประมาณหนึ่งเมตร ที่ท้องของมันป่องๆ จับดูที่ท้องของมันเป็นลูกๆ ลักษณะคล้ายกับมีตัวกระรอกหรือหนูอยู่ที่ในท้องของมัน.. หลวงปู่ชอบท่านบอกว่า “มันกินลูกกระรอกไปแล้วตัวหนึ่ง ตอนนี้มันอิ่มแล้วแต่มันบ่ยอมหนี มันจะนอนอยู่กินลูกเขาที่เหลือในรังอีก”.. องค์ท่านพูดขึ้นว่า “รู้อยู่ว่าชาติเชื้อหน่อเนื้อเจ้ากินมังสาเป็นอาหาร เขาเคยทำลายลูกเจ้า เจ้ากะมาทำลายลูกเขา เจ้าก็ทุกข์ เขาก็ทุกข์ บ่มีไผ๋ได้สุขจากเรื่องนี้ ต่อไปนี้อย่าทำลายกันอีกเด้อ จบกันซ่ะแต่ชาตินี้ อย่าจองเวรกันอีกต่อไป”.. แล้วองค์ท่านก็สั่งพระเณรให้นำงูตัวนี้ไปปล่อยที่นอกวัด เพื่อเป็นการแยกคู่กรณีต่างสายพันธุ์ ไม่ให้มันมารบกวนกันอีกต่อไป.. เรียนถามองค์ท่านว่า หลวงปู่รู้ได้อย่างไรว่า มีงูเขียวมันมากินลูกกระรอก องค์ท่านตอบว่า “ได้ยินเสียงแม่ออกร้องขอความช่วยเหลือ อาจารย์ๆ ช่วยลูกข้าน้อยด้วย ลูกข้าน้อยถูกงูกินแล้ว เราเลยกำหนดดูที่มาของเสียงนี้ เห็นงูมันกำลังกินลูกกระรอก ก็เลยบอกพวกท่านให้พากันมาช่วยลูกกระรอกตัวอื่นๆ ที่เหลือ กรรมของงูเขียวกับกระรอกตัวนี้ พวกมันเคยพรากแก้วตาดวงใจกันมาหลายภพหลายชาติ พอมาถึงชาตินี้กระรอกมันเลยถูกงูเขียวมากินลูกของมัน”.. เรียนถามองค์ท่านว่า แล้วหลวงปู่มาเกี่ยวข้องอะไรกับงูเขียวและกระรอกตัวนี้ ถึงได้มาช่วยแยกเขาออกจากกัน องค์หลวงปู่ชอบบอกว่า “อดีตชาติตอนที่เราเกิดอยู่ทางนครพนม ปัจจุบันที่เราเกิดในตอนนั้นอยู่ในเขตท่าอุเทน เราเป็นพ่อผัวของงูเขียวกับกระรอกตัวนี้ เมียมันบ่ถูกกัน อิจฉากัน อยู่ตลอดเวลา พอเมียใหญ่ท้อง เมียน้อยกะวางยาให้เมียหลวงตกลูกตกเลือด พอเมียหลวงตกลูกแล้ว ก็รู้ว่าเมียน้อยเป็นผู้ทำลายลูกเจ้าของ มันเลยพยาบาทอาฆาตจองเวรกันไว้”.. “จิตใจของสองคนนี้มันตกต่ำ พอตายไปแล้วพวกมันก็พากันมาเกิดเป็นเดรัจฉาน นับจากชาตินั้นเป็นต้นมา พวกมันก็เบียดเบียนกันมาอยู่ตลอด สลับภพสลับชาติกันอยู่แบบนี้ จนมาถึงในชาติปัจจุบันนี้แหละ พวกมันเกิดเป็นเดรัจฉานชาติใด ก็พากันเกิดเป็นแต่เดรัจฉานตัวเมียอยู่อย่างนั้น เบียดเบียนฆ่าลูก กินลูกกันอยู่อย่างนั้น จนถึงชาติปัจจุบันนี้แหละ”.. เพื่ออยากพิสูจน์ว่า งูเขียวตัวที่จับอยู่นี้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย พระอุปัฏฐากท่านนี้จึงใช้มือกดไปที่โคนหางของงู เมื่อกดไปที่หางของงูแล้วไม่ปรากฏมีเดือยของงูโผล่ออก จึงรู้ว่างูเขียวตัวนี้เป็นตัวเมียตามที่หลวงปู่ชอบท่านได้บอกไว้.. จากนั้นหลวงปู่ท่านพาพระเณรนำงูเขียวตัวนี้ไปปล่อยที่ทุ่งนาทางเข้าบ้านโคกแฝก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านโคกมนประมาณสามกิโลเมตร พอถึงจุดที่ปล่อยงู หลวงปู่ชอบท่านบอกให้ปล่อยงูไว้ที่นี่เขาถึงจะปลอดภัย พระจึงปล่อยงูลงที่ข้างทาง งูเมื่อถูกปล่อยแล้วก็ไม่เลื้อยหนีในทันที งูเขียวตัวนี้หยุดมองมาที่หลวงปู่และพระเณรประมาณสอง-สามนาที หลวงปู่ชอบท่านยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “จบๆ กันซ่ะ บ่จองเวรกันอีกแล้ว จากนี้ไปให้อยู่กันเป็นสุขๆ” งูเขียวตัวนี้เหมือนกับรู้คำขององค์ท่าน พอหลวงปู่ท่านว่าจบสักพัก งูเขียวตัวนี้มันก็เลื้อยเข้าไปในพงหญ้าที่อยู่ในทุ่งนา และหายไปจากสายตาของพระเณรที่นำมันไปปล่อย.. ระหว่างเข็นรถเข็นของหลวงปู่กลับมาที่วัดป่าโคกมน ท่านไหมถามหลวงปู่ว่าหลวงปู่รู้ได้ยังไงกับอดีตพวกนี้ หลวงปู่ท่านบอกกับท่านไหมว่า “อยากรู้ก็ให้ภาวนาจนได้เจโตฯ ภาวนาจนให้ได้จุตูปปาตญาณ ทุกอย่างท่านก็จะรู้ด้วยตนเอง”.. ท่านสมัยถามว่า แล้วใครล่ะคือลูกชายหลวงปู่ในชาตินั้น.. องค์ท่านหลวงปู่ชอบตอบท่านไหมว่า “แล้วใครล่ะที่มันมาถามเราอยู่ตอนนี้”.. ท่านสมัยได้แต่ยิ้มแห้งๆ พระอุปัฏฐากที่เป็นหัวหน้าคณะท่านจึงชี้มือมาที่ท่านสมัย และบอกกับท่านสมัยว่า “เรื่องทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่านนั่นแหละเป็นตัวการ รู้ตัวหรือยังล่ะตอนนี้ ท่านปึก”..ท่านสมัยได้แต่ยิ้มรับชะตากรรม เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องของกงกรรมกงเกวียนที่มันเวียนวนเข้ามาหากัน ตกกลางคืนหลังจากพระเณรทำวัตรสวดมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่หลวงปู่ท่านอบรมพระเณรลูกหลาน พระอุปัฏฐากได้ยกเรื่องนี้ขึ้นมาถามองค์ท่านหลวงปู่ชอบอีกครั้ง หลวงปู่ท่านเล่าเท้าความถึงอดีตชาติของท่านในตอนนั้นให้พระเณรลูกหลานฟังว่า.. “ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านจะอุบัติขึ้น ชาตินั้นเราเกิดเป็นนายช่างทำหม้อทำไหขาย มีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายเจ้าชู้หลายเมีย ปัจจุบันมาเกิดเป็นท่านไหม ลูกสาวคนน้อยเป็นคนฮู้ผู้ดี เป็นคนมีศีลธรรม ได้แต่งงานกับพ่อค้าขายผ้า มีลูกด้วยกันสี่คน ลูกคนหนึ่งก็คือท่านนี่ล่ะ ลูกสาวลูกเขยตายไปแล้วก็ไปเป็นเทวดาอยู่ชั้นดาวดึงส์จนเท่าทุกวันนี้ ลูกชายชาตินั่นมันกะได้มาบวชดูแลพ่อมัน ชาตินั้นถ้าบ่ได้ใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้า ชาตินี้มันกะบ่ได้บวชกับเขาดอก บุญมันได้สร้างมากับพระปัจเจกเพิ่นถึงได้มาบวชในชาตินี้”.. พระเณรทุกองค์เมื่อได้ฟังองค์ท่านหลวงปู่ชอบเล่าให้ฟัง พระเณรทุกองค์ต่างยกมืออนุโมทนาในความเมตตาขององค์ท่าน ที่หลวงปู่ชอบท่านได้แสดงให้กับพระเณรลูกหลานฟังในวันนั้น ทุกองค์ได้แต่นั่งฟัง ไม่มีใครคัดค้าน เพราะไม่มีใครที่มี “ความรู้พิเศษ” ในเรื่องแบบนี้เท่าองค์ท่าน.. หนังสือหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์แห่งยุค หน้า ๓๓๗-๓๓๙ เขียนบันทึกโดย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท (ครูบากล้วย) อดีตพระเลขา-อุปัฏฐาก • รวมคำสอน “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38683 • ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24649 |
เจ้าของ: | sirinpho [ 22 ก.ย. 2019, 10:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) |
เจ้าของ: | Duangtip [ 08 พ.ย. 2019, 20:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 27 พ.ย. 2019, 13:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) |
เจ้าของ: | AAAA [ 05 ม.ค. 2020, 08:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: การจองเวรกันของแม่กระรอกกับงูเขียว (หลวงปู่ชอบ ฐานสโม) |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |