วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 02:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2020, 13:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1322


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

โลกธรรม

หนังสือยาใจ
พระครูญาณวิศิษฏ์ (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก)

ภาค ๑ : ภาษาใจ
ศิษย์บันทึกคำสอนของท่านพ่อ
โลกธรรม หน้า ๒๖-๓๒

:b8: :b8: :b8:

“ท่านอาจารย์มั่นเคยพูดไว้ว่า “คนเราก็เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน แต่รวมแล้วก็เหมือนกัน” อันนี้ต้องเอาไปคิดมากๆ หน่อย จึงจะเข้าใจความหมายของท่าน”

๏ โยมคนหนึ่งไปนั่งที่วัดมกุฏฯ รู้สึกไม่สบายใจ เพราะวันก่อนมีลูกศิษย์อีกคนหนึ่งไปต่อว่าท่านพ่อเป็นการใหญ่ พอท่านพ่อทราบว่าโยมคนนี้ไม่สบายใจเรื่องอะไร ท่านก็ว่า “คนมันโง่ ไม่รู้จักคำว่า ‘คน’ ไม่ใช่จะมีแต่คน ๒ ขาเดินได้ คนที่เขาคนอยู่ในหม้อให้มันเละมันเปื่อยมันวุ่นวายก็มี แล้วเราไปปล่อยให้เขาคนอยู่ในใจของเรา ให้มันเศร้าหมอง ถ้ารู้จักอย่างนี้จะได้ทำใจได้”

“อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”

“จะดูคนอื่น ต้องดูที่เจตนาเขา”

“เราจะให้คนอื่นเขาดี เราต้องดูว่า ดีของเขามีอยู่แค่ไหน ถ้าดีของเขามีอยู่แค่นั้น เราจะให้เขาดีกว่านั้น เราก็โง่”

๏ กราบท่านพ่อครั้งแรก โยมคนหนึ่งพูดกับท่านว่า “หมู่นี้โยมทำงานไม่ค่อยสะดวกใจ ไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา” ท่านก็นิ่งสักครู่หนึ่ง แล้วบอกว่า “ทำงานอย่าเอาแต่ใจตัวเอง เราทำอะไรเราก็ว่าเราถูก แต่มันอาจจะไม่ถูกคนอื่นเขา อย่ามัวแต่ว่าคนนั้นทำผิด คนนี้ทำผิด ให้กลับมาดูความผิดของตัวเองอย่างเดียวดีกว่า”

“ใครจะดีอย่างไร จะชั่วอย่างไร ก็เรื่องของเขา เราดูเรื่องของเราดีกว่า”

๏ ศิษย์คนหนึ่งเล่าให้ท่านพ่อฟังถึงปัญหาทั้งหลายแหล่ที่เข้ามาเรื่อยๆ ในที่ทำงาน ตัวเองก็อยากจะลาออก อยู่เงียบๆ แต่ก็ลาไม่ได้ ท่านพ่อจึงแนะนำว่า “ในเมื่อเราต้องอยู่กับมัน เราต้องรู้จักให้อยู่เหนือมัน เราจึงจะอยู่ได้”

“เราทำงาน อย่าให้งานทำเรา”

๏ ศิษย์คนหนึ่งขอคำแนะนาจากท่านพ่อเรื่องปัญหาในการร่วมสังคมทางโลก ว่าบางครั้งต้องสังสรรค์ ร่วมกิจกรรม หรือเที่ยวกับคนหมู่มาก ซึ่งความจริงน่าจะสนุก แต่ส่วนลึกแล้วรู้สึกเศร้าสลดอย่างไรชอบกล ท่านพ่อก็บอกว่า “เราอยู่กับสังคม บางทีต้องทำตามเขาแต่ขัดใจเรา ถ้าเราทำตามใจเรา เราก็ขัดกับพวก คนเราต้องรักตัวเราเองยิ่งกว่าคนอื่น ฉะนั้นจะทำอย่างไรจึงจะได้ทั้ง ๒ อย่าง คือทำตามเขาแต่กาย ส่วนใจมีสติรู้อยู่ของเราข้างใน คือมีสติรักษาลม”

๏ ศิษย์อีกคนหนึ่งมาบ่นกับท่านพ่อว่า ทั้งในบ้าน ทั้งในที่ทำงาน ตัวเองต้องเจอแต่ปัญหาที่หนักๆ แทบเป็นแทบตายทั้งนั้น ท่านจึงบอกว่า “เราเป็นคนจริง จึงต้องเจอของจริง”

“เจออุปสรรคอะไรเราก็ต้องสู้ ถ้าเรายอมแพ้เอาง่ายๆ เราจะต้องแพ้อยู่เรื่อย”

“ข้างในเราก็ต้องแกร่ง มีอะไรมากระทบเราจะได้ไม่หวั่นไหว”

“ให้พกหิน อย่าพกนุ่น”

“ให้ทำตัวเป็นแก่น อย่าทำตัวเป็นกระพี้”

๏ ศิษย์คนหนึ่งปรับทุกข์กับท่านพ่อว่า เวลาเขาทำอะไรที่บ้านหรือที่ทำงาน คนอื่นมักจะมองเขาในแง่ไม่ดีอยู่เสมอ ท่านพ่อก็สอนให้เขาพิจารณาอย่างนี้ “หู-ตาคนอื่นเป็นหูกระทะ-ตาไผ่ หูกระทะเป็นยังไง เวลาเราพูดเขาฟังรู้เรื่องไหม”

“เปล่า ไม่รู้เรื่องรู้ราว”

“แล้วตาไผ่เป็นยังไง”

“มันก็แหลมๆ ถ้าเราไม่ระวังมันก็จะทิ่มเอา”

“นั่นแหละซิ แล้วจะเอาอะไรกับมัน”

๏ ลูกศิษย์อีกคนหนึ่งเจอปัญหาในที่ทำงานคือ มีคนชอบนินทาเขาอยู่เรื่อย ตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่ทนเอาเฉยๆ แต่เมื่อเจอบ่อยเข้าก็รู้สึกเบื่อเรื่องนี้มากๆ วันหนึ่งไปนั่งภาวนากับท่านพ่อที่วัดมกุฏฯ แล้วเกิดนิมิตเห็นภาพตัวเองซ้อนๆๆ หลายชั้นจนนับไม่ถ้วน ทำให้คิดว่าตัวเองเคยเกิดมาหลายภพหลายชาติ คงจะเจอเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ทำให้รู้สึกยิ่งเบื่อใหญ่ พอออกจากสมาธิก็เล่าให้ท่านพ่อฟังว่ารู้สึกเบื่อมากๆ ต่อการนินทานี้ ท่านพ่อก็สอนให้วางโดยบอกว่า “สิ่งพรรค์นี้เป็นโลกธรรม เป็นของคู่กับโลก เมื่อมีดีก็ต้องมีไม่ดีด้วย รู้อย่างนี้จะไปยุ่งกับมันทำไม” แต่อำนาจกิเลสที่กำลังแรงทำให้ศิษย์คนนี้โต้กลับท่านพ่อว่า “ก็หนูไม่ได้ไปยุ่งกับมัน มันมายุ่งกับหนูเอง” ท่านก็เลยสวนทางทันที “แล้วทำไมไม่ถามตัวเองว่า เสือกเกิดมาทำไม”

“เขาว่าเราไม่ดี มันก็อยู่แค่ปากเขา ไม่เคยถึงตัวเราสักที”

“คนอื่นเขาด่าเรา เขาก็ลืมไป แต่เราไปเก็บมาคิด เหมือนเขาคายเศษอาหารทิ้งไป แล้วเราไปเก็บมากิน แล้วจะว่าใครโง่”

“ใครจะด่าว่ายังไงก็ช่างหัวมัน อย่าไปสนใจ ให้หัดเอาหินถ่วงหูไว้บ้าง อย่าเอามาหาบมาคอน หนักเปล่าๆ ของไร้สาระ”

๏ วันหนึ่งท่านพ่อตั้งปัญหาให้โยมคนหนึ่งว่า “ถ้าเสื้อผ้าของโยมตกลงไปในบ่ออาจม โยมจะเอาขึ้นไหม”

โยมก็งง แต่ก็รู้ตัวว่า จะตอบปัญหาท่านพ่อแบบเซ่อๆ ซ่าๆ ไม่ได้ จึงตอบว่า “ก็แล้วแต่ ถ้าเรามีชุดนั้นชุดเดียว คงจำเป็นจะต้องเอาขึ้นมา แต่ถ้ามีชุดอื่นก็คงจะปล่อยทิ้งไป ท่านพ่อหมายถึงอะไร”

“คนเราที่ชอบฟังเรื่องไม่ดีของคนอื่นเขา ถึงแม้ว่าเราไม่ได้รับกรรมของเขา แต่กลิ่นมันจะต้องมาถึงเรา”

๏ เวลาลูกศิษย์คนไหนถือโกรธอยู่ในใจ ท่านพ่อจะสอนว่า “ความโกรธแค่นี้เราสละกันไม่ได้หรือ ให้คิดว่าเราให้ทานเขาไป คิดดูสิ พระเวสสันดรสละไปแค่ไหน ท่านก็ยังสละได้ ไอ้ของแค่นี้ไม่มีค่าอะไร ทำไมเราสละกันไม่ได้”

“โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า”

“ทิฐิกับสัจจะมันคนละอย่างกันนะ ถ้ารักษาคำพูดด้วยใจขุ่นมัว คิดจะเอาชนะเขา นั่นคือตัวทิฐิ ถ้ารักษาด้วยใจปลอดโปร่ง สงบเยือกเย็น นั่นคือสัจจะ ถ้าเวลารักษาสัจจะเราก็กัดฟันไปด้วย นั่นไม่ใช่สัจจะหรอก”

“จะทำอะไรก็ให้คิดก่อนจึงค่อยทำ อย่าทำแบบที่ว่า ทำแล้วจึงค่อยมาคิดทีหลัง”

๏ โยมคนหนึ่งชอบทำตัวเป็นที่ปรึกษาของเพื่อนๆ ในที่ทำงาน แต่พอรับฟังความทุกข์จากเพื่อนๆ มากเข้าๆ ใจตัวเองชักจะเป็นทุกข์กับเขาด้วย ท่านพ่อจึงแนะนา “ให้รู้จักปิดฝาตุ่มซะบ้าง ปิดหน้าต่างซะบ้าง ฝุ่นจะได้ไม่เข้า”

“ระวังเมตตาตกบ่อนะ คือเราเห็นเขาตกทุกข์ยากลำบาก เราก็คิดอยากจะช่วยเขา แต่แทนที่จะดึงเขาขึ้น เขาก็กลับดึงเราลง”

“เขาว่าดี แต่มันดีของเขา จะดีของเราหรือเปล่า”

“เราทำตามเขา เราก็โง่ตามเขาซิ”

“เขาโกรธเรา เขาเกลียดเรา นั่นแหละเราก็สบาย จะไปไหนมาไหนไม่ต้องเป็นห่วงหน้าห่วงหลังว่า เขาจะเสียใจไหม เขาจะคิดถึงไหม กลับมาเราก็ไม่ต้องเอาของมาฝากด้วย เราก็เป็นอิสระในตัวของเรา”

“คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ”

“เอาชนะคนอื่นนะ มันเป็นเวรเป็นกรรมกัน สู้ชนะตัวเราเองไม่ได้หรอก ชนะตัวเองนั้นประเสริฐที่สุด”

“อะไรจะเสียก็ให้มันเสียไป แต่อย่าให้ใจเสีย”

“เขาเอาของเราไป ก็ให้ถือว่าให้ทานเขาไป ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้จักหมดเวรหมดกรรมกันสักที”

“เขาเอาของเรา ดีกว่าเราเอาของเขา”

“ถ้าเป็นของเราจริงๆ ยังไงๆ มันต้องอยู่กับเรา ถ้าไม่ใช่ของเรา เราจะเอามันทำไม”

“มิจฉาชีพคืออะไร มิจฉาชีพคือ เราทำอะไรที่จะเอาของเขามาด้วยเจตนาไม่ซื่อตรง นั่นก็เรียกว่ามิจฉาชีพทั้งนั้น”

“จนข้างนอกไม่เป็นไร อย่าให้จนข้างในก็แล้วกัน ให้ใจเรารวยทาน ศีล ภาวนา รวยอริยทรัพย์ดีกว่า”

๏ ลูกศิษย์คนหนึ่งเคยบ่นกับท่านพ่อว่า “หนูเห็นคนอื่นเขาอยู่อย่างสบาย ทำไมชีวิตของหนูรู้สึกว่าลำบากเหลือเกิน” ท่านพ่อก็ตอบว่า “โธ่ ลำบากของเรามัน ๑๐ ดี ๒๐ ดีของคนอื่นเขา ทำไมไม่ดูคนที่เขาลำบากกว่าเราบ้าง”

๏ บางครั้งเวลาลูกศิษย์มีความทุกข์ ท่านพ่อสอนให้ปลงตกโดยใช้ประโยคว่า “จะโทษใครได้ ก็เราเองอยากเกิดมานี่ ไม่มีใครจ้างให้มา”

“อารมณ์ทั้งหลายมันก็มีอายุของมัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปตลอด พอหมดอายุมันก็ดับไปเอง”

“การมีคู่เป็นทุกข์ ยิ่งมีคู่ดีก็ยิ่งทุกข์มากกว่าคู่ไม่ดี เพราะมันผูกพันกันมาก”

“เราก็ว่า ‘ลูกของเรา ลูกของเรา’ แต่เขาเป็นของเราจริงหรือเปล่า ขนาดตัวของเราเองท่านก็บอกว่าไม่ใช่ของเรา แล้วจะว่ายังไง”

๏ คืนวันหนึ่งศิษย์สองคนแม่-ลูก มาหาท่านพ่อที่ตึกเกษมฯ พอดีลูกเกิดเถียงกับแม่ต่อหน้าท่านพ่อ ท่านจึงว่า “โอ้โห เถียงกับแม่อย่างนี้เชียวหรือ”

ฝ่ายแม่ก็ตอบว่า “ค่ะ ฉันต้องอโหสิให้ลูกๆ วันละ ๑๐๐ ครั้ง ๑,๐๐๐ ครั้ง ฉันไม่เอากรรมเอาเวรกับเขาหรอก”

ท่านก็บอกว่า “ก็นั่นแหละสิ พ่อแม่ไม่เอากรรมเอาเวรกับลูก แต่เบื้องบนเบื้องล่างเขาจะยอมหรือเปล่า”

๏ คืนอีกวันหนึ่งในระหว่างที่ป่วยหนัก ศิษย์ท่านพ่ออีกคนหนึ่งฝันเห็นตัวเองตายแล้วขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ เช้าตื่นขึ้นมาก็รู้สึกใจไม่ดี จึงเล่าให้ท่านพ่อฟัง ท่านก็พยายามปลอบใจว่า ที่ฝันอย่างนั้นเป็นมงคล ถ้าอยู่มีชีวิตต่อไปการงานคงจะได้เลื่อนขั้น ถ้าตายไปก็คงอยู่เบื้องบนละ แต่พอท่านพูดถึงข้อนี้เขาก็ยิ่งใจเสีย บอกว่า “แต่หนูยังไม่อยากตายเลย ท่านพ่อ” ท่านก็ตอบว่า “อายุของเรา ถ้าจะหมดแค่นี้ก็ต้องยอมเขา ไม่ใช่หนังสติ๊กที่จะยืดได้หดได้”

“สุขในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ฯลฯ ที่เราปรารถนามากเป็นพิเศษ แสดงว่าเราเคยเสวยแล้วในชาติก่อนๆ เราจึงคิดถึงมันในชาตินี้ คิดอยู่แค่นี้ก็น่าจะเกิดความสลดสังเวชในตัวเองได้


:b50: :b45: :b50:
วัดเมตตาวนาราม
Valley Center, California, U.S.A. >>>

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=59750

:b44: ประวัติและปฏิปทา “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=27449

:b44: รวมคำสอน “ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=47090


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2023, 10:23 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2023, 13:53 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร