วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 16:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ต.ค. 2020, 14:43 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


พญานาคเคารพ...หลวงพ่อผาง

“...(หลวงพ่อผาง) ไปพักภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว นี่ล่ะที่สําคัญนะ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งอยู่ทางด้านนู้น เดินจงกรมอยู่กลางวันนะไม่ใช่กลางคืน หลวงพ่อผางเดินจงกรมอยู่ทางนี้ องค์นั้นเดินอยู่ทางนั้น งูใหญ่ ใหญ่เท่ากับต้นมะพร้าว มานี้มายกคอขึ้นอ้าปากใส่หลวงตาองค์นี้ ตัวมันใหญ่กว่านี้ ฟังเสียงร้องว้อๆ ขึ้น

ตอนนั้นก็เดินจงกรมอยู่ ‘เป็นอะไรว่ะ’

‘งูใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน กําลังจะงับผม อ้าปากใส่ผมอยู่นี่’

ท่านก็มาแล้ว ก็เห็นจริงๆ กลางวันนะ หายก็หายในขณะนั้นเลยต่อหน้าต่อตา เป็นยังไงพญานาคมีหรือไม่มีฟังซิ ผู้เห็นท่านเห็นอยู่อย่างงั้น ผู้หลับตามันก็หลับอยู่งั้น พอมาก็เห็น โอ๊ย มันยกคอขึ้น ตัวเท่าต้นมะพร้าว ตัวยาว หลวงตานี้ก็เดินจงกรม ตัวแข็ง มันอ้าปาก มันไม่เข้ามาใกล้แหละ ห่างประมาณสักวาเศษๆ มันอ้าปากอยู่อย่างงี้ ตัวใหญ่

ทีนี้หลวงพ่อผางมา ‘ไหนมันอยู่ไหน’

พอว่าท่านเดินเข้ามาเลยนะ หลวงพ่อผางไม่มีคําว่าสะทกสะท้าน มันก็อ้าปาก ทางนี้ก็เดินเข้าไป ‘เอามึงจะกินกูเหรอ เอาเลย มึงชอบตรงไหนเอาเลย’

เดินบุกเข้าไปหาเลยเชียว มันกําลังอ้าปากอยู่ พรึบเดียวหายเงียบเลย ไม่ทราบหายไปไหน ตัวใหญ่ๆ หายเดี๋ยวนั้นเลย ไปเงียบ บอกว่า ‘พญานาคมันมาแกล้งเฉยๆ ภาวนาเมตตามันไม่ดี ภาวนามันไม่ค่อยแผ่เมตตา’

นั่นเห็นไหมล่ะ ตัวใหญ่จริงๆ นี่หลวงพ่อผาง ท่านบุกเข้าไปเลยนะ ที่มันอยู่นั้นท่านเดินไปหาเลย ท่านไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลยกินเรา เดินเข้าไปหาตรงนั้น หายวูบไปเลย เงียบเลย ไม่มี หายหมดทั้งตัว มันไปไหนไม่รู้ เวลาออกมาพูดว่า

‘มาแกล้งหลวงพ่อ หลวงพ่อใจดําไม่มีเมตตาจิต มันมาแกล้งเอา’

อันนี้ก็เข้ากันได้ ก็เรียนหนังสือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ที่พวกพาไปภาวนา ไม่แผ่เมตตา พวกเทวดาทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน มาแสดงอาการทั้งหลายให้เห็น เป็นกะโหลกหัวผีบ้างอะไรบ้าง และทําพระให้ทั้งจามทั้งไอ เป็นไข้ เป็นหนาว วิ่งไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่ง เวลาไปไม่สบาย “ไม่สบายซิพวกเธอใจดํา พวกเทพทั้งหลายเขาอยู่ที่นั่น เขาได้รับความลําบากลําบน เขาก็แกล้งเอาบ้าง ไม่มีเมตตาจิตไป ไปเจริญเมตตาจิต ไปอยู่ที่นั่น”

ไล่กลับมาที่เก่า ไปคราวนี้เจริญเมตตาจิตชุ่มเย็นหมดเลย อํานาจเมตตาธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นธรรมชนะโลก สุดยอดอยู่กับเมตตาธรรม ให้พากันจําไว้นะ

เมตตาธรรมคือความอ่อนนิ่ม ถ้าพวกเราพูดออกมา และมาเป็นสมมุติอย่างนี้ เรียกว่าความอ่อนนิ่มทุกตัวสัตว์ไม่เป็นภัยต่อผู้ใดเลย เพราะฉะนั้นจึงเข้าได้หมดเมตตาธรรม จะเป็นโหดร้ายมา ทารุณขนาดไหนก็ตาม อํานาจเมตตาธรรมนี้นิ่มไปหมด ลบล้างได้หมดเลย พระเหล่านั้นเลยเจริญสมณธรรมได้สําเร็จมรรคผลนิพพาน เยอะนะอยู่ในนั้น พวกเทพ พวกเทวดา รุกขเทวดาอยู่บนต้นไม้เขาเคารพเขาก็ลงมาอยู่ข้างล่าง ลําบากลําบนเพราะพวกนี้เคยอยู่ต้นไม้ใช่ไหมล่ะ พระก็เป็นพระใจดําน้ำขุ่น อยู่นานไปเห็นท่าจะไม่ได้การ เขาก็เลยกลั่นแกล้งเอาบ้าง พระเหล่านี้เป็นหวัด เป็นไอ เป็นอะไรเป็นไข้บ้าง บางทีเป็นกะโหลกหัวผีมาอยู่ทางจงกรมบ้าง อะไรบ้าง เขาแกล้งทําต่างๆ พอไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งไล่กลับมาที่เก่าเลย ให้เจริญเมตตาอย่างนั้นๆ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเปลี่ยนไปหมด มาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

พูดถึงเรื่องหลวงพ่อผางที่ว่างูใหญ่นั่น ก็เห็นประจักษ์อย่างนั้นแล้ว พรึบหายเงียบ ไม่ทราบไปไหน ทั้งๆ ที่ท่านเดินบุกเข้าไปหาเลยนะ ไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลย ต้องการอันไหนเอาเลย เดินเข้าไปหามันพรึบเดียวหมดเลย ไปไหนไม่รู้ จึงได้มาสอนหลวงพ่อที่ถ้ำนั้นอีกเหมือนกันนั่นแหละ

‘พระไปอยู่ก็เป็นพระขลังๆ ไปอยู่แทนที่จะเจริญเมตตาภาวนาชําระจิตใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า กลับไปทําแต่ของขลัง ทํานั้นทํานี้มีแต่ของขลังๆ แบบโลกแบบกิเลสตัณหาไปหมด พวกเทวดาทั้งหลายเขาก็รําคาญ แทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรมให้ได้รับความร่มเย็นยิบๆ แย็บๆ ก็ไม่มี ดีไม่ดีมีพระสองสามองค์ไปก็ไปทะเลาะกัน สร้างความรําคาญให้เขาอีก เขาก็มาดลบันดาลให้พระเหล่านี้หนีจากนั้นเลย พระองค์ไหนมาถ้าไม่เป็นศีลเป็นธรรม พวกรุกขเทพเหล่านั้นเขาหาอุบายขับไล่ อยู่ไม่ได้’


จนร่ำลือสถานที่นั่น นี่ก็ทางน้ำหนาวเหมือนกัน นี่ก็หลวงพ่อผางไปอยู่ พอมันนานมาจนร่ำลือว่าที่นี่มันแข็งอะไรต่ออะไร ทางภาษาภาคอีสานเขาเรียกมันเข็ดมันขวาง ทางนี้เรียกว่ามันแข็งมันแรง เวลาท่านไปอยู่ที่นั่นเขาก็บอกเลย ‘อยู่ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ เป็นอย่างงั้นอย่างงี้’ เป็นก็เป็นเถอะ ท่านไม่สนใจแหละ จะพักที่นี่ เวลาพักแล้วท่านไม่ใช่พระขลังแบบนั้นซิ ท่านเป็นอรรถเป็นธรรม ไปอยู่นั้นพวกเทพทั้งหลายเข้ามาหา เขามาเล่าเรื่องถึงพระองค์นั้นให้ฟัง เล่าเรื่องพระที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟัง เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้ เขาเล่าให้ฟัง

ตกลงเรียกว่า เทวดาเล่าให้ฟังเสียเอง ประชาชนสู้เทวดาเล่าให้ฟังไม่ได้ ประชาชนว่ามานี่ทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง แตกกันไป องค์ไหนมาก็มาทะเลาะกัน มาหาแต่ของขลังๆ ทําตะกรุดบ้าง ทําอะไรทุกอย่างอะไรที่มันขลังๆ แล้วก็แตกกันไป มามีหลายพวกแล้วนะพระ อยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาว่างั้นประชาชน แต่เวลาเทวดามาพูด เทวดานี่ละทําเอา มาแล้วมาทําตั้งแต่ของอย่างนั้น ของสกปรก เทวดาเขายังรู้ของสกปรก พระทําไมไม่รู้ เขากลั่นแกล้งเอาบ้าง เลยแตกหนี

ทีนี้เวลาท่านมาอยู่ที่นั่น พวกเทพทั้งหลายเขาอาราธนานิมนต์ท่าน ‘ขอนิมนต์ไม่อยากให้ท่านหนีไปไหน ขอให้อยู่ที่นี่ ท่านมาพักที่นี่มีความชุ่มเย็นเป็นสุขไปหมดทุกแห่งทุกหน ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นดีงามไปหมด’

ท่านก็อยู่นาน อยู่สถานที่นั่น และต่อไปก็ดูเหมือนเป็นวัดขึ้น เราก็ลืมๆ ตอนนั้น หากทราบตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกอยู่ไม่ได้ แต่ท่านไปอยู่ได้จนกระทั่งไม่อยากให้ท่านหนี ไม่อยากให้ท่านไปไหน ท่านก็รู้สึกว่าพักอยู่นานอยู่นะ ก็เห็นใจเทวดาเหมือนกัน เรื่องพญานาค...”


รูปภาพ
หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต
วัดป่าอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น


:b8: คัดมาจาก : หน้า ๔๖๗-๔๖๘ หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์
เรียบเรียงจากเทศนาธรรมของท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เป็นหนังสืออนุสรณ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงถวายแด่พระสรีระสังขาร
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=78&t=59451

• ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19464

• “หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต” และ “วัดอุดมคงคาคีรีเขต”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=36659


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2020, 23:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


พญานาคมีจริงหรือ

:b50: :b49: คำถาม โดย : siripen deesuk ถามเมื่อวันที่ ๑๘ เม.ย. ๒๕๔๖

กราบนมัสการหลวงตามหาบัว
ถามว่า พญานาคมีจริงไหมเจ้าค่ะ และการทำบุญจะได้บุญหรือไม่


:b50: :b49: คำตอบ เมื่อวันที่ ๒๖ ก.ย. ๒๕๔๖

(เขาว่าพญานาคมีจริงหรือไม่) โคตรพ่อโคตรแม่มันไม่เคยเห็น มันมาถามหาอะไร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ปฏิเสธพญานาคยังไง ก็มีแต่พวกตาบอดเท่านั้นมาหลับตาถาม ทีนี้ เวลาตอบลืมตาตอบมันก็เข้ากันไม่ได้ซิ พระพุทธเจ้าลืมตา มาถามสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างคนตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด คนตาดีทั้งโลกเขาก็ไม่ปฏิเสธ แต่เขาตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด ก็ยอมให้เขาตามส่วน เราไม่ว่าอะไรแหละ พอพูดถึงเรื่องพญานาค หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) สำคัญอยู่นะ กับพวกงูพวกพญานาค นี่ละอำนาจวาสนาของคน มีฤทธาศักดานุภาพ ปัจจุบันนี่หลวงพ่อผางขอนแก่น นั่นน่ะท่านบวชทีหลังเรา ตอนท่านไป (ไปขอศึกษาอุบายธรรมจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านนามน - สาวิกาน้อย) เราก็อยู่ที่นั่นวัดนามน (วัดป่าบ้านนามน ปัจจุบันคือวัดป่านาคนิมิตต์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร - สาวิกาน้อย) ที่ท่านศึกษาปรารภกับหลวงปู่มั่น ท่านก็เทศน์อย่างเด็ดทีเดียว นั่นล่ะท่านได้ธรรมะนั่นล่ะมา ใส่เปรี้ยงๆ ลง ท่านคงเล็งดูแล้ว เหมาะแล้ว ธรรมะจึงไม่มีอ่อนข้อเลย เด็ดตลอดจนจบ ใส่เปรี้ยงๆ เหมือนคนโกรธแค้นกันมาได้ห้ากัปห้ากัลป์ พอมาก็ปรี่ใส่กันเลยว่างั้นเถอะน่ะ นั่นล่ะผู้ท่านได้อันนั้นมา มาพิจารณาก็ได้คติตั้งแต่นั้นมา เอาจนทะลุไป นี่ล่ะองค์นี้หลวงพ่อผาง แล้วก็เล่าถึงเรื่องของเรา

ท่านบอกว่าท่านเคยพบกับเราอยู่ที่นั่น นามน เล่าให้พระทั้งหลายฟัง เพราะตอนนี้เราก็มาขั้นครูขั้นอาจารย์แล้ว หลวงพ่อผางก็เป็นครูเป็นอาจารย์ไปแล้ว เลยเล่าเรื่องถึงกันเฉยๆ ทีนี้เวลาท่านออกมาแล้วนี้ งู จระเข้ เหล่านี้ เหมือนกับท่านเป็นครูเลยเชียว พวกนี้หมอบกลัวหมด จระเข้ตัวหนึ่งมันอยู่ในสระที่วัดนั้น เราเคยไปแล้ววัดนี้ เวลาเขาไปปลูกกุฏิกลางน้ำ เวลาเผลอๆ คนกำลังทำกุฏิมันมางับเอาขาละซิ ร้องเอิ้กอ้ากขึ้นเลย พอร้องขึ้นหลวงพ่อผางก็มา พอมันได้ยินเสียงหลวงพ่อผางมันจำได้เลยนะ พอหลวงพ่อผางมานี่ไม่ทราบหนีไปไหนกลัว ถ้าได้ยินเสียงหลวงพ่อผาง หมอบเลย กลัว

แล้วทีนี้ไปพักภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว นี่ล่ะที่สำคัญนะ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งอยู่ทางด้านนู้น เดินจงกรมอยู่กลางวันนะไม่ใช่กลางคืน หลวงพ่อผางเดินจงกรมอยู่ทางนี้ องค์นั้นเดินอยู่ทางนั้น งูใหญ่ ใหญ่เท่ากับต้นมะพร้าว มานี้มายกคอขึ้นอ้าปากใส่หลวงตาองค์นี้ ตัวมันใหญ่กว่านี้ ฟังเสียงร้องว้อๆ ขึ้น ตอนนั้นก็เดินจงกรมอยู่ “เป็นอะไรว่ะ” “งูใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน กำลังจะงับผม อ้าปากใส่ผมอยู่นี่” ท่านก็มาแล้ว ก็เห็นจริงๆ กลางวันนะ หายก็หายในขณะนั้นเลยต่อหน้าต่อตา เป็นยังไงพญานาคมีหรือไม่มีฟังซิ ผู้เห็นท่านเห็นอยู่อย่างงั้น ผู้หลับตามันก็หลับอยู่งั้น พอมาก็เห็น โอ๊ย มันยกคอขึ้น ตัวเท่าต้นมะพร้าว ตัวยาว หลวงตานี้ก็เดินจงกรม ตัวแข็ง มันอ้าปาก มันไม่เข้ามาใกล้แหละ ห่างประมาณสักวาเศษๆ มันอ้าปากอยู่อย่างงี้ ตัวใหญ่

ทีนี้หลวงพ่อผางมา “ไหนมันอยู่ไหน” พอว่าท่านเดินเข้ามาเลยนะ หลวงพ่อผางไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน มันก็อ้าปาก ทางนี้ก็เดินเข้าไป เอามึงจะกินกูเหรอ เอาเลย มึงชอบตรงไหนเอาเลย เดินบุกเข้าไปหาเลยเชียว มันกำลังอ้าปากอยู่ พรึบเดียวหายเงียบเลย ไม่ทราบหายไปไหน ตัวใหญ่ๆ หายเดี๋ยวนั้นเลย ไปเงียบ บอกว่าพญานาคมันมาแกล้งเฉยๆ ภาวนาเมตตามันไม่ดี นั่นเห็นไหมล่ะ ภาวนามันไม่คอยแผ่เมตตา พญานาคก็มาแกล้งเอาบ้าง นี่หลวงพ่อผาง ตัวใหญ่จริงๆ ท่านบุกเข้าไปเลยนะ ที่มันอยู่นั้น ท่านเดินไปหาเลย ท่านไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลยกินเรา เดินเข้าไปหาตรงนั้น หายวูบไปเลย เงียบเลย ไม่มี หายหมดทั้งตัว มันไปไหนไม่รู้ เวลาออกมาพูดว่ามาแกล้งหลวงพ่อ หลวงพ่อใจดำไม่มีเมตตาจิต มันมาแกล้งเอา

อันนี้ก็เข้ากันได้ ก็เรียนหนังสือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ที่พวกพาไปภาวนาไม่แผ่เมตตา พวกเทวดาทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน มาแสดงอาการทั้งหลายให้เห็น เป็นกะโหลกหัวผีบ้างอะไรบ้าง และทำพระให้ทั้งจามทั้งไอ เป็นไข้เป็นหนาว วิ่งไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่ง เวลาไปไม่สบาย “ไม่สบายซิพวกเธอใจดำ พวกเทพทั้งหลายเขาอยู่ที่นั่น เขาได้รับความลำบากลำบน เขาก็แกล้งเอาบ้าง ไม่มีเมตตาจิต ไป ไปเจริญเมตตาจิต ไปอยู่ที่นั่น” ไล่กลับมาที่เก่า ไปคราวนี้เจริญเมตตาจิตชุ่มเย็นหมดเลย อำนาจเมตตาธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นธรรมชนะโลก สุดยอดอยู่กับเมตตาธรรม ให้พากันจำไว้นะ

เมตตาธรรมคือความอ่อนนิ่ม ถ้าพวกเราพูดออกมา และมาเป็นสมมุติอย่างนี้ เรียกว่าความอ่อนนิ่มทุกตัวสัตว์ไม่เป็นภัยต่อผู้ใดเลย เพราะฉะนั้นจึงเข้าได้หมดเมตตาธรรม จะเป็นโหดร้ายมา ทารุณขนาดไหนก็ตาม อำนาจเมตตาธรรมนี้นิ่มไปหมด ลบล้างได้หมดเลย พระเหล่านั้นเลยเจริญสมณธรรมได้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน เยอะนะ อยู่ในนั้น พวกเทพ พวกเทวดา รุกขเทวดาอยู่บนต้นไม้เขาเคารพเขาก็ลงมาอยู่ข้างล่าง ลำบากลำบน เพราะพวกนี้เคยอยู่ต้นไม้ใช่ไหมล่ะ พระก็เป็นพระใจดำน้ำขุ่น อยู่นานไปเห็นท่าจะไม่ได้การณ์เขาก็เลยกลั่นแกล้งเอาบ้าง พระเหล่านี้เป็นหวัด เป็นไอ เป็นอะไรเป็นไข้บ้าง บางทีเป็นกะโหลกหัวผีมาอยู่ทางจงกรมบ้าง อะไรบ้าง เขาแกล้งทำต่างๆ พอไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งไล่กลับมาที่เก่าเลย ให้เจริญเมตตาอย่างนั้นๆ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเปลี่ยนไปหมด มาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

พูดถึงเรื่องหลวงพ่อผางที่ว่างูใหญ่นั่นก็เห็นประจักษ์อย่างนั้นแล้ว พรึบหายเงียบ ไม่ทราบไปไหน ทั้งๆ ที่ท่านเดินบุกเข้าไปหาเลยนะ ไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลย ต้องการอันไหนเอาเลย เดินเข้าไปหามันพรึบเดียวหมดเลย ไปไหนไม่รู้ จึงได้มาสอนหลวงพ่อ ที่ถ้ำนั้นอีกเหมือนกันนั่นแหละพระไปอยู่ก็เป็นพระขลังๆ ไปอยู่แทนที่จะเจริญเมตตาภาวนาชำระจิตใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า กลับไปทำแต่ของขลัง ทำนั้นทำนี้มีแต่ของขลังๆ แบบโลกแบบกิเลสตัณหาไปหมด พวกเทวดาทั้งหลายเขาก็รำคาญ แทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรมให้ได้รับความร่มเย็นยิบๆ แย็บๆ ก็ไม่มี ดีไม่ดีมีพระสองสามองค์ไปก็ไปทะเลาะกัน สร้างความรำคาญให้เขาอีก เขาก็มาดลบันดาลให้พระเหล่านี้หนีจากนั้นเลย

พระองค์ไหนมาถ้าไม่เป็นศีลเป็นธรรม พวกรุกขเทพเหล่านั้นเขาหาอุบายขับไล่ อยู่ไม่ได้ จนร่ำลือสถานที่นั่น นี่ก็ทางน้ำหนาวเหมือนกัน นี่ก็หลวงพ่อผางไปอยู่ พอมันนานมาจนร่ำลือว่าที่นี่มันแข็งอะไรต่ออะไร ทางภาษาภาคอีสานเขาเรียกมันเข็ดมันขวาง ทางนี้เรียกว่ามันแข็งมันแรง เวลาท่านไปอยู่ที่นั่นเขาก็บอกเลยอยู่ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ เป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เป็นก็เป็นเถอะ ท่านไม่สนใจแหละ จะพักที่นี่ เวลาพักแล้วท่านไม่ใช่พระขลังแบบนั้นซิ ท่านเป็นอรรถเป็นธรรม ไปอยู่นั้นพวกเทพทั้งหลายเข้ามาหา เขามาเล่าเรื่องถึงพระองค์นั้นให้ฟัง เล่าเรื่องพระที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟัง เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้ เขาเล่าให้ฟัง

ตกลงเรียกว่าเทวดาเล่าให้ฟังเสียเอง ประชาชนสู้เทวดาเล่าให้ฟังไม่ได้ ประชาชนว่ามานี่ทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง แตกกันไป องค์ไหนมาก็มาทะเลาะกัน มาหาแต่ของขลังๆ ทำตระกุดบ้าง ทำอะไรทุกอย่างอะไรที่มันขลังๆ แล้วก็แตกกันไป มามีหลายพวกแล้วนะพระ อยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาว่างั้นประชาชน แต่เวลาเทวดามาพูด เทวดานี่ละทำเอา มาแล้วมาทำตั้งแต่ของอย่างนั้น ของสกปรก เทวดาเขายังรู้ของสกปรก พระทำไมไม่รู้ เขากลั่นแกล้งเอาบ้าง เลยแตกหนี ทีนี้เวลาท่านมาอยู่ที่นั่น ขอนิมนต์ไม่ยอมให้ท่านหนีไปไหน อยู่ที่นั่น ที่นี่มีความชุ่มเย็นไปหมดทุกแห่งทุกหน ท่านก็อยู่นาน อยู่สถานที่นั่น และต่อไปก็ดูเหมือนเป็นวัดขึ้น เราก็ลืมๆ ตอนนั้น หากทราบตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกอยู่ไม่ได้ แต่ท่านไปอยู่ได้จนกระทั่งพวกเทพทั้งหลายเขาอาราธนานิมนต์ท่าน ไม่อยากให้ท่านหนี เขามีความชุ่มเย็นเป็นสุข ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นดีงามไปหมด ท่านมาพักอยู่ที่นี่ร่มเย็นมาก ว่างั้น ไม่อยากให้ท่านไปไหน ท่านก็รู้สึกว่าพักอยู่นานอยู่นะ ก็เห็นใจเทวดาเหมือนกัน เรื่องพญานาค ฟังรึยัง ตอบกันเดี๋ยวนี้



ส่วนหนึ่งจากกัณฑ์เทศน์ “พญานาคมีหรือไม่มี” โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๖ (ช่วงค่ำ) ณ กุฏิกลางน้ำ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร :b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma_forum/forum_ ... orumID=236

:b44: ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=78&t=59451

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2022, 07:31 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมะของเรามีทุกขั้น

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร
เมื่อค่ำวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐


พูดท้ายเทศน์

หลวงพ่อผาง (หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต) นี่ก็เป็นพระสำคัญองค์หนึ่ง อยู่ที่มัญจาคีรี ตอนนั้นเราอยู่บ้านนามน พอดีท่านก็ไปบ้านนามน แต่ท่านอ่อนพรรษากว่าเรา เพราะท่านเคยมีครอบครัวมาแล้วบวชบั้นแก่ เพราะฉะนั้นท่านจึงอ่อนพรรษากว่าเรา อายุเราอ่อนกว่าท่าน แต่พรรษาบวชท่านอ่อนกว่าเรา เวลาท่านไปวัดบ้านนามน โห ท่านเทศน์นี้แผดมากเทียวนะ นั่นละท่านจะเห็นอะไรอยู่ เทศน์หลวงพ่อองค์นี้เทศน์เข้มข้นมาก ใส่เปรี้ยงๆๆ เราก็มาปฏิบัติแต่ว่าผ่านได้นะ ท่านผ่านได้ หลวงพ่อผางถูกกัน พวกงู พวกจระเข้ ในวัดมีจระเข้ด้วย มีงูด้วย ในวัดท่านงูนี้ยั้วเยี้ยๆ คนไปเห็นก็ตื่นเต้นทั้งกลัว

จะไปกลัวเขาอะไรท่านว่างั้น ท่านก็ไม่เคยขับไล่เขาหนีนะพวกงู ทุกประเภทนะงู แล้วมีจระเข้ตัวหนึ่งอยู่นั้น เดี๋ยวนี้ตัวหนึ่งตายดูว่ายังมีอีกตัวหนึ่งอยู่ ลูกเต้าหลวงพ่อผางนะ ที่เกี่ยวกับพวกงู พวกจระเข้ เวลามาแสดงกับผู้เฒ่าเป็นตนเป็นตัวจริงๆ นะ งูที่ว่าพญานาคนั่นน่ะ เท่าต้นเสานี้น่ะ ไปภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว ในภูเขาลูกนั้น เวลาไปภาวนา มีหลวงพ่อองค์หนึ่งไปด้วย ไปกับผู้เฒ่าหลวงพ่อผางนี้ละ พอไปหลวงตาองค์นั้นภาวนาอยู่ทางด้านนั้น หลวงพ่อนี้ภาวนาเดินจงกรมตอนบ่ายนะ โอ้ เห็นตัวจริงๆ ไม่ได้ธรรมดา เห็นอยู่เหมือนต้นเสานี่ อ้าปากอยู่ จนหลวงตาร้องว้ายๆๆ ขึ้น

เดินจงกรมตอนบ่ายด้วยกัน ท่านก็เดินอยู่ ได้ยินเสียงร้องว้ายๆ ขึ้นทางนั้น เอ้าเป็นยังไงหลวงตามันเป็นบ้าอะไรมาร้องเพลงอยู่ ท่านก็เลยปุ๊บปั๊บเดินไป อะไร ร้องอะไร นี่งูใหญ่ว่างั้นนะ ก็ชี้มาเจอมันกำลังอ้าปากอยู่ด้วยนะ เท่าต้นเสานี่ มันอ้าปากตัวใหญ่เท่าต้นเสา ผู้เฒ่าก็เดินจงกรมตัวแข็งอยู่นั้น พญานาคมันก็มาอ้าปากอยู่ใกล้ๆ ผู้เฒ่านั้นก็มา เป็นอะไร โห นี่งูใหญ่ งูใหญ่อยู่ไหน ผู้เฒ่าเหลือบลงไปก็เห็นจริงๆ เห็นด้วยตานะ งูตัวเท่าต้นเสา พญานาค ผู้เฒ่ากับพญานาคเข้ากันได้ดี กับงูกับพญานาค ไปเห็นมันกำลังอ้าปากอยู่ใกล้ๆ กับหลวงตา ตัวเท่าต้นเสา ยกคอขึ้นอ้าปาก

คุณไปทำอะไรนั่นน่ะ หือ ว่างั้น ท่านก็เดินเข้าไปหาเลย เดินเข้าไปหางูใหญ่ตัวนั้น เอ้ามึงจะกินกูก็กิน ท่านว่างั้นละ ทางนี้กลัวตัวสั่นหลวงพ่อ ร้องวากๆ มันอ้าปาก ผู้เฒ่าก็เดินเข้าไปหาเลย เอ้ามึงกินกูถ้ามึงเก่งจริงว่างั้น พอไปถึงดับพรึบเลย หายเงียบ อย่างนั้นแหละ ผู้เฒ่ากับพญานาค ถูกกันดีกับพวกงู วัดของผู้เฒ่านี้งูยั้วเยี้ยๆ ท่านบอกว่าจะไปไล่เขาทำไม เขาก็ลูกศิษย์พระ ลูกศิษย์พระอะไรไปเอาผีเอางูมาเต็มวัด ว่าลูกศิษย์พระใครจะเชื่อ ผู้กลัวมันกลัวจะตาย อย่ามายุ่งมันลูกศิษย์พระท่านว่า ท่านเก่งทางนี้ พวกงูพวกพญานาคท่านไม่กลัว เข้ากันได้สนิท อยู่วัดท่านยั้วเยี้ยๆ เต็ม ไม่ทำอะไรใคร ก็ท่านเป็นหัวหน้าอยู่แล้วมันก็กลัวซีใช่ไหม เวลาท่านเสียไปแล้วมันจะอยู่นั้นหรือไม่อยู่ก็ไม่ทราบละงู ถ้าอยู่เขาฆ่าตายหมดแหละ



:b8: :b8: :b8: https://luangta.com/thamma/thamma_talk_ ... 43&CatID=2

:b44: ที่มา : http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=78&t=59451


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร