หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
ความเป็นอยู่ในโลกก็ต้องอาศัยความหมั่นความขยัน อาศัยวิชาความรู้ ทีนี้คนเราจะไปอาศัยแต่ความเป็นอยู่ในโลกนี้โดยส่วนเดียว ไม่คิดถึงอนาคตเบื้องหน้าก็ไม่ถูกต้อง เพราะว่าคนเราเกิดมาแล้วก็จะต้องมีความตายเป็นที่สุด ทีนี้การตายแล้ว หากว่าเมื่อกิเลสยังไม่หมด มันก็ไปทำกรรมดีบ้าง ทำกรรมชั่วบ้าง
เอ้า ตายลงกรรมดีกรรมชั่วนั้นก็นำดวงจิตนี้ไปเกิดในภพน้อยภพใหญ่ เสวยสุขบ้างเสวยทุกข์บ้าง หมุนเวียนไปอยู่อย่างนี้ ถ้าเมื่อผู้ใดยังไม่ได้พิจารณาให้เห็นโทษของกิเลสต่างๆ หมู่นี้ละก็ ไม่พากเพียรพยายามละมันอย่างนี้ มันก็จะก่อทุกข์ให้ไปในสงสาร เสวยสุขบ้างเสวยทุกข์บ้างไปอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งว่า การกระทำของคนเรานี่น่ะมันเป็นผลตอบสนองแก่ผู้กระทำ ไม่ใช่ว่าทำอะไรลงไปแล้วนั้นมันจะไม่มีผลตอบสนองเลยอย่างนี้ มันไม่ใช่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ใดทำดีย่อมได้รับผลดี ผู้ใดทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว อย่างนี้หลักนี้ล่ะหลักสำคัญนะ เพราะว่า ลัทธิอื่นศาสนาอื่นน่ะเขาเห็นไปอีกอย่างหนึ่ง
บางพวกก็เห็นว่าการทำดีหรือทำชั่วไม่มีผลตอบสนอง อย่างนี้นะมีอยู่เลยลัทธิในโลกนี้น่ะ ทำไปแล้วก็สักว่าแต่ทำแหละ ไม่มีผลตอบสนองให้เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ไปในสงสารนี้ ไอ้ความเห็นอย่างนี้ก็ถือว่าตายแล้วสูญนั่นแหละไป๊ มันเป็นอย่างนั้น ทีนี้บางพวกก็เห็นลงไปว่า โลกนี้เที่ยง เคยเกิดเป็นอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้นแหละไปเรื่อยๆ บุคคลจะทำดีหรือทำชั่วอย่างไรก็ไม่มีผลตอบสนอง พวกนี้ก็พวกหนึ่งอีก แต่ว่าถือไม่มีเหตุไม่มีปัจจัย เกิดขึ้นมาลอยๆ เช่นผู้ใดเคยเกิดเป็นผู้หญิง มีรูปร่างสัณฐานอย่างไรๆ เกิดไปชาติหน้าก็เป็นอย่างเดิม ผู้ใดเคยเกิดเป็นผู้ชาย มีรูปร่างอย่างไรก็เกิดไปชาติหน้าก็เป็นผู้ชายอยู่เหมือนเดิม อย่างนี้นะ ความเห็นของคนบางพวกนะ เป็นอย่างนั้น
ทีนี้ความเห็นของพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ซึ่งตรงกันข้ามกับความเห็นของพวกเหล่านั้นเลย พระองค์ทรงตรัสว่า บุญมีจริงบาปมีจริง อย่างนี้นะ นรกมีจริง สวรรค์มีจริง พระนิพพานมีจริง ข้อปฏิบัติให้ถึงซึ่งสวรรค์ก็มี ให้ถึงซึ่งพระนิพพานก็มี กรรมชั่วที่บุคคลทำ มันย่อมนำไปสู่อบายภูมิทั้งสี่ ตามกำลังของบาปกรรมที่ทำนั้น
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“ให้พึ่งตนเอง ใจจะไม่เดือดร้อน”
ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689
ชวนอ่านพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์
ของ “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080
