ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=21377 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | This_Is_Me [ 30 มี.ค. 2009, 22:05 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” | ||
“เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” กบ ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในสระใกล้กุฏิของพระในวัดแห่งหนึ่ง ทุกเช้ามันจะโดดออกจากสระขึ้นไปหมอบอยู่ริมทางเดิน มันเห็นพระเดินออกไปบิณฑบาตและเห็นโลกกว้างทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งมันเห็นพระออกไปบิณฑบาตไม่นานก็กลับวัดพร้อมกับมีข้าวเต็ม บาตรมีกับข้าวและขนมเต็มย่าม มันจึงคิดว่า “เออ เป็นพระนี่ก็ดีเหมือนกันนะ ดีกว่าเราเป็นไหนๆ แค่เดินเข้าบ้านไปชั่วโมงเดียวก็ได้อาหารมากมาย” >> หลักจากพระฉันอาหารเสร็จแล้ว ท่านก็นำเศษข้าวมาโปรยให้ฝูงไก่กิน กบเห็นเข้าก็คิดอยากเป็นไก่ขึ้นมา >> “อ๊ะ เป็นไก่นี่ดีกว่าเป็นพระอีก ไม่ต้องเดินไปหากินไกล ๆ ถึงเวลาพระก็มาโปรยข้าวให้กิน สบายดีจริงๆ” >> ทันใดนั้นมีหมาวัดตัวหนึ่งเห็นไก่กำลังจิกอาหารกินอย่างเพลิดเพลินจึงวิ่งมาไล่ไก่จนแตกกระเจิงไป กบเห็นเข้าก็อยากจะเป็นหมาขึ้นมาอีก >> “เป็นหมานี่ก็ไม่เบา เป็นฮีโร่ไล่ไก่เล่นสนุกดี ทำอย่างไรเราจึงได้เป็นหมาได้หนอ” >> ขณะกำลังคิดเพลิน ๆ อยู่ เด็กวัดคนหนึ่งเห็นหมาไล่ไก่เข้าก็คว้าไม้ไล่ตีหมาร้องลั่นวัดไป กบเห็นเข้าถึงกับสะดุ้งโหยง คิดว่า “โธ่เรานึกว่าเป็นหมาจะเก่ง ที่แท้ก็สู้เด็กไม่ได้ ขนาดเป็นเด็กหมายังกลัวถ้าเป็นผู้ใหญ่คงปราบอะไรได้ทั้งหมด เราน่าจะเป็นคนดีกว่า” กบคิดเตลิดไปอีก >> หลัก จากเด็กวัดไล่ตีหมาแล้วก็มานั่งหอบอยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้ ขณะนั้นมีแมลงวันหลายตัวมาตอมแข้งตอมขา เด็กวัดจึงปัดแมลงวันให้วุ่นไป เมื่อสู้ไม่ไหวทนรำคาญไม่ได้ก็ลุกหนีไปพลางบ่นว่า >> “รำคาญจริง ตอมได้ตอมดีไอ้พวกแมลงวันนี่” >> กบได้ยินเสียงบ่นก็เลิกคิดเป็นคนทันที สู้เป็นแมลงวันไม่ได้ “หนอยเป็นคนนึกว่าจะเก่ง ที่แท้ก็แพ้แมลงวันตัวเล็กนิดเดียว เป็นแมลงวันท่าจะดีเป็นแน่” >> กำลัง คิดเพลินอยู่นั้น แมลงวันตัวหนึ่งบินผ่านหน้ามันไปพอดีมันจึงใช้ลิ้นตวัดแมลงวันตัวนั้นเข้า ปากไปด้วยสัญชาตญาณ พอได้สัมผัสแมลงวันเท่านั้น ตัณหาของกบก็สะดุดกึก มันได้ดวงตาเห็นข้อสัจธรรม ถึงกับรำพึงว่า >> “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า อันความอยาก เช่นอยากได้ อยากมี อยากเป็น ที่ภาษาพระเรียกว่าตัณหานั้นไม่มีขอบเขต ไม่มีจุดจบ หาฝั่งไม่เจอ เพราะเป็นเรื่องของใจ ใจจึงคิดอยากเรื่อยไป นี่เป็นธรรมดา ถ้า หากรู้ทันไม่หลงละเมอไปกับตัณหาที่เกิดขึ้นก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมาก หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือใจเหนือความรู้สึกก็จะยุ่งวุ่นวายไม่เลิก อันที่จริงความอยากนั้นเกิดจากความหิวและความไม่รู้จริง คิดแต่เพียงว่าที่ตัวเองเป็นหรือที่ตัวมีนั้นไม่ดี ยังไม่สมบูรณ์แบบ สู้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ สู้มีอย่างนี้ไม่ได้ แต่ถ้ารู้ความจริงว่าไม่ว่าจะอะไรล้วนมีดีและมีเสีย ล้วน มีข้อดีข้อด้อยอยู่ในตัวทั้งสิ้น ไม่มีอะไรดีอย่างเดียวหรือเสียอย่างเดียว ก็จะผ่อนเพลาความอยากลงได้ และหากยอมรับภาวะที่ตัวเองเป็นอยู่และพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ย่อมประจักษ์ว่าเป็นอะไรก็สู้เป็นตัวเราและเป็นตัวของตัวเองไม่ได้เลย
|
เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 30 มี.ค. 2009, 22:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | zinza99 [ 31 มี.ค. 2009, 20:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” |
Real Self ![]() |
เจ้าของ: | สุรพล ตู้นิ่ม [ 04 เม.ย. 2009, 11:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” |
![]() ไม่มีอะไรดีอย่างเดียวหรือเสียอย่างเดียวสาธุ สาธุ สาธุ ![]() |
เจ้าของ: | บัวไฉน [ 05 เม.ย. 2009, 00:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: “เป็นอะไรก็ไม่สู้เป็นกูเอง” |
![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |