วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 18:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ค. 2009, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่คทายวิหาร
ใกล้ถ้ำมัททกุจฉิ เมืองราชคฤห์
ทรงปรารภพระเทวทัตผู้กลิ้งศิลาหมายให้ทับพระองค์
มีแต่สะเก็ดแตกกระทบพระบาทยังพระโลหิตให้ห้อเท่านั้น
ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในสมัยพระเจ้าปัญจาละกปกครองเมืองอุตตาปัญจาละ
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกนกแขกเต้ามีน้องตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ป่างิ้วใกล้ภูเขาลูกหนึ่ง
ในที่ไม่ไกลจากภูเขาลูกนั้นด้านทิศเหนือมีบ้านของพวกโจร ๕๐๐
ด้านทิศใต้เป็นอาศรมของฤๅษี ๕๐๐ ตน
เมื่อนกแขกเต้า สองพี่น้องเติบโตขึ้นกำลังหัดบิน
ในวันหนึ่งเกิดพายุใหญ่พัดกระหน่ำนกแขกเต้าทั้งสอง
จึงถูกลมพัดไปตกคนละแห่ง นกผู้น้องไปตกระหว่างอาวุธของบ้านโจร
พวกเขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า สัตติคุมพะ
ส่วนนกผู้พี่ไปตกระหว่างกองดอกไม่ใกล้อาศรมฤๅษี
จึงถูกตั้งชื่อว่าปุปผกะนกทั้งสองตัวต่างเติบโตในสถานที่นั้นๆ

อยู่มาวันหนึ่งพระเจ้าปัญจาละเสด็จประพาสป่า
พร้อมด้วยบริวารหมู่ใหญ่เพื่อออกล่าสัตว์ ทรงประกาศว่า
"เนื้อหนึไปทางผู้ใด อาญาจะมีแก่ผู้นั้น"
พระองค์ทรงธนูยืนซ่อนอยู่ในซุ้มที่เขาจัดถวาย
เมื่อพวกทหารตีเคาะพุ่มไม้มีเนื้อทรายตัวหนึ่งดูทางที่จะไป
เห็นทางที่พระราชาประทับอยู่เงียบสงัด
จึงวิ่งไปทางนั้้นและหลบหนีไปได้ พวกอำมาตย์ต่างร้องถามกันว่า
"เนื้อหนีไปทางผู้ใด"
เมื่อทราบว่าด้านของพระราชาต่างก็หัวเราะยิ้มเยาะ พระองค์

พระราชารีบขึ้นรถพระที่นั่งสั่งให้นายสารถีตามจับเนื้อให้จงได้
พวกบริวารไม่สามารถที่จะวิ่งไล่รถของพระองค์ทันใด้
จึงมีเพียงพระราชาและนายสารถีสองคนเท่านั้นตามเนื้อไป
จนเที่ยงวันก็ไม่พบเนื้อตัวนั้น
จึงเสด็จกลับพบลำธารสวยงามระหว่างทางใกล้ที่อยู่ของโจร
ด้วยความเหนื่อยล้า จึงลงไปบรรทมพักผ่อนใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง
ฝ่ายนายสารถีถวายงานนวดอยู่

ณ บ้านโจร พวกโจรพากันออกจากบ้านเข้าป่ากันหมด
เหลือแต่นกสัตติคุมพะและพ่อครัวคนหนึ่งเท่านั้น
ขณะนั้น นกสัตติคุมพะบินออกจากบ้านไปพบพระราชา
ก็คิดจะปล้นชิงทรัพย์จึงบินกลับมาบอกพ่อครัว
ฝ่ายพ่อครัวรีบออกไปดู เมื่อทราบว่าเป็นพระราชาจึงพูดว่า
"แกจะบ้าเรอะ จะปล้นพระราชา
ขึ้นชื่อว่าเป็นพระราชาถึงจะเข้าป่าก็ยังทรงเดชานุภาพอยู่นั้นเอง"
นกพูดตอบว่า "ท่านพ่อครัว เวลาเมาท่านเก่งกาจมากมิใช่หรือ
มาบัดนี้ท่านทำไมไม่อยากทำโจรกรรมเล่า"

พระราชาทรงตื่นจากบรรทมได้ยินเสียงคนคุยกันก็ทราบว่า
สถานที่นี้ไม่ปลอดภัยจึงปลุกนายสารถีรีับเสด็จไปโดยเร็ว
นกสัตติคุมพะรีบบินร้องให้โจรตามรถของพระราชาไป
พระราชาเสด็จไปถึงอาศรมของพวกฤๅษี
ขณะนั้นพวกฤๅษีเข้าป่าหาผลไม้เหลือแต่นกปุปผกะตัวเดียว
มันพอเห็นพระราชาเสด็จมาถึงรับบินไปต้อนรับและถวายพระพร

พระราชาเลื่อมใส่ในนกปุปผกะตรัสชมเชยว่า
"นกแขกเต้าตัวนี้ดีมากส่วนนกแขกเต้าตัวโน้นพูดแต่คำหยาบ
ให้จับพระราชาให้ฆ่าพระราชา นกสองตัวนี้ข่างต่างกันจริงๆ"

นกปุปผกะกราบทูลว่า "มหาราชเจ้า พวกข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นพี่น้องกัน
เติบโตจากต้นงิ้ว แต่ต่างถูกลมพัดไปอยู่คนละเขต
สัตติคุมพะตกไปอยู่ในบ้านโจร ข้าพระองค์มาอยู่ในอาศรมฤๅษี
เราทั้งสองจึงต่างกันพระเจ้าข้า" แล้วแสดงธรรมแก่พระราชาว่า
"ขอเดชะบุคคลคบคนเช่นใด เป็นสัตบุรุษ อสัตบุรุษ
ผู้มีศีลหรือไม่มีศีล ย่อมไปสู่อำนาจของผู้นั้น
เพราะอยู่ร่วมกันกับผู้นั้นเหมือนลูกศรอาบยาพิษ
ย่อมทำให้แหล่งลูกศรเปื้อนยาพิษด้วย
นักปราชญ์ไม่พึงมีสหายผู้ต่ำช้าเลยทีเดียว
เพราะกลัวจะเปื้อนด้วยบาปกรรมเหมือนห่อปลาเน่าด้วยหญาคา
หญ้าคาย่อมมีกลิ่นเหม็นฟุ้งไปด้วย การคบหาสมาคมกับคนพาลก็เช่นกัน
เหมือนห่อของหอมด้วยใบไม้ ใบไม้ก็หอมฟุ้งไปด้วยฉันได
การคบหาสมาคมกับนักปราชญ์ก็ฉันนั้น
ดังนั้น บัณฑิตไม่ควรคบหาอสัตบุรุษ ควรคบหาแต่สัตบุรุษเท่านั้น"

พระราชาทรงเลื่อมใสธรรมกถาของนกปุปผกะอย่างมาก
เมื่อหมู่ฤๅษีกลับมาแล้วจึงนิมนต์ให้เข้าไปอยู่ในสวนหลวง
เพื่อจะได้อุปัฏฐากบำรุง และทรงให้ปล่อยนกทั้งหลายเป็นอภัยทาน
หมู่ฤๅษีรับคำนิมนต์นั้นอยู่สงเคราะห์พระราชาจนตราบสิ้นชีวิต


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :


คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล
ชาติภูมิกำเนิดไม่ใช่สิ่งสำคัญสิ่งแวดล้อมต่างหาก
ทำให้ผู้คนเป็นพาลหรือบัณฑิต


:b51: :b52: :b53:

ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย)

คัดลอกจาก...http://ecurriculum.mv.ac.th/dhamma/dham ... 30.php.htm

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 30 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร