ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

นกุลชาดก
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=27068
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 19 พ.ย. 2009, 09:49 ]
หัวข้อกระทู้:  นกุลชาดก

:b8: :b8: :b8:

นกุลชาดก
ว่าด้วยอย่าวางใจมิตร

ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลพราหมณ์ ในบ้านแห่งหนึ่ง ครั้นเจริญวัย ได้เรียนศิลปะทุกแขนง ในกรุงตักกสิลา สละเพศฆราวาสออกบวชเป็นฤๅษี ยังอภิญญาและสมาบัติให้เกิด มีรากไม้และผลาผลในป่าเป็นอาหาร โดยการเที่ยวแสวงหา พำนักอยู่ในหิมวันตประเทศ ที่ปลายสุดของทางเดินจงกรมของพระโพธิสัตว์ มีพังพอนอาศัยอยู่ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง ใกล้จอมปลวกนั้นมีงูอาศัยอยู่ที่โคนไม้ต้นหนึ่ง งูและพังพอนทั้งสองก็ทะเลาะกันตลอดกาล พระโพธิสัตว์กล่าวถึงโทษในการทะเลาะกันและอานิสงส์ในการเจริญเมตตาแก่สัตว์ทั้งสองนั้น แล้วสอนว่า ไม่ควรทะเลาะกัน ควรอยู่กันด้วยความสามัคคี ได้ทำให้สัตว์ทั้งสองนั้นสามัคคีกัน ครั้นถึงเวลาที่งูออกไปข้างนอก พังพอนก็นอนอ้าปากหันหัวไปทางช่องโพลงจอมปลวก ท้ายที่จงกรม หายใจเข้าออก หลับไป พระโพธิสัตว์เห็นพังพอนนั้นนอนหลับเมื่อจะถามว่า ภัยอะไรเกิดขึ้นแก่เจ้า จึงกล่าวคาถาแรกว่า :

[๑๗๙] ดูกรพังพอน ท่านได้ทำมิตรภาพกับงูผู้เป็นศัตรูแล้ว ไฉนจึงยังนอน
แยกเขี้ยวอยู่อีกเล่า ภัยที่ไหนจะมาถึงแก่ท่านอีก?

พระโพธิสัตว์กล่าวอย่างนี้แล้ว พังพอนจึงบอกว่า พระคุณเจ้า ขึ้นชื่อว่าศัตรูไม่ควรดูหมิ่น ควรระแวงไว้เสมอ จึงกล่าวคาถาที่สองว่า :

[๑๘๐] บุคคลพึงระแวงในศัตรูไว้ แม้ในมิตรก็ไม่ควรวางใจ ภัยเกิดขึ้นแล้ว
จากมิตร ย่อมตัดมูลรากทั้งหลายเสีย.

ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์ได้สอนพังพอนนั้นว่า เจ้าอย่ากลัวเลย เราได้กระทำโดยที่ไม่ให้งูทำร้ายเจ้าแล้ว ตั้งแต่นี้ไปเจ้าอย่าได้ระแวงงูนั้นเลย แล้วสอนให้เจริญพรหมวิหารสี่มุ่งต่อพรหมโลก แม้สัตว์เหล่านั้นก็ไปตามยถากรรม

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มา แล้วทรงประชุมชาดกว่า งูและพังพอนในครั้งนั้นได้เป็นมหาอำมาตย์สองคนในบัดนี้ ส่วนดาบส คือเราตถาคตนี้แล
จบ นกุลชาดก

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/