ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
:: สังขธมนชาดก :: http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=27526 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Bwitch [ 06 ธ.ค. 2009, 20:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | :: สังขธมนชาดก :: |
![]() .....ชาดกว่าด้วยโทษของการไม่รู้จักประมาณ .....สถานที่ตรัสชาดก .....เชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี .....สาเหตุที่ตรัสชาดก .....ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระบรมศาสดาประทับ ณ เชตวันมหาวิหาร ได้ทรงทราบว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่ง มีนิสัยดื้อรั้นไม่อยู่ในโอวาทของพระเถระผู้ใหญ่ และไม่สนใจรับฟังคำตักเตือนของเพื่อนพระภิกษุด้วยกัน ประพฤติตนเป็นที่เบื่อหน่าย เอือมระอาแก่เพื่อภิกษุทั้งหลาย .....พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเรียกพระภิกษุรูปนั้นมา เมื่อทรงซักถามได้ความแล้ว จึงทรงตำหนิ แล้วทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ ถึงภพในอดีตของพระภิกษุรูปนั้น ทรงชี้โทษของการเป็นคนว่ายากสอนยาก ที่พระภิกษุนั้นเคยได้รับในชาติก่อน โดยตรัสว่า สังขธมนชาดก ดังนี้ .....เนื้อหาชาดก .....ในอดีตกาล สมัยเมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสี คราวหนึ่ง มีงานนักขัตฤกษ์ประจำปี พ่อลูกสองคนซึ่งเป็นนักเป่าสังข์ ได้พากันมาแสดงการเป่าสังข์ในงานนี้ด้วย .....สองพ่อลูกเป่าสังข์เป็นเพลงได้ไพเราะจับใจมาก ไม่ว่าจะเป็นเพลงช้า เพลงเร็ว เพลงใหม่ เพลงเก่าอย่างไร ทั้งสองก็เป่าได้ถูกอกถูกใจคนฟังยิ่งนัก ทั้งยังร่ายรำทำท่าตามจังหวะเพลงได้อย่างเหมาะเจาะ ทำให้ผู้ฟังสนุกสนานเพลิดเพลินไปด้วยกันอย่างเต็มที่ .....คนที่มาเที่ยวงานต่างมุงฟังเสียงสังข์ของสองพ่อลูกอย่างแน่นขนัด ทุกครั้งที่เสียงสังข์หยุดลง ก็จะได้ยินเสียงปรบมือและเสียงเงินเหรียญที่คนฟังหย่อนใส่ถุงให้ทั้งสองพ่อลูก ยิ่งมีคนฟังมากก็ได้เงินมาก เขาก็ยิ่งครึ้มอกครึ้มใจ เป่าสังข์ได้สนุกสนานครื้นเครงยิ่งขึ้นไปอีก .....สองพ่อลูกเป่าสังข์จนกระทั่งงานเลิกแล้ว จึงพากันเดินลัดเลาะมาตามชายป่าเพื่อกลับบ้าน ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ผู้เป็นพ่อรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจ จึงหยิบสังข์ขึ้นมาเป่าทำนองที่ใช้ประกอบการเสด็จของเจ้านายชั้นสูง ลูกชายก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่เดินเคียงข้างไปเรื่อยๆ .....หลังจากเป่าทำนองขบวนเสด็จกองเกียรติยศไปได้ระยะหนึ่ง เขาก็เป่าสังข์เป็นทำนองสนุกสนานครื้นเครง ตามจังหวะเพลงที่กำลังนิยมกัน ลูกชายจึงเขย่าแขนพ่อแล้วเตือนขึ้นทันที ....."พ่อ…พ่อ…!! เป่าเพลงอะไรน่ะ หยุดเถอะ" ......แต่ผู้เป็นพ่อกลับเบี่ยงตัวหลบ แล้วเป่าสังข์ต่ออย่างครึ้มใจ แม้ลูกชายจะท้วงติงอย่างไร ก็ไม่สนใจฟัง .....ฝ่ายพวกโจรซึ่งอยู่ในป่า ได้ยินเสียงเป่าสังข์ในตอนแรก ก็ซ่อนตัวเงียบอยู่ เพราะคิดว่ามีขบวนเสด็จผ่านมา แต่เมื่อฟังไปเรื่อยๆ ทำนองเพลงสังข์กลับเปลี่ยนไปไม่ใช่ขบวนเสด็จเสียแล้ว ก็แปลกใจ ครั้นออกจากที่ซ่อน เห็นสองพ่อลูกกำลังเป่าสังข์อยู่ก็โกรธ จึงพากันกรูเข้ามารุมตีสองพ่อลูก แล้วชิงเงินทั้งหมดไป .....เมื่อโจรไปหมดแล้ว ลูกชายได้พยุงพ่อให้ลุกขึ้น แล้วกล่าวว่า ....."พ่ออยากเป่าสังข์ก็เป่าไปเถิด แต่ไม่น่าเป่าเกินประมาณอย่างนี้ เราอุตส่าห์เป่าสังข์ได้ทรัพย์มา แต่พ่อกลับเป่าสังข์พร่ำเพรื่อเลยเป่าเอาทรัพย์ไปแท้ๆ ทีเดียว" .....จากนั้น ทั้งสองคนพ่อลูกก็พากันเดินโซซัดโซเซกลับบ้านด้วยความทุลักทุเล .....ประชุมชาดก .....เมื่อพระบรมศาสดาทรงแสดงชาดกจบแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า .....บิดา ได้มาเป็นพระภิกษุผู้ว่ายาก .....ลูกชาย ได้มาเป็นพระองค์เอง .....ข้อคิดจากชาดก .....๑. ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ควรรับฟังความคิดเห็น คำท้วงติงของเด็กบ้าง อย่าถือว่าตนเองผ่านโลกมามากกว่า เพราะโดยทั่วไปคนเรามักมองไม่ค่อยเห็นความผิดของตัวเอง ต้องให้คนอื่นช่วยบอกให้ .....๒. ผู้ใหญ่ดื้อ แก้ยาก เหมือนไม้แก่ดัดยาก บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเป็นคนหัวดื้อ บางคนรู้ตัวว่าเป็นคนดื้อรั้น อยากแก้ไขตัวเองเหมือนกัน แต่ก็มีทิฐิจัด ใครเตือนก็โกรธ ไม่ยอมรับ อย่างนี้ต้องแก้ไขตัวเอง โดยหมั่นนั่งสมาธิมากๆ สำรวจตัวเองทุกวันว่า มีข้อบกพร่องอะไรแล้วพยายามแก้ไขตัวเองไปเรื่อยๆ .....๓. ลูกที่เห็นว่า พ่อ แม่ ดื้อรั้นในบางเรื่อง เมื่ออยากจะตักเตือนต้องฉลาดหาอุบายที่เหมาะสม อย่าผลีผลามพูดจาว่ากล่าวโดยไม่ถูกกาลเทศะ และต้องรู้จักขัดเกลาสำนวนให้ไพเราะ มิฉะนั้นจะกลายเป็นลบหลู่พ่อแม่ไป ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 07 ธ.ค. 2009, 09:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: :: สังขธมนชาดก :: |
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |