ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ (รศ.วิเชียร เกษประทุม) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=45231 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 22 เม.ย. 2013, 12:32 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ (รศ.วิเชียร เกษประทุม) | ||
นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ มีครอบครัวอยู่สองครอบครัว ครอบครัวหนึ่งคนในครอบครัวนั้นใจดี มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ส่วนอีกครอบครัวนั้นใจร้าย มีแต่ความคิดอิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว มีเทวดาองค์หนึ่งอยากทราบถึงสภาพชีวิตจิตใจของคนในเมืองมนุษย์ว่า มีจิตใจดีหรือใจร้ายอยู่มากน้อยเพียงใด จึงได้เสด็จลงมายังเมืองมนุษย์โดยแปลงเป็นพระธุดงค์ เมื่อถึงเมืองมนุษย์ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแล้ว ก็ตรงไปยังบ้านของคนใจร้าย พบสองสามีภรรยาอยู่ที่บ้านพอดี จึงเอ่ยขึ้นว่า "โยม อาตมาขอน้ำฉันสักขันหนึ่งเถอะ อาตมาเดินทางมาไกลรู้สึกกระหายน้ำจังเลย" "น้ำที่บ้านฉันไม่มีเลยท่าน นิมนต์ไปขอที่บ้านอื่นเถอะ" "อย่างนั้นขออาตมาปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของโยมหน่อยจะได้ไหมโยม" "คงไม่ได้หรอกท่าน เพราะบริเวณบ้านของฉันมันคับแคบ ไม่มีที่พอจะให้ท่านปักกลดได้หรอก" "งั้นก็ไม่เป็นไร อาตมาลาก่อนละนะโยม" ว่าแล้วพระธุดงค์ก็เดินออกจากบ้านสามีภรรยาใจร้ายไปด้วยความผิดหวัง คิดในใจว่า "นี่หรือน้ำใจของมนุษย์ที่มักแสดงตนว่าตนเองเป็นสัตว์ประเสริฐ" พระธุดงค์ก็เดินทางต่อไป จนถึงบ้านของคนใจดีสองสามีภรรยาเห็นพระธุดงค์เข้า ก็รีบลงจากบ้านมายกมือไหว้ แล้วพูดกับพระธุดงค์ว่า "พระคุณเจ้าจะไปไหนหรือครับ นิมนต์ขึ้นบนบ้านก่อนครับ" สามีพูด "ขอบใจมากโยม อาตมาธุดงค์มาเพื่อโปรดญาติโยมนี่แหละ" "ขอบพระเดชพระคุณท่านมาก ที่ได้เมตตามาโปรดถึงที่นี่ ขอท่านได้ฉันน้ำแก้กระหายก่อนครับ" สามีพูดพร้อมกับยกน้ำขึ้นถวาย แล้วพูดต่อไปว่า "คืนนี้ ผมขอนิมนต์ท่านปักกลดอยู่ที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งธุดงค์ไปไหนนะครับ เพื่อผมสองคนจะได้มีโอกาสได้ทำบุญบ้าง" "ขอบใจมากจ้ะโยม โยมมีน้ำใจต่ออาตมามากเหลือเกิน อาตมาจะไม่ลืมบุญคุณของโยมเลย" พระธุดงค์พูด คืนนั้นพระธุดงค์ได้ปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของสามีภรรยาผู้ใจดีนั้น ครั้นถึงรุ่งเช้า สองสามีภรรยาได้นำอาหารมาถวายพระธุดงค์ เมื่อพระธุดงค์ฉันอาหารเสร็จแล้ว ก็ได้ให้พรสองสามีภรรยา และท่านได้พูดกับสองสามีภรรยาผู้มีน้ำใจว่า "โยม ก่อนที่อาตมาจะจากโยมไป อาตมาไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนในน้ำใจอันประเสริฐของโยม นอกจากต้นไม้ต้นนี้ ขอให้โยมนำไปปลูกดูแลให้ดีเถิด" พระธุดงค์พูดแล้วก็ส่งต้นไม้นั้นให้สามีคนใจดี เมื่อพระธุดงค์จากไปแล้ว สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีก็นำต้นไม้นั้นไปปลูกไว้ใกล้ๆ บ้านของตน ชั่วเวลาเพียง ๗ วันเท่านั้น ต้นไม้วิเศษต้นนั้นก็โตวันโตคืน โตจนโอบไม่รอบ สองสามีดีใจมากจึงปรึกษากันว่าจะอาต้นไม้นั้นไปทำอะไรดี ในที่สุดก็ตกลงโค่นต้นไม้นั้น แล้วนำมาทำครกกับสากตำข้าว พอทำเสร็จแล้วก็เอาข้าวมาตำ ข้าวกระบุงหนึ่งตำมาออกได้หลายสิบกระบุง ยิ่งตำข้าวมากก็ยิ่งออกมามากออกมาไม่หยุด ทำให้สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นคนมีอันจะกิน มีฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เรื่องครกตำข้าวของบ้านคนใจดี ได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายสองสามีภรรยา บ้านคนใจร้ายจึงคิดอยากจะได้ครกวิเศษลูกนั้นมาตำข้าว จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านของคนใจดีทันที ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้นว่า "นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมครกกับสากของท่านไปตำข้าวที่บ้านของฉันสักวันจะได้ไหมจ้ะ" "ได้สิจ้ะ อย่าว่าแต่วันเดียวเลย จะยืมกี่วันก็ได้ ตำข้าวเสร็จเมื่อไรก็นำเอามาคืนก็แล้วกัน ฉันไม่หวงหรอก" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด "อย่างนั้นก็ขอบใจท่านทั้งสองมาก ที่ได้ให้ครกกับสากฉันขอยืม ฉันลาก่อนละนะ อีกสองสามวันจะเอามาคืน" ภรรยาบ้านคนใจร้ายพูด แล้วก็ช่วยกันกลิ้งครกไป เมื่อถึงบ้านของตน ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายก็รีบนำข้าวเปลือกมาตำ ตอนแรกทดลองใส่ข้าวไปหนึ่งกระบุงก่อนแล้วก็ลงมือตำ ตำไปได้สักพักปรากฏว่าข้าวหดตัว ลดเหลือเพียงครึ่งกระบุง จึงใส่ข้าวเปลือกลงไปสองกระบุง ตำแล้วข้าวหดตัวเหลือเพียงหนึ่งกระบุง ยิ่งเอาข้าวมาตำมากเท่าไหร่ ข้าวก็หดลดน้อยลงเท่านั้น จนทั้งสองสามีภรรยาไม่กล้าเอาข้าวมาตำอีก ด้วยความโกรธสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจร้าย จึงช่วยกันเอามีดมาผ่าครกกับสากที่ขอยืมมาจากบ้านคนใจดีจนแหลกใช้การไม่ได้ ฝ่ายสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดี เมื่อทราบข่าวว่า ครกกับสากของตน ที่คนใจร้ายขอยืมไปนั้น ถูกฟันทำลายจนแหลกใช้การไม่ได้ ก็เดินทางไปยังบ้านของคนใจร้าย พบเศษครกกับสากทิ้งอยู่เกลื่อนก็เก็บเอาทั้งหมด แล้วนำกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้ว สองสามีภรรยาบ้านคนใจดีก็ปรึกษากันว่า จะนำเศษไม้มาทำอะไรกันดี ในที่สุดก็ตกลงว่าจะทำหีบใส่ของ ชั่วเวลาไม่นาน ทั้งสองสามีภรรยาก็ช่วยกันทำหีบไม้ได้สำเร็จดังใจ เมื่อได้หีบไม้มาแล้วก็นำเอาเงินและทองที่เก็บสะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นใส่ลงไปในหีบ ครั้นวันรุ่งขึ้น ได้นำหีบมาเปิดดูก็พบทองคำเต็มหีบ ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจดีจึงร่ำรวยยิ่งขึ้น เรื่องหีบวิเศษของบ้านคนใจดีได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายอีกเช่นเคย สองสามีภรรยาบ้านคนใจร้าย จึงคิดอยากจะได้หีบวิเศษนั้นมาใส่เงินทองของตน จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านคนใจดีทันที ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้น "นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมหีบของท่านไปใส่เงินใส่ทองบ้างจะได้ไหม๊ ฉันอยากจะรวยอย่างท่านทั้งสองบ้าง" "ได้สิจ้ะ ฉันไม่หวงหรอก แต่อย่าทำลายหีบของฉันอีกก็แล้วกัน" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด "จ๊ะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ถ้าท่านให้ฉันขอยืม" "เอ๊า นี่หีบ เมื่อเธอเสร็จธุระแล้วก็รีบนำมาส่งฉันก็แล้วกัน" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด พร้อมส่งหีบไม้ให้กับภรรยาบ้านคนใจร้าย ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเมื่อได้หีบแล้วก็รีบนำกลับมายังบ้านของตน ทันที เมื่อถึงบ้านก็รีบนำเงินและทองที่เก็บสะสมมาทั้งหมดใส่ลงในหีบ แล้วปิดหีบนำไปเก็บไว้ พอรุ่งเช้าก็รีบนำหีบมาเปิดออกดู ในใจทั้งสองคนคิดว่าคงจะมีทองคำเต็มหีบอย่างแน่นอน แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ปรากฏว่าในหีบใบนั้นมีแต่ก้อนหินเต็มไปหมด ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเห็นดังนั้น ต่างหน้ามืดจะเป็นลมด้วยความโกรธ จึงหยิบหีบใบนั้นทุ่มลงกับพื้นจนหีบแตกกระจาย เพราะหีบวิเศษทำให้เขาประสบหายนะล่มจม เงินทองที่หามา ได้ตลอดชีวิตไม่มีเหลือเลย กลายเป็นหินไปหมดนั่นเอง ข้อคิด ๑. คนที่มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ๒. คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ไม่เคยเป็นผู้ให้ จิตใจคับแคบ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่อุปสรรคและความหายนะ ๓. ความโลภอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน จะนำมาซึ่งความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว ขอบคุณที่มา :: โดย : รศ.วิเชียร เกษประทุม :: http://www.watkoh.com/
|
เจ้าของ: | Duangtip [ 10 ต.ค. 2015, 10:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ : รศ.วิเชียร เกษประทุม |
เจ้าของ: | sirinpho [ 30 มิ.ย. 2016, 10:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ : รศ.วิเชียร เกษประทุม |
ฟ้าใสใส เขียน: ข้อคิด
๑. คนที่มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ๒. คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ไม่เคยเป็นผู้ให้ จิตใจคับแคบ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่อุปสรรคและความหายนะ ๓. ความโลภอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน จะนำมาซึ่งความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว |
เจ้าของ: | ศิษย์หลวงปู่ทา [ 01 ก.ค. 2019, 10:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ (รศ.วิเชียร เกษประทุม) |
เจ้าของ: | ดาราวรรณ [ 14 ก.ค. 2019, 09:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ (รศ.วิเชียร เกษประทุม) |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 04 ส.ค. 2019, 10:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานพื้นบ้าน คติสอนใจ (รศ.วิเชียร เกษประทุม) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |