วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2014, 16:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2013, 19:15
โพสต์: 109

แนวปฏิบัติ: มีสติทุกอริยาบท
งานอดิเรก: ปฎิบัติธรรม ฟังธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ความไม่ประมาท
ชื่อเล่น: ธรรม
อายุ: 0
ที่อยู่: วัฎฎะสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว www




9999.jpg
9999.jpg [ 66.05 KiB | เปิดดู 3287 ครั้ง ]
ภิกษุประมาณ ๑๒ รูป หลังจากเรียนกรรมฐานกับพระพุทธเจ้าแล้ว ก็เดินทางไปแสวงหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม ตอนช่วงใกล้จะเข้าพรรษา ได้พากันเดินทางไปถึงป่าแห่งหนึ่งซึ่งน่ารื่นรมย์ และอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่าใดนัก จึงพากันปักกลดปฏิบัติธรรมอยู่ในป่านั้นหนึ่งคืน

รุ่งเช้าก็ออกไปบิณฑบาตในหมู่บ้านช่างหูก ๑๑ คน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนั้น เมื่อเห็นพระมาบิณฑบาตในหมู่บ้าน ก็เกิดความปีติยินดี จึงนิมนต์เข้ามาที่บ้าน แล้วถวายภัตตาหารอันประณีตและเรียนถามว่า พระคุณเจ้าจะไปที่ไหน

เมื่อบรรดาภิกษุบอกว่ากำลังแสวงหาที่เหมาะๆ สำหรับการปฏิบัติธรรม พวกช่างหูกจึงได้นิมนต์ภิกษุทั้งหลายให้อยู่จำพรรษาในหมู่บ้าน และพากันสร้างกระท่อมในป่าถวาย พวกภิกษุทั้งหมดจึงได้จำพรรษาอยู่ ณ ที่นั้น

ในบรรดาช่างหูกเหล่านั้น หัวหน้าช่างหูกได้รับอุปัฏฐากภิกษุ ๒ รูป ด้วยความยินดียิ่ง ส่วนช่างหูกคนอื่นๆ ได้ อุปัฏฐากภิกษุคนละรูป ฝ่ายภรรยาหัวหน้าช่างหูก เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใสในพุทธศาสนา เป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความตระหนี่ ไม่สนใจ ที่จะอุปถัมภ์ภิกษุเลย

ดังนั้น หัวหน้าช่างหูกจึงได้พาน้องสาวของภรรยามาอยู่ด้วย เพราะนางเป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส นางได้ปรนนิบัติภิกษุทั้งหลายด้วยความยินดียิ่ง ช่างหูกทุกคนพร้อมภรรยาได้ถวายผ้าสาฎกแก่ภิกษุ ผู้อยู่จำพรรษารูปละผืน ยกเว้นภรรยาของหัวหน้าช่างหูก ซึ่งได้ด่าสามีของตนว่า

“ทานที่ท่านถวายแก่พวกพระสงฆ์ จะเป็นข้าว เป็นน้ำก็ดี จงบังเกิดเป็นอุจจาระ ปัสสาวะ เป็นหนองและเลือดแก่ท่านในโลกหน้า ผ้าสาฎกก็จงเป็นแผ่นเหล็กร้อนลุกโพลงเถิด”

ต่อมาหัวหน้าช่างหูกตายลง และไปเกิดเป็นรุกขเทวดาในป่า ที่พวกพระมาปฏิบัติธรรม แต่ภรรยาที่ปากพล่อย เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นนางเปรต อยู่ไม่ไกลจากที่อยู่ของรุกเทวดาเท่าใดนัก นางเปรตนั้นอยู่ในสภาพเปลือยกาย รูปร่างขี้ริ้วขี้เหร่ มีความหิวกระหายอยู่ตลอดเวลา นางเปรตได้เดินไปหารุกขเทวดาแล้วบอกว่า

“นาย.. ฉันไม่มีผ้านุ่งและหิวกระหายเหลือเกิน ขอผ้านุ่ง ข้าว และน้ำให้ฉันหน่อยเถิด”

รุกขเทวดาจึงได้ให้ข้าวและน้ำอันเป็นทิพย์แก่นางเปรต แต่สิ่งของต่างๆ อันเป็นทิพย์ที่รุกขเทวดาได้ให้แก่นางไปนั้น ได้กลับกลายเป็นอุจจาระ เป็นหนอง และเลือด ผ้านุ่งก็กลายเป็นแผ่นเหล็กร้อนลุกโพลงอยู่ตลอดเวลา นางเปรตจึงร้องไห้คร่ำครวญด้วยทุกข์อย่างมหันต์

ขณะนั้นมีภิกษุรูปหนึ่ง หลังจากออกพรรษาแล้ว ก็เดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า โดยอาศัยไปกับหมู่เกวียนหมู่ใหญ่ พวกหมู่เกวียนได้เดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน

เมื่อไปถึงป่าแห่งนั้นตอนกลางวัน เห็นความอุดมสมบูรณ์ของป่า มีร่มเงาเย็นสบาย จึงปลดเกวียนแล้วนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ ฝ่ายภิกษุก็แยกไปหาที่สงบ ปูผ้าลงที่ใต้ต้นไม้อันร่มรื่น กะว่าจะนอนพักสักครู่ แต่จู่ๆ ก็ม่อยหลับไป เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาตลอดทั้งคืน ส่วนหมู่เกวียนพอพักจนหายเหนื่อยแล้วก็ออกเดินทางต่อ โดยลืมภิกษุที่มาด้วยกันซึ่งหลับอยู่ใต้ร่มไม้

ภิกษุรูปนั้นหลับไปจนกระทั่งเย็น เมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นใคร จึงออกเดินทางต่อไปเรื่อยๆ เพียงลำพัง จนกระทั่งไปถึงต้นไม้ที่เทวดาสิงสถิตอยู่ ฝ่ายรุกขเทวดาเห็นภิกษุเดินมุ่งหน้ามาที่ต้นไม้ ก็แปลงร่างเป็นคนธรรมดาเข้าไปไหว้ และนิมนต์ให้เข้าไปพักใต้ต้นไม้อันเป็นวิมานของตน ถวายยาทาแก้ปวดเมื่อยแก่ท่าน

ขณะเดียวกันนั่นเอง นางเปรตผู้มีความหิวโหย ก็เข้ามาขอข้าว น้ำ และเสื้อผ้า รุกขเทวดาก็ได้ให้ตามที่ขอ แต่พอนางรับไป ทุกอย่างก็กลับกลายเป็นอุจจาระ ปัสสาวะ หนอง เลือด และแผ่นเหล็กร้อนอันลุกโชน เหมือนที่เคยเป็นมา ฝ่ายภิกษุเห็นเหตุการณ์นั้นจึงเกิดความสลดสังเวชใจเป็นยิ่งนัก จึงถามรุกขเทวดาว่า

“หญิงเปรตนี้กินอุจจาระ ปัสสาวะ เลือด และหนองเช่นนี้ เพราะได้ทำกรรมอะไรไว้หรือ ? ผ้าผืนใหม่ที่สวยงาม อ่อนนุ่ม บริสุทธิ์ มีขนอ่อนที่ท่านมอบให้แก่หญิงผู้นี้ ทำไมจึงกลายเป็น แผ่นเหล็กร้อนไปได้”

รุกขเทวดาได้เล่าให้ภิกษุรูปนั้นฟังว่า เมื่อก่อนหญิงเปรตนี้เป็นภรรยาของตน นางเป็นคนตระหนี่ไม่รู้จักให้ทาน และได้ด่าทอตอนที่ตนกำลังทำบุญอยู่ กรรมนี้เองทำให้นางมาเกิดเป็นเปรตกินแต่อุจจาระ ปัสสาวะ เลือด และหนอง ทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้นานแสนนาน

พอรุกขเทวดาเล่าบุพกรรมของนางเปรตที่ได้กระทำไว้ในชาติก่อนให้พระภิกษุฟังแล้ว จึงได้ถามว่าทำอย่างไรนางนี้จึงจะพ้นจากการเป็นเปรต ภิกษุจึงได้บอกวิธีการที่จะทำให้กรรมชั่วของนางเปรตหมดไปว่า

“ถ้าท่านอยากให้นางเปรตนี้พ้นจากกรรมชั่ว ท่านก็จงทำบุญถวายทานแก่พระพุทธเจ้า และแก่พระอริยสงฆ์ หรือแก่ภิกษุสักรูปหนึ่ง แล้วอุทิศให้แก่นางเปรตนี้ เมื่อนางเปรตนี้อนุโมทนากับบุญที่ท่านทำ นางก็จะได้บุญและพ้นจากความทุกข์ทรมานได้”

เมื่อรุกขเทวดาทราบวิธีช่วยเหลือนางเปรตแล้ว จึงได้ถวายภัตตาหารอันประณีตแก่ภิกษุรูปนั้น แล้วอุทิศบุญให้แก่นางเปรตอดีตภรรยา ทันทีที่นางเปรตอนุโมทนาบุญ จิตใจก็อิ่มเอิบ ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ท้องก็อิ่มด้วยอาหาร อันเป็นทิพย์

ต่อมารุกขเทวดาได้ถวายผ้าทิพย์ เพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่นางเปรตอีก นางเปรตก็ได้นุ่งผ้าทิพย์ พร้อมเครื่องประดับอันเป็นทิพย์ในขณะนั้นนั่นเอง เมื่อนางเปรตได้สิ่งที่อยากได้ทุกอย่างแล้ว ร่างที่น่าเกลียดน่ากลัวก็กลายเป็นสวยงามประดุจนางเทพอัปสร เพราะอานุภาพแห่งบุญนั้นนั่นเอง

.....................................................
ขอน้อม กาย วาจา จิต บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในกาลทุกเมื่อ
ในทุกทุกขณะจิต ไม่ว่าจะระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ

https://www.facebook.com/Dhammalungta
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2014, 13:18 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุค่ะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2015, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2008, 09:20
โพสต์: 349


 ข้อมูลส่วนตัว


onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 12 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร