วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 00:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2014, 15:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




nt318.gif
nt318.gif [ 25.91 KiB | เปิดดู 3033 ครั้ง ]
ความโลภไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งโลภจนตัวสั่นงันงกแล้ว(อภิชฌาวิสมโลภะ)
ยิ่งมองไม่เห็นอรรถเห็นธรรมหรือไม่เห็นความผิดถูกแต่ประการใด คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วันเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุณีชื่อ ถุลนันทา ผู้ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคกระเทียม สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง มีภรรยาและลูกสาว ๓ คน ชื่อ นันทา นันทวดี และสุนันทา พอลูกสาวทั้ง ๓ ได้สามีแล้วทุกคน พราหมณ์ก็เสียชีวิตไปเกิดเป็นหงส์ทองคำระลึกชาติได้

วันหนึ่งได้เห็นความลำบากของนางพราหมณีและลูกสาวของตนที่ต้องรับจ้างคนอื่นเลี้ยงชีพ จึงเกิดความสงสาร ได้โผบินไปจับที่บ้านนางพราหมณีแล้วเล่าเรื่องราวให้นางพราหมณีและลูกสาวฟัง และได้สลัดขนให้แก่พวกเขาเหล่านั้นคนละหนึ่งขนแล้วก็บินหนีไป หงส์ทองได้มาเป็นระยะๆ มาครั้งใดก็สลัดขนให้ครั้งละหนึ่งขนโดยทำนองนี้ นางพราหมณีและลูกสาวจึงร่ำรวยและมีความสุขไปตามๆ กัน

ต่อมาวันหนึ่งนางพราหมณีเกิดความโลภอยากได้มากกว่าเดิมจึงปรึกษากับลูกๆ ว่า
"ถ้าหงส์มาครั้งนี้ พวกเราจะจับถอนขนเสียให้หมด เพื่อจะได้มีทรัพย์สมบัติมาก"

พวกลูกๆ ไม่เห็นดีด้วย แต่นางพราหมณีไม่สนใจ ครั้งวันหนึ่งพญาหงส์ทองมาอีก นางก็ได้จับถอนขนเสียให้หมด ขนเหล่านั้นกลายเป็นขนนกธรรมดาเท่านั้น เพราะพญาหงส์ทองมิได้ให้ด้วยความสมัครใจ นางพราหมณีได้เลี้ยงหงส์นั้นจนขนงอกขึ้นมาใหม่เต็มตัว หงส์ก็ได้บินหนีไปโดยไม่ได้กลับมาอีกเลย

พระพุทธองค์ เมื่อนำอดีตนิทานมาสาธกแล้ว ได้ตรัสพระคาถาว่า
"บุคคลได้สิ่งใดควรยินดีสิ่งนั้น เพราะความโลภเกินประมาณเป็นความชั่วแท้ นางพราหมณีจับเอาพญาหงส์ทองแล้วจึงเสื่อมจากทองคำ"

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2014, 07:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ขุมทรัพย์มี ๔ ชนิด

๑. ถาวรนิธิ ทรัพย์มั่นคง ได้แก่ ขุมทรัพย์ที่ติดอยู่พื้นดิน อยู่ในอากาศ เงิน ทอง ไร่นา
ที่ดิน บ้านเรือน หรือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ด้วยตนเองไม่ได้

๒. ชังคมนิธิ ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ไปได้ด้วยตนเอง ได้แก่ คนใช้ชายหญิง ช้าง ม้า โค
กระบือ ลา แพะ แกะ ไก่ สุกร

๓. อังคสมนิธิ ทรัพย์ที่ติดตัว ได้แก่ ศีลปวิทยา วิชาความรู้ทั้งหลายที่ศึกษาเล่าเรียนมาดีแล้ว
เป็นเหมือนอวัยวะมีแขนขาเป็นต้นที่ติดตัว จะใช้ประโยชน์ในการหาทรัพย์เมื่อไหร่ก็ได้

๔. อนุคามินิกนิธิ ทรัพย์ติดตาม ได้แก่ บุญที่เกิดจากการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ฟังธรรม
แสดงธรรม หรือบุญที่เกิดจากการกระทำความดีอื่นๆ จะติดตามให้ผลในสิ่งที่ตนปรารถนาทุกประการ
ในโอกาสที่เหมาะสม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2014, 15:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




3503-insertvdo.jpg
3503-insertvdo.jpg [ 54.36 KiB | เปิดดู 2932 ครั้ง ]
พุทธประสงค์
การที่แนะนำเรื่องศีล มีการงดเว้นปาณาติบาต เป็นต้นนั้น
ทรงมีพระประสงค์ให้ภิกษุมีศีลบริสุทธิ นั่นหมายความว่า ภิกษุจะต้องมี
หิริ และ โอตตัปปะ มีความเมตตากรุณา ฝึกกายวาจาให้เรียบร้อย
ละกิเลสได้พอสมควร ไม่กระทำทุจริต ประสพความสำเร็จการทำ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ รู้จักวางตัวให้เป็นที่เคารพรักของผู้อื่น

การมีศีลย่อมเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งลาภสักการะและชื่อเสียง ซึ่งเป็นผลดี
ต่อพระพุทธศาสนาโดยรวม เป็นฐานของการเจริญ สมถะและวิปัสสนา
มีพลังอันทรงคุณค่าต่อการขัดเกลาอกุศลมูล เป็นการปลูกรากแก้วแห่งแมกไม้
มวลกุศลทั้งหลาย ช่วยป้องกันมิให้เกิดการสูญเสียทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น
ทำให้อาจหาญในท่ามกลางสังคม ทำให้ได้ขื่อว่าเป็นผู้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ และยังทำให้ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พึงประสงค์
อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ ศีลจึงได้นามว่า "อาทิ" (ก้าวแรกแห่งกุศลทั้งปวง)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2014, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว




ความโลภ ความโกรธ ความหลง.jpg
ความโลภ ความโกรธ ความหลง.jpg [ 21.79 KiB | เปิดดู 2548 ครั้ง ]
:b4: ดับโลภ โกรธ หลง ด้วยศีล สติ ปัญญา :b4:

:b44: (♡✿◕‿◕✿♡) กราบอนุโมทนาบุญกับผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน มีดวงตาเห็นธรรม มีความสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม รู้แจ้งเห็นจริง มีความสุขความเจริญ และอยู่เย็นเป็นสุขนะเจ้าค่ะ :b8: :b8: :b8: :b20: (♡✿◕‿◕✿♡)

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2014, 14:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2013, 10:07
โพสต์: 406

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุๆๆ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 13 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร