เรื่อง..........สงกรานต์สีเลือด
ริมถนนลูกรังในชนบทของวันสงกรานต์ เป็นสถานที่นัดพบปะและสังสรรค์ของวัยรุ่นและวัยเด็ก รวมไปถึงวัยกลางคน รวมไปทั้งวัยชราที่ยังมีไฟ เขามารวมตัวกันเพื่อสาดน้ำกับรถโดยสารบ้างและรถไม่โดยสารบ้าง รถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่านไปมาก็ไม่เว้น เรียกได้ว่าผ่านมาเป็นได้เปียกกันทั่วหน้า เครื่องเสียงและไมโครโฟนได้ถูกขนออกมาเปิดเพลงที่กำลังฮิตบ้าง ไม่ฮิตบ้างหากแต่จังหวะต้องเร้าใจเข้าไว้ ส่วนเครื่องดื่มแล้วแต่รสนิยม กลุ่มวันรุ่นหญิงชายก็มีเบียร์เย็นๆทีแช่เอาไว้ในถังน้ำแข็ง เพื่อเสริมพลังในการเต้นไป สาดน้ำไปอย่างเมามัน
ตลอดเส้นทางจากตัวเมืองมาถึงบ้านของทิดทองดีมีระยะทางประมาณห้าสิบกิโลเมตร ภาพหนุ่มสาวเด็กสตรีและคนชรา ที่รอสาดน้ำมีอยู่หลายจุดมาก มีแทบทุกหมู่บ้าน พอใกล้บริเวณที่พวกเขาสนุกสนานต้องได้ลดความเร็วลงให้พวกเขาได้สาดน้ำอย่างเต็มที่ ในใจทิดทองดีนั้นนึกกลัวอุบัติเหตุ หากมีคนวิ่งๆมาสาดน้ำแล้วล้มลงที่ถนนอะไรจะเกิดขึ้น เวลาที่เพิ่มขึ้นในการเดินทางทำให้ทิดทองดีหิวข้าว จึงตัดสินใจแวะทานอาหารที่ร้านข้างทาง ห่างจากร้านขายข้าวแกงไม่นานนัก วันรุ่นหนุ่มสาวยังคงมารอสาดน้ำตามปกติ ทิดทองดีกินไปและฟังเพลงไป
“เด็กๆเขาสนุกกันนะ” แม่ค้าขายข้าวแกงวางข้าวมันไก่ที่ทิดทองดีสั่งไปพร้อมยิ้มให้ทิดทองดี “ป้าๆเด็กพวกนี้ผมไม่คุ้นหน้าเลยนะ” ทิดทองดีถามแม่ค้าขายข้าวแกง “อืมเป็นคนต่างถิ่นส่วนมาก เขาตามลูกสาวกำนันโชคที่ไปเรียนต่อที่อื่นมานะ เห็นว่ามากันสิบกว่าคน” ทิดทองดีจึงถึงบางอ้อและกินข้าวมันไก่ภายใต้พัดลมเพดานที่พอประทังความร้อนได้บ้าง หลังจากอิ่มทิดทองดีก็เดินมาที่รถ ในขณะที่มีเด็กวัยรุ่นหนุ่มหล่อคนหนึ่ง สวมแว่นตาดำขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมา บรรดาสาวๆวัยรุ่นหญิงต่างพากันกรี๊ดกร๊าด กรูเข้าสาดน้ำ ตามด้วยทาแป้ง ทาดินสอพองไปทั้งตัว ทิดทองดีได้แต่ยืนยิ้มขำในท่าทางของเด็กหนุ่มที่พยายามกุมเป้าเพื่อป้องกันการถูกลวนลาม “นี่มันขนาดนี้กันแล้วรึนี่”ทิดทองดีนึกในใจ ดีหน่อยที่เขามีรถยนต์ไม่งั้นไม่รู้เหมือนกันว่าจะโดนขยำขยี้ตรงส่วนไหน
ทิดทองดีตั้งใจจะก้าวขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อแต่เขาต้องหยุดยืนดูกลุ่มวัยรุ่นต่อไป ทันใดนั้นเองมีวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่ยืนรวมกับวัยรุ่นหญิงอยู่ก่อนหน้าเดินมากระชากแขนเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่มากับรถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นเด็กหนุ่มถูกผลักล้มลง “หึงหวงกันแน่แล้ว” ทิดทองดีนึกในใจ วันรุ่นหลายคนในกลุ่มเข้าขวางเพื่อไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย แต่สายไปแล้ว มีดปลายแหลมเล่มยาวถูกชักออกมาจากไอ้หนุ่มหน้าหล่อ และแทงสวนกลับไปในทันที เสียงกรีดร้องหญิงของวัยรุ่นดังไปทั่วบริเวณ วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ไอ้หนุ่มเจ้าถิ่นล้มลงทันที มีดปลายแหลมยังคงปักอยู่ที่หน้าอก อาศัยช่วงจังหวะชุลมุน ไอ้หนุ่มหน้าหล่อกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หนีไปอย่างรวดเร็ว ทิดทองดีได้แต่ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาโทรแจ้งความทันทีเมื่อรวบรวมสติได้ จากนั้นเขารีบไปที่เกิดเหตุทันที ทิดทองดีห้ามเลือดและบอกให้เพื่อนๆของหนุ่มผู้โชคร้ายแบกร่างที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดขึ้นท้ายรถของเขาเพื่อนำส่งโรงพยาบาล “เป็นลูกใครหลานใครกันหนอทำไมถึงโชคร้ายเช่นนี้”
ทิดทองดีขับรถอย่างรวดเร็วเพื่อไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด โรงพยาบาลชุมชนขนาดสามสิบเตียงนั้นทิดทองดีตัดสินใจทันทีเพราะหากชักช้าผู้เคราะห์ร้ายจะเสียเลือดมาก เมื่อไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่มาช่วยกันเข็นร่างไร้สติของเด็กหนุ่มเข้าห้องฉุกเฉินทันที สามสิบนาทีต่อจากนั้น ทิดทองดีและเพื่อนของเด็กหนุ่มก็ได้รับข่าวร้าย “คนไข้สิ้นใจแล้วมีดแทงตัดขั้วหัวใจ เสียใจด้วยนะครับ” แพทย์เวรบอกก่อนเดินจากไป มันเป็นวันสงกรานต์ที่นองเลือดและนองน้ำตา
ทิดทองดียืนมองคราบเลือดที่ท้ายรถนิ่งนานด้วยความสงสารอนาคตของชาติที่ตายจากไปหนึ่งคนและอีกหนึ่งคนที่กำลังหนีซมซานแบบไม่รู้ชะตากรรม ทั้งหมดมาจากการขาดสติ เกิดมาจากการดื่มเหล้าจนขาดสติ ทิดทองดีก้าวขึ้นรถแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน “ผมช่วยเด็กถูกแทงไปส่งโรงพยาบาลเลยกลับบ้านช้า” ทิดทองดีบอกกับเมียรักแล้วถามหาลูกสาวคนเดียววัยสิบห้าปี “ยายหนูมันไปเล่นสาดน้ำกับเพื่อนที่ถนนหน้าบ้านโน่นแน่ะ” ได้ยินคำตอบจากเมียรัก ทิดทองดีวิ่งแบบไม่คิดชีวิตไปยังบริเวณที่เมียรักบอก
โดย..เสมือนทิวาและราตรี มณี
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต
| ไฟล์แนป: |
|
images.jpg [ 10.72 KiB | เปิดดู 2479 ครั้ง ] |
