วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 เม.ย. 2015, 21:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




images.jpg
images.jpg [ 3.58 KiB | เปิดดู 1855 ครั้ง ]
cool cool cool

เรื่อง คนตาบอดตกสะพาน

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านชนบท นอกเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านมีประชากรอาศัยกันอยู่ไม่ค่อยหนาแน่นนัก นับว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สงบเงียบน่าอยู่มากๆ แห่งหนึ่งเลยทีเดียว ชาวเมืองต่างประกอบกิจการค้าขาย บ้างก็ทำการเกษตร เพาะปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ชีวิตแบบชนบท ช่างเรียบง่ายดีจริงๆ

ที่ใจกลางของหมู่บ้านมีตลาดเล็กๆ สำหรับให้ชาวบ้านนำผลผลิตของตนเองมาค้าขายแลกเปลี่ยนกัน ใกล้ๆ กันนั้น ก็มีริมลำธารสายหนึ่งซึ่งไหลหล่อเลี้ยงให้กับผืนดินในการทำการเกษตรและเป็นแหล่งน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคของคนในหมู่บ้าน ลำธารแห่งนี้ทอดตัวยาวลงมาจากภูเขา และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ชาวบ้านทั้งสองฟากฝั่งน้ำได้ร่วมกันสร้างสะพานไม้เพื่อให้พอจะเดินข้ามติดต่อหากันได้

วันหนึ่งชาวบ้านคิดจะสร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาเพื่อเอาไว้ใช้ในฤดูแล้งและเป็นการป้องกันน้ำป่าหลากลงมาในฤดูฝน ดังนั้นจึงมีการปิดกั้นลำธารตั้งแต่ตรงเชิงเขาเพื่อสร้างเขื่อน ไท้นานลำธารที่เคยมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ก็ค่อยๆ เหือดแห้งไปจนเหลือแต่พื้นดินที่แห้งผากเท่านั้น

มีชายตาบอดผู้หนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานานแล้ว แต่เค้าไม่ทราบว่ามีการสร้างเขื่อนเพื่อปิดกั้นลำธารจนขณะนี้น้ำได้เหือดแห้งไปจนหมด อีกราวๆ หนึ่งหรือสองเดือนจึงจะแล้วเสร็จและปล่อยน้ำให้ไหลตามเดิม

วันหนึ่ง ชายตายบอดผู้นั้นได้เดินข้ามสะพานเพื่อไปอีกฝั่งหนึ่ง สะพานไม้เป็นสะพานแคบๆ ไม่ได้กว้างอะไรนัก เขาก้าวเดินข้ามสะพานไปอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเหมือนเช่นเคย แต่พอเดินไปถึงตรงกลางสะพานเขาก็ก้าวพลาดพลัดตกจากสะพาน แต่เค้ายังเอามือคว้าราวสะพานเอาไว้ได้และโหนตัวห้อยต่องแต่งอยู่เช่นนั้น ปากก็ร้องตะโกนให้คนช่วย คนที่ผ่านไปมาต่างก็ร้องบอกแก่เขาว่า ไม่ต้องกลัวดอก น้ำในลำธารแห้งไปหมดแล้ว จงปล่อยมือเถอะ ไม่มีอันตรายอันใดดอก

ชายตาบอดฟังแล้วกลับไม่เชื่อ ยังคงโหนตัวจับราวสะพานไว้อย่างแน่นที่สุด จนกระทั่งแขนของเขาเริ่มที่จะอ่อนล้า หมดแรงที่จะโหนได้ต่อไป ครั้นพอมือหลุดออกจากราวสะพาน พอเท้าสัมผัสกับพื้นดิน ชายตาบอดก็ดีใจมากแล้วพูดว่า โธ่เอ๋ย..หากข้ารู้ว่าข้างล่างเป็นดิน ข้าปล่อยมือเสียตั้งนานแล้ว ไม่โหนตัวอยู่ให้เมื่อยดอก

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพึงกลัวในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง

จาก ส.อิสฺสโร
ภาพจากอินเตอเน๊ต

tongue tongue tongue

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2015, 18:03 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขออนุโมทนาค่ะ สาธุๆๆ :b16:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร