วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 23:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 151  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
พวกโจรหรือ ? พระโพธิสัตว์ตอบว่า เออ ผู้มีอายุทั้งหลาย เราเห็น
พวกกองเกวียนถามว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระคุณเจ้า
เห็นโจรมีประมาณเท่านี้ ไม่มีความกลัว ความหวาดหวั่น เกิดขึ้น
เลยหรือขอรับ ? พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย

ความกลัว ความครั่นคร้ามเพราะเห็นพวกโจร มีเฉพาะแก่คน
มีทรัพย์ แต่อาตมาเป็นผู้ไร้ทรัพย์ จักต้องกลัวทำไม เพราะเมื่อ
อาตมาอยู่ในบ้านก็ดี ในป่าก็ดี ความกลัวหรือความครั่นคร้าม
ไม่มีทั้งนั้น เมื่อจะแสดงธรรมแก่คนเหล่านั้น กล่าวคาถานี้
ความว่า

"เราไม่ต้องระแวงในบ้าน เราไม่มีภัยใน
ป่า เรามุ่งก้าวขึ้นสู่ทางตรง ด้วยความเมตตา
และกรุณา" ดังนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบทว่า อสงฺกิโยมฺหิ คามมฺหิ นี้
พระโพธิสัตว์แสดงความว่า เราชื่อว่าไม่ต้องระแวง เพราะ
ไม่ประกอบไปด้วยความระแวง ไม่ตั้งอยู่ในความระแวง ถึงจะ
อยู่ในบ้าน ก็ไม่ต้องระแวง เป็นคนปลอดภัย หมดข้อสงสัย เพราะ
มิได้ตั้งอยู่ในความระแวง.

บทว่า อรญฺเญ ได้แก่ ในสถานที่พ้นไปจากบ้านและ
อุปจารแห่งบ้าน.
ด้วยบทว่า อุชุมคฺคํ สมารุฬุโห เมตฺตาย กรุณาย จ นี้
พระดาบสกล่าวไว้ หมายความว่า เราก้าวขึ้นสู่ทางตรง คือ
ทางไปสู่พรหมโลก อันเว้นแล้วจากความคดทางกาย เป็นต้น
ด้วยเมตตา และกรุณา อันเป็นอารมณ์แห่งติกฌาน และจตุกกฌาน

อีกนัยหนึ่ง ด้วยบทนั้น พระดาบสแสดงว่า เพราะความเป็นผ
ู้มีศีลบริสุทธิ์ จึงชื่อว่า ก้าวขึ้นสู่ทางตรง อันเว้นแล้วจากความคด
ด้วยกาย วาจา ใจ อันได้แก่ทางไปสู่พรหมโลก ดังนี้แล้วแสดง
ความยิ่งไปกว่านั้นว่า เพราะดำรงมั่นในเมตตา และกรุณา
ชื่อว่าก้าวขึ้นสู่ทางตรง คือทางไปพรหมโลก. อธิบายว่า ธรรม

ทั้งหลายมีเมตตา และกรุณาเป็นต้น ชื่อว่าเป็นทางตรง เพราะผู้
ที่มีฌานไม่เสื่อม เป็นผู้มีพรหมโลกเป็นที่หมายได้ โดยถ่ายเดียว.

พระโพธิสัตว์ ครั้นแสดงธรรม ด้วยคาถานี้ ด้วยประการ
ฉะนี้ อันมนุษย์เหล่านั้นผู้มีใจยินดีแล้ว สักการะบูชาแล้ว เจริญ
พรหมวิหาร ๔ ตลอดชีพ ไปเกิดในพรหมโลกแล้ว.

พระบรมศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงสืบ
อนุสนธิ ประชุมชาดกว่า ชาวเกวียนในครั้งนั้น ได้มาเป็น
พุทธบริษัท ส่วนพระดาบสมาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาอสังกิยชาดกที่ ๖

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
พระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหา-
วิหาร ทรงปรารภมหาสุบิน ๑๖ ข้อ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มี
คำเริ่มต้นว่า ลาวูนิ สีทนฺติ ดังนี้.

ดังได้สดับมา วันหนึ่งพระเจ้าโกศลมหาราช เสด็จเข้าสู่
นิทรารมย์ ในราตรีกาล ในปัจฉิมยาม ทอดพระเนตรเห็น พระ-
สุบินนิมิตรอันใหญ่หลวง ๑๖ ประการ ทรงตระหนกพระทัยตื่น
พระบรรทม ทรงพระดำริว่า เพราะเราเห็นสุบินนิมิตร
เหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้างหนอ เป็นผู้อันความสะดุ้งต่อมรณภัย
คุกคามแล้ว ทรงประทับเหนือพระแท่นที่ไสยาสน์นั่นแล จนล่วง
ราตรีกาล

ครั้นรุ่งเช้า พวกพราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้ากราบทูล
ถามว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระองค์บรรทมเป็นสุขหรือ
พระเจ้าข้า ? รับสั่งตอบว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย เราจักมีความสุข
ได้อย่างไรเมื่อคืนนี้เวลาใกล้รุ่ง เราเห็นสุบินนิมิตร ๑๖ ข้อ

ตั้งแต่เห็นสุบินนิมิตรเหล่านั้นแล้ว เราถึงความหวาดกลัวเป็น
กำลัง เมื่อพวกปุโรหิตกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า โปรด
ตรัสเล่าเถิดพระเจ้าข้า พวกข้าพระองค์สดับแล้ว จักทำนายถวาย
ได้ จึงตรัสเล่าพระสุบินที่ทรงเห็นแล้วให้พวกพราหมณ์ฟัง

แล้วตรัสว่า เพราะเหตุเห็นสุบินเหล่านี้ จักมีอะไรแก่เราบ้าง ?
พวกพราหมณ์พากันสลัดมือ. เมื่อรับสั่งถามว่า เพราะเหตุไร
พวกท่านจึงพากันสลัดมือเล่า ? พวกพราหมณ์จึงพากันกราบทูล
ว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า พระสุบินทั้งหลายร้ายกาจนัก รับสั่ง
ถามว่า พระสุบินเหล่านั้นจักมีผลเป็นประการใด ? พวกพราหมณ์

จึงพากันกราบทูลว่า จักมีอันตรายใน ๓ อย่างเหล่านี้ คือ อันตราย
แก่ราชสมบัติ ๑ อันตราย คือโรคจะเบียดเบียน ๑ อันตรายแก่
พระชนม์ ๑ อย่างใดอย่างหนึ่ง. รับสั่งถามว่า พอจะแก้ไขได้ หรือ
แก้ไขไม่ได้ พราหมณ์ทั้งหลายกราบทูลว่า ขอเดชะ พระสุบิน
เหล่านี้ หมดทางแก้ไขเป็นแน่แท้ เพราะร้ายแรงยิ่งนัก แต่พวก

ข้าพระองค์ทั้งหลาย จักกระทำให้พอแก้ไขได้ เมื่อพวกหม่อมฉัน
ไม่สามารถเพื่อจะแก้ไขพระสุบินเหล่านี้ได้แล้ว ขึ้นชื่อว่าความ
เป็นผู้สำเร็จการศึกษา จักอำนวยประโยชน์อะไร ? รับสั่งถามว่า

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ท่านอาจารย์ทั้งหลาย จักกระทำอย่างไรเล่า ถึงจักให้คืนคลาย
ได้ พวกพราหมณ์พากันกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พวก
ข้าพระองค์ต้องบูชายัญด้วยวัตถุอย่างละ ๔ ทุกอย่างพระเจ้าข้า
พระราชา ทรงสะดุ้งพระทัย ตรัสว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย
ถ้าเช่นนั้น เราขอมอบชีวิตไว้ในมือของพวกท่านเถิด พวกท่าน

รีบกระทำความสวัสดีแก่เราเร็ว ๆ เถิด พวกพราหมณ์พากัน
ร่าเริงยินดี ว่า พวกเราต้องได้ทรัพย์มาก จักต้องได้ของเคี้ยวกิน
มามาก ๆ แล้วพากันกราบทูลปลอบพระราชาว่า ข้าแต่มหาราช-
เจ้า อย่าได้ทรงวิตกเลยพระเจ้าข้า แล้วพากันออกจากราชนิเวศน์

จัดทำหลุมบูชายัญที่นอกพระนคร จับฝูงสัตว์ ๔ เท้ามากเหล่า
มัดเข้าไว้ที่หลักยัญ รวบรวมฝูงนกเข้าไว้เสร็จแล้ว เที่ยวกัน
ขวักไขว่ไปมา กล่าวว่า เราควรจะได้สิ่งนี้ ๆ.

ครั้งนั้นแล พระนางมัลลิกาเทวีทรงทราบเหตุนั้น ก็เข้าเฝ้า
พระราชากราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า พวกพราหมณ์
พากันเที่ยวขวักไขว่ไปมา มีเรื่องอะไรหรือเพคะ ? พระราชา
ตรัสว่า แน่ะนางผู้เจริญ เธอมัวแต่สุขสบาย จึงไม่รู้ว่าอสรพิษ

มันสัญจรอยู่ใกล้ ๆ หูของพวกเรา. พระนางทูลถามว่า ข้าแต่
มหาราช เรื่องนั้นคืออะไรเพคะ ? พระราชารับสั่งว่า เราฝันร้าย
ถึงปานนี้ พวกพราหมณ์พากันทำนายว่า อันตรายใน ๓ อย่าง
ไม่อย่างใดอย่างหนึ่งก็จักปรากฏ เพื่อบำบัดอันตรายเหล่านั้น
ต้องบูชายัญ จึงต้องสัญจรไปมาอยู่บ่อย ๆ พระนางมัลลิกา

กราบทูลถามว่า ข้าแต่มหาราชเจ้า ก็ผู้ที่เป็นยอดพราหมณ์ใน
โลก พร้อมทั้งเทวโลก ทูลกระหม่อมได้ทูลถามถึงการแก้ไข
พระสุบินแล้วหรือเพคะ ? ทรงรับสั่งถามว่า นางผู้เจริญ พระ-
ผู้เป็นยอดพราหมณ์ในโลกพร้อมทั้งเทวโลกนั้น เป็นใครกันเล่า ?
พระนางกราบทูลว่า ทูลกระหม่อมไม่ทรงรู้จัก มหาพราหมณ์

โคดมผู้ตถาคต หมดกิเลสบริสุทธิ์แล้ว เป็นสัพพัญญู เป็นบุคคล
ผู้เลิศในโลก พร้อมทั้งเทวโลก ดอกหรือเพคะ พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์นั้น คงทรงทราบเหตุในพระสุบินแน่นอน ขอเชิญทูล
กระหม่อม เสด็จพระราชดำเนินไปกราบทูลถามเถิด เพคะ.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
พระราชา ทรงรับสั่งว่า ดีละ เทวีแล้วเสด็จไปยังพระวิหาร
ถวายบังคมพระบรมศาสดาแล้วประทับนั่งอยู่ พระศาสดาทรง
เปล่งพระสุรเสียงอันไพเราะ ตรัสถามว่า มหาบพิตร เหตุไรเล่า
บพิตรจึงเสด็จมา ดุจมีราชกิจด่วน. พระราชากราบทูลว่า ข้าแต
่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อใกล้รุ่ง หม่อมฉันเห็นมหาสุบิน ๑๖ ข้อ

สะดุ้งกลัว บอกเล่าแก่พวกพราหมณ์ พวกพราหมณ์ทำนายว่า
ข้าแต่มหาราชเจ้า พระสุบินร้ายแรงนัก เพื่อระงับสุบินเหล่านั้น
ต้องบูชายัญ ด้วยยัญญวัตถุ อย่างละ ๔ ครบทุกอย่าง แล้วพากัน
เตรียมบูชายัญ ฝูงสัตว์เป็นอันมากถูกมรณภัยคุกคาม ข้าแต่

พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์เป็นบุคคลผู้เลิศในโลก ทั้งเทวโลก
เญยยธรรมที่เข้าไปกำหนดอดีต อนาคต ปัจจุบัน ที่ยังไม่มาถึง
ซึ่งคัลลองในญาณมุขของพระองค์นั้นมิได้มีเลย ข้าแต่พระผู้มี-
พระภาคเจ้า ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดทำนายผลแห่ง

สุบินของหม่อมฉันเหล่านั้นเถิด พระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสว่า
ขอถวายพระพร เป็นเช่นนั้นทีเดียวมหาบพิตร ในโลกทั้งเทวโลก
เว้นตถาคตเสียแล้ว ผู้อื่นที่จะได้ชื่อว่าสามารถรู้เหตุ หรือผล
ของพระสุบินเหล่านี้ ไม่มีเลย ตถาคตจักทำนายให้มหาบพิตร

ก็แต่ว่ามหาบพิตรจงตรัสบอกพระสุบินตามทำนองที่ทรงเห็น
นั้นเถิด. พระราชาทรงรับพระพุทธดำรัสว่า ดีละ พระพุทธเจ้าข้า
เริ่มกราบทูลพระสุบิน ตามทำนองที่ทรงเห็นอย่างถี่ถ้วน โดย
ทรงวางหัวข้อไว้ดังนี้ ว่า

"โคอุสุภราชทั้งหลาย ๑ ต้นไม้ทั้งหลาย ๑
แม่โคทั้งหลาย ๑ โคทั้งหลาย ๑ ม้า ๑ ถาดทอง ๑
สุนัขจิ้งจอก ๑ หม้อน้ำ ๑ สระโบกขรณี ๑
ข้าวไม่สุก ๑ แก่นจันทน์ ๑ น้ำเต้าจม ๑ ศิลาลอย ๑
เขียดขยอกงู ๑ หงส์ทองล้อมกา ๑ เสือกลัว
แพะ ๑

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
แล้วตรัสว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นสุบินข้อ ๑
อย่างนี้ก่อนว่า โคผู้ สีเหมือน ดอกอัญชัน ๔ ตัว ต่างคิดว่า
จักชนกัน พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวง จากทิศทั้ง ๔ เมื่อ
มหาชนประชุมกันคิดว่า พวกเราจักดูโคชนกัน ต่างแสดงท่าทาง
จะชนกัน บรรลือเสียงคำรามลั่น แล้วไม่ชนกัน ต่างถอยออกไป
หม่อมฉันเห็นสุบินนี้เป็นปฐม อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลของสุบินข้อนี้ จักไม่มีในชั่วรัชกาลของ
มหาบพิตร ในชั่วศาสนาของตถาคต แต่ในอนาคต เมื่อโลกหมุน
ไปถึงจุดเสื่อม ในรัชกาลของพระราชาผู้กำพร้า ผู้มิได้ครองราชย์
โดยธรรม และในกาลของหมู่มนุษย์ผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อ
กุศลธรรมลดน้อยถอยลง อกุศลธรรมหนาแน่นขึ้น ในกาลที่โลก

เสื่อม ฝนจักแล้ง และตีนเมฆจักขาด ข้าวกล้าจักแห้ง ทุพภิกขภัย
จักเกิด เมฆทั้งหลายตั้งขึ้นจากทิศทั้ง ๔ เหมือนจะย้อยเม็ด พอ
พวกผู้หญิงรีบเก็บข้าวเปลือกเป็นต้น ที่เอาออกผึ่งแดดไว้เข้า
ภายในร่ม เพราะกลัวจะเปียก เมื่อพวกผู้ชายต่างถือจอบถือ
ตะกร้าพากันออกไป เพื่อจะก่อคันกั้นน้ำ ก็ตั้งเค้าจะตก คราง

กระหึ่ม ฟ้าแลบ แล้วก็ไม่ตกเลย ลอยหายไป เหมือนโคตั้งท่า
จะชนกันแล้วไม่ชนกันฉะนั้น นี้เป็นผลของสุบินนั้น แต่ไม่มี
อันตรายไร ๆ แก่มหาบพิตร เพราะเรื่องนั้นเป็นปัจจัย มหาบพิตร
เห็นสุบินนี้ ปรารภอนาคต ฝ่ายพวกพราหมณ์อาศัยการเลี้ยง
ชีวิตของตน จึงทำนายดังนี้. พระบรมศาสดาครั้นตรัสบอกผล

แห่งสุบินด้วยประการฉะนี้แล้ว ตรัสว่า จงตรัสเล่าสุบินข้อที่ ๒
เถิด มหาบพิตร.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นสุบินข้อที่ ๒
อย่างนี้ว่า ต้นไม้เล็ก ๆ และกอไผ่ แทรกแผ่นดินพอถึงคืบหนึ่ง
บ้าง ศอกหนึ่งบ้าง เพียงแค่นี้ก็ผลิดอกออกผลไปตาม ๆ. กัน
นี้เป็นสุบินข้อที่ ๒ ที่หม่อมฉันได้เห็น อะไรเป็นผลของสุบินนี้
พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ ก็จักมีในกาลที่โลกเสื่อม
เวลามนุษย์มีอายุน้อย ด้วยว่าสัตว์ทั้งหลายในอนาคตจักมีราคะ
กล้า กุมารีมีวัยยังไม่สมบูรณ์ จักสมสู่กะบุรุษอื่น เป็นหญิง
มีระดู มีครรภ์ พากันจำเริญด้วยบุตรและธิดา ความที่กุมารี

เหล่านั้น มีระดูเปรียบเหมือนต้นไม้เล็ก ๆ มีดอก กุมารีเหล่านั้น
จำเริญด้วยบุตรและธิดา ก็เหมือนต้นไม้เล็ก ๆ มีผล ภัยแม้มี
นิมิตรนี้เป็นเหตุ ไม่มีแก่มหาบพิตรดอก จงตรัสเล่าข้อที่ ๓
ต่อไปเถิด มหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นแม่โคใหญ่ ๆ
พากันดื่มนมของฝูงลูกโค ที่เพิ่งเกิดในวันนั้น นี้เป็นสุบินข้อที่ ๓
ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนั้น พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร แม้ผลของสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน
จักมีผลในเวลาที่มนุษย์ทั้งหลาย พากันละทิ้งเชษฐาปจายิกกรรม
คือความเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ เพราะในอนาคต
ฝูงสัตว์จักมิได้ตั้งไว้ซึ่งความยำเกรงในมารดาบิดา หรือในแม่ยาย
พ่อตา ต่างแสวงหาทรัพย์สินด้วยตนเองทั้งนั้น เมื่อปรารถนา

จะให้ของกินของใช้แก่คนแก่ ๆ ก็ให้ ไม่ปรารถนาจะให้ก็ไม่ให้
คนแก่ ๆ พากันหมดที่พึ่ง หาเลี้ยงตนเองก็ไม่ได้ ต้องง้อพวกเด็ก ๆ
เลี้ยงชีพ เป็นเหมือนแม่โคใหญ่ ๆ พากันดื่มนมลูกโคที่เกิดใน
วันนั้น แม้ภัยมีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ไม่มีแก่มหาบพิตร ตรัสเล่า
สุบินข้อที่ ๔ ต่อไปเถิดมหาบพิตร.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นฝูงชนไม่เทียมโค
ใหญ่ ๆ ที่เคยพาแอกไป ซึ่งสมบูรณ์ด้วยร่างกายและเรี่ยวแรง
เข้าในระเบียบแห่งแอก กลับไปเทียมโครุ่น ๆ ที่กำลังฝึกเข้า
ในแอก โครุ่น ๆ เหล่านั้นไม่อาจพาแอกไปได้ ก็พากันสลัดแอก
ยืนเฉยเสีย เกวียนทั้งหลายก็ไปไม่ได้ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๔ ของ
หม่อมฉัน อะไรเป็นผลของสุบินนี้พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลของสุบินแม้ข้อนี้ ก็จักมีในรัชสมัยของ
พระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าใน
ภายหน้า พระราชาผู้มีบุญน้อย มิได้ดำรงในธรรม จักไม่พระ-
ราชทานยศแก่มหาอำมาตย์ผู้เป็นบัณฑิต ฉลาดในประเพณี
สามารถที่จะยังสรรพกิจให้ลุล่วงไปได้ จักไม่ทรงแต่งตั้งอำมาตย์

ผู้ใหญ่ ผู้เป็นบัณฑิต ฉลาดในโวหารไว้ในที่วินิจฉัยคดีในโรงศาล
แต่พระราชทานยศแก่คนหนุ่ม ๆ ตรงกันข้ามกับที่กล่าวแล้วนั้น
แต่งตั้งบุคคลเช่นนั้นไว้ในตำแหน่งผู้วินิจฉัยอรรถคดี คนหนุ่ม
พวกนั้น ไม่รู้ทั่วถึงราชกิจ และการอันควรไม่ควร ไม่อาจดำรง
ยศนั้นไว้ได้ ทั้งไม่อาจจัดทำราชกิจให้ลุล่วงไปได้ เมื่อไม่อาจ
ก็จักพากันทอดทิ้งธุระการงานเสีย ฝ่ายอำมาตย์ที่เป็นบัณฑิต

เป็นผู้ใหญ่ เมื่อไม่ได้ยศ ถึงจะสามารถที่จะให้กิจทั้งหลายลุล่วง
ไป ก็จักพากันกล่าวว่า พวกเราต้องการอะไรด้วยเรื่องเหล่านี้
พวกเรากลายเป็นคนภายนอกไปแล้ว พวกเด็กหนุ่มเขาเป็นพวก
อยู่วงใน เขาคงรู้ดี แล้วไม่รักษาการงานที่เกิดขึ้น เมื่อเป็น

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
เช่นนี้ ความเสื่อมเท่านั้นจักมีแก่พระราชาเหล่านั้น ด้วยประการ
ทั้งปวง เป็นเสมือนเวลาที่คนจับโครุ่น ๆ กำลังฝึก ยังไม่สามารถ
จะพาแอกไปได้ เทียมไว้ในแอก และเป็นเวลาที่ไม่จับเอาโคใหญ่ ๆ
ผู้เคยพาแอกไปได้ มาเทียมแอกฉะนั้น แม้ภัยมีสุบินนี้เป็นเหตุ
ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๕ เถิดมหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปาก
สองข้าง ฝูงชนพากันให้หญ้าที่ปากทั้งสองข้างของมัน มันเคี้ยวกิน
ด้วยปากทั้งสองข้าง นี้เป็นสุบินที่ ๕ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผล
ของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลของสุบินแม้นี้ ก็จักมีในรัชกาลของพระราชา
ผู้ไม่ดำรงในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในกาลภายหน้า
พวกพระราชาโง่เขลา ไม่ดำรงธรรม จักทรงแต่งตั้งมนุษย์โลเล
ไม่ประกอบด้วยธรรม ไว้ในตำแหน่งวินิจฉัยคดี คนเหล่านั้น

เป็นพาล ไม่เอื้อเฟื้อในบาปบุญ พากันนั่งในโรงศาล เมื่อให้คำ
ตัดสิน ก็จักรับสินบนจากมือของคู่คดีทั้งสองฝ่ายมากิน เป็น
เหมือนม้ากินหญ้าด้วยปากทั้งสองฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ
ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตรดอก เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๖ เถิด
มหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันเห็นมหาชนขัดถูถาดทอง
ราคาตั้งแสนกระษาปณ์ แล้วพากันนำไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง
ด้วยคำว่า เชิญท่านเยี่ยวใส่ในถาดทองนี้เถิด หมาจิ้งจอกแก่นั้น
ก็ถ่ายปัสสาวะใส่ในถาดทองนั้น นี้เป็นสุบินข้อที่ ๖ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลของสุบินนี้ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน
ด้วยว่า ในกาลภายหน้า พวกพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ทรง
รังเกียจกุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติเสีย แล้วไม่พระราชทานยศ
ให้ จักพระราชทานให้แก่คนที่ไม่มีสกุลเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้
สกุลใหญ่ ๆ จักพากันตกยาก สกุลเลว ๆ จักพากันเป็นใหญ่

ก็เมื่อพวกมีสกุลเหล่านั้น ไม่อาจเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ จักคิดว่า เรา
ต้องอาศัยพวกเหล่านี้เลี้ยงชีวิตสืบไป แล้วก็พากันยกธิดาให้แก
่ผู้ไม่มีสกุล การอยู่ร่วมกับคนพวกไม่มีสกุลของกุลธิดาเหล่านั้น
ก็จักเป็นเช่นเดียวกับถาดทองรองเยี่ยวหมาจิ้งจอก ภัยแม้มีสุบิน
นี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสบอกสุบินที่ ๗ เถิด
มหาบพิตร.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้ บุรุษผู้หนึ่ง
ฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปที่ใกล้เท้าแม่หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอน
อยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั่ง กัดกินเชือกนั้น เขาไม่ได้รู้เลยทีเดียว นี้เป็น
สุบินข้อที่ ๗ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ ก็จักมีในอนาคตเหมือนกัน
ด้วยว่าในกาลภายหน้า หมู่สตรี จักพากันเหลาะแหละโลเลใน
บุรุษ ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว ชอบเที่ยวเตร่ตามถนน
หนทาง เห็นแก่อามิส เป็นหญิงทุศีล มีความประพฤติชั่วช้า
พวกนางจักกลุ้มรุมกันแย่งเอาทรัพย์ที่สามีทำงาน มีกสิกรรม

และโครักขกรรมเป็นต้น สั่งสมไว้ด้วยยาก ลำบากลำเค็ญ
เอาไปซื้อสุราดื่มกับชายชู้ ซื้อดอกไม้ของหอมและเครื่องลูบไล้
มาแต่งตน คอยสอดส่องมองหาชู้ โดยส่วนบนของบ้านที่มิดชิด
บ้าง โดยที่ซึ่งลับตาบ้าง แม้ข้าวเปลือกที่เตรียมไว้สำหรับหว่าน

ในวันรุ่งขึ้น ก็เอาไปซ้อม จัดทำเป็นข้าวต้ม ข้าวสวย และของ
เคี้ยวเป็นต้น มากินกัน เป็นเหมือนนางหมาจิ้งจอกโซ ที่นอนใต้ตั่ง
คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่นแล้ว หย่อนลงไว้ใกล้ ๆ เท้าฉะนั้น
ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่า
สุบินข้อที่ ๘ เถิดมหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นตุ่มน้ำเต็มเปี่ยม
ลูกใหญ่ใบหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ประตูวัง ล้อมด้วยตุ่มเป็นอันมาก วรรณะ
ทั้ง ๔ เอาหม้อตักน้ำมาจากทิศทั้ง ๔ และทิศน้อยทั้งหลาย เอา
มาใส่ลงตุ่มที่เต็มแล้วนั่นแหละ น้ำก็เต็มแล้วเต็มอีก จนไหลล้น
ไป แม้คนเหล่านั้นก็ยังเทน้ำลงในตุ่มนั้นอยู่เรื่อย ๆ แต่ไม่มีผู้ที่

จะเหลียวแลดูตุ่มที่ว่าง ๆ เลย นี้เป็นสุบินข้อที่ ๘ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่า
ในกาลภายหน้า โลกจักเสื่อม แว่นแคว้นจักหมดความหมาย
พระราชาทั้งหลายจักตกยาก เป็นกำพร้า องค์ใดเป็นใหญ่ องค์
นั้น จักมีพระราชทรัพย์เพียงแสนกระษาปณ์ในท้องพระคลัง
พระราชาเหล่านั้นตกยากถึงอย่างนี้ จักเกณฑ์ให้ชาวชนบท
ทุกคน ทำการเพาะปลูกให้แก่ตน พวกมนุษย์ถูกเบียดเบียน

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ต้องละทิ้งการงานของตน พากันเพาะปลูก ปุพพันพืช(๑) แล
อปรันพืช(๒) ให้แก่พระราชาทั้งหลายเท่านั้น ต้องช่วยกันเฝ้า
ช่วยกันเก็บเกี่ยว ช่วยกันนวด ช่วยกันขน ช่วยกันเคี่ยวน้ำอ้อย
เป็นต้น และช่วยกันทำสวนดอกไม้ สวนผลไม้ พากันขนปุพพันพืช

เป็นต้นที่เสร็จแล้ว ในที่นั้น ๆ มาบรรจุไว้ในยุ่งฉางของพระราชา
เท่านั้น แม้ผู้ที่จะมองดูยุ้งฉางเปล่า ๆ ในเรือนทั้งหลายของตน
จักไม่มีเลย จักเป็นเช่นกับการเติมน้ำใส่ ตุ่มที่เต็มแล้ว ไม่เหลียวแล
ตุ่มเปล่า ๆ บ้างเลยนั่นแล ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ จะยังไม่มีแก่
มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๙ เถิดมหาบพิตร.
๑. อาหารมีข้าวสาลีเป็นต้น
๒. ของว่างหลังอาหาร มีถั่ว งา เป็นต้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นโบกขรณีสระหนึ่ง
ดารดาดไปด้วยปทุม ๕ สี ลึก มีท่าขึ้นลงรอบด้าน ฝูงสัตว์ สองเท้า
สี่เท้า พากันลงดื่มน้ำในสระนั้นโดยรอบ น้ำที่อยู่ในที่ลึก กลางสระนั้น
ขุ่นมัว ในที่ซึ่งสัตว์สองเท้าสี่เท้าพากันย่ำเหยียบ กลับใสสะอาด

ไม่ขุ่นมัว หม่อมฉันได้เห็นอย่างนี้ นี้เป็นสุบินข้อที่ ๙ ของหม่อมฉัน
อะไรเป็นผลของสุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้จักมีในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่า
ในกาลภายหน้า พระราชาทั้งหลาย จักไม่ตั้งอยู่ในธรรม ลุอคติ
ด้วยอำนาจความพอใจเป็นต้น เสวยราชสมบัติ จักไม่ประทาน
การวินิจฉัยอรรถคดีโดยธรรม มีพระหฤทัยมุ่งแต่สินบน โลเล

ในทรัพย์ ขึ้นชื่อว่าคุณธรรมคือความอดทน ความเมตตา และ
ความเอ็นดูของพระราชาเหล่านั้น จักไม่มีในหมู่ชาวแว่นแคว้น
จักเป็นผู้กักขฬะ หยาบคาย คอยแต่เบียดเบียนหมู่มนุษย์ เหมือน
หีบอ้อยด้วยหีบยนต์ จักกำหนดให้ส่วยต่าง ๆ บังเกิดขึ้น เก็บ
เอาทรัพย์ พวกมนุษย์ถูกรีดส่วยอากรหนักเข้า ไม่สามารถจะ

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ให้อะไร ๆ ได้ พากันทิ้งคามนิคมเป็นต้นเสีย อพยพไปสู่ปลายแดน
ตั้งหลักฐาน ณ ที่นั้น ชนบทศูนย์กลางจักว่างเปล่า ชนบทชายแดน
จักเป็นปึกแผ่นแน่นหนา เหมือนน้ำกลางสระโบกขรณีขุ่น น้ำที่
ี่ฝั่งรอบ ๆ. ใส ฉันใด ก็ฉันนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ย่อมไม่มี
แก่มหาบพิตร เชิญ ตรัสเล่าพระสุบินข้อที่ ๑๐ เถิดมหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้เห็นข้าวสุก ที่คน
หุงในหม้อใบเดียวกันแท้ ๆ แต่หาสุกทั่วกันไม่ เป็นเหมือนผู้หุง
ตรวจดูแล้วว่าไม่สุก เลยแยกกันไว้เป็น ๓ อย่าง คือ ข้าวหนึ่งแฉะ
ข้าวหนึ่งดิบ ข้าวหนึ่งสุกดี นี้เป็นสุบินที่ ๑๐ ของหม่อมฉัน อะไร
เป็นผลแห่งสุบินข้อนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแม้ของสุบินข้อนี้ จักมีในอนาคตเหมือนกัน
ด้วยว่าในกาลภายหน้า พระราชาทั้งหลายจักไม่ดำรงในธรรม
เมื่อพระราชาเหล่านั้นไม่ดำรงในธรรมแล้ว ข้าราชการก็ดี
พราหมณ์และคฤหบดีก็ดี ชาวนิคม ชาวชนบทก็ดี รวมถึงมนุษย์
ทั้งหมด นับแต่สมณะและพราหมณ์ จักพากันไม่ตั้งอยู่ในธรรม

แม้เทวดาทั้งหลายก็จักไม่ทรงธรรม ในรัชกาลแห่งอธัมมิกราช
ทั้งหลาย ลมทั้งหลายจักพัดไม่สม่ำเสมอ พัดแรงจัด ทำให้วิมาน
ในอากาศของเทวดาสั่นสะเทือน เมื่อวิมานเหล่านั้น ถูกลมพัด
สั่นสะเทือน ฝูงเทวดาก็พากันโกรธ แล้วจักไม่ให้ฝนตก ถึงจะตก
ก็จะไม่ตกกระหน่ำทั่วแว่นแคว้น มิฉะนั้น จักไม่ตกให้เป็นอุปการะ

แก่การใด การหว่านในที่ ทั้งปวงจักไม่ตกกระหน่ำทั่วถึง แม้ใน
ชนบท แม้ในบ้าน แม้ในตระพังแห่งหนึ่ง แม้ในสระลูกหนึ่ง
เหมือนกันกับในแคว้นฉะนั้น เมื่อตกตอนเหนือของตระพัง ก็จัก
ไม่ตกในตอนใต้ เมื่อตกในตอนใต้ จักไม่ตกในตอนเหนือ ข้าวกล้า
ในตอนหนึ่งจักเสียเพราะฝนชุก เมื่อฝนไม่ตกในส่วนหนึ่ง ข้าวกล้า

จักเหี่ยวแห้ง เมื่อฝนตกดีในส่วนหนึ่ง ข้าวกล้าจักสมบูรณ์ ข้าวกล้า
ที่หว่านแล้วในขอบขัณฑสีมาของพระราชาพระองค์เดียวกัน จัก
เป็น ๓ สถาน ด้วยประการฉะนี้ เหมือนข้าวสุกในหม้อเดียว
มีผลเป็น ๓ อย่างฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ จะยังไม่มีแก่
มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๑ ต่อไปเถิด มหาบพิตร.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นคนทั้งหลายเอา
แก่นจันทน์ มีราคาตั้งแสนกษาปณ์ ขายแลกกับเปรียงเน่า
นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๑ ของหม่อมฉัน อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้เล่า
พระเจ้า ข้า ?

มหาบพิตรแม้ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคต ในเมื่อ
ศาสนาของตถาคตเสื่อมโทรมนั่นแล ด้วยว่าในกาลภายหน้า พวก
ภิกษุอลัชชีเห็นแก่ปัจจัย จักมีมาก พวกเหล่านั้น จักพากันแสดง
ธรรมเทศนาที่ตถาคต กล่าวติเตียนความลโมภในปัจจัยไว้แก่

ชนเหล่าอื่น เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้น จักไม่สามารถ
แสดงให้พ้นจากปัจจัยทั้งหลาย แล้วตั้งอยู่ในฝ่ายธรรมนำสัตว์
ให้พ้นจากทุกข์ มุ่งตรงสู่พระนิพพาน ชนทั้งหลายก็จะ
ฟังความสมบูรณ์แห่งบทและพยัญชนะ และสำเนียงอันไพเราะ
อย่างเดียว เท่านั้น แล้วจักถวายเอง และยังชนเหล่าอื่นให้ถวาย

ซึ่งปัจจัยทั้งหลายมีจีวรเป็นต้น อันมีค่ามาก ภิกษุทั้งหลายอีก
บางพวก จักพากันนั่งในที่ต่าง ๆ มีท้องถนน สี่แยก และประตูวัง
เป็นต้น แล้วแสดงธรรมแลกรูปิยะ มีเหรียญกษาปณ์ครึ่ง
กษาปณ์ เหรียญบาท เหรียญมาสก เป็นต้น โดยประการฉะนี้
ก็เป็นเอาธรรมที่ตถาคตแสดง ไว้ มีมูลค่าควรแก่พระนิพพาน

ไปแสดงแลกปัจจัย ๔ และรูปิยะมีเหรียญกษาปณ์และเหรียญ
ครึ่งกษาปณ์เป็นต้น จักเป็นเหมือนฝูงคนเอาแก่นจันทน์มี
ราคาตั้งแสน ไปขายแลกเปรียงเน่าฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ
ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๒ ต่อไปเถิด
มหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นกระโหลกน้ำเต้า
จมน้ำได้ อะไรเป็นผลแห่งสุบิน นี้ พระเจ้าข้า ?
มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคตกาล เมื่อโลก
หมุนไปถึงจุดเสื่อม ในรัชกาลของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
ด้วยว่าในครั้งนั้นพระราชาทั้งหลาย จักไม่พระราชทานยศแก่
กุลบุตรผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ จักพระราชทานแก่ผู้ไม่มีสกุลเท่านั้น

พวกนั้นจักเป็นใหญ่ อีกฝ่ายหนึ่งจักยากจน ถ้อยคำของพวก
ไม่มีสกุล ดุจกระโหลกน้ำเต้า ดูประหนึ่งหยั่งรากลงแน่นในที่
เฉพาะพระพักตร์พระราชาก็ดี ที่ประตูวังก็ดี ที่ประชุมอำมาตย์
ก็ดี ที่โรงศาลก็ดี จักเป็นคำไม่โยกโคลง มีหลักฐานแน่นหนาดี
แม้ในสังฆสันนิบาต (ที่ประชุมสงฆ์) เล่า ในกิจกรรมที่สงฆ์พึงทำ

และคณะพึงทำก็ดี ทั้งในสถานที่ดำเนินอธิกรณ์เกี่ยวกับบาตร
จีวร และบริเวณเป็นต้นก็ดี ถ้อยคำของคนชั่วทุศีลเท่านั้น จักเป็น

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
คำนำสัตว์ออกจากทุกข์ได้ มิใช่ถ้อยคำของภิกษุผู้ลัชชี เมื่อเป็น
เช่นนี้ ก็จักเป็นเหมือนกาลเป็นที่จมลงแห่งกระโหลกน้ำเต้า
แม้ด้วยประการทั้งปวง ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่
มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๓ เถิด มหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นศิลาแท่งทึบใหญ่
ขนาดเรือนยอดลอยน้ำเหมือนดังเรือ อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้
พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินแม้นี้ ก็จักมีในกาลเช่นนั้นเหมือนกัน
ด้วยว่าในครั้งนั้น พระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมทั้งหลาย จัก
พระราชทานยศแก่คนไม่มีสกุล พวกนั้นจักเป็นใหญ่ พวกมีสกุล
จักตกยาก ใคร ๆจักไม่ทำความเคารพในพวกมีสกุลนั้น จัก
กระทำความเคารพในพวกที่เป็นใหญ่ฝ่ายเดียว ถ้อยคำของ

กุลบุตรผู้ฉลาดในการวินิจฉัย ผู้หนักแน่น เช่นกับศิลาทึบ จัก
ไม่หยั่งลง ดำรงมั่นในที่เฉพาะพระภักตร์ของพระราชา หรือ
ในที่ประชุมอำมาตย์ หรือในโรงศาล เมื่อพวกนั้นกำลังกล่าว
พวกนอกนี้จักคอยเยาะเย้ยว่า พวกนี้พูดทำไม แม้ในที่ประชุม
ภิกษุ พวกภิกษุก็จักไม่เห็นภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ผู้ควรทำความ

เคารพว่าเป็นสำคัญ ในฐานะต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว ทั้งถ้อยคำ
ของภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักเหล่านั้น ก็จักไม่หนักแน่นมั่นคง จัก
เป็นเหมือนเวลาเป็นที่เลื่อนลอยแห่งศิลาทั้งหลายฉะนั้น ภัยแม้มี
สุบินนี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าพระสุบิน
ข้อที่ ๑๔ เถิด มหาบพิตร.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นฝูงเขียดตัวเล็ก ๆ
ขนาดดอกมะซาง วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ ๆ กัดเนื้อขาดเหมือน
ตัดก้านบัวแล้วกลืนกิน นี้เป็นสุบินข้อที่ ๑๔ อะไรเป็นผลแห่ง
สุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
มหาบพิตร ผลแห่งแม้สุบินข้อนี้ ก็จักมีในอนาคต ใน
เมื่อโลกเสื่อมโทรมดุจกัน ด้วยว่าในครั้งนั้น พวกมนุษย์จะมี
ราคะจริตแรงกล้า ชาติชั่ว ปล่อยตัวปล่อยใจ ตามอำนาจของกิเลส
จักต้องเป็นไปในอำนาจแห่งภรรยาเด็ก ๆ ของตน ผู้คนมีทาส
และกรรมกรเป็นต้นก็ดี สัตว์พาหนะมีโคกระบือเป็นต้นก็ดี

เงินทองก็ดี บรรดามีในเรือนทุกอย่าง จักต้องอยู่ในครอบครอง
ของพวกนางทั้งนั้น เมื่อพวกสามีถามถึงเงินทอง โน้น ๆ ว่าอยู่
ที่ไหน หรือถามถึงจำนวนสิ่งของว่ามีที่ไหนก็ดี พวกนางจักพา
กันตอบว่า มันจะอยู่ที่ไหน ๆ ก็ช่างเถิด กงการอะไรที่ท่านจะ
ตรวจตราเล่า ท่านเกิดอยากรู้สิ่งที่มีอยู่ และไม่มีอยู่ในเรือน

ของเราละหรือ แล้วจักด่าด้วยประการต่าง ๆ ทิ่มตำเอาด้วยหอก
คือปาก กดไว้ในอำนาจดังทาสและคนรับใช้ ดำรงความเป็นเจ้า
เป็นใหญ่ของตนไว้สืบไป เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จักเป็นเหมือนเวลา
ที่ฝูงเขียดขนาดดอกมะซาง พากันขยอกกินฝูงงูเห่า ซึ่งมีพิษ
แล่นเร็วฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินนี้เป็นเหตุ ก็จักไม่มีแก่มหาบพิตร
ดอก เชิญตรัสบอกนิมิตรที่ ๑๕ เถิด.

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นฝูงพญาหงษ์ทอง
ที่ได้นามว่า ทองเพราะมีขนเป็นสีทอง พากันแวดล้อมกา ผู้
ประกอบด้วยอสัทธรรม ๑๐ ประการ เที่ยวหากินตามบ้าน
อะไรเป็นผลแห่งพระสุบินนี้ พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินนี้ ก็จักมีในอนาคต ในรัชกาล
ของพระราชาผู้ทุรพลนั่นแหละ ด้วยว่าในภายหน้าพระราชา
ทั้งหลาย จักไม่ฉลาดในศิลปะมีหัสดีศิลปะเป็นต้น ไม่แกล้วกล้า
ในการยุทธ ท้าวเธอจักไม่พระราชทานความเป็นใหญ่ให้แก่พวก
กุลบุตรที่มีชาติเสมอกัน ผู้รังเกียจความวิบัติแห่งราชสมบัต

ของพระองค์อยู่ จักพระราชทานแก่พวกพนักงานเครื่องสรง
และพวกกัลบกเป็นต้น ซึ่งอยู่ใกล้บาทมูลของพระองค์ พวกกุลบุตร
ผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ และโคตร เมื่อไม่ได้ที่พึ่งในราชสกุล ก็ไม่
สามารถเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ จักพากันปรนนิบัติบำรุงฝูงชนที่ไม่ม

สกุล มีชาติและโคตรทราม ผู้ดำรงอิสริยยศ จักเป็นเหมือนฝูง
พญาหงษ์ทอง แวดล้อมเป็นบริวารกา ฉะนั้น ภัยแม้มีสุบินน
ี้เป็นเหตุ ก็ยังไม่มีแก่มหาบพิตร เชิญตรัสเล่าสุบินที่ ๑๖ ต่อไป
เถิด มหาบพิตร.

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต
• ช่วยเหลือแบ่งปัน เพื่อวันที่สดใสยิ่งขึ้น

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ย. 2018, 20:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อ้างคำพูด:
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในกาลก่อน ๆ เสือเหลือง พากัน
กัดกินฝูงแกะ แต่หม่อมฉันได้เห็นฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง
กัดกินอยู่มุ่มม่ำ ๆ ทีนั้นเสืออื่น ๆ คือเสือดาว เสือโคร่ง เห็น
ฝูงแกะอยู่ห่าง ๆ ก็สะดุ้งกลัว ถึงความสยดสยองพากันวิ่งหนี
หลบเข้าพุ่มไม้และป่ารก ซุกซ่อนเพราะกลัวฝูงแกะ หม่อมฉัน.
ได้เห็นอย่างนี้ อะไรเป็นผลแห่งสุบินนี้พระเจ้าข้า ?

มหาบพิตร ผลแห่งสุบินแม้นี้ ก็จักมีในรัชกาลแห่งพระ-
ราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ในอนาคตเหมือนกัน ด้วยว่าในครั้งนั้น
พวกไม่มีสกุลจักเป็นราชวัลลภ เป็นใหญ่เป็นโต พวกคนมีสกุล
จักอับเฉาตกยาก ราชวัลลภเหล่านั้นพากันยังพระราชาให้ทรง
เชื่อถือถ้อยคำของตน มีกำลังในสถานที่ราชการ มีโรงศาล

เป็นต้น ก็พากันรุกเอาที่ดินไร่นาเรือกสวนเป็นต้น อันตกทอด
สืบมาของพวกมีสกุลทั้งหลายว่า ที่เหล่านี้เป็นของพวกเรา
เมื่อพวกผู้มีสกุลเหล่านั้นโต้เถียงว่า ไม่ใช่ของพวกท่าน เป็น
ของพวกเรา แล้วพากันมาฟ้องร้องยังโรงศาลเป็นต้น พวก

ราชวัลลภก็พากันบอกให้เฆี่ยนตีด้วยหวายเป็นต้น จับคอไส
ออกไป พร้อมกับข่มขู่คุกคามว่า พ่อเจ้าไม่รู้ประมาณตน มาหา
เรื่องกับพวกเรา เดี๋ยวจักไปทูลพระราชา ให้ลงพระราชอาญา
ต่าง ๆ มีตัดตีน ตัดมือ เป็นต้น พวกผู้มีสกุลกลัวเกรงพวก

ราชวัลลภ ต่างก็ยินยอมให้ที่ทางที่เป็นของตน ว่า ที่ทางเหล่านี้
ถ้าเป็นของท่าน ก็เชิญครอบครองเถิด แล้วพากันกลับบ้านเรือน
ของตนนอนหวาดผวาไปตาม ๆ กัน แม้ภิกษุผู้ชั่วช้าทั้งหลาย
เล่า ก็จักพากันเบียดเบียนภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ตามชอบใจ
พวกภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักเหล่านั้น ไม่ได้ที่พำนัก ก็พากันเข้าป่า

แอบแฝงอยู่ในที่รก ๆ ข้อที่กุลบุตรผู้มีชาติสกุลทั้งหลาย และ
ภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักทั้งหลาย ถูกคนชาติชั่ว และถูกภิกษุผู้

• บุคคลที่บอกว่าไม่มีเวลารักษาศีล คือบุคคลที่ยังไม่เห็นคุณค่าของศีล
• ไม่ควรปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไป โดยไม่เกิดประโยชน์อันใด
• เวลาชีวิตยังเหลือน้อยเต็ม คุณมีความดีมากแค่ไหนแล้วที่จะติดตัวไปเมื่อตาย
• ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เมื่อขาดเป็นเวลา ๕ นาทีแล้วคงต้องตายแน่
• ต่างคนต่างก็กำลังเดินไปสู่ความตาย แล้วจะสร้างความวุ้นวายให้เกิดทำไม
• อยากรู้ก็ต้องเรียน อยากพากเพียรก็ต้องฝึกฝนตนเอง
• ตัดความสงสัยด้วยการลงมือทำ เพิ่มความทรงจำด้วยการทำความเข้าใจและสังเกต
• ช่วยเหลือแบ่งปัน เพื่อวันที่สดใสยิ่งขึ้น

:b8:

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2252 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 151  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 35 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร