ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
"ทิฐิ...คนถือดี" http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=56878 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 12 ธ.ค. 2018, 17:38 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | "ทิฐิ...คนถือดี" | ||
"ทิฐิ...คนถือดี" นานมาแล้วมีชายคนหนึ่งชื่อว่า "ทิฐิ" เขาเป็นคนที่มีนิสัยอวดดื้อถือดี ไม่ต่างจากชื่อ เพราะเมื่อได้ลองเชื่อมั่นในสิ่งใดแล้ว ทิฐิคนนี้ก็จะยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้นไม่เปลี่ยน และจะไม่ยอมรับฟังข้อคิดเห็นที่ผิดไปจากความเชื่อเดิมโดยเด็ดขาด แม้ว่านี่จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนเอาจริงเอาจัง และเคร่งครัดกับชีวิต แต่บางครั้งเขาก็ดื้อรั้นมากเกินไปจนขาดเหตุผล และทำให้สูญเสียสิ่งดี ๆ ในชีวิตไปมากมาย โดยที่เขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน กล่าวสำหรับทิฐิ เขาไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นจึงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย กระทั่งมีฐานะขึ้นมาในระดับหนึ่ง ทิฐิจึงคิดที่จะหยุดพักตัวเองจากการงาน แล้วเดินทางไปเรื่อย ๆ เพื่อเที่ยวชมโลกกว้าง เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้น ทิฐิจึงจัดการฝากบ้านไว้กับญาติพี่น้อง แล้วเก็บสัมภาระออกเดินทางทันที ทิฐิเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ชมนั่นแลนี่ และพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ในที่เหล่านั้นมากมาย การท่องโลกกว้างของทิฐิน่าจะทำให้เขามีความรู้ดี ๆ หรือเกิดทัศนคติใหม่ ๆ ขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่มีคนกล่าวคำซึ่งผิดไปจากความรู้หรือความเชื่อมั่นเดิมของเขา ทิฐิก็จะรีบกล่าวแก่คน ๆ นั้นทันทีว่า "นั่นไม่ถูกเลยนะ ที่จริงแล้วมันต้องเป็นดังที่ข้ารู้มาต่างหาก" สิ่งนี้เองทำให้การเดินทางไปทั่วโลกของเขา แทบจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดขึ้นในชีวิตของเขาเลย กระทั่งวันหนึ่งทิฐิได้พลัดหลงเข้าไปในดินแดนแห่งทะเลทรายอันแสนแห้งแล้ง และไร้ผู้คนสัญจร เขาหลงทางอยู่ในดินแดนแห่งนั้นสามวันสามคืน จนกระทั่งอาหาร และน้ำดื่มร่อยหรอและหมดลงในที่สุด ทิฐิจึงเดินต่อไปไม่ไหว เขาล้มลงนอนบนผืนทรายอย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง แต่ทิฐิยังไม่อยากตายตอนนี้ ดังนั้นแม้ร่างกายจะอ่อนระโหยโรยแรงขนาดไหน แต่เขาก็รวบรวมพลังใจของตนเฝ้ากล่าวคำภาวนาขอความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือเขาด้วย "ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดเมตตาข้า ผู้ซึ่งไม่เคยเบียดเบียนใคร ขอทรงประทานน้ำมาให้ข้าได้รักษาชีวิตของตนเองไว้ แม้เพียงหนึ่งหยดก็ยังดี" แล้วในตอนนั้นเอง ทิฐิก็เห็นชายแปลกหน้าชาวเยอรมันคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขา ทิฐิดีใจสุดจะกล่าว แล้วรีบพูดขึ้นทันทีว่า "โอ...ท่านผู้เป็นความหวังของข้า โปรดแบ่งน้ำของท่านให้ข้าดื่มด้วยเถิด" ชายคนนั้นยื่นถุงหนังสีน้ำตาลในมือให้แก่ทิฐิ แล้วกล่าวว่า "นี่คือ วาสซ่าร์ จงดื่มเสียสิ" แต่ทิฐิไม่อยากได้วาสซ่าร์ เขาอยากได้น้ำ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะรับถุงหนังสีน้ำตาลจากชายแปลกหน้าคนนั้น ชายคนนั้นจึงเดินจากไป ทิฐิภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง คราวนี้มีชายชาวจีนคนหนึ่งเดินถือถุงหนังสีแดงเข้ามายื่นให้แก่ทิฐิ "นี่คือ น้ำ ใช่หรือไม่" ทิฐิถามชายชาวจีน "นี่คือ ซือจุ้ย จงดื่มเสียสิ" ชายชาวจีนตอบ ทิฐิรู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เขากระหายน้ำมากเหลือเกินแล้ว แต่ทำไมชายผู้นี้จึงนำซือจุ้ย มามอบให้แก่เขาเล่า ทิฐิจึงปฏิเสธถุงหนังสีแดงของชายชาวจีน ชายชาวจีนจึงเดินจากไป ทิฐิเริ่มภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก และครั้งนี้มีผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งมาปรากฏกายตรงหน้าของเขาในแทบจะทันที "เธอผู้มีใจเมตตา ขอน้ำให้ข้าดื่มหน่อยเถิด" ทิฐิพึมพำคำอ้อนวอนออกจากริมฝีปากที่แห้งผาก "นี่คือ ปานี จงดื่มเสียสิ" หญิงชาวอินเดียกล่าวพร้อมกับยื่นถุงหนังสีเขียวให้กับทิฐิ แต่นั่นทำให้ทิฐิโกรธมาก เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ยกแขนปัดถุงหนังสีเขียวให้พ้นหน้า แล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ข้าไม่เอาของ ๆ เจ้า ข้าจะตายเพราะขาดน้ำอยู่แล้ว ข้าต้องการน้ำเท่านั้น!" หญิงอินเดียเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เดินจากไปอีกคน ทิฐิเฝ้าอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีใครนำอะไรมายื่นให้เขาอีกแล้ว จิตของทิฐิกำลังหลุดลอยออกจากร่างที่ใกล้แตกดับ แล้วในตอนนั้นเอง เสียง ๆ หนนึ่งก็ดังแว่ว ๆ ให้ได้ยินว่า "ทิฐิ...คนถือดีเอ๋ย เราช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เคยให้โอกาสตนเองเลย หากเจ้าเปิดใจให้กว้าง และยอมรับในข้อดีของสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเสียบ้าง เจ้าก็คงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในถุงหนังทั้งสามนั้น ต่างก็เป็นน้ำดื่มบริสุทธิ์ทั้งสิ้น" เมื่อสิ้นเสียงแว่วนั้น ทิฐิคนถือดีก็สิ้นลมหายใจทันที นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงรู้จักการเปิดตาตนเองให้กว้าง แล้วมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยสายตา และหัวใจที่ไร้อคติ หากปิดกั้นหัวใจ และสายตาเอาไว้ ก็อาจพลาดสิ่งดี ๆ ในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งบางครั้งสิ่งดี ๆ เหล่านั้นก็อาจจะไม่หวนกลับมาหาอีกแล้ว ขอบคุณที่มา :: นิทาน...บ้านเรือนธรรม ♡✿(◕‿◕)✿♡ กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ ♡✿(◕‿◕)✿♡
|
เจ้าของ: | sssboun [ 12 ธ.ค. 2018, 20:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: "ทิฐิ...คนถือดี" |
เพราะมีอดีต จึงมีปัจจุบัน เพราะมีปัจจุบัน จึงมีอนาคต ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะดีไปด้วยอย่างแน่นอน สาธุ อนุโมทนา จัดรูปแบบได้น่ารักมากครับ จะคล้ายเรื่องพระเจ้าปายาสิเลยนะครับ เรื่องที่ลงนี้รู้สึกว่าเคยฟังมาแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าเอามาจากไหน |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 15 ธ.ค. 2018, 15:39 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: "ทิฐิ...คนถือดี" | ||
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับคุณ sssboun ค่ะ จากข้อความที่ได้กล่าวว่า "เพราะมีอดีต จึงมีปัจจุบัน เพราะมีปัจจุบัน จึงมีอนาคต ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะดีไปด้วยอย่างแน่นอน" การถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือทำให้ทราบว่า คุณเป็นคนที่ใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย น่าอ่าน ค่ะ ลานธรรมจักรก็มีบุคคลทั่วไปเข้ามาอ่านมากพอสมควร แต่ถ้ามีคนแบบคุณ sssboun ช่วยกันแบ่งปันธรรมะ ลานธรรมจักรก็น่าจะมีคนสนใจมากกว่าเดิมนะค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
|
เจ้าของ: | sssboun [ 15 ธ.ค. 2018, 18:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: "ทิฐิ...คนถือดี" |
ฟ้าใสใส เขียน: :b8: สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับคุณ sssboun ค่ะ จากข้อความที่ได้กล่าวว่า "เพราะมีอดีต จึงมีปัจจุบัน เพราะมีปัจจุบัน จึงมีอนาคต ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะดีไปด้วยอย่างแน่นอน" การถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือทำให้ทราบว่า คุณเป็นคนที่ใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย น่าอ่าน ค่ะ ลานธรรมจักรก็มีบุคคลทั่วไปเข้ามาอ่านมากพอสมควร แต่ถ้ามีคนแบบคุณ sssboun ช่วยกันแบ่งปันธรรมะ ลานธรรมจักรก็น่าจะมีคนสนใจมากกว่าเดิมนะค่ะ กราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสสอนให้มีเมตตา กรุณา มุ ทิตา อุเบกขา เมื่อได้ความรู้มาแล้วก็ควรที่จะแบ่งปันตามสม ควรแก่ความรู้ที่มีที่ได้ครับ ทุกคนต่างทำหน้าที่ช่วยเหลือกัน คนละไม้ละมือสังคมถึงจะดีขึ้นได้ครับ เราอยู่ในสังคม เมื่อสัง คมเป็นพิษแน่นอนไม่นานพิษนั้นก็จะมาถึงครอบครัว ของเราไม่ ช้าก็เร็วครับ สังคมน่าอยู่ เพราะหมู่เรามีจิตเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน เมื่อให้ด้วยจิตบริสุทธิ์ ย่อมจะผุดสิ่งดีๆขึ้นมาเรื่อยๆ ลบขยะออกจากใจวันละนิด เพื่อจิตที่แจ่มใสและสงบยิ่งขึ้น |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |