วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 11:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.พ. 2010, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b48: ๑๑. การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง

O การให้ธรรมะ ชนะการให้ทั้งปวง


พุทธศาสนาสุภาษิตบทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่คุ้นหูคุ้นใจคนจำนวนมาก
คือบทที่ว่า... “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
แปลความว่า “การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”

เพราะพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อย
มีศรัทธาเชื่อให้คุณแห่งการให้ธรรมเป็นทาน
จึงแม้สามารถก็จะพากันพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน
ซึ่งเชื่อว่าเหนือการให้ทั้งปวง
ซึ่งจักเป็นบุญเป็นกุศล ยิ่งกว่าบุญกุศลที่เกิดจากการให้ทานอื่นทั้งปวง

นี้เป็นการถูก เป็นการดี
เพราะการเผยแพร่ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นความความดีอย่างยิ่ง
ยิ่งผู้ได้รับนำไปปฏิบัติก็จะยิ่งเป็นการดีที่สุด
เพราะการปฏิบัติธรรม ทรงธรรม ตั้งอยู่ในธรรม
เป็นการนำให้ถึงความสวัสดีอย่างแท้จริง
และไม่เพียงเป็นความสวัสดีเฉพาะตนเองเท่านั้น
ยังสามารถแผ่ความสวัสดีให้กว้างไกลไปถึงผู้เกี่ยวข้องได้มากมาย

กล่าวได้ว่า ผู้มีธรรมเพียงคนเดียว
ย่อมยังความเย็น ความสุข ให้เกิดได้เป็นอันมาก
ตรงกันข้ามกับผู้ไม่มีธรรม...แม้เพียงคนเดียว
ก็ย่อมยังความร้อนความทุกข์ให้เกิดได้เป็นอันมาก


O การให้ธรรมที่แท้จริง
หมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม


พิจารณาจากความจริง ที่ว่าผู้มีธรรมเป็นผู้ให้ความเย็น
ความสุขแก้ผู้อื่นได้ เช่นเดียวกันกับที่ให้ความเย็นความสุขแก่ตนเอง
อาจเห็นได้ว่า การให้ธรรมไม่หมายถึงเพียงการพิมพ์หนังสือธรรมแจก
หรือการอบรมสั่งสอนด้วยวาจา ให้รู้ให้เห็นธรรมเท่านั้น

แต่การให้ธรรมที่แท้จริง ย่อมหมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม
ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลายโดยอัตโนมัติ
ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วยวาจา
หรือเช่นด้วยการแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ

การสั่งสอนธรรมหรือ ให้ธรรมด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น
มีความสำคัญเหนือกว่าการแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ
เพราะการประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ
จนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ
นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง
และจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ


O ความสูงต่ำ ห่างไกลของธรรมที่ดีและชั่วนั้นมีมากมายยิ่งนัก

อันคำว่าธรรมนั้น ที่แท้จริงมีความหมายเป็นสองอย่าง คือทั้งที่ดีและที่ชั่ว
หนังสือธรรมมิได้แสดงแต่ธรรมที่ดี แต่แสดงธรรมที่ชั่วด้วย
เพียงแต่แสดงธรรมที่ดีว่าให้ประพฤติปฏิบัติ
แสดงธรรมที่ชั่วว่าไม่ควรประพฤติปฏิบัติ
และผู้ประพฤติธรรมหรือผู้มีธรรมนั้นก็คือ ผู้ประพฤติธรรมที่ดี ไม่ประพฤติธรรมที่ชั่ว

ผู้ประพฤติธรรมที่ดีเรียกได้ว่าเป็น สัตบุรุษ ผู้ประพฤติธรรมที่ชั่ว
เรียกว่าได้เป็นอสัตบุรุษ ความสูงต่ำห่างไกลของธรรมที่ดีและที่ชั่วนั้นมากมายนัก

มีพุทธสุภาษิตกว่าไว้ว่า “ฟ้ากับดินไกลกัน และฝั่งทะเลก็ไกลกัน
แต่นักปราชญ์กล่าวว่า ธรรมของสัตบุรุษกับของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น”


O การทำตนที่ชั่ว ให้เป็นตนที่ดีได้ เป็นกุศลที่สูงที่สุด


ผู้ให้ธรรมทั้งด้วยการให้หนังสือธรรม
และทั้งการปฏิบัติด้วยตนเองให้ปรากฏเป็นแบบอย่างที่ดีงาม
เป็นแบบอย่างของสัตบุรุษ กล่าวว่าเป็นผู้ให้เหนือการให้ทั้งปวง
เพราะการพยายามช่วยให้คนเป็นผู้มีธรรมของสัตบุรุษ
และธรรมของอสัตบุรุษนั้น ก็เท่ากับพยายามช่วยให้คนบนดิน
คือต่ำเตี้ยได้เข้าใกล้ฟ้าคือสูงส่ง หรือช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั่นเอง

การช่วยให้คนชั่วเป็นคนดีนั้น ผู้ใดทำได้จักได้กุศลสูงยิ่ง
การช่วยตนเองที่ประพฤติไม่ดีให้เป็นประพฤติดีนั้น
ก็เป็นการช่วยคนชั่วให้เป็นคนดีเช่นกัน และจะเป็นกุศลที่สูงที่สุดเสียด้วยซ้ำ
เพราะนอกจากตนเองจะช่วยตนเองแล้ว คนอื่นยากจักช่วยได้

นี่หมายความว่า อย่างน้อยตนเองต้องยอมรับฟังการแนะนำช่วยเหลือของผู้อื่น
ยอมปฏิบัติตามผู้อื่นที่ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้ปรากฏอยู่
คือทำตนเองให้เป็นผู้ประพฤติธรรมของสัตบุรุษ
ละการประพฤติปฏิบัติธรรมของอสัตบุรุษให้หมดสิ้น


O พึงอบรมปัญญา เพื่อเป็นแสงสว่างขับไล่โมหะ


ผู้มาบริหารจิตทั้งนั้น พึงดูจิตตนเองให้เห็นชัดเจนว่า
มีความปรารถนาต้องการจะก่อทุกข์โทษภัยให้แก่ตนเองหรือไม่

ถ้าไม่มีความปรารถนานั้น ก็ถึงรู้ว่าจำเป็นต้องอบรมปัญญา
เพื่อให้ปัญญาเป็นแสงสว่างขับไล่ความมืดมิดของโมหะ
ให้บรรเทาเบาบางถึงหมดสิ้นไป
ปัญญาจะช่วยให้เห็นถูกเห็นผิดตามความเป็นจริง
และเมื่อเห็นตรงตามความเป็นจริงแล้ว
การปฏิบัติย่อมไม่เป็นเหตุแห่งทุกข์โทษภัยของตนเองและของผู้ใดทั้งสิ้น

ทุกข์โทษภัยย่อมไม่มีแก่ตน
อาจมีปัญหาว่าแม้ตนเองไม่ก่อทุกข์โทษภัยแก่ตนเอง
ด้วยกระทำที่ไม่ถูกไม่ชอบ ทั้งหลาย
แต่เมื่อยังมีผู้อื่นอีกเป็นอันมากที่ก่อทุกข์โทษภัยอยู่
แล้วเราจะพ้นจากทุกข์โทษภัยนั้นได้อย่างไร

ปัญหานี้แม้พิจารณา เพียงผิวเผิน ก็น่าจะเป็นปัญหาที่ต้องยอมจำนน
คือต้องรับว่าถูกต้อง แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง
อย่าประกอบด้วยปัญญาแท้จริง
ย่อมจะได้รับคำตอบแก้ปัญหาให้ตนไปได้อย่างสิ้นเชิง

เพราะผู้มีความ เห็นชอบ ปราศจากโมหะ
ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีทุกข์โทษภัยใดจะเกิดแก่ตน
ถ้าตนสามารถวางความคิดไว้ได้ชอบ
เพราะความทุกข์ทั้งปวงเกิดจากความคิด


O ผู้มุ่งปฏิบัติธรรม ต้องรู้จักพิจารณาเลือกเฟ้นธรรม

ผู้ มุ่งมาบริหารจิต มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นจากกิเลส
ต้องพิจารณาใจตนในขณะอ่านหนังสือหรือฟัง
เรียกว่าเป็นการเลือกเฟ้นธรรม
ธรรมใดกระทบใจว่า ตรงกับที่ตนเป็นอยู่ พึงปฏิบัติน้อมนำธรรมนั้นเข้าสู่ใจตน

เพื่อแก้ไขให้เรียบร้อย ที่ท่านกล่าวว่า
“เห็นบัณฑิตใด ผู้มีปกติชี้ความผิดให้ ดุจผู้บอกขุมทรัพย์ให้
ซึ่งมีปกติกล่าวกำราบ มีปัญญา พึงคบบัณฑิตเช่นนั้น
เมื่อคบท่านเช่นนั้น ย่อมประเสริฐ ไม่เลวเลย”

“บัณฑิต” นั้นคือ “คนดีผู้มีธรรม
หรือผู้รู้ธรรมปฏิบัติธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนนั่นเอง”
การกล่าวธรรมของบัณฑิต คือ การกล่าวตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้
และบัณฑิตนั้นมีพุทธภาษิตกล่าวไว้ด้วยว่า...

“บุรุษจะเป็นบัณฑิตในที่ทั้งปวงก็หาไม่ แม้สตรีมีปัญญาเฉียบแหลมในที่นั้น ๆ
ก็เป็นบัณฑิตได้เหมือนกัน”


O สามารถหนีไกลจากกิเลสได้มากเพียงไร
ก็สามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้น


คนดีมีปัญญา คือคนมีกิเลสบางเบา โลภน้อย โกรธน้อย หลงน้อย
กิเลสนั้นมีมากเพียงไร ก็ทำให้เหลือน้อยได้
ทำให้หมดจดอย่างสิ้นเชิงก็ได้ สำคัญที่ผู้มีกิเลสต้องมีปัญญา
แม้พอสมควรที่จะทำให้เชื่อว่า กิเลสเป็นโทษอย่างยิ่ง
ควรหนีให้ไกล สามารถหนีไกลกิเลสได้มากเพียงไร
ก็สามารถเป็นคนดี เป็นบัณฑิตได้เพียงนั้น
ทั้งยังจะสามารถแลเห็นพระพุทธเจ้าได้ใกล้ชิดเพียงนั้นด้วย


>>>> จบค่ะ >>>>

:b48: :b8: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 00:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: อนุโมทนาค่ะ :b8:
:b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2010, 23:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b44: :b8: :b8: :b8: :b44:

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2010, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


O ทุกชีวิตมีความตายเป็นเบื้องหน้า
มีพระพุทธศาสนาสุภาษิตว่า "ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต
ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า" แทบทุกคน
เคยได้รับรู้ความหมายของข้อความนี้อยู่ตลอดมาแล้ว
แทบทุกคนเคยพูดออกจากปากตนเองมาแล้วนับครั้งไม่ได้
แม้จะไม่ตรงเป็นคำคำ แต่ก็มีความหมายตรงกัน

O ไม่มีสักคนเดียว ที่จะหนีความตายพ้น
ทุกคนมีความรู้แก่ใจ ว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย
ไม่มีสักคนเดียวที่จะหนีความตายพ้น
แล้วทุกคนมีความได้เปรียบอยู่ประการหนึ่ง ที่มีความรู้นี้ติดตัวติดใจอยู่
แต่แทบทุกคนก็มีความเสียเปรียบอยู่ประการหนึ่ง
ที่ไม่เห็นค่า ไม่เห็นประโยชน์ของความรู้นี้
จึงมิได้ใส่ใจเท่าที่ควร ปล่อยปละละเลย รู้จึงเหมือนไม่รู้
สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์จึงเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า


O ทุกชีวิตมีเวลาอันจำกัด จงอย่าช้า รีบเร่งทำความดี
ทุกชีวิตมีเวลาจำกัด อย่างมากไม่เกิดร้อยปีก็จะต้องละร่างนี้ ละโลกนี้ไป
อย่าผัดวันประกันพรุ่งที่จะทำความดี เพราะถ้าสายเกินไปเมื่อไร
ก็ตนเองนั่นแหละจะต้องได้เสวยผลของการไม่กระทำกรรมดี
ไม่มีผู้ใดอื่นจะรับผลของความดีความชั่วที่ตนเองทำไว้
เจ้าตัวเองเท่านั้น จักเป็นผู้รับผลของความดี ความชั่วที่ตนทำ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 23 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร