วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 00:01  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ภารกิจของหิ่งห้อย


หนังสือธรรมะรอบกองไฟ
โดย ขวัญ เพียงหทัย


เดวิทชะงักนิดหนึ่ง เมื่อเห็นป้ายบนหน้าอกของมันเขาส่ายหน้าระอา พลางหัวเราะเบา ๆ

" เปลี่ยนชื่ออีกแล้วหรือวันนี้ "

เจ้าหุ่นยนต์หัวรูปรักบี้พยักหน้า รับกระเป๋าของเขาไปเก็บแล้วกลับมายืนรอที่ข้างเก้าอี้ยาว ขณะที่เดวิทเดินตรงไปอาบน้ำตามปกตินิสัยของเขา ที่จะต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่กลับถึงบ้าน

ยายบัวสายยกน้ำและของว่างมาตั้งรอที่โต๊ะข้างเก้าอี้ยาวตรงเฉลียง แอร์กำลังเย็นสบาย มองผ่านกระจกเฉลียงออกไป เป็นทะเลสาบของหมู่บ้าน แสงแดดยามเย็นกำลังทอระยิบอยู่บนผิวน้ำ คุณปิรามิดเพื่อนข้างบ้านกำลังเล่นเรืออยู่กับลูกชาย

เดวิทเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้วยท่าทางรื่นรมย์ หยิบขนมฝีมือยายบัวสายเคี้ยวตุ้ย ๆ พลางมองไปทางคุณปิรามิด แต่พูดกับเจ้าหุ่นยนต์

"เอ้า วันนี้แกจะเล่าเรื่องอะไรให้ฉันฟัง เจ้าหิ่งห้อย "

" เจ้านายอยากฟังเรื่องแบบไหนครับ" มันถามเบา ๆ

"นิยาย เราอ่านนิยายกันมาถึง พ.ศ.ไหนแล้วนะ " เดวิทเป็นคนชอบหนังสือ เขาสะสมหนังที่พิมพ์เป็นเล่มจนมีห้องสมุดใหญ่ในบ้าน และมีห้องสมุดในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ที่ซื้อหนังสือโดยให้ทางบริษัทผลิตหนังสือเข้ามาเก็บไว้ในเว็บห้องสมุดของเขาเต็มไปหมด มันเป็นความสุขใจ แต่เขามีมากจนอ่านไม่ไหว และเขามีมากจนอ่านไม่ไหว และเขาไม่ค่อยชอบอ่านเอง หากแต่ชอบให้มีคนอ่านแล้วมาเล่าให้เขาฟังมากกว่า เขารู้สึกมันเร็วดีทันอกทันใจ แม้ว่าคุณปิรามิดจะเคยบอกว่า การอ่านหนังสือด้วยตัวเองนั้น ได้อรรถรส ได้ซาบซึ้ง ได้สัมผัสอารมณ์ดื่มด่ำกว่าก็ตาม แต่เดวิทไม่ค่อยสนใจคำแนะนำนั้น



ดังนั้น เขาจึงซื้อหุ่นยนต์นักเล่ามาตัวหนึ่ง เพื่อให้มันใช้เวลาระหว่างที่เขาไปทำงาน ให้มันอ่านหนังสือแล้วมาเล่าให้เขาฟังเมื่อเขาอยากจะฟัง มันทำงานได้ดีทีเดียว มันเล่าเรื่องได้สนุกมีชีวิตชีวา และไม่ตกหล่นใจความสำคัญใด ๆ แต่เขาสังเกตเห็นว่ามันคงได้รับโปรแกรมทางด้านอารมณ์ความรู้สึกมาด้วย เพราะดูมันจะอ่อนไหวง่าย ไม่รู้ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า ที่ทำให้มันชอบเปลี่ยนชื่อตัวเองบ่อย ๆ จนเขาต้องให้มันติดป้ายบนหน้าอกเพราะจำไม่ทัน ล่าสุดมันคลั่งนิยายอียิปต์ มันก็จะเรียกตัวเองว่าฟาโรห์และเรียกเพื่อนข้างบ้านว่าคุณปิรามิด ซึ่งมันจะตั้งชื่อให้เขาด้วยทุกครั้ง เพราะความที่มันประทับใจในความสม่ำเสมอของเขาที่ออกไปเล่นเรืออยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน

" เรื่องนิยายยอดฮิตประจำปี เราอ่านมาถึง พ.ศ. 2543 แล้ว ครับ ปีนั้นฮิตเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาก เป็นนิยายของแม่มดพ่อมด ตอนเด็ก ๆ ไปเข้าโรงเรียน หัดวิชาพ่อมด แล้วมีการผจญภัย "

" อะไรกัน ตอนนั้นมัน 30 ปีที่แล้ว ปีนั้นเริ่มบ้าอินเตอร์เน็ต"

กันไปเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ ยังฮิตนิยายพ่อมดได้ยังไง

"มันย้อนยุคนะครับ เจ้านาย พ่อมดหายไปนาน" เจ้าหิ่งห้อยพยายามอธิบาย เดวิทพยักหน้าหงึก ๆ

" คงเหมือนแฟชั่นนะ อย่างที่ออฟฟิศของฉัน จะรู้เลยว่าแฟชั่นข้างนอกเขาไปถึงไหนกันแล้ว ดูแค่แม่สาว ๆ พวกนั้นก็ไม่มีวันตกข่าว เมื่อเช้ายายเจเน็ตนุ่งโจงกระเบนกับเสื้อตะเบงมานมาเลยฉันยังแซวว่าข้าศึกบุกมาถึงอยุธยาแล้วหรือยังไง หล่อนค้อนไปสามตลบ" เดวิทหัวเราะตัวโยน

"แล้วแกล่ะ ย้อนยุคกลับไปเป็นสัตว์โลกหรือไง วันนี้ถึงได้ชื่อหิ่งห้อย"

เจ้าหุ่นยนต์น้อยไม่ตอบ มันเริ่มเล่าเรื่อง แฮรรี่ พอตเตอร์ ให้เจ้านายฟัง

ยายบัวสาย กำลังปัดเสื่อชุลมุนอยู่หน้าโต๊ะเล็กในห้องนอน ตอนที่เจ้าหิ่งห้อยโผล่เข้าไปหา "ยาย ทำไร "

" ธูปเทียนมันหล่นลงเสื่อ " แกตอบเบา ๆ " ตกใจ " แกนั่งลงสงบอกสงบใจ แล้วยกมือไหว้รูปพระพุทธเจ้ารูปเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บนผนัง

" นึกไง ไหว้พระ " เจ้าหิ่งห้อยถามเหมือนกระซิบ ยายบัวสายหัวเราะ “ กระซิบทำไม “ แต่มันไม่สนใจ

"นึกไง ไหว้พระ"

"มันเหงา" ยายบัวสายตอบสั้น ๆ " คิดถึงบ้าน คนบ้านนอกเขาคิดถึงบ้านกัน รู้จักไหม คิดถึงบ้าน"

"ฟังชื่อก็รู้แล้วน่าว่าบ้านนอก ถ้าคนกรุงป่านนี้ก็เป็นยายแองเจล่าไปแล้วล่ะ"

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 10:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


เจ้าหิ่งห้อยรู้ดี ไม่ว่าแบงค็อกจะเปลี่ยนไปถึงอวกาศ แต่ชนบทออกไปนั้นก้าวตามมาช้ามากเหมือนในประวัติศาศาสตร์ที่เคยมา แม้ว่าคนแบงค็อกจะเปลี่ยนชื่อเป็นอังกฤษกันไปแล้ว แต่ยายบัวสายจากหนองบัวลำภูก็ยังเหมือนเดิม ยากจน ไม่ได้เรียน และทิ้งนามาหางานทำในเมือง อยู่มาจนแก่ตำตาอยู่ตรงนี้

“ ว่าแต่ไหว้พระแล้วดีไหม ” สุ้มเสียงถามของเจ้าหิ่งห้อยจริงจัง

“ ก็ดี สบายใจ แกรู้จักพระไหมล่ะ “ ยายบัวสายชี้รูปพระพุทธเจ้าบนผนัง เป็นรูปปางตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

“ ฉันอ่านพระไตรปิฎกหมดแล้ว รวมทั้งหนังสือธรรมะของพระดัง ๆ ทุกองค์ที่เคยเขียนไว้ อ่านเกลี้ยงเลยนะ อยากฟังมะ “

ยายบัวส่ายหน้า ยกมือไหว้ท่วมหัว

“ พ่อเจ้าประคู้ณ ยายฟังไม่รู้เรื่องหรอก ยายเรียนหนังสือมาน้อย คงจะฟังไม่เข้าใจหรอก สมัยเด็ก ๆ ย่าเคยพาไปวัด หลวงพ่อเทศน์ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังเอาบุญไปงั้นแหละ ”

เจ้าหิ่งห้อยขยับเข้ามาใกล้ ท่าทางเหมือนมีเรื่องสำคัญ



“ อยากไปสวรรค์ไหม ” ยายบัวสายงง จะขำดีไหม

“ แกถามทำไม” เจ้าหิ่งห้อยยักคิ้ว ยายบัวสายเคยขำว่าคนสร้างหุ่นยนต์อารมณ์ดี สร้างให้มันยักคิ้วได้เป็นการแถม

“ จะบอกวิธีไปสวรรค์ให้ ”

ยายบัวสายหัวเราะออกมาจนได้

“ คนจนไปสวรรค์ไม่ได้หรอก หิ่งห้อยเอ๊ย แกไปบอกคุณนายโน่นไป๊ ท่านมีเงินจะทำบุญเยอะๆ ไปสวรรค์ง่าย“

เจ้าหิ่งห้อยส่ายหน้าหนักแน่น ด้วยการหมุนหัวไปซ้ายรอบหนึ่งไปขวารอบหนึ่ง มันเคยบอกว่าการส่ายหน้าไปมานั่นเป็นการปฏิเสธเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ใช่เลย ต้องหมุนให้รอบจะได้มั่นใจ

“ คุณนายกำลังเล่นอินเตอร์เน็ต กำลังเล่นไพ่อยู่กับบ่อนสิงคโปร์มาตั้งแต่ตอนบ่าย จนป่านนี้ยังไม่ลุกจากโต๊ะเลย อย่างนี้ไม่ได้ไปสวรรค์หรอก แต่ยายน่ะไปได้ เชื่อฉันสิ”

ยายบัวสายตื่นแต่เช้ามืด นั่งสวดมนต์บทที่เจ้าหิ่งห้อยเอามาให้ สวดบูชาคุณพระรัตนตรัย และนั่งสมาธิด้วยใจสงบ ก่อนจะลงไปเตรียมอาหารเช้า โดยมีผู้กำกับหิ่งห้อยคอยตามประกบ ว่าให้ทำอาหารด้วยใจสงบ ห้ามหงุดหงิดคิดฟุ้งซ่าน พอเสร็จยายบัวสายก็แบ่งอาหารนั้นออกมาครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปยืนรอตักบาตรกับพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่ทางหมู่บ้านนิมนต์ให้มาบิณฑบาตทุกเช้า ยายบัวสายดีใจมากที่อย่างน้อยก็มีพระสงฆ์มาโปรดรูปหนึ่ง แกเคยรู้ว่าบางหมู่บ้านก็ไม่มี เพราะพระสงฆ์เหลืออยู่น้อยมาก และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยใส่บาตรกันแล้ว



เจ้าหิ่งห้อยรออยู่ที่ประตูบ้าน ดูยายบัวสายกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแล้วจึงกลับเข้าบ้านพร้อมกัน มันอธิบายว่า เวลาทำบุญต้องตั้งใจให้แน่วแน่และสงบตลอดเวลาทั้งตอนเตรียมอาหาร ตอนตักบาตร และตอนหลังคือกรวดน้ำ ถ้าทำด้วยใจสงบแล้วจะได้บุญมากมาย และต้องมีศรัทธาให้มาก ๆ ว่าทำดีแล้วจะมีผลดีไปรออยู่ในอนาคต แถมมันยังหยอดความจริงที่น่ากลัวมาอีกว่า

“ ยายแก่แล้ว มีเวลาทำบุญไม่มาก รีบ ๆ ทำเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทัน “

ข้อนี้เถียงไม่ออก แต่เจ้าหิ่งห้อยก็ไม่น่าพูดมาก ยังไงยายก็คน ยังกลัวตายอยู่นา แต่เอาเถอะ มันรู้มากกว่าก็ต้องยอมรับมัน เพราะอยากไปสวรรค์ ยายบัวสายจึงพยายามเป็นนักเรียนที่ดี



คุณปิรามิดออกจะแปลกใจที่ระยะหลังไม่เห็นยายบัวสายมาคุยกับมะลิแม่บ้านในตอนบ่ายเหมือนเคย ครั้นสอบถามก็ได้ความว่ายายบัวสายขยันทำงานขึ้น และตอนบ่ายนั่งฟังเทศน์ชองหลวงพ่อหิ่งห้อย พร้อมกับดูแลให้เครื่องรีดผ้ามันทำงานไป

“ เขาจ้างยายมาทำงาน ถ้ายายทำงานดีก็ได้บุญ ถ้ายายอู้งานยายก็ได้บาปที่โกงเขา เพราะเขาไม่ได้จ้างมาอู้ ถ้ายายตั้งใจทำอาหารคนกินเขาอร่อย ยายก็ได้บุญ ยายเห็นไหมว่ายายไม่ต้องใช้เงินเลยคนจนก็ทำบุญได้ตลอดเวลา แค่ยายไม่ไปนั่งฝอยตอนบ่ายก็ได้บุญแล้ว เพราะยายงดเว้นบาปพูดเพ้อเจ้อในศีลห้า ก็ได้บุญแล้ว “

ยายบัวสายยิ้มแก้มปริ นางรู้สึกปลามปลื้มใจขึ้นมาโดยฉับพลัน

“ แถมมาฟังฉันเล่าธรรมะ ยายก็ได้บุญข้อฟังธรรมอีก วัน ๆ ทำบุญได้มากมายหลายเรื่อง “

ยายบัวสายอิ่มเอมมีความสุข หลวงพ่อหิ่งห้อยบรรยายต่อไปด้วยท่าทางสุขุม

“ยายทำแต่สิ่งดี พูดจาดี คิดแต่เรื่องดี ๆ มีเมตตากรุณา ไม่โลภอยากได้ของคนอื่น ไม่ปองร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร เพราะการเบียดเบียนคนอื่นก็เหมือนเราสร้างบาปไว้ ไปรอให้ผลกับตัวเองในวันข้างหน้า “ ยายบัวสายพยักหน้าหงึกหงัก พยายามตั้งใจฟัง

“ บุญนี่ยายทำเอง ต่อไปทั้งชาตินี้และชาติหน้า ยายก็ได้รับผลบุญเอง อันนี้ใครทำให้ก็ไม่ได้ เหมือนยายหิวข้าว ยายต้องกินเอง ถ้าคนอื่นมากินแทนให้ ยังไงยายก็ไม่อิ่ม ยายต้องหิวเป็นลมตาย”

ยายบัวสายหน้าเสียลงไปหน่อย “ งั้นยายก็คงได้บุญน้อยใช่ไหม เพราะยายเพิ่งจะมาทำบุญ “ เจ้าหิ่งห้อยส่ายหน้าแบบหัวหมุนกลับ ยายบัวสายอยากให้มันทำซ้ำอีก 3 รอบ

“ ฉันบอกแล้วไง ทำดี พูดดี คิดดี จะได้บุญ ส่วนการทำบุญตักบาตรถึงทำน้อย แต่ตั้งใจมาก ก็ได้บุญมาก เหมือนเวลายายเอามะม่วงลงไปในดินเม็ดเดียว แล้วคอยตั้งใจรดน้ำพรวนดินอยู่เรื่อย ต่อไปยายก็ต้องได้ต้นมะม่วง แล้วต่อไปมันก็จะให้ลูกมะม่วงเป็นร้อย ๆ “

ยายบัวสายยิ้มแฉล้ม

“ สวดมนต์เสร็จ ยายอธิษฐานกับพระนะ ว่าให้ได้ไปเกิดในสวรรค์ หรือเกิดในที่ดี ๆ แล้วมีโอกาสทำบุญมากกว่านี้ เข้าใจธรรมะมากกว่านี้ ยายก็จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนที่ยายจะได้ลูกมะม่วงเยอะ ๆ ไง “

ยายบัวสายเผลอยกมืดขึ้นไหว้ท่วมหัว ด้วยความประทับใจในคำบรรยายของหลวงพ่อหิ่งห้อย

“ใครว่าเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเราอยากไปเกิดในที่ดี ๆ เกิดเป็นคนมีบุญ ตอนนี้เราก็สร้างบุญเอาไว้เป็นเหตุ พอเรามีเหตุดี เราก็ต้องไปรับผลดีแน่นอน ได้ไปเกิดในที่ดีแน่นอน จริงไหมยาย “

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 10:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


คุณปิรามิด ซึ่งเดี๋ยวนี้เจ้าหิ่งห้อยเรียกเขาว่า คุณพุทธคยามาช่วยงานทั้งที่บ้านและที่วัดให้กับเดวิท เนื่องจากคุณนายแม่ของเดวิทได้เกิดอาการหัวใจวาย ขณะเล่นการพนันทางอินเตอร์เน็ต กับบ่อนในลาสเวกัส เดวิทไม่ค่อยสันทัดกับการจัดงานเท่าไหร่ จึงรู้สึกเบาใจที่คุณพุทธคยามาช่วยติดต่อบริษัทรับจัดงานศพ และช่วยในการส่งบัตรเชิญทางอี-เมล์ พร้อมสารแสดงความเสียใจมากมาย พร้อมกับภาพพวงหรีดทางหน้าจอ ซึ่งเจ้าหิ่งห้อยมีหน้าที่เก็บไว้เพื่อเอาไปฉายบนจอหน้าศาลาสวดศพ

ภายในงานมีการเปิดเทปสวดพระอภิธรรมภาษาอังกฤษ โดยมีพระสงฆ์เพียงรูปเดียว คอยเดินเวียนไปตามศาลาต่าง ๆ เพื่อรับปัจจัยทำบุญที่เจ้าภาพจัดถวายให้วัด

ความที่เดวิทไม่ค่อยคุ้นกับงานพิธี เขาจึงรู้สึกโกลาหลอยู่ตลอด 3 วันของงาน พิธีการต่าง ๆ ในงานนั้นเมื่อจัดงานใหญ่ก็จะมีความซับซ้อน วุ่นวาย ธรรมเนียมต่าง ๆเพิ่มมามากขึ้นๆตามกาลเวลาจากอดีตจนปัจจุบัน สะสมมาเรื่อย ๆ จนลูกหลานหัวหมุนเมื่อปฏิบัติ ตอนบ่ายของวันสุดท้ายมีการเลี้ยงอาหารแก่แขกจำนวนมากเป็นมื้อใหญ่ เป็นการทำบุญทำทานแทนการเลี้ยงพระ เนื่องจากพระไม่ค่อยมี ต้องใช้บาตร 100 ลูกมาวางเรียงแล้วถวายปัจจัยทำบุญลงในบาตรพระ เพื่อรวบรวมไปให้สมาคมสงฆรักษ์ ซึ่งจะส่งต่อไปยังวัดที่กระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ต่อไป นับเป็นการทำบุญใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ

เจ้าหิ่งห้อยยืนสงบอยู่ข้างหลังเจ้านาย เดวิทเอ่ยกับมันอย่างเหน็ดเหนื่อย

“เสร็จพิธีแล้วนะ เย็นนี้หลวงพ่อก็จะเผา แล้วก็เสร็จ “

เจ้าหิ่งห้อยไม่ได้ตอบคำ

“ปีหน้าวันครบรอบ แกเตือนฉันด้วยนะ เกิดฉันยุ่งลืมทำบุญให้แม่ “

เจ้าหิ่งห้อยพยักหน้าหงึกหงัก เหมือนน้ำมันหล่อลืนที่คอมันฝืด

“ ทำบุญตักบาตรไป คุณนายแม่จะได้กินหรือครับ “

เดวิทส่ายหน้า

“ ไม่รู้หรอก คงได้มั้ง ก็เขาทำกันมา “

“ เจ้านายกินข้าววันละ 3 มื้อ แล้วคุณนายแม่กินข้าวปีละมื้อเดียว ไม่หิวแย่หรือครับ “

ถ้าเดวิทได้รู้ว่า เจ้าหิ่งห้อยอ่านพระไตรปิฎกมาแล้ว มันอาจจะได้รู้จักคำว่าถูกเตะ

“ เออน่ะ แกว่าวันนี้แม่ได้บุญเยอะไหมวะ “

เจ้าหิ่งห้อยไม่ตอบ มันรู้ว่าถ้ามันตอบว่าวันนี้คุณนายแม่ไม่ได้บุญ มันคงถูกเตะ

เจ้าหิ่งห้อยนึกเสียดายวันเวลาของคุณนายแม่ ที่ช่วงวัยชราเพลิดเพลินไปกับการเล่นไพ่ข้ามทวีปไปทุกบ่อนทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่มีความรู้ มีปัญญา และมีเงินทองพอที่จะประกอบกรรมดีแก่ตัวเองได้มากมาย การมีพระไตรปิฎกในคอมพิวเตอร์ แต่ไม่เคยศึกษา ไม่เคยปฏิบัติ ก็ไม่มีประโยชน์แก่ตัวเองเลยแม้แต่น้อย



ยายบัวสายอ่อนแรงเพราะร้องไห้ ถึงอย่างไรคุณนายก็ออกจะดีกับนาง จนอดใจหายเมื่อจากไปไม่ได้ เจ้าหิ่งห้อยเฉยเมยจนนางหมั่นไส้ แต่หยิกมันไม่ได้ เพราะมันไม่มีเนื้อ มีแต่เหล็ก

“ถ้ายายตาย หิ่งห้อยจะทำบุญให้ยายไหม “ มันส่ายหน้าเล็ก ๆ ยายบัวสายเพ่งมอง อย่าส่ายหน้าไปเกินจมูกกระดิกเชียวนะ

“บุญยายทำไว้ ยายจะได้รับเอง ไม่ต้องรอใครทำส่งไปให้ถึงฉันใส่ให้ก็จริง แต่ยายอาจไม่ได้รับ “

ยายบัวสายถอนใจยาว ๆ

“ ได้รับหรือไม่ได้รับ ยายก็จะใส่บาตรทำบุญไปให้คุณนายกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน “

“ยายควรทำอย่างนั้น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น ก็เป็นบุญอย่างหนึ่ง ยายจึงควรทำ “

“สาธุ เออ…ค่อยเป็นพวกเดียวกันหน่อยนะแก “ ยายบัวสายอยากจะค้อนเจ้าหิ่งห้อยมันสักวงหนึ่ง นึกขึ้นมาได้ “ เออ…. แกว่าคุณนายจะไปสวรรค์ไหม เจ้าหิ่งห้อย “ เจ้าหุ่นยนต์น้อยนิ่งเงียบไปนาน ก่อนจะตอบว่า “ ใครทำอะไรไว้ ก็ได้อย่างนั้นแหละ คุณนายก็คงเคยทำดีมาบ้างกระมัง ใช่ไหมยาย เราไม่รู้หรอกมีคุณนายคนเดียวที่รู้ “

ปีต่อมา ยายบัวสายก็ล้มป่วย เจ้าหิ่งห้อยซึ่งยังไม่ได้เปลี่ยนอีกเลย ได้คอยเฝ้าดูอาการ ยายบัวสายป่วยแต่กาย จิตใจกลับสงบนิ่ง และเต็มไปด้วยศรัทธาในความดีงามที่ตนปฏิบัติอย่างเข้มงวดมาตลอด นับตั้งแต่หลวงพ่อหิ่งห้อยชี้ทาง นางพยายามทำความดี เว้นการทำชั่วทุกชนิด และรักษาใจให้สงบ มีธรรมะอยู่เสมอ สวดมนต์ภาวนาอย่างดื่มด่ำ เชื่อมั่นในกรรมและการให้ผลของกรรม นางรู้สึกสุขสงบ และมีความหวังถึงชีวิตหน้าที่ดีงาม จนนาทีสุดท้ายของชีวิต เจ้าหิ่งห้อยกระซิบบอกที่ข้างหูให้นึกถึงบุญที่ทำ และบอกให้แกรับรู้ว่าคนจนอย่างแกหอบเอาบุญไปด้วยมากมาย

เดวิทไม่ได้จัดการอะไรในการจากไปของยายบัวสาย เจ้าหิ่งห้อยรับอาสาติดต่อเจ้าอาวาสมารับศพไปเผา โดยเดวิทยินยอมจ่ายค่าดำเนินการให้ เขาปรารภว่า

“แย่หน่อยนะ ญาติก็ไม่มีมาจัดงานเลย อย่างนี้จะเอาบุญจากที่ไหน พรุ่งนี้แกไปตักบาตรให้ยายเขาหน่อยสิหิ่งห้อย “

เจ้าหิ่งห้อยหมุนหัวไปรอบหนึ่ง

“ ไม่ทันแล้วครับเจ้านาย ยายไปเกิดในสวรรค์แล้วครับ นางฟ้าเขาอิ่มทิพย์ แต่พรุ่งนี้ผมก็จะไปตักบาตรให้ตามที่เจ้านายสั่งจะได้ส่งบุญไปให้ “

“ เออ ดีแล้ว “ เขาพยักหน้าหงึก ๆ มองเจ้าหิ่งห้อยด้วยความฉงนในสิ่งที่มันพูด มันคงเอามาจากหนังสือ ก็มันมีหน้าที่อ่านหนังสือ หุ่นยนต์มันจะไปรู้อะไร

“ เออ ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นแกเปลี่ยนชื่อเลย เปลี่ยนนิสัยแล้วหรือไง”

“ เปล่าครับ ผมยังทำหน้าที่ของหิ่งห้อยอยู่ ก็เลยยังใช้ชื่อนี้อยู่ครับ “ มันยักคิ้ว เดวิทรู้สึกเวลามันยักคิ้ว เท้าของเขามันคอย

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 10:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


เดวิทไม่ได้จัดการอะไรในการจากไปของยายบัวสาย เจ้าหิ่งห้อยรับอาสาติดต่อเจ้าอาวาสมารับศพไปเผา โดยเดวิทยินยอมจ่ายค่าดำเนินการให้ เขาปรารภว่า

“แย่หน่อยนะ ญาติก็ไม่มีมาจัดงานเลย อย่างนี้จะเอาบุญจากที่ไหน พรุ่งนี้แกไปตักบาตรให้ยายเขาหน่อยสิหิ่งห้อย “

เจ้าหิ่งห้อยหมุนหัวไปรอบหนึ่ง

“ ไม่ทันแล้วครับเจ้านาย ยายไปเกิดในสวรรค์แล้วครับ นางฟ้าเขาอิ่มทิพย์ แต่พรุ่งนี้ผมก็จะไปตักบาตรให้ตามที่เจ้านายสั่งจะได้ส่งบุญไปให้ “

“ เออ ดีแล้ว “ เขาพยักหน้าหงึก ๆ มองเจ้าหิ่งห้อยด้วยความฉงนในสิ่งที่มันพูด มันคงเอามาจากหนังสือ ก็มันมีหน้าที่อ่านหนังสือ หุ่นยนต์มันจะไปรู้อะไร

“ เออ ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นแกเปลี่ยนชื่อเลย เปลี่ยนนิสัยแล้วหรือไง”

“ เปล่าครับ ผมยังทำหน้าที่ของหิ่งห้อยอยู่ ก็เลยยังใช้ชื่อนี้อยู่ครับ “ มันยักคิ้ว เดวิทรู้สึกเวลามันยักคิ้ว เท้าของเขามันคอย จะยักตามด้วยความหมั่นไส้

“หน้าที่อะไรของแก “

“ ก็คอยส่องแสงเล็ก ๆ ให้กับคนที่อยากมองเห็นทางเล็ก ๆ ในความมืดอันกว้างใหญ่ไพศาล ดุจดังความมืดในจักรวาล “

“พอ พอ พอเลย ไอ้สำนวนของแก ไปได้แล้ว “ เดวิทโบกไม้โบกมือ



เจ้าหิ่งห้อยมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้านายของมัน

“ เจ้านายครับ ผมรู้ว่าเจ้านายซื้อผมมา ผมพยายามอ่านหนังสือที่เจ้านายชอบ และเล่าให้ฟังสนุกให้เจ้านายเพลิดเพลิน แต่ผมอยากจะลาออก เจ้านายมีเงินเยอะ คงจะไม่เป็นไรถ้าซื้อตัวใหม่มา เดี๋ยวนี้มือสองก็ไม่แพง เพราะเขาเปลี่ยนโปรแกรมเร็วและพวกโปรแกรมหุ่นยนต์อ่านหนังสืออย่างผม มันมีคนต้องการน้อย เพราะฉะนั้น มันจะค่อนข้างเอี่ยมอ่อง บางทีอ่านให้ฟังสองสามเล่ม เขาก็เบื่อขอเปลี่ยนโปรแกรมเป็นไปท่องอวกาศกันแทน เอาหุ่นยนต์ไว้เล่าเรื่องอวกาศและคอยไปเป็นเพื่อนคู่หูเวลาไปเช่าขับยานอวกาาศที่ศูนย์จักรวาลจำลอง ตอนนี้กำลังฮิตกาแล็กซีใหม่ ๆ กันมาก “

เดวิทงง มันพูดเยอะและเร็ว ไม่มีช่วงเบรก

“แล้วแกจะทำอะไร “

เจ้าหิ่งห้อยยืดอกและผายมือ ทำท่าเหมือนนักร้อง

“ผมจะไปอยู่ที่วัด นั่งที่ศาลาฟังธรรม แล้วคอยเทศน์ให้คนที่มาวัดฟัง เพราะคนที่มาวัด มาด้วยความทุกข์ใจ “

เดวิทส่ายหน้า “ มีคนไปวัดกี่คนกัน “

“นั่นแหละครับยิ่งดี ยิ่งมีมาน้อยคน แสดงว่าคนที่มานั้นทุกข์เต็มที่ และผมก็เป็นเพียงหิ่งห้อยน้อย มีแสงไม่มากพอที่จะสว่างกระจ่างทั้งโลกาแบบพระจันทร์ ผมช่วยคลายทุกข์ให้ครั้งละคนก็พอใจยิ่งแล้วครับเจ้านาย
สมชื่อหิ่งห้อยของผม “

“ แล้วแกจะเอาอะไรไปช่วยคลายทุกข์ให้เขา แฮร์รี่ พอตเตอร์ น่ะเหรอ แกได้เวทมนตร์คาถามาจากในหนังสือเหรอไง “

“ เปล่าครับ เจ้านาย “ เจ้าหิ่งห้อยหมุนหัว 3 รอบ

“ผมรู้พระไตรปิฎกทั้งหมดแล้วครับ รวมทั้งคำสอนจากท่านอาจารย์เก่ง ๆ ทั้งหลาย ผมเข้าไปในหมวดธรรมะทั้งหมด ถึงผมจะเป็นหุ่นยนต์ไม่อาจรู้สึกได้ว่าทุกข์คือยังไง แต่ผมรู้ว่าคนที่เขาทุกข์ เขาเป็นยังไง และจะคลายยังไงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า “

เดวิทอึ้ง เขานึกไม่ถึงว่าเจ้าหิ่งห้อยจะมีพุทธิปัญญาถึงเพียงนี้ มันเป็นเพียงหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเท่านั้นนี่นา ทำไมมันคิดเองเป็นด้วยขนาดเขามีห้องสมุดส่วนตัวถึงสองประเภท เขายังไม่เคยคิดจะอ่านพระไตรปิฎกหรือธรรมใด ๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่พ.ศ. 2542 เลย อย่าว่าแต่จะรู้ไปเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น แม้แต่จะเพื่อใช้กับตัวเองก็ยังไม่เคยอยากรู้

“ ทำไมแกอยากไป…เทศน์ “

เจ้าหิ่งห้อยทำท่านักร้องอีก

“ พระพุทธเจ้าสอนว่า เราควรช่วยเหลือเกื้อกูล มีเมตตาต่อผู้อื่น ให้มีความเมตตานั้นมากเหมือนกับแผ่นดินที่ขุดไม่มีวันหมดผมประทับใจมาก ผมอยากเป็นแผ่นดินที่ใคร ๆ มาขุดไม่มีวันหมดผมอยาก..”

“ พอ พอ พอแล้ว ตกลงฉันจะให้แกไปก็แล้วกัน “ เดวิทโบกไม้โบกมืออีก

“ขอบคุณครับเจ้านาย ที่ให้โอกาสหิ่งห้อยตัวน้อยนี้ได้ทำประโยชน์มหาศาลแก่ตัวเอง ในอันที่จะเผยแพร่ธรรมะ เพื่อ…”

“ฉันบอกว่าพอแล้วไง รึจะให้เปลี่ยนใจไม่อนุญาต “

เจ้าหิ่งห้อยรีบเงียบเสียงลงทันที มันยักคิ้ว 3 ครั้งให้กับตัวเองอย่างดีใจ

............................
^-^ (จบ ภารกิจของหิ่งห้อย) ^-^

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 เม.ย. 2010, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

:b43: บันทึกท้ายเล่ม :b43:



ท่านสุเมโธภิกขุ พระฝรั่งลูกศิษย์หลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นเจ้าอาวาสวัดไทยในลอนดอน เคยเทศน์ไว้ว่า

“ ขอให้คนไทยปฏิบัติธรรม ให้สมกับที่มีศาสนาพุทธเป็นของดีที่สุดในเมืองไทย ถ้าเราไม่สนใจ ก็น่าเสียดายมาก เพราะที่เมืองฝรั่งไม่มีโอกาสอย่างนี้ “

ท่านชาคโรภิกขุ พระฝรั่งลูกศิษย์หลวงพ่อชาอีกคน เป็นเจ้าอาวาสวัดไทยในออสเตรเลีย เมื่อเทศน์ให้คนไทยฟังแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยฝากลูกชายมาบวช 15 วัน ท่านไม่รับ บอกว่าน้อยไป

“คนที่มาบวช ต้องตั้งใจไว้อย่างน้อย 5 ปี ถ้าตั้งใจไว้ 1 ปีก็ให้บวชเณร ถ้าตั้งใจไว้น้อยกว่า 1 ปีก็ให้เป็นผ้าขาว นุ่งขาวอยู่ในวัดนี้ บวชไม่ใช่เรื่องง่ายนะ อาตมาถือพระวินัย ต้องปฏิบัติ ยากมากนะ ยอมตายไหม บวชแล้วเป็นลูกอาตมานะ ไม่ใช่ลูกโยม โยมจะมายุ่งไม่ได้นะ “

ฟังแล้วชื่นใจ รู้สึกว่าการเข้าหาศาสนาเป็นเรื่องน่าเลื่อมใส เป็นการปฏิบัติที่มีจุดมุ่งหมายและแตกต่างจากชีวิตภายนอก และแม้คนที่ไม่ได้บวช ก็ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเอาใจใส่ เพื่อ

ให้ปฏิบัติได้ถูกต้อง ถ้าคนไทยเราตระหนักได้ในเรื่องนี้ บ้านเมืองของเราจะสงบสุขสักเพียงไหน ชีวิตของเราจะแช่มชื่นสักเพียงใด

ฉันขอเชิญชวน ให้ท่านผู้อ่านหันมาศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าด้วยกัน หลังจากอ่านหนังสือเล่มแล้ว ปัจจุบันมีหนังสือธรรมะมาก หาได้ง่ายกว่าสมัยก่อน ส่วนเทปของอาจารย์ทั้งหลายแม้จะไม่ใสปิ๊งเหมือนเทปเพลง ต้องใช้ความตั้งใจมากแต่ก็ได้ประโยชน์มาก

การศึกษาธรรมมีหลายแนวหลายสำนัก การเข้าศึกษาก็ต้องเลือกให้ถูกทางด้วย มิฉะนั้นก็จะพาเราหลงไปวนอยู่ในวังวนของชีวิตอย่างเดิม ไม่ได้ออกไปไหน การจะรู้ว่าถูกทางหรือไม่ ก็ดูที่ตัวเรานี่เอง ถ้าฟัแล้วเรานำมาใช้ดับทุกข์ในใจของเราได้จริง ก็นับว่าใช้ได้ ถ้ายังรู้สึกทุกข์อยู่ ก็ต้องพิจารณาแล้ว

คนที่ศึกษาและปฏิบัติ จะรู้สึกถึงร่มธรรมอันเย็นได้ในเวลาไม่นานนัก ชีวิตจะสงบลง จะได้พบคนดี ความวุ่นวายค่อย ๆ หายไป มีเรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต

หลวงพ่อพุทธทาส ท่านให้หลักว่า

“ถ้ายังไม่สามารถช่วยตัวเองให้มีความสงบสุขอยู่ได้ ในท่ามกลางกองเพลิงแล้ว ก็ยังไม่เรียกว่ามีศาสนา เพราะคำว่าศาสนาหมายถึงเครื่องป้องกันที่มีผลจริง ๆ ที่จะให้อยู่ในท่ามกลางสิ่งที่จะทำให้เกิดความทุกข์นี้ได้ โดยไม่ต้องมีความทุกข์ คือให้ความทุกข์นั้นมันเป็นหมันไป ไม่มาแตะต้องเราได้ อย่างนี้จึงจะเรียกว่ามีศาสนา “

สำหรับแนวทางที่ฉันเลือก ก็คงแสดงไว้ตลอดเล่มนี้อยู่แล้วหากท่านผู้อ่านจะศึกษาเส้นทางนี้ ก็จะติดตามได้ดังนี้

งานของหลวงพ่อพุทธทาส และหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุมีทั้งเทปและหนังสือ ที่วัลชลประทานรังสฤษฐ์ ปากเกร็ด นนทบุรี หนังสือชื่อ “ ศิลปะการดำเนินชีวิต “ ของหลวงพ่อพุทธทาส เป็นหนังสือเริ่มต้นที่ดีมาก

งานของอาจารย์ วศิน อินทสระ ท่านเขียนหนังสือไว้ 95 เล่มแล้ว หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป และร้านหนังสือของมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำพู กรุงเทพฯ ทุกวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ต้นเดือน เวลา 10.15 – 12.30 น. ฟังฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

สำหรับในร้านขายหนังสือ หนังสือที่ฉันเลือกคือหนังสือ ของหนังสือของหลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

งานบุญตามวัด ท่านสามารถไปร่วมกิจกรรมได้ดังนี้

วัดชลประทานรังสฤษฎ์ ปากเกร็ด นนทบุรี มีกิจกรรมวันอาทิตย์ตอนเช้า 9.00 น. สวดมนต์ 9.30 – 10.30 น. มีบรรยายปาฐกถาธรรม หลังจากนั้น ถวายเพลพระสงฆ์ ที่ลานหินโค้ง

วัดพุทธปัญญา ข้างกระทรวงสาธารณสุข อ.เมือง นนทบุรี โทร.
0 – 2526 – 4914 ทุกวันเสาร์ ทำวัตรสวดมนต์ ปาฐกถาธรรม ใส่บาตร ถวายสังฆทาน 9.00 – 12.00 น.

วัดสุทัศน์เทพวรารามฯ เสาชิงช้า กรุงเทพฯ จัดให้มีการสวดมนต์ภาคกลางคือทุกคืน ตั้งแต่ 19.00 น. ถึง 21.00 น. เป็นบรรยากาศที่สงบมาก สวดมนต์ในโบสถ์ใหญ่ ต่อหน้าพระศรีศากยมุนี พระประธานองค์ใหญ่สีทอง งดงามมาก ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นที่พึ่งทางใจอย่างดี

ท่านที่มีเวลาว่างไม่แน่นอน สามารถโทรศัพท์ไปที่สายพุทธธรรม 0-2662-3111 เพื่อเลือกฟังบทพุทธธรรม ได้ตามเวลาสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และหากต้องการสารบัญพุทธธรรมรายเดือน สามารถเปิด E – mail Address: Sbdd 2544 @hotmail.com ด้วย Password : s6623111



.....
รสแห่งธรรม ย่อมชนะรสทั้งปวง
ความยินดีในธรรมทั้งปวง ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง
ความสิ้นตัณหา ย่อมชนะทุกข์ทั้งปวง



ในทางโลก มี สิ่งที่ มี
ในทางธรรม มี สิ่งที่ ไม่มี

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

:b8: :b8: :b8:



^-^ (จบ บันทึกท้ายเล่ม) ^-^

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 27 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร