วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 07:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2010, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 11:50
โพสต์: 25

แนวปฏิบัติ: ดูลมหายใจ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ ถักโครเชต์ ฟังธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: มีเยอะจนบอกไม่ได้
อายุ: 0
ที่อยู่: somewhere over the rianbow

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้มีหนังสือดี ๆ มาแนะนำให้อ่านเจ้าค่ะ อิ ๆ :b16:
แต่ว่าหนังสือมันค่อนข้างจะเก่ามากแล้ว หาซื้อยาก เลยขออนุญาตเอามาแปะให้อ่านกันนะคะ


ตอนแรกว่าจะ scan แล้วเอามาแปะ แต่อันตัวข้าพเจ้ากำลังเปื่อยอยู่
อยู่กับอุปกรณ์ electronic มาก ๆ ไม่ค่อยจะได้ ( มันกินพลังวิญญาณ )
เลยขออนุญาตพิมพ์ให้อ่านแล้วกันนะคะ



เอาหน้าปกมาแปะให้ดูก่อน เป็นการเรียกน้ำย่อย :b28:

รูปภาพ



ข้าพเจ้าอาจจะพิมพ์ไม่หมดทุกตอนในหนังสือ
ขออนุญาตคัดเอามาเฉพาะตอนที่อ่านแล้วมันรู้สึกโดนใจ :b34:









คำโปรยจากปกหลัง


หากใครคิดว่าธรรมะเป็นเรื่อง
ยากแก่การเข้าใจ
ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูก่อน
เพราะการนำเสนอแนว
บะหมี่สำเร็จรูปแบบหิวเมื่อไร
ฉีกซองกินได้ทันทีนั้น
ดูจะเหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน
อีกทั้งยังสามารถแก้อาการ
อ่อนเพลียละเหี่ยใจ
อ่านน้อยเป็นยาระบาย
อ่านมากเป็นยาถ่าย


แนวการเขียนของพี่มหานั้น
ถือว่าหาตัวจับยาก เพราะเกรงจะ
อาบัติปาราชิกไปเสีย
ส่วนจะเป็นมหาเปรียญไหน
หรือมหาประลัย
อันนี้ต้องลองอ่านดูกันเองละครับ


หมอ - ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์




แดดสดใสบ่ายวันเสาร์ทำให้อยากซักผ้า
งานเขียนของกระบี่ไม้ไผ่ทำให้อยากทำความดี


ทินกร หุตางกูร




ผมรู้จักตัวของกระบี่ไม้ไผ่ที่ดูเรียบ ๆ ง่าย ๆ และช่างคิด
เขาเป็นคนหนุ่มที่ดูเหมือนจะล่วงหน้าไปก่อนวัย
ความล่วงหน้าดังกล่าวอาจจะทำให้ชีวิตจืดชืด
แต่กระบี่ไม้่ไผ่ก็ได้รู้อะไร ๆ มากกว่าคนหนุ่มวัยเดียวกัร
อันเป็นประโยชน์ต่อชีวิตเขาและผู้อื่น




นอกจากตัวจริงๆ แล้ว ผมยังรู้จักตัวตนของเขาจากงานเขียน
พอรู้จักไม่เคยสงสัยสักครั้งว่า
กระบี่ไม้ไผ่คิดอย่างที่เขียนหรือเปล่า
หรือทำอย่างที่คิดบ้างไหม



เขาไม่ใช่นักเขียนใหญ่
แต่สิ่งที่เขาคิดและเขียนใหญ่โตทีเดียว
เราจะพูดว่าอุดมคติและศรัทธาเป็นเรื่องเล็ก ๆ ได้อย่างไร




วิรัตน์ โตอารีย์มิตร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.ค. 2010, 12:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2010, 11:50
โพสต์: 25

แนวปฏิบัติ: ดูลมหายใจ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ ถักโครเชต์ ฟังธรรมะ
สิ่งที่ชื่นชอบ: มีเยอะจนบอกไม่ได้
อายุ: 0
ที่อยู่: somewhere over the rianbow

 ข้อมูลส่วนตัว


ลืมตา :: ปีใหม่ของแมงมุม


เมื่อถึงวันหยุดต่อเนื่อง สายตาคนเมืองใหญ่แห้งผาก
อาศัยความสังเกตเพียงเล็กน้อย ก็จะเห็นว่าผู้คนบนรถเมล์ที่แล่นไปในถนนอันว่างเปล่า
ตกอยู่ในอาการเหม่อลอยเล็ก ๆ แลดูโดดเดี่ยว
เหมือนฟ้องว่าอารมณ์คนเมืองในวันหยุดนั้นช่างอ้างว้างเหลือเกิน

จู่ ๆ สายพานที่วิ่งอยู่ทุกวันก็หยุดวิ่งเสียดื้อ ๆ
ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลไปนอกเมืองเหมือนน้ำลงในคืนเดือนแรม
วูบหายไปจากตลิ่งจนเกิดช่องว่างทางความมีอยู่

สัมผัสได้ทั้งทางกายภาพและความรู้สึกภายใน
ในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน อบอวลไปด้วยการเฉลิมฉลองและบันเทิงเริงรมย์นั้น
สำหรับคนหลงฝูงแล้วมันเป็นความแปลกแยกประการหนี่ง

ผู้คนที่เนืองแน่น ภาวะแย่งอยู่แย่งกิน เบียดเสียดแก่งแย่งแข่งขันนั้น
เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นซ้ำซาก จนกลายเป็นความคุ้นเคยของคนจำนวนมาก
ขึ้นรถก็เปิดเพลง - ถึงบ้านก็เปิดโทรทัศน์ทันที
หลังแดดผีตากผ้าอ้อมลับไปก็ซุกหน้าเข้าหาจอคอมพิวเตอร์ หาคนมาเห่กล่อม
ผูกใจไม่ให้กระเจิดกระเจิง
เมื่อความปกติย่างกรายมาพร้อมกับความเงียบ จิตที่ไม่คุ้นเคยจึงไม่มีที่ยึดเหนี่ยว


จะผ่านพ้นวันเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร
จะกินที่ไหน ทำอะไร ไปกับใคร ล้วนเป็นปัญหา

ว่าไปแล้วการดำรงอยู่ของคน ๆ หนึ่งนั้น ช่างไม่ผิดอะไร เหมือนกับแมงมุม


แม้มีขาเพียง 2 ขา แต่คนเราก็ประคองตัวอยู่บนเส้นใยบาง ๆ
ที่ตนเองถักทอขึ้นมาเป็นข่ายรายรอบตนเอง
ข่ายนั้นสร้างขึ้นจากใยแห่งความคิดคำนึงของตนเอง ที่มีต่อโลกและผู้คน
และของคนอื่นที่ทำให้เชื่อให้คิดว่ามันมีอยู่จริง
ไม่ผิดอะไรกับแมงมุม 8 ขา ที่พ่นใยถักทอไว้ล่อให้เหยื่อมาติดกับ
ขณะที่รอเหยื่อมันก็เป็นเหยื่อของสิ่งที่มองไม่เห็น
วางกับดักคนอื่นแต่ก็ติดกับตัวเอง




พระอาจารย์ชา สุภัทโท ท่านก็ว่าแมงมุมขึงข่ายของมันไว้เหมือนจอหนัง
ทำเสร็จก็เก็บตัวเงียบเฝ้ารอแมลงบินมาติด
เมื่อข่ายสะเืทือน มันก็วิ่งออกไปจับแมลงเหล่านั้นกินเป็นอาหาร
กินแล้วก็กลับมาเก็บตัวอยู่กลางตาข่ายเหมือนเดิม
ข่ายสะเทือนอีกก็วิ่งออกไปอีก

ท่านเห็นแล้วคิดว่า ข่ายของมนุษย์ก็คือ อายตนะทั้ง 6
หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ
ส่วนที่อยู่ตรงกลางคือ ใจ ที่เหลือแผ่ออกไปเหมือนข่ายของแมงมุม
พอรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัา มา
มันก็จะสะเทือนไปถึงใจ


ท่านว่า คนเราต้องอยู่ด้วยความมีสติ สัมปชัญญะ
อยู่ด้วยปัญญา ไม่ใช่เพลินไปตามอารมณ์ ๆ ใดผ่านเข้ามา
จับมันไว้ แล้วเอาไปไว้ให้ถูกที่ ให้เห็นว่ามันเป็นทุกข์
ไม่อาจจะยึดมั่นถือมั่น เกิดอะไรขึ้นก็มั่งคงไม่หวั่นไหว




แม้วันขึ้นปีใหม่จะเป็นเพียงหลักไมล์แห่งความสมมติ
แต่สมมติแห่งวันปีใหม่นั้นมีความหมายมากมายนัก
มากพอขนาดต้องไปบำบัดความอ้างว้างโดยอยู่ร่วมกับฝูงชน
และมีไม่น้อยที่ติดกับอยู่ในข่ายแห่งความคิดคำนึง
จึงไม่อาจก้าวข้ามความเปลี่ยวเหงาเพียงลำพัง


ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งบอกเล่าถึงเหตุการณ์ในวันคริสต์มาส
ของผู้คนในเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องร้าย ๆ
ผู้คนเย็นชาใส่กันและความท้อแท้ปกคลุมอยู่ทุกซอกซอย

ซานตาคลอสซึ่งสวรรค์ส่งมาทำหน้าที่ปลุกคนในรื่นเริงกับเทศกาลนี้ ก็เงียบหายไป
ตั้งแต่วันคริสต์มากในปีก่อน
เดือดร้อนสวรรค์ต้องส่งนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว กลับคืนมายังโลกมนุษย์
เพื่อตามหาซานต้า


หลังตะลอน ๆ ไปทั่ว ในที่สุดเขาก็พบซานต้านั่งเมาแอ๋อยู่ในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
ซานต้าหมดฤทธิ์ เพราะบรรยากาศด้านมืดของผู้่คนในเมืองนั้น
ครอบงำเขาเสียจนเวทมนตร์
ที่เคยทำให้ผู้คนต้องรอคอยวันคริสต์มาสนั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป
เขาพยายามพูดจาหว่านล้อม
ให้ซานต้ากลับมามีความเชื่อมั่นในด้านดีอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไร้ผล

แต่สุดท้าย
ซานต้าก็กลับมาเป็นซานต้าคนเดิม
เวทมนตร์ที่เคยทำให้คนรื่นรมย์ก็กลับมาทรงอานุภาพอีกครั้งหนึ่ง

มันเริ่มง่าย ๆ จากการสร้างแรงบัันดาลใจ ให้ใครบางคนตื่นขึ้นด้วยมนต์แห่งคริสต์มาส
แล้วความรู้สึกนั้นก็แผ่ซ่านต่อเนื่องไปยังผู้คนอื่น ๆ
แล้วเมืองที่มืดทึมก็สว่างไสวขึ้นด้วยแสงไฟ เสียงเพลง
และความสนุกสนาน

ซานต้าบอกเคล็ดลับว่า ความสุขมันก็เหมือนเชื้อหวัด
ลองใครติดเชื้อเข้าไปแล้ว
ประเดี๋ยวมันก็จะแพร่ไปยังคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว

พลบค่ำของวันส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ของปีก่อน
ใครบางคนเดินผ่านหน้าพระลาน
มีชาวต่างประเทศคนหนึ่งแวะเข้ามาถามทางไปร้านอาหารแถวนั้น
พร้อมทั้งถามว่า ช่วงปีใหม่คนไทยไปฉลองกันที่ไหน
พวกเขาพูดคุย แนะนำชื่อและที่มากันคร่าว ๆ
ก่อนจะอำลาด้วยคำว่าเมอร์รีคริสต์มาส

คืนวันนั้นเขาเห็นเพื่อนแปลกหน้าคนเดิมเดินสวนผ่านไป ในถนนสีลมหลายหน
เขาไม่ได้เข้าไปทัก
แต่การมีส่วนช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ให้ใครคนหนึ่งที่จรผ่านมา
หลงวกวนอยู่ท้องถนนอันมืดมิดในคืนที่อาจจะมีความหมายนั้น
ทำให้รู้สึกว่าเขากำลังติดเชื้อหวัดชนิดหนึ่ง

เมื่อหลักไมล์แห่งสมมติยังเป็นแค่ความเข้าใจ มิใช่ความประจักษ์แจ้ง
ข่ายของความนึกคิดยังไม่สะบั้นลงด้วยคมมีดทั้งสาม
แรงจาม เพราะเชื้อหวัดของแมงมุมตัวหนึ่งก็เขย่าข่ายของมัน
สะเทือนไปถึงข่ายอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงอยู่
มันก็ไม่ต่างจากแมงมุมตัวอื่น ๆ คือ ยังติดอยู่ในข่ายของตัวเอง
แม้เชื้อที่ล่องลอยอยู่ มิได้มีแต่ความสุข
แต่มันก็เรียนรู้ว่าเชื้อบางเชื้อ ช่วยให้ตาของมันไม่แห้งผากในบางวัน


แก้ไขล่าสุดโดย ติณณาห์ เมื่อ 07 ก.ค. 2010, 13:51, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 30 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร