วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 12:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


คำนำ(องค์เง็กเซียนฮ่องเต้)
ศีลธรรมในสังคมนับวันได้เสื่อมทรามลง เรื่องกามตัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ได้เพิ่มทวีคูณขึ้น ทั้งนี้เพราะสังคมได้เปิดกว้างขึ้น ภายในครอบครัวผู้เป็นสามีชอบออกไปเที่ยวเตร่หาความสุขทางเพศ ผู้เป็นภรรยาก็มักแอบมีชู้ถือว่าตนมีเสน่ห์ หนุ่มสาวได้รับเอาวัฒนธรรมตะวันตกชอบอ่านหนังสือลามกจนจิตใจหวั่นไหว และชอบดูหนังเอกซ์จนระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงไปประกอบกรรมชั่ว ในที่สุดก็เกิดเรื่องโศกนาฏกรรมขึ้นเป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ศักดิ์ศรีการเป็นมนุษย์ได้มลายสิ้น ได้ก่อคดีข่มขืนจนต้องรับโทษทัณฑ์ในขุมนรก วิญญาณบาปเกี่ยวกับกามราคะมากเป็นอันดับหนึ่ง ผู้กระทำผิดจะไม่สำนึกเชียวหรือ
ทุกวันนี้คนที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์มีอยู่ทุกซอกทุกมุม บ้างก็ทำแบบเปิดเผย บ้างก็ทำแบบลับๆ ล่อๆ ถึงแม้กฎหมายจะเข้มงวด แต่พ่อค้าผู้เห็นแก่ได้ก็แอบค้ากันร่ำไป คนที่ลุ่มหลงในกามารมณ์แห่กันไปอุดหนุนโดยไม่เสียดายเงินทองตลอดจนติดเชื้อ กามโรคลูกหลานพลอยเดือดร้อนไปด้วย ความสุขในครอบครัวขาดความอบอุ่นคดีข่มขืน คดีลามก เห็นได้ในข่าวหนังสือพิมพ์บ่อยๆ จนเสียชื่อเสียเสียงบางรายถึงกับฆ่ากันตาย กามตัณหานี้ทำลายมนุษย์ยิ่งกว่าน้ำที่เชี่ยวกรากหรือสัตว์ที่ดุร้าย โบราณว่า “กามตัณหาเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวงทางแห่งความตายไม่ควรไป” ท่านยังจะไม่เชื่ออีกหรือ!
หนังสือ “คัมภีร์ละกาม” นี้เป็นเพราะข้าฯ เห็นธรรมะของชาวโลกนับวันยิ่งตกต่ำลง สัจจะของวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ อีกทั้งปราณแท้ธรรมชาติ ได้ยึดถือแสงเทียนดุจแสงตะวัน เพื่อเป็นการแก้ไขความเห็นผิดขณะนั้น ได้ลงมาประทับทรงที่สำนัก “ผู่หวู่” ณ เมืองเสฉวนในปีพุทธศักราช 2461 แต่งคัมภีร์ละกามตัณหาขึ้นมา จุดประสงค์เพื่อเตือนชาวโลกให้มีสติ ไม่มุ่งหาความใคร่ หนังสือคัมภีร์ละกามตัณหานี้ได้แพร่หลายมากกว่า 60 ปีแล้ว ผู้อ่านได้กลับเนื้อกลับตัวนับหมื่นแสนบัดนี้ทางสำนักเซิ่นเต๋อ (อริยธรรม) แห่งเมืองไถจงได้เห็นคุณค่าของหนังสือคัมภีร์ นี้ จึงได้พิมพ์แผยแผ่พร้อมกับ “กฎลงโทษผู้กระทำผิดทางกามในเมืองนรก” กับ “ผลกรรมของกามตัณหา” รวมอยู่ในเล่มเดียวกัน และได้อัญเชิญข้าฯ ช่วยเขียนคำนำ ข้าฯ เห็นศรัทธาของพวกเจ้า จึงได้ประทับทรงเขียนคำนำให้
ท่านใดที่เคยผิดศีลประเวณี เมื่อได้อ่านหนังสือนี้แล้ว ตั้งปณิธานบริจาคทรัพย์ร่วมพิมพ์ออกเผยแผ่ จะได้รับการลดโทษหรืออภัยโทษให้ฉะนั้น ข้าฯ จึงวิงวอนชาวโลก เมื่อ่ได้อ่านหนังสือเล่มนนี้แล้ว เกิดหิริโอตตัปปะ ทะเลทุกข์เวิ้งว้างอย่าได้หลงใหลในกามตัณหาอีกต่อไป ตั้งใจละกามบำเพ็ญเพียร หล่อเลี้ยงปราณเดิมให้ดี ไม่เพียงแตะจะหลีกพ้นจากขุมนรกได้ ยังทำให้ปราณแท้เพิ่มพูนอันจะเข้ากับฟ้าดิน ข้าฯ ประทานคำสอนนี้ ใครสามารถปฏิบัติตามได้ ก็จะบรรลุสัมา ข้าฯ หวังอย่างายิ่งที่จะให้สรรพสัตว์หลุดพ้นจากทะเลธารแห่งความใคร่ อยาก และเข้าสู่แดนนิพพานอันศักดิ์สิทธิ์เทอญ
ข้าฯ เง็กเซียนฮ่องเต้
ประทับทรง ณ สำนักเซิ่นเต๋อเป่ากง
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2525


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


คำอนุโทนาของพระอวโลกิเตศวร (พระโพธิสัตว์กวนอิม)
ทุกคนร่วมทุนพิมพ์คัมภีร์ละกาม ความใคร่กามนับจากนี้บรรลัยสิ้น
หมั่นสร้างบุญก่อกุศลเป็นอาจิณ รักษาศีลประพฤติตนชื่อเกรียงไกร

เนื่องด้วยสำนักเซิ่นเต๋อเป่ากงแห่งเมืองไถจงได้จัดพิมพ์หนังสือ “คัมภีร์ละกามตัณหา” ออกเผยแผ่ เพื่อพยุงศีลธรรมในสังคมให้ดีขึ้นนับเป็นมหากุศลยิ่ง ขอให้ชาวโลกหมั่นอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นประจำประพฤติให้ชอบธรม ยกระดับจิตให้เป็นคนมีคุณธรรมสูงส่ง เป็นวิธีที่จะก้าวสู่ความเป็นวิสุทธิเทพ ณ แดนนิพพาน
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2526


คัมภีร์ละกามตัณหา
โดยเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ พระเจ้ากวนอู หรือ
พระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ องค์ที่ 18

เทพเจ้ากวนอูทรงตรัสว่า ผิดประเวณีเป็นความชั่วร้ายแห่งบาปทั้งปวง อันความดีทั้งหลายกตัญญูเป็นความดีอันดับแรก ผู้กระทำการข่มขืนหญิงสาว เท่ากับฆ่าคนถึง 3 ชั่วคน กล่าวคือ บรรพบุรุษจะรับความอับอายในนรก ชั่วคนที่ 2 บิดามารดาตลอดจนสามีจะไม่กล้าสู้หน้าคน ชั่วคนที่ 3 บุตรธิดาจะเสียกำลังใจจนถึงเสียอนาคตได้ ฉะนั้นคดีข่มขืนจึงนับได้ว่าเป็นคดีร้ายแรงกว่าคดีฆ่าคน ส่วนชายหญิงเล่นชู้กันนั้น เมื่อเรื่องแดงขึ้นมา ชื่อเสียงถูกประจานไปทั่ว พ่ออาจไม่ยอมนับเป็นลูกสาวอีก สามีอาจถึงขั้นขอหย่า บุตรธิดาอาจไม่นับถือเป็นผู้บังเกิดเกล้าอีก บางครั้งอาจเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นถึงขั้นถูกฆ่าตายทั้งคู่ เมื่อศพถูกเปิดเผยต่าสาธารณชน วงศ์ตระกูลพลอยถูกแปดเปื้อนคาวโลกีย์ไปด้วย คนก็ถามกันแซดว่า หญิงนั้นเป็นลูกสาวบ้านใคร ทำไมพ่อแม่ไม่อบรมสั่งสอน ส่วนชายนั้นเป็นลูกบ้านใคร การกระทำเสมือนหนึ่งสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ปาน ชู้สาวบางคู่เกิดเรื่องแดงขึ้นมีการแอบใช้ยาฆ่าแมลงไปฆ่าสามีตน ผลที่สุดชู้ทั้งสองต้องรับโทษอาญาแผ่นดิน ถึงขั้นถูกประหารชีวิต เมื่อวันนั้นมาถึง สภาพจิตจะกระเจิง พ่อแม่บุตรธิดามาถึงแดนประหาร ก็มีแต่ร่ำไห้เสียใจ ประชาชนจะรุมแช่งด่า ถึงตอนนั้นจะสำนึกผิดก็สายเสียแล้ว
สังคมปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีการศึกษาสูง หรือมีตำแหน่งสูง หน้าที่การงานดี กลับประพฤติตนเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน ดังเช่นพี่ไปแย่งน้องสะใภ้เป็นภรรยาตน หรือน้องข่มขืนพี่สะใภ้ หรือผู้เป็นอาคิดลวนลามหลานสะใภ้ หรือหลานชายกับอาหญิงเล่นชู้กัน การกระทำเช่นนี้ แสวงหาแต่ความสุขปัจจุบัน ไม่เคยนึกว่าผลกรรมนี้จะนำพาให้ชีวิตบั้นปลายอับปาง บางท่านถึงขั้นขาดบุตรสืบวงศ์ตระกูล บางท่านตกอับเป็นยาจก บางท่านลูกเมียต้องชดใช้กรรมแทน บางท่านลูกหลานประสบเคราะห์กรรม บ้างก็เป็นสัมภเวสีขาดลูกหลานเซ่นไหว้ คนที่ชอบผิดประเวณี มักจะขาดลูกหลานสืบตระกูล เมื่อย่างเข้าวัยชรา ใครจะมาเลี้ยงดูเล่า
พูดถึงตอนนี้ จะไม่ให้เศร้าโศกได้อย่างไร บางคนมีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวนาเกิดลุ่มหลงในกามารมณ์อย่างโงหัวไม่ขึ้น วัน ๆ คิดแต่เรื่องลามก เจาะรูแอบดูหญิงข้างบ้านอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่คิดที่จะบูชาพ่อแม่ ไม่สนใจไร่นา ปล่อยให้ผลผลิตตกต่ำ ต้นไม้เฉาตาย บ้างก็นำไร่นาของบรรพบุรุษไปจำนองไปขาย เพื่อบำรุงบำเรอกามารมณ์ บ้างก็เอาสินสอดทองหมั้นของภรรยาไปจำนำ ปล่อยให้ลูกเมียอดอยากเมื่อเงินทองใช้หมด แถมติดกามโรคงอมแงม ในที่สุดก็ต้องนอนกลางถนนญาติมิตรเห็นแล้วเมินหน้าหนี ชีวิตระส่ำระสาย เพื่อนเก่าเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ หวนรำลึกถึงความหลัง ชีวิตที่เคยรุ่งโรจน์ต้องมาตกอับถึงขนาดนี้ นึก ๆ ก็เสียใจเป็นอย่างยิ่ง ชีวิตคนดุจเช่นช่างฝีมือดี ต้องทำงานมีระเบียบและอยู่ในโอวาทของอาจารย์ หากละเลยคำสั่งสอนของอาจารย์แล้วไซร้ นับว่าเป็นคนเสเพล เที่ยวล่อลวงหญิงสาวหรือเที่ยวพล่าพรหมจารีย์ของหญิงสาว เป็นเหตุให้หญิงสาวนั้นผูกคอตายหรือกระโดดน้ำตาย ความเจ็บแค้นได้สุมอยู่ในอกจึงไปร้องทุกข์ที่ยมบาล

การลงโทษในขุมนรกเข้มงวดมาก ค้อนทองแดง เลื่อยเหล็ก ต้นงิ้ว ภูเขามีด วิญญาณบาปเห็นแล้วจิตกระเจิง ความชั่วที่เกิดขึ้นชั่ววูบต้องนำพาตัวเองไปรับโทษยังขุมต้าง ๆ แต่มีกี่คนเล่าที่ได้มีความยั้งคิดเช่นนั้น ตอนมีเงินก็ใช้เงินเป็นเบี้ย ควงโสเภณีไว้ข้างกาย จนลืมกลางวันกลางคืน ลืมลูกเมียที่บ้าน คนที่ทำงานอยู่ต่างแดนก็ขาดการส่งเงินและข่าวคราว ปล่อยให้ลูกเมียต้องรอคอยด้วยความกังวล ทุกข์ร้อน อดอยาก เมื่อมั่วกามเกินไป ร่างกายซูบผอม หยูกยายากแก่การรักษา วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยก็ไม่ได้ผล มีแต่น้ำตาอาบหน้า จะมีใครมาเหลียวแล เป็นผีพเนจรในต่างแดน ตายเป็นศพไร้ญาติขาดมิตร ถูกฝังในป่ารก ผลของการมั่วกามได้สัมฤทธิผล ยากแก่การหลบหลีกได้
ข้าพเจ้าจึงวิงวอนขอร้องชาวประชาทั้งหลาย จะเป็นนักศึกษาก็ดี ชาวนาชาวไร่ก็ดี กรรมกรก็ดี นักธุรกิจก็ดี ฯลฯ หากสามารถระงับอารมณ์ทางกามได้ไม่ประพฤติผิดประเวณี และหันมาศึกษาธรรมะจะเป็นครอบครัวที่มีคุณธรรม ลูกหลานจะรุ่งโรจน์ ชื่อเสียงเกียรติยศเกรียงไกร ทรัพย์สินเงินทองพอกพูน มีอายุมั่นขวัญยืน เป็นที่นับหน้าชูตาของคนทั่วไป พ่อแม่ก็อายุยืนยาว สืบสาวราวเรื่องแล้ว ส่วนใหญ่จะมาจากการละเว้นกามารมณ์ รักษาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์นั่นเอง นับแต่โบราณกาลมา คนที่ผิดประเวณีก็มีมากโข ดังเช่น พระเจ้าเซียเกี๋ย ผู้ขาดคุณธรรม หลงเสน่ห์ พระนางม่วยสี่ จนต้องสูญเสียประเทศชาติไป พระเจ้าเจา แห่งราชวงศ์เสียงหลงรัก พระนางอ้านถาน จนนำพาประเทศชาติไปสู่ความพินาศ พระเจ้าจวงกง แห่งแคว้นฉีต้องมาตายเพราะไปหลงรัก นางฉางเจียง ซึ่งเป็นภรรยาของข้าราชการตน พระองค์หลิงกง แห่งแคว้นเฉินไปเป็นชู้กับมารดาของข้าราชการชื่อ เซิ่ยเจินซู ใน ที่สุดถูกปลงพระชนม์ ข่าวไม่เป็นมงคลเหม็นหึ่งทั่วสารทิศ นักปราชญ์เรียกการกระทำเช่นนี้เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน เรื่องในอดีตนั้น ๆ ยกมาพอเป็นบทเรียนแก่ชนรุ่นหลังได้

เมื่อสมัยข้าพเจ้าร่วมสาบานเป็นพี่เป็นน้องกับ พี่เล่าปี่ ในราชวงศ์ฮั่น ข้าพเจ้าได้แสดงถึงความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ตลอดเวลา ตอนข้าพเจ้าถูกโจโฉจับไป แกล้งให้ข้าพเจ้าอยู่ร่วมในห้องเดียวกันกับพี่สะใภ้หมายจะให้ข้าพเจ้าผิดใน กาม แต่ข้าพเจ้าไม่หลงกล จุดตะเกียงอ่านหนังสือชุนชิวตลอดคืน โจโฉทำอะไรข้าพเจ้าไม่ได้ ในที่สุดเมื่อรู้ที่อยู่ของพี่เล่าปี่แล้ว ข้าพเจ้าได้พาพี่สะใภ้ผ่าน 5 ด่าน ฆ่าขุนศึกที่เฝ้าด่านถึง 6 นาย จนพี่สะใภ้ได้พบกับพี่เล่าปี่ได้ ท่านหลิววุ่ยเป็นนักปราชญ์ในเลียกก๊ก วันหนึ่งมีหญิงสาวมาหาและนั่งบนตักท่าน ยั่วยุท่าน แต่ท่นไม่สะทกสะท้านเลย
ท่านหลู่จงเหลียนเป็น บัณฑิตในสมัยเจี้ยนก๊ก มีอยู่คืนหนึ่งมีหญิงสาวมาขอหลบฝนในบ้าน เพราะหลังคาบ้านเธอรั่วท่านปฏิเสธที่จะรับเธอเข้ามา แสดงถึงบริสุทธิ์ใจ ข้าพเจ้าจึงขอวอนหนุ่ม ๆ ทั้งหลาย จงรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อย่าปล่อยอารมณ์ไปตามกามจิตไม่หวั่นไหวเมื่อถูกหญิงสาวยั่วยวน นอกจากอายุจะยืนนานแล้ว คุณงามความดีนี้จะปกป้องถึงลูกหลานให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้น หากคนเราไม่ลุ่มหลงกามารมณ์แล้วไซร้ ในสังคมจะไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของหญิงหม้าย จะไม่เห็นความเศร้าหงอยของพ่อหม้าย มีแต่สามีภรรยาที่รักใคร่กัน อยู่กันจนแก่จนเฒ่า ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรครอบครัวจะสุขสมบูรณ์ไปชั่วชีวิต
ครูบาอาจารย์เป็นผู้รู้นิสัยใจคอของลูกศิษย์ตนเป็นอย่างดี ผู้เป็นบิดาย่อมเข้าใจนิสัยของลูกตนดีเช่นกัน ข้าพเจ้าเห็นผู้เป็นอาจารย์ที่ทำหน้าที่สอนหนังสืออย่างเดียว ไม่ได้เน้นหนักทางศีล ลูกศิษย์ที่ฉลาดหน่อยไม่เอาใจใส่ปล่อยให้เขาหยิ่งยโส เพาะนิสัยไม่ดี ผู้เป็นบิดาก็ไม่เข้มงวดปล่อยให้ลูกของตนเองเที่ยวเตร่ คบหาคนพาล เมื่อเด็กย่างเข้าวัยรุ่นเกิดตัณหาขึ้นมาจนลืมไปว่าอะไรถูกอะไรผิด จึงประพฤติผิดในกาม จนเสียอนาคตไป หวังว่าผู้เป็นครูบาอาจารย์จงสังวรให้ดี ข้าพเจ้ายังเห็นผู้เป็นบิดาเข้าข้างลูกจนเกินไป พอลูกเรียนรู้อะไรมาบ้าง ก็เที่ยวไปอวดอ้างความเก่งกาจของลูกตน อันที่จริงเด็กยังไม่ได้รับการขัดเกลาบ่มนิสัยให้เป็นเด็กดี ก็รีบมายกย่องปอปั้นว่าเป็นเด็กเลิศ เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กจึงเริ่มกำเริบเริ่มเที่ยวเตร่ เริ่มคบเพื่อนไม่ดี ติดนิสัยเกเร ไม่ว่าลูกสาวบ้านใคร แม่หม้าย แม่ชี ก็คิดจะไปล่วงเกินเมื่อมีโอกาส

วัน ๆ พูดแต่เรื่องลามก เข้าออกตามซ่องนางโลม พ่อจะสั่งสอนชี้แนะลูกกลับไม่ยอมเชื่อฟังผู้เป็นพ่อมีแต่อดทนอดกลั้น แล้วผลจะลงเอยเช่นไร ข้าพเจ้ามาคิดว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล คนมีศีลมีธรรมก็มีไม่น้อย เมื่อพูดถึงการละเว้นเรื่องกาม คนส่วนใหญ่จะบอกว่า เป็นเรื่งอที่ยากต่อการปฏิบัติ เพราะคนเรามักหนาด้วยกิเลส จิตใจว้าวุ่น ง่ายต่อการยั่วยุของสีแสงเสียง จนแยกดีชั่วไม่ออก นับจากโบราณกาลมา วีรบุรุษทั้งหลายยากต่อการหลุดพ้นจากอ้อมอกของหญิงงามเมือง ขอจงละเว้นเสียโดยเร็ว ข้าพเจ้าเห็นเด็กกำพร้าที่บวชเรียนเป็นเณร หวังฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีศีลบริสุทธิ์ บางองค์ออกธุดงค์ในป่า หวังจะไกลจากบ่างกิเลส หากจิตแข็งแกร่งดุจดังเหล็กหิน ปิดทวารทั้ง 6 ได้ มุ่งมั่นแต่นั่งกัมมัฏฐานวิปัสสนา หวังนิพพานเป็นที่ตั้ง แต่บางองค์จิตไม่แน่วแน่ ทนต่อการยั่วยุไม่ไหว ดื่มสุรา ทานเนื้อสัตว์ มั่วกามารมณ์ หาความสุขใส่ตัว ทำให้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ต้องมัวหมองจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์พิโรธ เมื่อมรณภาพแล้วจะส่งไปรับโทษทัณฑ์ในนรก ข้าพเจ้าเห็นประตูนรกออไปด้วยพระสงฆ์องค์เจ้า นั่นเป็นคำสัตย์จริง คนเราจะไม่เชื่อเลยหรือ?
ช่วงระยะหลัง วัฒนธรรมตะวันตกได้ย่างกรายเข้ามา ทำลายประเพณีอันดีงามของพวกเรา หญิงชายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางไม่ดี นุ่งห่มแปลกประหลาด ไม่รักนวลสงวนตัวเหมือนแต่ก่อน มีการสูบกัญชา มั่วสุมกามารมณ์จนตั้งครรภ์ ลูกออกมาไม่รู้ใครเป็นพ่อเด็ก หญิงสาวยังไม่ถึงวันวิวาห์ ก็สูญเสียพรหมจารีย์แล้ว คนบางคนก็มีเเปิดสำนักค้ากามออกกลอุบายทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดคนไปใช้บริการ นั่นเป็นธุรกิจที่ชั่วช้าที่สุด ทำให้คนดี ๆ ที่มีอนาคตต้องเสียผู้เสียคนไป คนเราสามารถทำธุรกิจร้อยแปดพันอย่างที่บริสุทธิ์ได้ หากแต่ต้องยกเว้นการค้ากาม ผู้ใดประกอบอาชีพค้ากาม เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว จะต้องไปรับทุกข์ในนรกอเวจี ลูกหลานทำมาค้าขายไม่ขึ้น บางท่านอ้างว่า การมั่วกามของเขามิได้หลอกลวงหญิงใด หากแต่ซื้อความสุขด้วยเงินทอง แต่จิตเดิมอันบริสุทธิ์ผุดผ่องเริ่มมีด่างพร้อย ถึงแม้การกระทำปราศจากผู้คนรู้เห็น แต่จิตส่วนลึกของตัวเองรู้อยู่เต็มอก เมื่อความคิดลามกพอกตัวขึ้น จิตเหี้ยมโหดก็เริ่มฟักตัว ในที่สุดบ้านแตกสาแหรกขาด เจ้ากรรมนายเวรของอดีตชาติและปัจจุบันชาติเริ่มมาทวงหนี้กรรม การเวียนว่ายตายเกิดจึงไม่มีวันสิ้นสุดหากรีบสำนึกผิด รักษาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์ ตั้งต้นใหม่เป็นคนดี เป็นบัณฑิต ความผิดพลาดที่แล้ว ๆ มาจะได้รับการยกเว้น หากยังเห็นผิดเป็นชอบ คอยผัดวันประกันพรุ่ง นับวันจะจมดิ่งลงไป
เมื่อความตายมาถึง ชื่อเสียงเหม็นกระฉ่อน มีลูกก็ไม่ดีสู้ไม่มียังจะดีกว่าแต่สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก สุราไม่ได้ทำให้คนเมา หากแต่คนไปดื่มจนเมาเอง กามารมณ์มิได้ทำให้คนลุ่มหลง หากแต่คนไปแสวงหามาเอง ที่ข้าพเจ้ามาปรากฏตัว ณ สถานธรรมนี้ ก็หวังให้พวกเจ้าสำนึกผิด ตั้งต้นเป็นคนดีหากมีท่านใดเชื่อฟังคำชี้แนะของข้า ฯ ข้าฯ ขอรับรองว่าจะปกป้องให้เขามากด้วยลาภยศ สุขกายสบายใจ และมีอายุมั่นขวัญยืนดั่งหยกที่บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน ถึงเวลาจากโลกนี้ไป ยมบาลจะให้เกียรติต้อนรับ ลองมาดูคนที่เกิดมาพิการทางตาทางหู เพราะกรรมเก่าชี้นำ คนที่เกิดมาขาพิการแขนขาดมือด้วน สาเหตุจากกรรมเก่าอันหนักหน่วงในอดีตชาติ บ้างก็อัตคัดเสื้อผ้า อดอยาก ต้องอาศัยบ้านร้างเป็นที่ซุกหัวนอน ยากจนถึงสุดขีด เมื่อถึงตอนนั้นจึงมาสำนึกผิด ย่อมสายเสียแล้ว

เจ้าเกิดในอารยประเทศ ไม่ใช่พวกคนป่าคนดง เหตุใดไม่รีบกลับเนื้อกลับตัว เป็นคนที่จิตใจผ่องใส คำพูดของข้าฯ ทุกคำมีค่าดั่งเพชรหยก จะมองข้ามมิได้ ข้าฯ ถึงแม้เรียนน้อย แต่ก็มาประทับทรงให้คำชี้แนะ เพื่อให้พวกเจ้าตื่นจากความงมงาย ลุ่มหลงในกามารมณ์ หากมีใครเชื่อคำแนะนำของข้าฯ ข้าฯ จะเพิ่มบุญบารมีและต่ออายุให้ หากมีคนนำคำสอนของข้าฯ ไปอธิบายให้คนอื่นเข้าใจ ข้าฯ จะช่วยลดบาปกรรมลงบ้าง ถ้าผู้ใดไม่คิดว่าข้าฯ พูดเพ้อเจ้อ ข้าฯ อยู่บนสวรรค์จะขอบใจเจ้า หากไม่คิดว่าคำพูดของข้าฯ เหลวไหล ข้าฯ อยู่ตำหนักเบื้องบนจะช่วยลบล้างรอยบาปให้เจ้า หากคำแนะนำของข้าฯ มีข้อใดขาดตกบกพร่อง ขอให้บัณฑิตแก้ไขชี้แนะขอให้ชาวโลกจุดธูปเช้าเย็น อ่านคัมภีร์ของข้า ที่บรรจงพจนาจากหัวใจส่วนลึกของข้าฯ
หากเจ้าเคารพนับถือข้าฯ มีหรือข้าฯ จะไม่รักเจ้าเสมือนหนึ่งเป็นลูกหลานของข้า ฯ ถ้าเจ้าคิดจะหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ก็ควรรีบปิดทวารทั้ง 6 หากเจ้าคิดลบล้างบาปกรรมให้เบาบางลง ก็ควรละเว้นการผิดศีลข้อ 3 และเร่งประกอบแต่กรรมดี หากเจ้าไม่เชื่อคำเตือนของข้าฯ ข้าฯ ก็ทำอะไรไม่ได้ เจ้าจะปีนป่ายภูเขามีด จะลงกระทะทองแดง จะลงไปแช่ในสระเลือด จะกลืนน้ำเหล็กไหลก็ตามแต่เจ้า ถึงเวลานั้นจึงมาคิดอ่านคัมภีร์ละกามของข้าฯ ข้าฯ กลัวว่า เจ้าไม่สามารถออกจากขุมนรกได้ หรือรำลึกถึงคำสอนของข้า ฯ ข้าฯ เกรงว่า เจ้าไม่สามารถขึ้นบนสวรรค์ได้ ข้าฯ อยู่บนสวรรค์กลัวเจ้าจะเกลียดข้าฯ หาว่าข้าฯ ไม่รีบตักเตือนเจ้า เพราะเจ้ากำลังรับโทษทัณฑ์ในขุมนรก จะหลุดก็หลุดไม่ได้ จะเดินหนีก็หนีไม่พ้น จะแก้ก็แก้ไม่ทัน จะสำนึกผิดก็สายเสียแล้ว รับโทษมหันต์ในนรก เมื่อพ้นโทษจากขุมนรกแล้ว ยังมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ให้เขาฆ่าให้เขาย่างเมื่อไรจึงจะพ้นกรรมกลับมาเป็นมนุษย์อีก
เมื่อพลาดโอกาสเป็นคนแล้ว จะประกอบกรรมดีอย่างไรจึงจะขึ้นสวรรค์ได้บาปกรรมในอดีตถือเป็นบทเรียน รีบละจากการทำชั่ว จึงจะพูดได้ว่าเจ้าได้ยาวิเศษแล้ว สมัยก่อนมีการประทับทรงตามสถานธรรม เพื่อชี้แนะให้คนประกอบกรรมดี เสียดายคนไม่เชื่อมากกว่าคนที่เชื่อ ผู้ที่ไม่เชื่อจะพบแต่ภัยพิบัติต่าง ๆ ดังเช่น วาตภัย อุทกภัย โรคภัยไข้เจ็บ หรือภัยสังคม สถานธรรมสมัยนี้ได้จุดตะเกียงส่องแสงสว่างจ้า บรรยายถึงกรรมดีกรรมชั่ว ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้หลงผิดจะได้กลับเนื้อกลับตัวสนองเจตนารมณ์ของ สวรรค์ ข้าฯ ได้อธิบายเสียยาวเหยียด หากยังมีคนดูแคลนและห้ามปรามคนที่เขาเชื่อ พิษภัยจะตามมาทันที หากมีคนกล่าวหาเป็นเรื่องไร้สาระ จะโดนฟ้าผ่าทันที จิตของข้าฯ นี้ ท่านโป๊ยเซียนยังยกมืออนุโมทนา ห้าอาวุโสอ่านเข้ายังชมว่าเป็นคัมภีร์ที่ล้ำเลิศ หากไม่คิดว่าเป็นคัมภีร์ตื้น ๆ นำไปเผยแพร่ให้ชาวโลกช่วยกันรักษาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์ อันเป็นความปรารถนาอันสูงส่งของข้าพเจ้า

ปรับตัวปรับใจ
ลื่อโจ๊ว
อย่าด่วนผลีผลาม ว่าสอนตามความ
ที่เกิดที่เป็น ไม่เห็นมีผล
ซ้ำโกรธเกลียดกัน เป็นติดตามมา
กลายเป็นก่อเวร ก่อกรรมต่อไป
เมื่อจำต้องพบ ผู้คนมากมาก
ต้องเรียนต้องรู้ ทำจิตทำใจ
ให้ใจกว้างกว้าง หนักแน่นอดทน
ดุจดั่งขุนเขา ไม่หวั่นไม่ไหว
ไปตามลมปาก ควรฝึกฝนจิต
จึงจักมีผล ขอจงแก้ไข
ปรับปรุงตนเอง ให้จิตแข็งแกร่ง
ยิ่งยิ่งขึ้นไป ยิ่งยิ่งขึ้นไป
เราขออวยชัย เราขออวยชัย


เปิดใจให้สรรพสิ่งเป็นครู
ลื่อโจ๊ว
พวกเราเหล่าผู้ ปฏิบัติธรรม
มีจิตคิดดี ปฏิบัติชอบ
ยืนหยัดมั่นคง สร้างสมสิ่งดี
ในกายในจิต ละละลดลด
ความเกลียดความชัง ความอยากความหวัง
ในเกียรติอำนาจ อีกทั้งลาภยศ
ซึ่งล้วนจอมปลอม ขอทุกผู้คน
จงหมั่นฝึกฝน ฝึกจิตฝึกใจ
ให้ได้ใสใส น้ำใจไมตรี
เปี่ยมล้นในใจ ยืนหยัดมั่นคง
ขจัดขจัด ตัดกองกิเลส
ออกเสียจากใจ ห่างไกลจากตัว
ไม่หลงเมามัว กับสุขกับทุกข์
ทำจิตทำใจ ไร้สิ่งกังวล
เปิดจิตเปิดใจ รับสิ่งดีงาม
ยกยกอัตตา ออกเสียจากตัว
เปิดจิตเปิดใจ รับรับทุกสิ่ง
ที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าดีชั่ว
ยกขึ้นเป็นครู สั่งสอนจิตใจ
ให้การฝึกฝน ได้มีก้าวหน้า
เราขออวยชัย เราขออวยชัย


กฏลงโทษละเมิดกามในนรก
นับจากโบราณกาลมา การผิดประเวณีนับเป็นยอดแห่งความชั่ว บทลงโทษในโลกมนุษย์นับว่าหนักแล้ว แต่บทลงโทษในนรกยิ่งหนักเพิ่มขึ้น วิธีการลงโทษมีหลากหลายดังขยายต่อไป หวังว่าท่านผู้อ่านควรละเว้นทันที
พี่น้องเสพสุขตกนรกชั่วนิรันดร หากถึงขั้นฆ่าชีวิตด้วยแล้ว จะถูกฟ้าผ่า ผู้ใดข่มขืนศพหญิง จะตกนรกชั่วนิรันดรเช่นกัน ผู้ใดได้รับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์มาแล้ว จะไม่ถูกฟ้าผ่า ผู้ใดที่มีความกตัญญูจะลดโทษ 4 ส่วน ผู้ใดเคยสร้างบุญใหญ่ 1,500 ครั้งก็ถูกลดโทษ 4 ส่วนเช่นกัน ผู้ใดข่มขืนหญิงหม้าย จะขาดลูกหลานสืบทอดวงศ์ตระกูล ตกนรก 500 ชาติ แล้วเกิดเป็นมด หนอน 500 ชาติ ยังมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก 500 ชาติ จึงเกิดมาเป็นคน มีอาชีพเป็นโสเภณี ผู้ใดได้รับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์แล้ว ลด 100 ชาติ หากมีการฆ่าถึงชีวิต เพิ่มโทษ 5 เท่า ผู้ใดเป็นผู้กตัญญูต่อพ่อแม่และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์กับประเทศชาติลด โทษกึ่งหนึ่ง ประกอบบุญใหญ่ 500 ครั้ง ลดโทษกึ่งหนึ่งเช่นกัน
หมายเหตุ: บท ลงโทษในเมืองนรก คำว่า 1 ชาติ หมายถึง การลงโทษถึงตายแล้วฟื้นคืนกลับมาแล้วรับโทษเหมือนเดิมจนครบกำหนดแล้วโทษนั้น จึงยุติ หากยังมีโทษอื่นอีก ก็ต้องรับโทษในขุมนรกอื่น ๆ ในหนังสือ “บันทึกถ้ำนรก” ได้บรรยายอย่างละเอียด ผู้ใดทำผิดศีลข้อ 3 แล้ว หากสำนึกผิดแล้ว หันมาประกอบกรรมดีช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อตายจากโลกมนุษย์แล้ว จะได้รับการลดโทษตามส่วน ผู้ใดไม่สำนึกผิดเลยจนตาย เมื่อตายจากโลกมนุษย์แล้ว จะได้รับการลงโทษจากขุมนรกที่ 1 แล้วยังต้องไปรับโทษขุมนรกอื่น ๆ โทษที่จะได้รับเช่น “แหวกหัวใจ” “คนโลหะ” “ตัดไต” “หนูกัด” “ลงกระทะทองแดง” “รถบด” ฯลฯ

ผู้ใดทำผิดศีลข้อ 3 ระหว่างพี่น้อง ลูกกับแม่เลี้ยง พ่อผัวกับลูกสะใภ้ ฯลฯ จะตกนรกตลอดกาล เมื่อรับโทษทัณฑ์ครบแล้ว จึงเกิดมาเป็นหมู่ญาติ นับว่าโทษหนักที่สุด เมื่อรับโทษทัณฑ์ครบแล้วจึงเกิดมาเป็นคน 1 ครั้ง เรียกว่า 1 ชาติ หนังสือ “ตำรับทอง” และ “ตำรับวงเวียน” 2 เล่มนี้ได้บรรยายบทลงโทษอย่างละเอียด กฏเมืองนรกก็มีการลดหย่อนผ่อนโทษเช่นกัน ฉะนั้นเห็นได้ว่า บาปบุญคุณโทษไม่มีการผิดเพี้ยน หากผู้ใดได้อ่านหนังสือ “ตำรับทอง” “ตำรับวงเวียน” และ “บันทึกถ้ำนรก” 3 เล่มนี้แล้ว ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นในเรื่องกฏแห่งกรรม
ผู้ใดหลอกข่มขืนหญิงหม้าย

จะไม่มีลูกหลานสืบตระกูล 2 ชาติ และรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 400 ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนพิการ ผู้ใดเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ ลดโทษ 80 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 4 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นบุตรกตัญญูลดโทษ 70% ผู้ใดเคยสร้างบุญขนาดกลาง 500 ครั้ง ลดโทษ 70% เช่นกัน
ผู้ใดแทะโลมจนหญิงหม้ายเสียตัว

จะไม่มีลูกหลานสืบตระกูล 3 ชาติ หลังจากรับโทษในขุมนรกแล้ว มาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 300 ชาติ จึงมาเกิดเป็นคนยากจนแสนเข็ญ ผู้ที่ได้รับโทษในโลกมนุษย์แล้ว จะลด 60 ชาติ หากถึงขั้นฆ่าตาย เพิ่มโทษ 3 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีและเป็นบุตรกตัญญูลดโทษ 90% ผู้ใดเคยสร้างบุญ 500 ครั้ง ลดโทษ 90% เช่นกัน

ข่มขืนสาวพรหมจรรย์

บุตรธิดาจะมั่วกาม ตัวเองจะต้องรับโทษทัณฑ์ในขุมนรก 400 ชาติ แล้วไปเกิดเป็นหนอน เป็นมด อย่างละ 400 ชาติ จึงมาเกิดเป็นคนขี้ข้า (ทาส) ผู้ใดเคยรับโทษในโลกมนุษย์มาแล้ว ลดโทษ 100 ชาติ หากมีการฆ่ากันถึงชีวิต เพิ่มโทษ 4 เท่า ผู้ใดเคยทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ หรือเป็นบุตรกตัญญู ลดโทษกึ่งหนึ่ง เคยประกอบกรรมดี 400 ครั้ง ก็ลดโทษกึ่งหนึ่งเช่นกัน
ใช้วิธีหลอกลวงข่มขืนสาวพรหมจรรย์

จะไม่มีลูกหลานสืบตระกูล 2 ชาติ และรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 250 ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนขี้โรคอ่อนแอ ผู้ใดเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ ลดโทษ 70 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 3 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นลูกกตัญญู ลดโทษ 70% ผู้ใดเคยสร้างบุญขนาดกลาง 400 ครั้งลดโทษ 70%
ผู้ใดแทะโลมจนสาวพรหมจรรย์เสียตัว

ภรรยาบุตรสาวจะต้องชดใช้กรรม และตัวเองต้องรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 100ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนมีฐานะยากจน ผู้ใดเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ลดโทษ 40 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 2 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นลูกกตัญญู ลดโทษ 90% ผู้ใดเคยสร้างบุญเล็ก 400 ครั้งลดโทษ 90% เช่นกัน
ผ่มขืนเด็กสาว (อายุต่ำกว่า 15 ปี)

ภรรยาบุตรสาวจะต้องชดใช้กรรม ตัวเองต้องรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 350 ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนผู้น้อย ถ้าเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ ลดโทษ 100 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 3 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นลูกกตัญญู ลดโทษกึ่งหนึ่ง ประกอบบุญใหญ่ 300 ครั้ง ลดโทษกึ่งหนึ่ง เช่นกัน

ใช้วิธีหลอกลวงข่มขืนเด็กสาว (อายุต่ำกว่า 15 ปี)

ลดอายุ 24 ปี ตายแล้วต้องรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 100 ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนจะไร้คู่ครอง ถ้าเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ ลดโทษ 30 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 2 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นลูกกตัญญู ลดโทษ70% สร้างบุญขนาดกลาง 300 ครั้ง ลดโทษ70% เช่นกัน
ผู้ใดแทะโลมจนเด็กสาวเสียตัว

ลดอายุ 12 ปี ตายแล้วต้องรับโทษในขุมนรก แล้วมาเกิดเป็นหนอน มด สัตว์เดรัจฉาน อย่างละ 70 ชาติ แล้วจึงมาเกิดเป็นคนมีฐานะยากจน ผู้ใดเคยรับโทษทัณฑ์ในโลกมนุษย์ ลดโทษ 20 ชาติ หากถึงขั้นทำร้ายชีวิตถึงตาย เพิ่มโทษ 1 เท่า ผู้ใดจงรักภักดีกับเป็นลูกกตัญญู ลดโทษ90% สร้างบุญขนาดเล็ก 300 ครั้ง ลดโทษ 90% เช่นกัน
บทลงโทษ 3 ข้อข้างต้น (หญิงหม้าย สาวพรหมจรรย์ และเด็กสาว) มีผลเฉพาะที่ไม่ใช่เครือญาติ หากเป็นวงศาคณาญาติ เพิ่มโทษ 1 เท่า หากเป็นพี่น้องกัน หรือมีเพศสัมพันธ์ระหว่างงานศพ เพิ่มโทษ 3 เท่า หากข่มขืนสาวใช้ รับโทษหนักเช่นกัน ข่มขืนไม่สำเร็จ ลดอายุ 6 ปี หากถึงขั้นเสียชีวิต มีโทษหนักดั่งโทษข่มขืน
เที่ยวซ่อง 1 ครั้ง ลดอายุขัยครึ่งปี ผู้ใดติดกามโรค ลดอายุขัย 1 ปี หากสำนึกผิด ยกเว้นลดอายุขัย
รักร่วมเพศ รับโทษดั่งข่มขืนหญิงสาว ถ้าคู่หูเป็นขายอายุต่ำกว่า 15 ปี ถือเป็นเด็กสาว รับโทษดั่งเที่ยวซ่องโสเภณี
ประพันธ์หนังสือลามก ลดอายุขัย 24 ปี หากมีผู้อ่านอ่านแล้ว เกิดไปข่มขืนหญิงอื่น ผู้ประพันธ์จะต้องรับโทษเสมือนหนึ่งเป็นผู้ข่มขืนเองหากหนังสือลามกไม่ถูก ทำลายหมดสิ้น จะไม่ได้ไปผุดไปเกิด ผู้ถ่ายทำหนังลามก รับโทษหนักเหมือนกัน
เปิดเผยเรื่องลามก ลดอายุขัย 6 ปี ถ้ามีการฆ่าถึงชีวิต ลดอายุขัย 12 ปี คุยเรื่องในมุ้ง มีโทษเช่นกัน หากสำนึกผิด จะได้รับลดโทษบ้าง
กฏลามกของผู้พิพากษาแซ่ลก (สมัยราชวงศ์ซ้อง) ได้เพิ่มเติมว่า
ผู้ใดผิดศีลข้อ 3 จนตั้งครรภ์และทำแท้งถึงขั้นเสียชีวิต เพิ่มโทษ 1เท่า

ผู้ใดข่มขืนเด็กสาวตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะใช้วิธีล่อลวงหรือเกลี้ยกล่อม ให้ถือเป็นคดีข่มขืน หากมีการฆ่าถึงชีวิต เพิ่มโทษ 1 เท่า
ผู้ใดมีภรรยาและบุตรแล้ว ยังแอบมีภรรยาน้อย 1 คน ลดอายุขัย 2 ปี คนที่มีชื่อเสียงเกียรติยศอยู่แล้ว จะถูกลดชื่อเสียงลง 8 ส่วนแต่ไม่ลดอายุขัย
หญิงหม้ายใดที่ไม่คิดจะแต่งงานใหม่ ใช้วิธีหลอกลวงจนได้เสียจะลดอายุขัย 3 ปี หากเธอมีจิตจะแต่งงานใหม่ไม่ต้องลดอายุขัย
ผู้ใดแต่งงานกับหญิงหม้าย และไม่รับผิดขอบเลี้ยงดูบุตรธิดาของสามีเก่า 1 คน ลดอายุขัย 2 ปี หากทรมานลูก ๆ ของสามีเก่า จนเสียชีวิต ลดอายุขัย 12 ปี
สนทนาระหว่างเพื่อนฝูงเรื่องตัณหา 3 ครั้ง ลดอายุขัย 1 เดือน นำเพื่อนไปเที่ยวซ่องโสเภณี ลดอายุขัย 3 ปี ผู้ใดมีชื่อเสียงโชคลาภลดการลดอายุขัยแต่ลาภยศจะเลื่อนเวลาออกไป
ผู้ใดเห็นหญิงงามเดินผ่านและเหลียวมองอย่างไม่ลดละ 3 ครั้ง ลดอายุขัย 3 เดือน หากมีอุบายตีสนิทแฝงด้วยจิตไม่บริสุทธิ์ 1 ครั้งลดอายุขัย 3 เดือน
ผู้ใดชอบฟังเรื่องลามก 1 ครั้ง ลดอายุขัย 3 เดือน ผู้ที่มีชื่อเสียงเกียรติยศ จะถูกบั่นทอน ผู้ใดตั้งใจดูหนังลามก 1 ครั้ง ลดอายุขัย 3เดือน หากถึงขั้นเสียชีวิต เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน 1 ชาติ
ผู้ใดชอบอ่านหนังสือลามก 3 ครั้ง ลดอายุขัยครึ่งเดือน ผู้ใดถึงขั้นไม่สบาย ลดอายุขัย 3 ปี
ผู้ใดชักนำเพื่อน ๆ รื่นรมย์กับกามตัณหา ถูกลงโทษ 2 ชั้น พ่อหรือพี่ชายไม่ยับยั้งลูก ๆ หรือน้อง ๆ จนหลงกามารมณ์ หรือปล่อยปละละเลยคนใช้รื่นเริงกับกามารมณ์ ถูกลงโทษ 2 ขั้นเช่นกัน

ผู้พิพากษาแซ่ลกเขียนไว้ว่า โทษทัณฑ์ในเมืองนรกยากต่อการผ่อนปรน โทษของการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างญาติยิ่งหนักกว่าเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้น้อยละเมิดกามต่อผู้ใหญ่ หรือผู้ใหญ่ล่อลวงผู้น้อย เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ต้องรับโทษในขุมนรกทั้งนั้น สังคมในมนุษย์ปัจจุบันผู้ผิดศีลข้อ 3 มักเกิดขึ้นกับครอบครัวที่รับราชการ บัณฑิต พวกเขาประพฤติเช่นนี้บ่อยครั้งจนติดเป็นนิสัยจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ยังไม่สำนึกว่าการกระทำของตนนั้นผิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงได้ทูลพระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ ท่านทรงอนุญาตให้ตีแผ่กฏลงโทษของนรกสู่โลกมนุษย์โดยไม่ปิดบัง เพื่อให้ผู้อ่านจะได้สำนึกผิดและจะได้รับการลดโทษ ผู้ที่มีความจงรักภักดีและกตัญญูได้รับการลดโทษ ผู้ใดเคยสร้างสมบุญกุศลได้รับการลดโทษเช่นกัน หากผู้ใดได้อ่านบทความนี้แล้ว ไม่เพียงไม่สำนึกผิดกลับติเตียนทำลาย จะได้รับโทษหนักหรือถูกฟ้าผ่าตาย หากมีผู้ใดเชื่อคำสั่งสอนของบทความนี้ และได้เผยแพร่ให้ผู้อื่นได้ทราบ เผยแพร่ 100 คน เพิ่มอายุ 12 ปี เผยแพร่ 200 คน ผู้ไร้บุตรจะได้บุตร เผยแพร่ 300 คน เพิ่มอายุ 24 ปี เผยแพร่ 400 คน ลูกหลานรุ่งเรือง เผยแพร่ 500 คน ยศชื่อเสียงเพิ่มทวีคูณ เผยแพร่ 1,000 คน มีชื่อบนสวรรค์ เผยแพร่ทั่วพิภพ ตายแล้วได้จุติเป็นเซียน เผยแพร่กับเศรษฐี 10 คน ได้บุญกุศลเท่ากับเผยแพร่กับคนสามัญ 200 คน เผยแพร่กับข้าราชการได้บุญกุศลเท่ากับเผยแพร่กับคนสามัญ 100 คน ซึ่งบทบัญญัตินี้ท่านพระเจ้าฟู่ยิ่งได้ทูลพระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ ซึ่งทรงได้อนุญาตให้เป็นไปตามบทบัญญัตินี้
หมายเหตุ : หนังสือรวมบทกำหนดโทษสุวรรณนี้ มีขึ้นในสมัยพระเจ้าหานฟง ในราชการปีที่ 6 ในราชวงศ์เซ็ง
เทพเจ้าเหวินเซียงเสด็จประทับทรงที่อำเภอฟงหลิน มณฑลหูหนาน ว่า บทบันทึกนี้เป็นบทกำหนดขึ้นโดยพระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ และเก็บรักษาไว้ในกล่องหยก เทพเจ้าเหวินเซียงได้ทูลขออนุญาตนำไปเผยแพร่สู่ชาวโลก เพื่อให้เข้าใจถึงบทลงโทษของเบื้องบนในราชการปีที่ 3 ของพระเจ้าแผ่นดินกวงซุ่ยในราชวงศ์เซ็ง ในที่สุดเทพเจ้าบุ๋นและเทพเจ้าบู๊ 2 ท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณโดยพระเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ ให้นำหนังสือเล่มนี้ไปเผยแพร่สู่ชาวโลกได้ หากหนังสือใด ๆของเทพยดาทรงแต่งขึ้น ที่ยังมีบางข้อยังไม่สมบูรณ์นั้น หนังสือเล่มนี้จะได้ทดแทนส่วนที่ขาดไป

รูปไม่แตกต่างกับความว่างเปล่า
ความว่างเปล่าไม่แตกต่างกับรูป
รูป คือ ความว่างเปล่า
ความว่างเปล่า ก็คือ รูป

พระโพธิสัตว์ฉืออิมได้กล่าวไว้ในขันธ์ 5 ว่า สิ่งที่ยากแก่การเข้าถึง คือความว่างเปล่า นั่นคือ รูป ข้าพเจ้าจะแนะวิธีให้เห็นความว่างกล่าวคือ ในขณะคนเราเริ่มมีความใคร่เกิดขึ้น ให้คิดอยู่เสมอว่า รูปหาใช่รูปแท้ไม่ เพราะจะร่วงลงในที่สุด เมื่อข้าฯ คิดถึงเรื่องกามารมณ์ ก็จะละอายต่อฟ้าปางก่อน 1 ส่วน สติปัญญาและชีวิตของเราก็สูญหายไป 1 ส่วน นาน ๆ เข้าสติปัญญาจะเสื่อมลง ชีวิตก็จะไปไม่รอดนั่นคือ รูป ไม่แตกต่างจากความว่างเปล่า การผิดประเวณีเป็นยอดแห่งความชั่วทั้งปวง คนที่ลุ่มหลงกามารมณ์เป็นผู้ประกอบความชั่วในเบื้องแรก ฉะนั้นควรละเว้นให้ได้ กามราคะเป็นไฟเผาผลาญสุขภาพ เหตุใดคนเราจึงต้องมาลุ่มหลงความไม่เที่ยง หาความงามของสตรีมาละเมิดและทำความชั่ว คนเราตายเพราะสตรีก็มีมากมาย ในที่สุด กามารมณ์ทำให้คู่ครองไม่อาจไปได้รอดฝั่ง นั่นละรูปคือความว่างเผล่า หากมีใครไม่ลุ่มหลงรูปของสตรีก็จะรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรง ฝึกฝนจนเป็นกายพุทธะ หมื่นกัปป์ไม่บุบสลาย หากยังมีชีวิตยืนนานและมีความสดใสของรูปแท้ จึงรู้ได้ว่าความว่างก็คือ รูปเช่นนี้จึงจะได้รูปที่สุขสบายท่ามกลางขันธ์ 5 เคราะห์ภัยก็ฉุดช่วยได้เอย
ลื่อโจ๊ว
ขอตรองขอคิด ขอพิศข้อธรรม
ขอหยุดขอพอ ขอถึงนิพพาน


แผ่บุญไปทั่ว
ลื่อโจ๊ว
อากาศเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนความจำเจ
จิตที่ตั้งมั่น มุ่งการงานบุญ
ย่อมมีเป็นเกราะ ปกป้องผองภัย
ปวดฟันปวดฟัน นั้นเป็นธรรมดา
ร่างกายภายใน มีสิ่งแปลกปลอม
เข้าไปก่อกวน เช่นลมเช่นแก๊ส
สะสมภายใน ระบายไม่ทัน
ก็เป็นปวดปวด ความเย็นความร้อน
กระหายมากไป ก็ปวดเหมือนกัน
จงคิดตั้งจิต อธิษฐานใจ
ขีดเขียนหนังสือ ย่อมมีเป็นดี
ใครที่เป็นหนี้ คิดใช้ไถ่ถอน
ย่อมเป็นดีดี ขอจงสัมฤทธิ์
ผลดังตั้งใจ
อาการคันคัน ก็เช่นเดียวกัน
ตั้งจิตกำหนดใจ ขออย่าได้คัน
ตั้งใจขีดเขียน มุ่งมั่นเป็นทาน
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอโปรดรับบุญ
เสริมเติมปัญญา ในทางแห่งธรรม
โดยถ้วนทั่วหน้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


บทบันทึกผลกรรมผู้ผิดประเวณี
อุบาสก เจียกโหย่วฉิง

คำนำ

ทุกวันนี้สังคมเต็มไปด้วยข่าวชู้สาว ผิดประเวณีเป็นยอดแห่งความชั่วทั้งปวง นับว่าช่าวโลกีย์นับวันจะเพิ่มขึ้น จิตเดิมของมนุษย์นับวันยิ่งใกล้เป็นสัตว์เดรัจฉานเข้าไป กลายเป็นนิสัยที่ไม่ดี วันนี้ออกตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ ก็เพื่อให้คนเราตระหนักถึงปัญหากามารมณ์ ไม่ใช่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน เพียงกลัวว่าจะกระทบกระเทือนถึงศักดิ์ศรีของตน ผู้ปฏิบัติที่เป็นสามีภรรยากันมักจะมีปัญหาเรื่องละเว้นจากการสมสู่ หากแต่ควรพิถีพิถันไปศึกษาค้นคว้าของปัญหานี้ จึงจะเป็นคู่สมรสที่สมบูรณ์ปัญหาครอบครัวก็จะไม่เกิดขึ้น
กลอนว่า :
ปลาได้น้ำฟ้าดินแปรปรวน
สยบมังกรสยบเสือใช้สติแก้
จิตเยือกแข็งดั่งเหมยสนไม่สั่นแคร์
ธรรมะรู้เรือนแพแนะบำเพ็ญ


ถาม : ปัจจุบัน คนมักชอบเที่ยวเตร่ตามสถานเริงรมย์ มีเมียเก็บหลาย ๆ คน ในอพาร์ตเมนต์บ้าง ในคอนโดมิเนียมบ้าง ขอเรียนถามว่า คนพวกนี้มั่วสุมกับกามารมณ์ทั้งวัน มีเหตุมาจากกฏแห่งกรรมใช่หรือไม่?
ตอบ : คนที่มักมากในกามเป็นทาสของกามตัณหา บ้างว่าเป็นเพราะกฏแห่งกรรม แต่ข้าพเจ้าใช้เนตรวิเศษวิเคราะห์ดู พบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักมาจากชายเปลี่ยวหญิงเหงาอยู่ใกล้ชิดกัน ไม่อาจหักห้ามจิตใจจึงมีเพศสัมพันธ์กันขึ้น หากมาเหมาว่าเป็นเพราะหนี้ชาติปางก่อน คำพูดอย่างนี้ฟังดูเผิน ๆ ก็มีเหตุผลดี เพื่อเข้าข้างตัวเอง แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งสิ้น ทะเลตัณหาเสมือนหนึ่งยาพิษ หญิงชายที่ตกเข้าไปในห้วงแห่งกามารมณ์แล้วจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นหมู สุนัข ถึงตอนนั้นมันจะสายเกินแก้เสียแล้ว
ถาม : คดีข่มขืนมีมากเหลือเกิน มีให้ได้ยินทุกวี่ทุกวัน เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป นั่นจะไม่ทำให้จิตใจคนห่อเหี่ยวหรือ?
ตอบ : มีบางคนบอกว่า บุคคลที่มักมากด้วยกามารมณ์มักก่อคดีข่มขืนขึ้น เนื่องมาจากผลกรรมจากชาติปางก่อน แต่ข้าพเจ้าวิเคราะห์ดูแล้วว่าไม่ใช่ เพราะเหตุดังฤา ตามกฏของการเวียนว่ายตายเกิดเน้นหนักผลกรรมแห่งกามารมณ์เป็นบทลงโทษที่หนัก ที่สุด กามตัณหาเป็นยอดแห่งความชั่วทั้งปวง ผู้ใดก่อคดีข่มขืนหรือหลอกลวงข่มขืน หากไม่ได้สร้างสมบุญบารมีมา มีหรือเบื้องบนจะอนุญาตให้เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อไปก่อคดีข่มขืนขึ้นอีกเพราะ คนเหล่านั้นจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน จะได้ไปมั่วกามทุกเวลามนุษย์เราไม่เข้าใจเรื่องผลบุญผลกรรมนั่นเอง


ถาม : คนที่หลงตัวเองว่ามีเสน่ห์นับวันมีมากขึ้น ๆ เริ่มจากสถานเริงรมย์ ตลอดจนถึงโรงแรมม่านรูด เต็มไปด้วยตัณหาราคะกิจการค้ากามรุ่งโรจน์ ขอเรียนถามว่า คนที่ชอบมั่วสุมกับกามารมณ์นั้นควรรับโทษสถานใด?
ตอบ : มีคนบอกว่านั่นเป็นการซื้อขาย จะมีโทษได้อย่างไร พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ท่านไม่ลองคิดดู ถ้าเป็นการค้าขายจะไม่ใช่ทำความผิด งั้นสังคมทุกวันนี้มีการค้ายาเสพติด ค้าของหนีภาษีจ้างวานฆ่าคน จะเรียกว่าไม่ผิดได้อย่างไร การใช้เงินตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งการเสพกาม ศักดิ์ศรีของคนก็ถูกบั่นทอนลงไปและเป็นคนบาปที่ทำให้ศีลธรรมเสื่อมทรามลง ยังกระทบกระเทือนถึงการครองเรือนที่ดีงาม จะว่าไม่ผิดได้หรือ
คนที่มักมากในกามตัณหา จะได้รับผลกรรมทางสมองเสื่อมในชาติปัจจุบัน และจะเกิดปัญหาในครอบครัว หากยังไม่สำนึกผิดเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ชาติหน้าจะได้ไปเกิดเป็นหมูเพศผู้ ไก่เพศผู้ หรือหนอนประเภทตัณหาจัด ยิ่งกว่านั้นจะไปเกิดเป็หญิงโสเภณี มีอาชีพต้องให้ชายชมตลอดไป ก็เพราะผลกรรมจากคนที่มักมากทางกามนั่นเอง
ถาม : ผลกรรมของการเป็นหญิงโสเภณีจะเป็นอย่างไร?
ตอบ : หากถูกหลอกขายซ่อง ไม่สามารถหนีออกมาได้ ส่วนใหญ่มาจากบาปที่ก่อไว้ชาติปางก่อน หากได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีจิตงามโดยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสภา สังคมสงเคราะห์สตรีแล้วประกอบแต่กรรมดี จะได้ลดโทษกรรม หญิงใดที่สมัครใจค้ากามส่วนมากจะเป็นหญิงชอบมีชีวิตฟู่ฟ่า ลุ่มหลงแสงสีเสียง หากไม่สำนึกผิด ชาติหน้าจะได้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ยากที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก

ถาม : หนังสือ “เที่ยวเมืองนรก” ได้บันทึกถึงพระอรหันต์จี้กงพาคนทรงไปชมที่กระจกส่องกรรม เป็นภาพคนที่หลงตัวเองว่าเป็นคนมีเสน่ห์เป็นคนชั้นสูงในสังคม เมื่อแสดงบทรักเสมือนหนึ่งเป็นหนังลามก ถึงแม้ตายจากโลกนี้ไป จิตสำนึกแห่งความชั่วช้าทางกามารมณ์ยังฝังลึกอยู่ คล้ายกับวิดีโอเทปได้บันทึกไว้อย่างไรก็อย่างนั้น ไม่มีการผิดเพี้ยน มายืนอยู่หน้ากระจกส่องกรรม ให้ผู้อื่นชื่นชม ลองคิดดู จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ตอบ : สตรีที่ขายความงาม ปล่อยให้หมื่นชายชื่นชมแบบไร้ค่า ยังทำบาปมหันต์ด้วย ส่วนชายนั้นจะว่ามีเสน่ห์ก็หาไม่ แท้ที่จริงต่ำช้าเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน นับเป็นการประกอบความชั่วเช่นกัน คนพวกนี้นอกจากได้รับผลกรรมในโลกมนุษย์แล้ว ชาติหน้าจะเกิดเป็นเพศหญิง และกลายเป็นหญิงโสเภณีเช่นกัน ให้ผู้คนชมเชยนั่นยังดี หากไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่สามารถพูดภาษาคนได้เวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด ขอจงสังวรและรีบแก้ไขเสีย
ถาม : คนที่ทำผิดทางกามแล้ว จะแก้กรรมได้อย่างไร?
ตอบ : รีบตัดสินใจละจากการมั่วกามทันที และรีบบริจาคเงินร่วมพิมพ์หนังสือคัมภีร์ละกาม เพื่อชดใช้บาปที่ก่อไว้ หากหนังสือเล่มนี้ได้ออกสู่สายตาผู้คน ก็เป็นวิธีแก้กรรมขนานแท้

ถาม : ชายใดไม่ห่วงใยลูกเมีย ไปมั่วกามกับหญิงอื่น จะได้ผลกรรมเช่นไร?
ตอบ : การกระทำเช่นนี้ได้ผิดจากความเป็นมนุษย์ นั่นไม่เพียงไม่สามารถระงับความสัมพันธ์ในชาตินี้ลงได้ ยังได้รับผลกรรมจากการมีลูกอกตัญญู ชาติหน้าอาจเกิดมาเป็นเพศหญิงเพื่อชดใช้กรรม หรือเกิดเป็นชายขี้โรค หย่อนสมรรถภาพทางเพศ นั่นคือผลของกฏแห่งกรรมละ ชาติปัจจุบันรับผลกรรมที่ก่อจากชาติก่อน ชาตินี้ก่อเหตุอะไรไว้ จะเป็นผลกรรมของชาติหน้าการเป็นคู่สามีภรรยากัน มักมาจากเหตุและผล สามีไม่ควรรังเกียจภรรยา ภรรยาไม่ควรต่อว่าสามี ต่างให้อภัยและเห็นใจซึ่งกันและกัน เมื่อชาตินี้ผ่านไป ความเป็นสามีภรรยากันก็สิ้นสุดลง หากมีผู้ใดละเมิดจะส่งผลไปถึงภพหน้า แล้วจะสิ้นสุดกันเมื่อไรเล่า
ถาม : ผลกรรมของผู้เป็นภรรยาทอดทิ้งสามี จะรับโทษสถานใด?
ตอบ : นั่นคล้ายกับว่าเป็นหนี้เขาแล้วเบี้ยว การหนีออกจากบ้านคล้ายหลบหนีกฏแห่งกรรม มีหรือกฏแห่งกรรมจะหลบเลี่ยงกันได้
ควรใช้สติปัญญา แก้ปมปัญหาในครอบครัว จึงเป็นทางออกที่ถูกต้อง สามีภรรยาควรตระหนักถึงหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูบุตรธิดาเป็นสำคัญ หากผู้ภรรยาคบชู้สู่ชายเป็นการสร้างบาปให้ตัวเอง ชาติหน้ายากที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก

ถาม : ชายใดที่ริมีภรรยาน้อย จะมาจากผลกรรมหรือเปล่า?
ตอบ : สมัยนี้เป็นระบบผัวเดียวเมียเดียว หากแต่งงานซ้ำสอง จะว่าเป็นเพราะ สัมพันธ์จากชาติก่อนไม่ได้ นั่นเป็นการสร้างบาป และเป็นเหตุของการสร้างบาป
หากเกิดมีบุตรธิดากับภรรยาน้อย ก็ต้องรับผิดชอบให้การเลี้ยงดู อย่ามัวแต่ไปลุ่มหลงกามารมณ์จนไม่คิดถึงผลกรรมที่จะตามมา
ถาม : การทำแท้งได้รุดหน้า ยาคุมกำเนิดซื้อขายสะดวก การเสพสมที่ศักดิ์สิทธิ์เลยกลายเป็นเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน การเสพสมที่ถูกต้องเยี่ยงสามีภรรยาเป็นการถูกทำนองคลองธรรม หากมั่วสุมกันไม่เลือกหน้า จะได้รับผลกรรมเช่นใด?
ตอบ : การทำแท้งเป็นผลปาณาติบาตจากการมั่วกาม ควรระวังก่อนที่จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนการมั่วกาม จะส่งผลกรรมให้ไปเกิดเป็นเพศหญิงการสมสู่ระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่อง ธรรมชาติ ควรอยู่ในร่องในรอยเป็นการถูกต้อง ผู้ปฏิบัติธรรมก็ไม่ควรถือว่าเป็นเรื่องลามกเพียงไม่มักมากเกินควร จะไม่มีอะไรผิด กลับเป็นการครองเรือนที่ถูกต้อง

ถาม : ผู้ปฏิบัติธรรมเน้นหนักถึงไตรรัตน์ของมนุษย์ เช่น พรหมจรรย์ ธาตุ สติ แล้วจะประคับประคองการครองเรือนได้อย่างไร?
ตอบ : ชาวโลกเข้าใจว่า พรหมจรรย์ของไตรรัตน์หมายถึงอสุจิ
จิตธรรมเป็นพรหมจรรย์ที่แท้จริง ปกติคนเราพบเห็นสาวงามจิตไม่หวั่นไหว จึงเป็นพรหมจรรย์ที่แท้จริง อสุจิจึงแตกต่างจากพรหมจรรย์ดังเช่นนี้แล การพบเห็นสาวงามแล้วเกิดความใคร่ จึงเรียกว่าได้สะเทือนถึงพรหมจรรย์ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาโดยไม่คิดไปทางลามก จึงรักษาพรหมจรรย์ไว้ได้ และการปฏิบัติหน้าที่ของสามีภรรยา จึงไม่กระทบกระเทือนถึงไตรรัตน์ ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงขอตักเตือนผู้ปฏิบัติธรรมอย่าได้สับสนปัญหานี้ จะทำให้สามีภรรยากลายเป็นคนแปลกหน้าไป ตัวผู้ชายเองก็จะถูกมองว่าเป็นสัตว์ประปลาด การปฏิบัติธรรมที่ไม่ถูกวิธี จะทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจและตัวเองก็เป็นลูกอกตัญญูโดยไม่รู้ตัว
ถาม : สุภาพสตรีมีพรหมจรรย์ไหม?
ตอบ : ชายหญิงล้วนมีพรหมจรรย์มาแต่กำเนิดทั้งนั้น หญิงใดที่รักษาพรหมจาริณี ได้ กล่าวคือรักษาพรหมจรรย์ไว้ได้ ชายใดละเว้นเสพเมถุน แม้ในฝันก็ไม่มี จึงเรียกได้ว่า ได้ปกป้องรักษาพรหมจรรย์ที่แท้จริงได้
สรุปแล้ว การปฏิบัติธรรมควรเน้นที่จิตใจ ไม่ต้องทำเป็นเร้นลับหรืองมงายเกินไป หากแต่คนเรา “วันหนึ่งทบทวนการกระทำของตัวเอง 3 ครั้ง” ก็จะรักษาจิตธรรมไว้ได้

ถาม : การผิดประเวณีเป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย บุคคลใดที่มีอาชีพขายบริการทางเพศ มีบาปมหันต์ไหม?
ตอบ : บุคคลประเภทนี้เป็นต้นเหตุแห่งความชั่วร้าย คนมาเสพกามยิ่งมากกิจการก็ยิ่งเจริญ ความชั่วช้ายิ่งเพิ่มทวีคูณ ในนรกอเวจีจึงเต็มไปด้วยคนประเภทนี้
ถาม : บุคคลที่หมกมุ่นในตัณหากามราคะ ได้รับโทษเช่นไรในขุมนรก
ตอบ : ต้องแล้วแต่การกระทำของแต่ละคน ข้าฯ จะพาไปชมทีหลังไม่ต้องคำนึงว่าจะไปรับโทษทัณฑ์ขุมไหน ต้องขึ้นอยู่กับบาปกรรมของแต่ละบุคคลที่ก่อขึ้น แล้วเจ้าก็บันทึกตามที่เจ้าพบเห็นก็แล้วกัน
หมายเหตุ : บทความต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของผู้เขียนที่เห็นด้วยตาทิพย์ จะบันทึกไว้ในฐานะผู้สังเกตการณ์



เรื่องจริง “นักล่าหญิงสาว”
นายหวังเป็นบัณฑิตที่หลงตัวเองว่ามีเสน่ห์ หลังจากจบปริญญาออกมา เข้าทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยมีบุคลิกดี พูดจาสุภาพ มีสุภาพสตรีมาติดพันคนแล้วคนเล่า ในจำนวนนั้นมีอยู่หลายท่าน ทุ่มเทความรักให้เขาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ต่างก็ได้มอบความสาวให้แก่เขา หากแต่นายหวังผู้นี้กลับพออกพอใจที่เขาได้ชัยชนะทางตัณหาราคะ
ความทุกข์มักตามมาหลังมีความสุข ในที่สุดนายหวังติดกามโรคด้วยความอายไม่กล้าไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาล กลับไปหาหมอตี๋ซื้อยาทานเอง ไม่ช้าระบบปัสสาวะไม่เจ็บปวดเลยคิดว่าหายดีแล้ว แท้ที่จริงเชื้อโรคได้ฝังอยู่ในร่างกาย ดูจากภายนอกไม่มีอะไร ส่วนภายในร่างกายโลหิตเริ่มเป็นพิษ เพียงรอจังหวะที่จะปรากฏออกมาอีกครั้ง
หนึ่งปีให้หลังนายหวังมักมากในกามกลับดื่มสุราขนาดขาดความยั้งคิด วันหนึ่งป่วยเป็นโรคหวัดมีไข้สูง หลังจากแพทย์ตรวจแล้วพบว่า นายหวังได้ป่วยเป็นกามเชื้อถึงขั้น 3 แล้ว อวัยวะรับความกระทบกระเทือน ระบบประสาทก็ถูกกามโรคเล่นงาน ถึงแม้หมอได้พยายามรักษา แต่ก็จบชีวิตลงในที่สุด
วิญญาณของนายหวังจะไปแห่งหนใด ตอนนั้นในความนึกคิดของนายหวังขณะนั้นเต็มไปด้วยความใคร่กับความสุข ลูกเมียห้อมล้อมข้างศพหาสนใจไม่ แสงสีเทาส่องมาจากด้านบนมาตรงศีรษะ คนธรรมดาเห็นแล้วรู้สึกน่ากลัวกับมีกลิ่นตุ ๆ แต่ตัวนายหวังกลับเห็นว่าเป็นทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยโรแมนติก

เขาเดินไปเดินไปโดยมีแสงสีเทาเป็นผู้นำทาง จนมาถึงลำธารที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวของลำธารเลือดสายหนึ่ง เลือดแดงฉานกำลังไหลริน เป็นที่น่ากลัวต่อผู้พบเห็น ในลำธารนั้นมีเกาะสีเขียวเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง กำลังล่องลอยอยู่ แสงสีเทาได้ส่องตรงบนเกาะลอยนี้ แต่ในสายตาของนายหวังกลับเห็นลำธารเลือดเป็นลำธารที่มีน้ำสดใส กลิ่นเหม็นคาวดมเป็นกลิ่นหอมหวนของดอกไม้นานาพรรณ ในสายตานายหวังเกาะลอยนั้นเสมือนเป็นเรือบันเทิง ภายใต้แสงสีเทา เขาเห็นสาวสวยเปลือยท่อนบนหลายนางได้กวักมือเรียก และเรือบันเทิงก็เทียบท่าเชิญนายหวังลงเรือเขาลงเรือด้วยความเคลิบเคลิ้ม โอบล้อมด้วยสาวสวยในบรรยากาศของดนตรี มีลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่น เรือได้แล่นเข้าไปในถ้ำมืด มีแสงริบหรี่ส่องมา ทันใดนั้นเกิดฟ้าถล่มดินทลาย เรือล่มคนตาย วิญญาณของนายหวังหมดสติแล้วตื่นขึ้น ฉับพลันก็ได้สิ้นสภาพเป็นมนุษย์แล้ว
ผลที่สุดคือ นายหวังไปเกิดเป็นหมูเพศผู้ มีขนขาวดำสลับกันมีตัวหนังสือคลับคล้ายคลับคลาว่าหวัง....ร้องเสียงดังลั่น เจ้าของคอกซึ่งเป็นลุงใช้เท้าเต้ะไป 1 ที เขาจึงหยุดร้อง
ถาม : เหตุใดนายหวังมองเห็นธารเลือดเป็นธารน้ำ รกมดลูกดูเป็นเรือสำราญ แม่หมูดูเป็นสาวเปลือยอกละ?
ตอบ : นั่นเป็นกฏแห่งกรรม เสมือนหนึ่งตัวหนอนชอบไชกองอุจจาระเพราะความหอมหวน ส้วมจึงเป็นที่อาศัยของหนอนเหล่านั้น นั่นคือผลของกรรมละ
สุนัขชอบกินอุจจาระของมนุษย์ดั่งอาหารรสเลิศ หมูกินซากข้าวอย่างเอร็ดอร่อย นั่นก็เป็นผลกรรมเช่นกัน
เหล่าพุทธะและเทพยดาชอบปฏิบัติธรรมอย่างมีสติอารมณ์และเต็มเปี่ยมด้วยจิต เมตตา จึงได้เสวยสุขบนสรวงสวรรค์ จึงมองผลกรรมที่มนุษย์ได้ร่วมกันสร้างมาเป็นสิ่งที่สกปรกโสโครกหากแต่มนุษย์ นับวันลุ่มหลงในกามตัณหา เช่นเดียวกับตัวหนอนหาความสำราญในกองอุจจาระยังไงยังงั้น
นายหวังเมื่อยังมีชีวิตอยู่ มักหาความสุขในกามารมณ์จิตสำนึกได้ปลูกฝังด้วยเหตุชั่ว จึงมองเห็นกามราคะเป็นสิ่งที่น่าเสพสุข เลือดในมดลูกเป็นน้ำใส ตัวรกมดลูกเป็นเรือสำราญเกิดมาเป็นหมูเพศผู้ อาจเป็นหมูเพศผู้รับผสมพันธุ์เที่ยวเสพสุขทั่วไป
นั่นเป็นผลของกฏแห่งกรรม!

ถาม : เหตุใดจึงไปเกิดอยู่ในคอกหมูของคุณลุงของเขา
ตอบ : เนื่องจากตอนมีชีวิตอยู่ ลุงได้ห้ามปรามเขาอย่าลุ่มหลงในกามารมณ์อีกต่อไป เขาไม่เพียงไม่รับฟัง กลับกล่าวคำสบประมาทผู้ใหญ่ว่า “ถ้าจะมายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา ขอให้ไปยุ่งกับหมูของลุงเถิด” ไม่นึกว่าคำสบประมาทนั้นกลับเป็นผลกรรมในชาติต่อมา ถูกลุงเขาดุด่าทุกวัน ยังถูกบังคับไปผสมพันธุ์หาเงินให้กับคุณลุงของเขาอย่างมากมาย
เหตุปางก่อนชาตินี้ตอบสนอง
หมูลำพองหากำไรซองสีแดง
อย่าประกอบค้ากามห้องโคมแดง
บทเรียนแพงพิจารณาให้ถ่องแท้
วิญญาณหวังเซิงในความฝัน
แสงสลัวปั่นราคะรักไม่เกี่ยง
สุขสบายวิ่งลอกตามโต๊ะเลี้ยง
เลยต้องเสี่ยงเกิดเป็นหมูหารู้ไม่

ถาม : การที่นายหวังได้รับผลกรรมร้ายแรงเช่นนี้ สาเหตุเพราะมาจากตอนมีชีวิตอยู่ได้ทำลายความบริสุทธิ์ของสาวพรหมจารีมากต่อมากใช่ไหม?
ตอบ : การคบค้าสมาคมระหว่างหญิงชาย ควรอยู่ในกรอบของอารมณ์ต้องมีสติคอยควบคุมความใคร่ ชายอกสามศอกควรแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษ อย่าได้มีความคิดลามกในสมอง อย่าเกิดความใคร่ง่าย ๆ จนต้องทำลายอนาคตของหญิงสาวดี ๆ ไปมากต่อมาก
การทำลายสาวพรหมจารีและหลอกลวงความรักของหญิงสาว เป็นการสร้างความเจ็บปวดทั้งจิตและกายแก่หญิงสาวเหล่านั้น บาปกรรมนั้นหนักหนายิ่งกว่าฆ่าคน ผลกรรมที่ได้รับย่อมหนักหนาเช่นกัน ตัวอย่างขอนายหวังเพียงตัวอย่างหนึ่งของเหล่ามารสังคมที่ชอบมั่วกามเท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องจริง “แปลงร่างเป็นงู”
บนถนนจงหัว ณ อำเภอแห่งหนึ่ง มีแผงงู 1 แห่ง พอพลบค่ำจะมีคนห้อมล้อมดูการแสดงฆ่างูเพื่อเอาดีงูออกมา เขาเล่ากันว่า ดีงูมีประโยชน์มากต่อดวงตา คนที่หลงเข้าใจผิดได้ทุ่มเงินเพื่อได้ดีงูสด ๆ มารับประทาน คนที่กินดีงูมิโหดเหี้ยมไปหรือถึงเม้การกินดีงูอาจทำให้สายตาของเขาดีขึ้น บ้าง แต่ผลที่ตามมาเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก คนที่พบเห็นจะสะดุ้งได้ เนื่องด้วยความพยาบาทของวิญญาณงูเกาะติดกับคนที่ชอบกินดีงู ดวงตาของเขาจะมีเสงสีเขียวที่ดูแล้วน่ากลัว ดวงตาของเขาจะคล้ายกับดวงตาของงู แสงสีเขียวในดวงตาจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการกินดีงูมากน้อยนั่นเอง เมื่อวิญญาณคนกับวิญญาณงูผสมผสานเข้าหากันแล้ว วิญญาณของเขาจะแฝงด้วยความพยาบาทของงู นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก หวังว่าท่านทั้งหลายควรสังวรไว้
มีทหารคนหนึ่งออกไปซ้อมรบในป่า ถูกงูพิษกัด สลบไสล ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต หลายวันต่อมา ข้าพเจ้าไปเยี่ยมไข้ทหารคนนั้น ใช้ญาณวิเศษเพ่งดู ใบหน้าของเขามีวิญญาณงูทั้งใหญ่เล็กปรากฏบนใบหน้าของเขา เมื่เขาเจ็บปวดร้องครวญคราง พวกวิญญาณงูจะร่าเริงดีใจ ข้าพเจ้าเลยฉวยโอกาสนี้ได้แนะนำเขาว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเขาจะต้องละเว้นการกินเนื้องู ดีงูอีกต่อไป ควรหมั่นสวดคาถาเจ้าแม่กวนอิมและสาบานจะร่วมทุนพิมพ์หนังสือธรรมะทุกเดือน อุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญาณงู หวังว่าการแนะนำของเรา เข้าจะได้สำนึกผิดและทำตาม
ถาม : บัดนี้มีคนถามว่า กรรมเก่าของงูมีอะไรบ้าง?
ตอบ : งูเป็นสัตว์ประเภทเลือดเย็น คนกลัวงู งูก็กลัวคน แท้จริงชาติก่อนของงูก็เป็นคน แต่เนื่องด้วยกรรมเก่าจึงมาเกิดเป็นงูในชาตินี้
สาเหตุที่ต้องมาเกิดเป็นงูมีหลายข้อ
1. สมัครใจเป็นโสเภณีหรือเป็นพาร์ตเนอร์ เพื่อเร่ขายเนื้อสดหรือให้ชายกอดเต้นรำ หากไม่รีบเปลี่ยนอาชีพ ชาติหน้าก็เกิดมาเป็นงู โบราณกาลมา มีการแสดงระบำเปลือย บ้างก็เปลือยกายแสดงพร้อมกับงูใหญ่ แสดงท่าต่าง ๆ เป็นที่อุจาดตาลองคิดดูให้ดี นั่นมิใช่เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งหรือ
2. มีอาชีพโสมม เช่นเป็นคนติดต่อค้ากามหรือเปิดซ่องบังคับสาวบริสุทธิ์หรือหญิงดี ๆ ให้ค้าประเวณีการกระทำเช่นนั้นล้วนเกิดเป็นงูในภพหน้า ให้คนฆ่าและกินดีงู ได้รับความทุกข์ทรมานที่ถูกถลกหนังเป็นการชดใช้กรรม
3. เป็นคนชอบใช้เล่ห์กลอุบายใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ ปากหวานอาบยาพิษ ทำร้ายคนด้วยเลือดเย็น เมื่อตายจากโลกนี้ไป ย่อมไปเกิดเป็นงูพิษที่มีลิ้นสีแดง เขี้ยวก็อาบยาพิษด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องจริง “ฝันร้าย”
ตัณหาราคะ มองดูคล้ายผลไม้ที่น่ารับประทาน เมื่อรับประทานแล้วกลับมีรสฝาด ความรักดูผิวเผินก็หวานชื่น แต่แฝงด้วยเหตุแห่งความทุกข์ ผู้เขียนมิได้ห้ามคนมีความรัก หากแต่ควรมีสติเพื่อหลีกเลี่ยงผลร้ายที่จะตามมา
การร่วมเพศระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องถูกต้องเพื่อผสมผสานจิตและกายเป็นคนๆ เดียวกัน ถ้ามีการร่วมเพศนอกเหนือจากสามีภรรยาแล้วไซร้ จะกลายเป็นทาสทางกามราคะ จิตและกายจะได้รับการกระทบกระเทือนไปด้วย
ผู้เขียนจะยกตัวอย่าง นายเคเป็นคนไข้ของผู้เขียนเอง อายุ 36 ปี นายเคเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี ทำงานในธนาคารแห่งหนึ่ง ฐานะทางครอบครัวดี ได้รับความรักและไว้วางใจจากครอบครัวและเพื่อนฝูงหากแต่เขามีโรคประจำตัวคือ เป็นโรคนอนไม่หลับ ผู้เขียนได้ใช้ญาณวิเศษเห็นด้านหลังของนายเคมีวิญญาณอยู่ตัวหนึ่งเกาะติด ร่างกายเขา กลิ่นไอของงูสามารถพบเห็นได้ นั่นเป็นการดูดไอบริสุทธิ์ของนายเคแต่ผู้เขียนไม่อาจบอกให้นายเครู้เพียงแก้ ปัญหาให้อย่างเงียบ ๆ
ในชีวิตจริง คนที่มีวิญญาณงูเกาะติดตัวนั้น มักจะพัวพันกับเรื่องกามตัณหา ในสมองมีแต่เรื่องลามก นับวันจะรุนแรงขึ้น วิญญาณของสัตว์ต่าง ๆ ก็เริ่มเกาะติด เป็นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ซึ่งหมอไม่สามารถตรวจพบสาเหตุได้ จึงลงความเห็นว่าเป็นโรคประสาท โรคกังวล

เพื่อให้เรื่องกระจ่างจึงได้สนทนากับนายเค ดังนี้
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : คุณเคยมีความคิดที่จะแต่งงานใช่ไหม?
คนไข้ : ใช่ครับ ผมคิดอยู่บ่อย ๆ ว่า ผมเองมีอยู่หลายครั้งจะลงเอยถึงขั้นแต่งงานกัน แต่จู่ ๆ ก็มีปัญหาจนเรื่องแต่งงานต้องพังทลายลง
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : เริ่มจากสิงหาคมปีที่แล้ว คุณเริ่มป่วยเป็นโรคนอนไม่หลับ บางครั้งจะหลับบ้างแต่ก็มักจะฝันเปียก ใช่ไหม?
คนไข้ : ผมมีความรู้สึกที่แปลกประปลาด คล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างคอยกีดกั้นขัดขวางงานแต่งงานของผม เวลานอนมักจะฝันเห็นมีหญิงสาวมาหาแล้วผมก็อดไม่ไหวเลยฝันเปียก วันรุ่งขึ้นไปทำงานจะรู้สึกง่วงและอ่อนเพลีย
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : เราจะไม่คำนึงเรื่องฝันเปียกกับเรื่องผู้หญิงคนนั้น ขอได้โปรดพิจารณาตัวเองดีไหม
คนไข้ : ขอเพียงให้โรคนอนไม่หลับหายขาด ผมยินดีทำตามครับ
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : ตอนที่คุณรับราชการทหารอยู่ คุณเคยหลอกลวงความรักของผู้หญิงคนหนึ่งใช่ไหม?
คนไข้ : ?????????? (ก่อนจะถาม ผู้เขียนได้เชิญบิดามารดาของเขาออกไปก่อน)
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : ขอให้ไว้ใจหมอเถิด หมอจะช่วยคุณเต็มที่
คนไข้ : ตกลง เรื่องมีอยู่ว่า ตอนผมรับราชการทหารอยู่นั้น ผมประจำอยู่เกาะผังหู ทำหน้าที่รับส่งข่าวสารที่สนามบิน งานการไม่ค่อยมาก พอถึงวันอาทิตย์ ผมมักจะไปเที่ยวเตร่ที่ถนนหม่ากง ดูหนังบ้าง คบหาเพื่อนฝูงบ้าง ด้วยการแนะนำของเพื่อนได้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่ง ไปมาหาสู่กันบ่อย วันหนึ่งไปเที่ยวด้วยกัน ผมได้หลอกเธอว่า ผมจะขอแต่งงานกับเธอ จนเธอเชื่อ ในที่สุดก็ได้เสียกัน จนเธอตั้งครรภ์ ผมตกใจมาก จึงได้ยุยงเธอไปทำแท้ง ขณะนั้นผมเพียงคิดสนุก ๆ เท่านั้น ไม่คิดจริงจังอะไร แต่เธอซิเกิดรักผมอย่างฝังจิตฝังใจ ก่อนผมกลับเกาะไต้หวันหนึ่งคืน เธอได้บอกกับผมว่า “หากคุณไม่กลับไปแต่งงานกับฉัน ฉันจะฆ่าตัวตาย” บัดนี้เรื่องได้ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ผมไม่สบายใจมาตลอดเลย
ผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเลย เพราะผมต้องการรักษาศักดิ์ศรีไว้นั่นเอง

นายแพทย์ (ผู้เขียน) : จิตใจคุณคิดถึงความตายของเธอตลอดเวลาใช่ไหม? บางครั้งเมื่อคุณเกิดอารมณ์เพศ มักจะข่มอารมณ์ไว้ เพราะคุณยังกังวลเรื่องนี้อยู่
คนไข้ : ใช่ครับ คุณหมสามารถมองทะลุปรุโปร่งจิตใจของผม คุณหมอครับ โปรดช่วยผมเถิด ผมทนทุกข์ทรมานมากครับ
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : หญิงสาวผู้นั้นฆ่าตัวตายจริง แต่ได้ช่วยไว้ทัน บัดนี้เธอได้แต่งงานไปแล้ว แต่ในจิตส่วนลึกของเธอแฝงด้วยความเคียดแค้นอย่างแรง จนไม่สามารถลบล้างไปได้ เป็นเหตุกระทบถึงจิตวิญญาณของคุณ อีกทั้งคุณไม่เคยสำนึกบาปที่คุณก่อขึ้นเลย ด้วยเหตุนี้ความเคียดแค้นจึงอยู่รอบกายคุณ ถ้าจะให้การป่วยของคุณหายไม่ยากเลย คุณไม่จำเป็นต้องไปขออภัยเธอที่เกาะผังหูหรอกเพียงแต่คุณจะไม่ปิดบังเรื่องนี้อีกต่อไป และเลิกเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม เริ่มต้นใหม่เป็นคนดี นอกจากนั้น คุณตั้งจิตอธิษฐานจะร่วมทุนพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับละเว้นกามราคะ ประพฤติตนแบบนี้เป็นประจำแล้ว การป่วยของคุณก็จะหายเอง ( ปีศาจกลัวคนที่สำนึกบาปและทำความดี แต่คนเราจะชนะมารงูได้ ต้องทำความดีตลอด ความเคียดแค้นได้ก่อขึ้นมา 10 กว่าปี มันร้ายแรงมากนะ )
คนไข้ : ผมกลับไปบ้านแล้ว จะปฏิบัติตามคุณหมอแนะนำทันที
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : ช้าก่อน ไม่ต้องรีบร้อนถึงเพียงนั้นหรอก จิตสำนึกของคุณยังเต็มไปด้วยกามตัณหามาก ชอบคิดเรื่องลามกตลอดเวลา ต่อนี้ไปอย่าดูหนังเอ๊กซ์อีกนะ คุณทำได้ไหม?
คนไข้ : เอ้! ทำไมเรื่องพรรค์นี้ คุณหมอยังสามารถดูได้ (ใบหน้าแดงก่ำ) ผมมักอยู่ในห้องคนเดียว เปิดดูหนังเอ๊กซ์บ่อย ถ้าอย่างนั้นผมจะเลิกดูอีกต่อไป
นายแพทย์ (ผู้เขียน) : ผมมีหนังสือประเภทขัดเกลาจิตใจอยู่หลายเล่ม คุณเอาไปอ่านดีไหม?
คนไข้กลับไปบ้านแล้วปฏิบัติตาม แต่เนื่องด้วยมารเคียดแค้นนั้นร้ายกาจมาก เกือบทำให้เขาขาดความเชื่อมั่น ผู้เขียนต้องคอยแนะนำและให้กำลังใจบ่อย ๆ จนจิตธรรมะมั่นคงขึ้นมา มารร้ายนั้นจึงจากเขาไป บัดนี้นายเคตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่ความดี เชื่อว่าคงงได้รับข่าวมงคลสมรสของเขาในเร็ว ๆ นี้
( บทความรักษาโรคนี้ ไม่ใช่เรื่องสิ่งอัศจรรย์ เพียงรู้จักสำนึกบาปแล้วอธิษฐานจะทำความดี อบรมจิตใจ มารร้ายต่าง ๆ จะถอยห่างออกไปเอง จิตธรรมะก็จะค่อย ๆ เพิ่มทวีขึ้น และจะนอนหลับสบายเอง)

ถาม : นายเคทำผิดอะไรหรือ จึงต้องมาทนทุกข์ทรมาน 10 กว่าปี เกือบเป็นโรคประสาท
ตอบ : ทำลายพรหมจรรย์ของหญิงสาวเป็นการขาดสัตย์ธรรม
ใช้คำพูดหลอกลวงเป็นคนปราศจากความเชื่อถือ
ขาด ความกรุณาเป็นคนไร้เมตตา มักมากในกามไม่รู้จักสำนึกเป็นการไร้ยางอาย บวกกับไอเคียดแค้นของหญิงสาวคอยกระทบกระแทกจิตของนายเคจะอยู่ไม่ติดตัวจนนอน ไม่หลับ คนที่ไร้สัตย์ธรรม ไร้ความซื่อสัตย์ ไร้ความเมตตา ไม่สำนึกบาป จึงง่ายต่อการล่อลวงของมารร้าย จิตกับกายจะเจ็บปวด กรรมตามสนองทันที
ขอเตือนชาวโลกอย่าคิดแต่เรื่องลามก อย่าเที่ยวสำส่อน ต้องมีจิตบริสุทธิ์ ผลกรรมของนายเคเป็นตัวอย่างที่ดี คุณยังไม่กลัวหรือ?
ถาม : คัมภีร์ของเต๋ากล่าวไว้ว่า “เห็นหญิงงามคิดจะล่วงเกิน” คำๆ นี้แทงถูกจุดอ่อนของใจคนเหลือเกิน คนสมัยนี้ควรสังวรมาก ๆ จริงไหม?
ตอบ : เรื่องแบบนี้มีให้เห็นบ่อย ๆ มีคำกล่าวไว้ว่า “ดอกไม่สดปักอยู่บนกองขี้ควาย” หรือ “คางคกอยากทานเนื้อหงษ์” นั่นเป็นจิตของมนุษย์ทั่ว ๆไป
ส่วนคำพูด “เห็นหญิงงามคิดจะล่วงเกิน” นั้น หมายความว่า เห็นหญิงงามแล้ว ไม่คำนึงว่าหญิงนั้นแต่งงานแล้วหรือยัง จิตนึกชอบทันที อยากได้ไว้เป็นสมบัติตน จิตคนแปรเปลี่ยนสารพัดยิ่งคนสมัยนี้ชอบหลงรักหญิงที่แต่งงานแล้ว จนเกิดเรื่องเศร้าโศกจิตตัณหาบวกกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี จิตจึงขาดสติ กลายเป็นคนชอบมั่วสุมกามตัณหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เพื่อประคองความสุขของครอบครัว การให้ศึกษากับบุตรธิดาให้ประพฤติตนให้อยู่ในกรอบของศีลธรรม ใช้สติระงับตัณหา ผลของการมักมากในกามารมณ์ย่อมนำพาไปสู่ความหายนะจนครอบครัวแตกร้าว จงจำไว้ให้ดี
คำกลอน
กามราคะเป็นพิษ นำจิตทราม
ความสวยงามเสมือนหนึ่ง ดั่งเสือร้าย
มั่วกาเมเป็นภัย อย่าย่ำกราย
ตั้งจิตกายมีสติ เป็นยอดคน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องจริง “กรรมบ้า” (ประจักษ์ในโรงพยาบาล)
อ้าย! เธอมาอีกแล้ว น่าสงสาร!
ผู้เป็นพ่อในวัยชรากำลังพาลูกสาววัย 15 ปีที่ดูไร้เดียงสามาพบสูติแพทย์เฉิน เพราะเหตุดังฤา? นั้นเป็นการตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 ของลูกสาวของเขา ผู้เป็นพ่อมาขอร้องนายแพทย์ช่วยทำแท้งให้กับลูกสาวเขาซึ่งไม่รู้ว่า ใครเป็นพ่อของเด็ก ในที่สุดหมอได้ทำหมันให้ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว แต่หญิงสาวมีดวงตาเหม่อลอย ไม่พูดไม่จานั่งอยู่อย่างเงียบ ๆ
เป็นเรื่องที่น่าสังเวชมาก!
หญิงสาวคนนี้เคยป่วยเป็นโรคไข้สูง เมื่ออายุ 12 ปี จนเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือน เมื่อหายป่วยแล้ว เด็กที่สงบเสงี่ยมและงดงามก็ได้กลายเป็นคนสติไม่ดีดังเช่นขณะนี้
คุณพ่อเลยให้เธอหยุดเรียน เพื่อให้อยู่บ้านรักษาตัว แต่เธอก็แอบหนีออกไปเที่ยวเตร่บ่อย ๆ จนถูกเด็กวัยรุ่นอันธพาลหลอกไปข่มขืนในทุ่งหญ้าจนตั้งครรภ์ พ่อแม่มารู้เข้า ก็พาไปทำแท้ง แต่เธอมักพึมพำด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “แม่จะพาหนูน้อยไปชมดอกไม้นะ”
ท่านผู้อ่านคงเข้าใจดีแล้วว่า เรื่องมันเป็นเช่นไร?
ถาม : เรื่องเด็กสาวถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์กับความประพฤติของอันธพาลวัยรุ่น ท่านมีความรู้สึกอย่างไร?
ตอบ : วัยรุ่นอันธพาลเสมือนหนึ่งปีศาจ ชอบกระทำสิ่งที่ฟ้าดินพิโรธ เด็กหญิงถูกข่มขืนอย่างน่าสงสาร เริ่มแสดงถึงความเป็นแม่ นั่นเป็นธรรมชาติของเพศหญิง
ถาม : ผลกรรมของวัยรุ่นอันธพาลจะเป็นเช่นไร?
ตอบ : ผลกรรทั้งปวง กามราคะนับว่าได้รับผลกรรมเร็วที่สุด หากเจ้าตัวไม่ได้รับผลกรรมในชาติปัจจุบัน ลูกหลานของเขาก็จะรับผลกรรมนั้นแทน คนโบราณกล่าวไว้ว่า “ผู้ใดข่มขืนลูกเมียเขาลูกเมียตนก็จะถูกคนอื่นข่มขืนเช่นกัน” นั่นเป็นกฏแห่งกรรมยากต่อการหลีกเลี่ยงได้
หากสำนึกผิดรีบบริจาคเงินร่วมพิมพ์หนังสือประเภทละกามมิฉะนั้นแล้ว ลูกเมียจะถูกข่มขืน ถึงตอนนั้นจะแก้ไขก็สายเสียแล้ว
คนประเภทนี้มักจะมีเมียดุร้าย หรือไม่ก็ชอบคบชู้สู่ชายหรือไม่ก็ประพฤติตนในทางผิดศีล นำความเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูล วัน ๆ จะตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ ไม่เป็นอันกินอันนอนจนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป นอกจากบุคคลนั้นได้สำนึกบาป ประกอบกรรมดีก็ยังพอช่วยบรรเทาโทษจากหนักให้เป็นเบาได้ ส่วนใหญ่จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่น เกิดเป็นหมู หมา เป็ด ไก่ เกิด ๆ ตาย ๆ ไม่รู้กี่ร้อยชาติ จนกว่าวิญญาณนั้นได้รับการขัดเกลา จึงเกิดเป็นมนุษย์ ขอให้ชาวโลกจงสังวร



เรื่องจริง “กรรมของช่างถ่ายหนังลามก”
นายหลี่มีอาชีพเป็นคนฉายหนังลามก เนื่องด้วยได้ทำกำไรจากการถ่ายหนังลามก เลยไปทัศนาจรสถานที่ต่าง ๆ มีชีวิตอยู่สบายดี
นายหลี่มีลูกสาวคนหนึ่ง อายุ 14 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่ดี ๆ เกิดมีอาการทัองขึ้นเรอเปรี้ยว ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นหวัด หลังจากแพทย์ได้ตรวจรักษาพบว่าเธอตั้งครรภ์ นายหลี่กับภรรยาทุกข์ใจมากสอบถามจนได้ทราบสาเหตุว่า เพื่อนสนิทของนายหลี่ได้ฉวยโอกาสไม่อยู่บ้านได้ฉายหนังลามกให้ลูกสาวเขาดู ในที่สุดก็ได้ข่มขืนเธอ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า คนที่ยึดอาชีพเกี่ยวกับเรื่องกามลามกนั้น ผลนั้นย่อมสะท้อนกลับเข้าหาตัวเขาเอง
ถาม : นี่เป็นความจริง เหตุร้ายเกิดจากอะไร?
ตอบ : การฉายหนังลามกให้คนอื่นดู ทำให้คนดูเกิดความเพ้อฝันเกิดความใคร่ หนุ่มสาวดูแล้วขาดสติยั้งคิด จนเกิดคดีข่มขืนขึ้นมา
คนที่ชอบดูหนังลามก ในความนึกคิดของเขาคิดว่า การร่วมประเวณีในทางผิดศีลธรรมนั้น ไม่ใช่เรื่องอับอาย หากแต่ให้ความตื่นเต้นแก่ตน
ถาม : เหตุใดเด็กสาวนั้นจึงได้รับกรรมเช่นนั้น?
ตอบ : ชาติก่อนเธอเป็นเพศชาย รับราชการ ได้บังคับเมียชาวบ้านเป็นภรรยาน้อย และใช้วิธีฆ่าสามีเธอเพื่อตัดเสี้ยนหนาม แต่ว่าข้าราชการผู้นั้นเคยช่วยผัวเมียผู้อดอยากคู่หนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ชาตินี้จึงได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่
คนที่เป็นคนสติเฟื่องในชาตินี้ เป็นผลกรรมจากการกล่าวเท็จใส่ร้ายผู้อื่น ถ้าบวกกับการบังคับหญิงดีเป็นโสเภณี แน่นอนจะต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หากแต่เคยช่วยเหลือผู้อื่น จึงได้เกิดมาเป็นคน
กฏแห่งกรรมเป็นกฏที่อยู่คู่กับโลกนี้ ชาวโลกไม่รู้บาปบุญคุณโทษ ไปประกอบกรรมชั่ว จนต้องมรับผลกรรมในกาลต่อมา
วัยรุ่นอันธพาล จะต้องรับผลกรรมที่พวกเขาก่อไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าขอเตือนชาวโลก หยุดการทำชั่วและหันมาประกอบกรรมดีกันเถิด
ถาม : จะป้องกันไม่ให้เกิดการข่มขืนได้อย่างไร?
ตอบ : ส่งเสริมศีลธรรมของสังคมให้ดีขึ้น ปลูกฝังประชาชนให้ประกอบกรรมดี แล้วประชาชนที่บริสุทธิ์จะได้รับการคุ้มครอง ลองคิดดูว่าหากเด็กวัยรุ่นที่เกะกะเกเรเกิดความรู้สึกดีชอบ คดีข่มขืนก็จะป้องกันได้ เรื่องเด็กสาวก็จะพ้นจากการถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ได้ใช่ไหม?
ถาม : กามตัณหาเป็นยอดเลวร้ายที่สุด ใช่ไหม?
ตอบ : ชายที่กำลังรื่นเริงในกามเป็นกิริยาที่น่าเกลียดที่สุด ความมีสง่าราศีในตัวหดหายหมด คนเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุด หากไม่ละกามชอบหาเศษหาเลยนอกบ้าน สมสู่ไม่เลือก ถ้าจะเปรียบเทียบกับสัตว์บางประเภทที่มีฤดูกาลสมสู่ ย่อมสู้สัตว์ไม่ได้
ความแข็งแกร่งของประเทศชาติ ต้องมีศีลธรรมที่ดีงามความสุขของครอบครัวเป็นจุดเริ่มต้น หากมัวแต่มั่วสุมกามตัณหา ครอบครัวไม่สามัคคี ลูกหลานขาดตัวอย่างที่ดี แล้วทหารดีนายพลที่ดีจะไปหาได้ที่ไหน!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องจริง “ความลับของยาหนอน”
มีหนอนชนิดหนึ่ง เขาเรียกว่ากระดิ่งทอง คนเราเข้าใจว่ากระดิ่งทองนั้นเป็นตัวบำรุงในทางเซ็กซ์ คนเลี้ยงมักเลี้ยงด้วยยาสมุนไพรจีน หนอนเหล่านั้นเมื่อกินจนอิ่มก็ร่วมเพศกัน เรียกได้ว่า เมื่ออิ่มท้องแล้วก็เกิดตัณหา เนื่องจากยาบำรุงกินมากไป การร่วมเพศเลยขาดการยับยั้ง ผลิตลูกผลิตหลานอย่างรวดเร็วแค่ไม่กี่วัน หนอนกระดิ่งทองจาก 5 – 6 ตัว เพิ่มจำนวนเป็นหลายร้อยตัว คนเราคิดว่าหนอนกระดิ่งทองเป็นหนอนที่มีความต้องการทางเพศสูง เลยนำมาเพาะเลี้ยงมากินแบบสด ๆ ได้ข่าวว่ามีรสเผ็ดนิด ๆ และให้กำลังเซ็กซ์ด้วย
ข้าพเจ้าบางครั้งก็มาพิจารณาดู หนอนกระดิ่งทองนี้ มีความเป็นมาอย่างไร?
ครั้งหนึ่ง ขณะนั่งสมาธิอยู่จนจิตสงบแล้ว ข้าพเจ้าก็ใช้ญาณมาพิจารณาดู เห็นหนอนกระดิ่งทองในขวด จากตัวเล็ก ๆ ขยายตัวใหญ่ขึ้น ๆ จนมีขนาดเท่าตัวคน เพ่งเล็งให้ดี ศีรษะของหนอนกระดิ่งทองคลับคล้ายคลับคลาเป็นหัวคน ทุกส่วนในร่างกายค่อย ๆ เห็นมีมือมีเท้า ร่างของคนค่อย ๆ ปรากฏขึ้น นั่นคนนี้ อ้อ! ชาติเดิมของเขามาจากมนุษย์
ข้าพเจ้าติดตามต่อไป พบสาเหตุดังที่ยกตัวอย่างหนึ่งข้อดังนี้
ในตัวหนอนกระดิ่งทองตัวหนึ่ง เมื่อ 500 ชาติก่อน มีร่างเป็นคนและเป็นลูกเศรษฐีด้วย วัน ๆ ชอบเที่ยวเตร่ ผู้เป็นพ่อไม่หวังว่า ให้ลูกชายทำมาหากิน เพียงหวังให้ลูกชายผลิตลูกมาก ๆ จึงได้สบับสนุนบุตรชายมีภรรยาหลายคน การร่วมเพศไม่มีกำหนดนั้น ร่างกายนับวันผ่ายผอม ผู้เป็นพ่อฟังคนอื่นเล่ากันว่า ถ้าใช้สมอดำฝังอยู่ในอวัยวะเพศของหญิงสาวพรหมจารีหนึ่งคืน รุ่งขึ้นเอาออกมาทาน เชื่อกันว่าได้รับความบริสุทธิ์ของหญิงสาวพรหมจรรย์แล้ว จะเกิดพละกำลังทางเพศเป็นการละเมิดกฏของฟ้าดิน ในที่สุดต้องมาชดใช้กรรมโดยเกิดเป็นหนอนกระดิ่งทองทุกๆชาติ

ถาม : คนที่ชอบมั่วกาม จะต้องมาเกิดเป็นหนอนกระดิ่งทองในภพหน้าไหม?
ตอบ : คนที่วัน ๆ คิดแต่เรื่องกาม ไม่เลือกว่าลูกเขาเมียใคร แล้วร่วมเพศทุกวัน ผลย่อมชดใช้กรรมในชาติหน้า
ถาม : การกินกระดิ่งทองเป็น ๆ นั้น เป็นการเสริมพละกำลังทางเพศจริงหรือไม่?
ตอบ : เป็นการเข้าใจผิดของมนุษย์ คิดว่าทานหนอนประเภทนี้จะเกิดพละกำลังทางเพศแล้วไปมั่วกามอย่างไม่ยับยั้ง เป็นการบั่นทอนชีวิตตนมากกว่า
ถาม : เมื่อความใคร่เกิดขึ้น จะทำอย่างไร ให้ความใคร่ลดลง?
ตอบ : 1) การมองหญิงงาม อย่าไปพิจารณาเพียงภายนอก เราควรพิจารณาว่า นั่นเป็นกระดูกที่ใส่เสื้อสวย ๆ เท่านั้น ภายนอกที่พรมด้วยน้ำหอม แท้จริงภายในล้วนแต่สิ่งเน่าเหม็น เช่น เสมหะ เสลด เหงื่อ น้ำมูก น้ำปัสสาวะ อุจจาระ ฯลฯ สิ่งเหล่านั้น ตัวเราเองก็มี ถ้าคิดได้เช่นนี้ จะเกิดอาการคลื่นไส้
2) ร่างกายคนเหม็นที่สุด ดูจากเมื่อคนเราตายลง เมื่อโลหิตหยุดไหลเวียน น้ำเหลืองไหลเยิ้ม ใบหน้าซีดเซียว หลายวันผ่านไป ร่างกายจะบวมส่งกลิ่นเหม็น ถึงแม้ผู้ตายจะเคยเป็นนางงามจักรวาลก็ตาม เมื่อตายแล้วร่างกายก็เน่าเหม็นเหมือนกัน ความสวย ความน่ารักก็จะกลายเป็นของน่าเวทนาไป
3) เห็นสาวสายให้คิดเสมอว่า สตรีในโลกนี้ล้วนเป็นญาติทั้งนั้น ผู้มีอายุสูงนับว่าเป็นแม่ อายุมากหน่อยเป็นพี่ อายุอ่อนกว่าเป็นน้อง เมื่ออายุอ่อนมาก ๆ ถือว่าเป็นลูกสาว คนไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน จะไปคิดล่วงเกินญาติตนคงไม่มี
4) เห็นสาวสวยแล้วมีความคิดเช่นนี้ หากเราไปทำมิดีมิร้ายกับเธอ ลูกสาวหรือภรรยาสาวของเราหากถูกคนอื่นทำมิดีมิร้ายบ้าง แล้วเราจะทำอย่างไร คิดได้อย่างนี้ ความคิดลามกจะไม่เกิดขึ้น
5) เมื่อความใคร่ผุดขึ้น ยากที่จะระงับได้ ท่านลองหายใจลึก ๆ 3 ครั้ง หากมีสาวสวยอยู่ต่อหน้าเรา หรือทำท่ายั่วยุท่านควรคิดว่า การล่วงเกินเป็นการผิดศีล ต้องมีสติ คิดว่าความสุขชั่วคราวจะนำผลร้ายตามมาไม่มีวันสิ้นสุด คนเราควรสังวรถึงผลร้ายที่จะตามมา
ตาสวรรค์ดั่งฟ้าแลบ เรื่องเสพเมถุนไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดจะถูกบันทึกไว้หมด และจะปรากฏให้ดูเมื่อมายืนต่หน้ากระจกส่องกาม ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนดี
6) การเป็นคน สิ่งแรกต้องมีสติ ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุเย้ายวน ก็มีโอกาสที่เป็นเทพอยู่เบื้องบน หากขาดสติ ลุ่มหลง กามารมณ์ ก็จะเวียนว่ายตายเกิดไม่มีวันสิ้นสุด

จิตเจสิก แวบออกดึงกลับ
ลื่อโจ๊ว
ปล่อยให้ว่างเปล่า ไม่ต้องกังวล
กับลมหายใจ เข้าหรือออก
ไม่คิดสิ่งใด หากแวบออกไป
ก็ดึงกลับมา คงความสงบ
หากมีเจ็บปวด ณ ที่ใดใด
แผ่ว ๆ เบา ๆ แผ่ว ๆ เบา ๆ
ไปที่จุดนั้น สลายความเจ็บ
ให้หมดสิ้นไป ขอจงฝึกหัด
จนได้สงบ ลมหายใจนิ่ง..แลดิ่ง
ค่อยเดินลมปราณ ลองฝึกหัดดู
จักได้เห็นผล สักทีสักที


ฝึกใจต้องฝึกพูดดีด้วย
ลื่อโจ๊ว
ยินดีปรีดิ์เปรม เกษมเปรมปรีดิ์
มีน้ำแร่กิน แทนกินน้ำคำ
สุขภาพกาย มีดีกว่าเก่า
สุขภาพใจ ก็ดูจะดี
ขอจงประคอง ทั้งกายทั้งใจ
ให้ดีให้ดี ยิ่งยิ่งขึ้นไป
จนกว่าหมดจด จิตใสใจงาม
เป็นที่ยินดี ยินดียินดี
ขอจงฝึกใจ ขอจงฝึกใจ
วิธีฝึกหัด จัดจิตจัดใจ
มาลองดูกัน สักหนึ่งวิธี
นี้มาดูกัน ว่าเป็นอย่างไร
ถ้อยคำคำพูด ที่เปล่งออกมา
แสดงระดับ ความคิดจิตใจ
ว่าไปถึงไหน เช่นคำอวดดี
คนหนึ่งกล่าวว่า ให้อีกคนหนึ่งล
ผู้กล่าวยังมี อัตตาสูงอยู่
ผู้ถูกกล่าวว่า ก็ถูกดูถูก
ลองมาฝึกหัด จัดใช้ถ้อยคำ
ก่อนจะพูดจา คิดพินิจดู
ดีหรือไม่ดี ค่อยค่อยหาคำ
ที่เหมาะที่ควร เอามาแทนกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


คัมภีร์ปลุกชาวโลก
โดยเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ พระเจ้ากวนอู
( เง็ก เซียน ฮ่อง เต้ )

พระเจ้ากวนอูทรงตรัสไว้ว่า คุณค่าของความเป็นมนุษย์นั้นอยู่ที่การมีความจงรักภักดี ความกตัญญู และมีคุณธรรม จึงจะนับได้ว่าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด และสามารถยืนหยัดอยู่บนสวรรค์หรือบนพิภพนี้ได้ หากมนุษย์เราไม่จงรักภักดีต่อประเทศชาติ ไม่กตัญญูต่อบิดา มารดา ไม่รักษาสัจธรรมแล้วไซร้ ถึงตัวยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้านจิตใจ เสมือนหนึ่งได้ตายจากไปแล้ว และจะอยู่แบบลับ ๆ ล่อ ๆ ไม่มีความหมายอะไรจิตของมนุษย์คือเจ้า เจ้าก็คือจิต ถ้าการะทำสิ่งใดที่ไม่ละอายต่อจิตแล้วก็เท่ากับว่าไม่ละอายต่อเจ้า การกระทำสิ่งใดก็ดีที่หลอกลวงจิตตน ก็เท่ากับหลอกลวงเจ้า เพราะฉะนั้นสาธุชนควรรู้ถึงสามข้อที่ควรเกรงกลัว
1)เกรงกลัวต่อโองการสวรรค์
2) เกรงกลัวผู้หลักผู้ใหญ่
3) เกรงกลัวต่อคำพูดของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
และสี่ข้อที่ควรรู้ (รู้ฟ้า รู้ดิน รู้เขา รู้ตน) พึงระมัดระวังไม่ให้ตัวเองกระทำในสิ่งที่ผิด จงอย่าคิดว่าหลบอยู่ในห้องมืดหรือบ้านร้างแล้วจะทำสิ่งชั่วช้าสามานย์แล้วจะ ไม่มีใครเห็น แท้ที่จริงการเคลื่อนไหวหรือการกระทำใด ๆ ล้วนอยู่ในสายตาของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้นสิบตาต่างเพ่งมาที่การกระทำ ของพวกเราอยู่ และจงอย่าคิดว่า ที่พูดนั้นปราศจากข้อมูล กรรมที่คนเราก่อขึ้นย่อมได้รับสนองทั้งนั้น จะไม่ผิดพลาดแม้แต่เส้นผมเพียงเส้นเดียว กามตัณหาเป็นยอดแห่งความชั่วทั้งปวง ความกตัญญูเป็นยอดแห่งความดี โปรดอย่าคิดว่า สิ่งที่ขัดต่อศีลธรรม หากแต่มีผลประโยชน์แก่ตนแล้วก็ไปกระทำ สิ่งที่ชอบธรรมแต่ไม่เกิดประโยชน์แก่ตนแล้วไม่ยอมกระทำ หากท่านใดที่ทำให้ข้าฯ ผิดหวัง จงมาทดลองคมมีดของข้าฯ ความเป็นคนนั้นควรเคารพฟ้าดิน สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว กตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้าทั้งสอง เคารพกฏหมายของบ้านเมือง เคารพครูบาอาจารย์ รักพี่รักน้อง มีสัจจะต่อเพื่อนฝูง ผูกมิตรกับบ้านใกล้เรือนเคียง ก่อสันติสุขระหว่างสามีภรรยา อบรมลูกหลาน ให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นเสมอ ๆ

สร้างบุญกุศลทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน จุนเจือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทะนุบำรุงหรือก่อสร้างโบสถ์ศาลา บริจาคทุนทรัพย์ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะและคัมภีร์ บริจาคยาแก่ผู้เจ็บไข้ แจกจ่ายน้ำแก่ผู้กระหาย ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สร้างถนนซ่อมสะทาน สงเคราะห์ผู้เป็นหม้าย บรรเทาทุกข์ร้อนของผู้อื่น เพื่อพยุงบุญกุศลที่ตนได้สร้างสมมา ช่วยเหลือผู้มีความทุกข์และอย่ายุยงผู้อื่นให้มีคดีความ สละเงินทองเพื่อส่งเสริมผู้อื่นสมหวังในสิ่งที่ดีงาม แนะนำชี้แนะผู้อื่นให้รู้ถึงกฏแห่งกรรม ไม่จองเวรต่อกัน ไม่โกงตาชั่ง คบค้าสมาคมกับคนที่มีศีลธรรม ไม่คบหาคนชั่วเป็นมิตร จงปกปิดความชั่วของผู้อื่น และสรรเสริญแต่ความดีงามของผู้อื่นเท่านั้น จงมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหรืออัคคีภัย กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนมีคุณธรรม สำนึกผิดและเริ่มต้นเป็นคนดี ต้องมีจิตเมตตาการุณย์ อย่าให้มีความคิดชั่วข้าสามานย์เหลืออยู่ในสมอง
ถ้าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม จงมีจิตมั่นคงและปฏิบัติให้ดี ถ้าแม้การกระทำของตนไม่มีใครรู้เห็น แต่เทพยดาเบื้องบนรู้แจ้งมาตลอด และจะประทานบุญต่ออายุขัยให้ ลูกหลานรุ่งเรือง เคราะห์ร้ายและความเจ็บไข้ได้ป่วย จะไม่มาเยี่ยมเยียน ภัยพิบัติไม่อาจมาก่อกวน ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงในบ้านจะอยู่อย่างสงบ ดาวมงคลจะให้ผล หากมีจิตคิดชั่วไม่ประกอบกรรมดี คิดไปข่มขืนลูกเมียของผู้อื่น ทำให้การสมรสของผู้อื่นต้องพังทลายลง ทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น อิจฉาริษยาเมื่อเห็นผู้อื่นมีปัญญา กระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนเสียหายของผู้ อื่นเพื่อให้ครอบครัวตนร่ำรวย หรือเมื่อไม่สมเจตนารมณ์ตนก็โทษฟ้าดินโทษฝนโทษลม กล่าวร้ายนักปราชญ์ ทำลายพระรูป และเหยียดหยามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฆ่าวัวควายและสุนัข เอาหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ไปเช็ดน้ำ อุจจาระหรือที่สกปรก เอาอิทธิพลหรือความร่ำรวยของตนไปข่มเหงผู้บริสุทธิ์และคนยากจน ยุเหย่บิดามารดาหรือพี่น้อของผู้อื่นเกิดความแตกร้าวกินใจกัน ไม่เชื่อสัจธรรม ประพฤติตนเยี่ยงโจร ปล้น ฆ่า ข่มขืน ไม่เกรงกลัวต่อบาป ไม่ละอายต่อฟ้าดิน ชอบมีชีวิตฟุ้งเฟ้อ ชอบโอ้อวด ไม่รู้จักประหยัดไม่ขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงาน ไม่เสียดายพืชผลกินทิ้งกินขว้าง ไม่รู้จักบุญคุณคน ไม่เพียงแต่หลอกลวงตัวเอง ยังหลอกลวงจิตใจ ทั้ง ๆ จิตตนรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว ค้าขายไม่ยุติธรรม ชอบโกงตาชั่งตั้งตนเป็นศาสดา หลอกลวงผู้อื่นให้เห็นผิดเป็นชอบว่าสามารถนำพาผู้คนสู่สวรรค์ได้ ทำทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอเพียงได้หลอกลวงทรัพย์สินของผู้อื่นมาเป็นของตน ชอบบิดพลิ้วความจริง พูดจาไม่อยู่ในร่องในรอย

บนบานต่อฟ้าดินแต่ลับหลังวางแผนทำลายผู้อื่น ขาดคุณธรรม สวนกระแสสังคม ไม่เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นำพาผู้อื่นไปทางชั่ว ไม่ยอมทำความดีเลย วัน ๆ ทำแต่สิ่งชั่วร้ายสามานย์ชอบเล่นลิ้นก่อคดีความ การประพฤติชั่วร้ายนี้ ผลคือจะได้รับภัยวิบัติ จากอุทกภัย อัคคีภัย ขโมยปล้นจี้ โรคร้าย ลูกหลานโง่เขลา และบุตรชายจะเกิดเป็นโจร บุตรีเกิดเป็นหญิงชั่ว ตัวเองก็อายุสั้น บ้านแตกสาแหรกขาด ผลกรรมนี้จะสัมฤทธิผลในชาตินี้เป็นอย่างเร็ว หรือไม่ก็ตกอยู่กับลูกหลานตน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบอย่างละอียด ไม่มีการผิดพลาดแม้แต่นิด ความดีกับความชั่วในสองทางนี้ จะแบ่งแยกถึงความโชคดีและเคราะห์กรรม ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ผลกรรมตอบสนองการกล่าวของข้าฯ นี้ หวังว่าผู้คนทั้งหลายจงปฏิบัติตาม ถึงแม้เป็นคำพูดตื้น ๆแต่ก็เป็นประโยชน์แก่กายและใจ หากมีใครพูดจาเยาะหยัน จะได้รับโทษจากข้าฯ โดยคมมีดของข้า ฯ ผู้ที่หมั่นอ่านคัมภีร์นี้ จะแคล้วคลาดนจากเคราะห์ร้าย และความมั่งมีศรีสุขจะมาเยือน ขอบุตรได้บุตร มีอายุยืนนาน มั่งมีด้วยโภคทรัพย์และชื่อเสียง ปรารถนาสิ่งใดในทางถูกต้องจะได้สมหวังทุกประการ ผลบุญเหล่านั้นจะมีได้ก็ต่อเมื่อประกอบกรรมดีเท่านั้น ข้าฯ ไม่มีการลำเอียงใด ๆ เพียงต้องการคุ้มครองผู้มีศีลมีธรรมผู้มีจิตเมตตา และนักบุญเท่านั้น ขอให้ชาวโลกจงปฏิบัติแต่ความดีละเว้นจากความชั่วทั้งปวง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


1. กามตัณหาเป็นความเลวอันดับแรกผลแห่งกรรมในปัจจุบัน
ผมเริ่มสำเร็จความใคร่ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถม เนื่องด้วยช่วงใต้ร่มผ้ามักไม่สะอาดจึงเป็นเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ ตอนอยู่มัธยมปีที่ 2 ผมเริ่มคบเพื่อนหญิง ทั้งวันลุ่มหลงอยู่กับตัณหาจนร่างกายอ่อนแอ นอนไม่หลับ ฝันเปียก หลังจบการศึกษาออกมาทำงาน ร่างกายแย่มากต้องอาศัยยาบำรุงตลอดเวลา ร่างกายก็ไม่สามารถกลับคืนมาเหมือนเดิมความสมบูรณ์ของร่างกายเหลือเพียงเศษ หนึ่งส่วนสามของคนหนุ่มทั่ว ๆไป ไม่ทานยาบำรุงก็ไม่ได้ เมื่ออายุ 18 ปีได้คบเพื่อนหญิงอีกคน ผมยังคงจมปลักอยู่กับกามารมณ์
เพื่อนหญิงสองคนทำให้ร่างกายของผมซูบผอม โรคต่าง ๆ ตามมา วัน ๆ รู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนตลอดเวลา แต่นอนก็นอนไม่หลับ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือหาหมอดูก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ความฝันที่เคยคาดหวังไว้ได้ร่วงโรยไป ทานยาเสมือนทานข้าว ทั้งยังต้องทำงานทั้งวัน ความทุข์ทรมานยากที่จะบรรยาย ความคิดที่จะฆ่าตัวตายมีอยู่ในสมองบ่อย ๆ แต่ผมรักพ่อแม่ ไม่อยากไปจากท่าน และตัวเองก็กลัวตายเหมือนกัน จึงยอมทนทุกข์ไปเรื่อย ๆ
พออายุ 20 ผมมีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะ รู้เรื่องกฏแห่งกรรมเข้าใจถึงว่าคนเราต้องดิ้นรนอยู่ในทะเลทุกข์ ความคิดของผมเริ่มผันแปร มันเป็นการหักเหของชีวิตของผม ทำให้ผมรู้ว่า ถึงแม้ว่าความดีอันน้อยนิดก็ไม่ควรปล่อยปละ แต่สุขภาพตัวเองมีปัญหา ง่วงนอนตลอดเวลา ความคิดที่จะเป็นคนดียังแค่ความฝันเท่านั้น
พออายุ 21 ผมเจออาจารย์คนหนึ่งที่สามารถมองเห็นด้วยญาณเขาบอกว่า สุขภาพของผมยังแย่กว่าผู้สูงอายุอีก หากไม่รับประทานยาชีวิตผมจะจบสิ้นลงทันที เขาเป็นหมอที่เก่งมากแต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคของผมได้
ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ( อายุ 26 ) ผมเริ่มศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง เรื่องอดีตถือว่าได้ตายจากไปแล้ว เรื่องอนาคตถือว่าได้เกิดใหม่แล้ว ชีวิตของผมถึงแม้ลำบากมาก แต่ผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าผมประกอบกรรมดีสม่ำเสมอ บุญกุศลที่ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน บวกกกับไปหาหมอทานยาและรักษาตัวให้ดี เชื่อว่าสุขภาพคงค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างน้อยความเจ็บปวดก็ลดน้อยลง ตอนนี้ผมเริ่มฝึกนั่งสมาธิและทานอาหารเจ
ความทรมานที่มีมาสิบกว่าปี ทำให้ผมเข้าใจซึ้งถึงโทษของลุ่มหลงในกามารมณ์ การอยากจะให้พ้นจากทะเลทุกข์มีอยู่ทางเดียวคือ ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม หมั่นสั่งสมบุญบารมีเท่านั้น
ผมหวังว่าเรื่องของผมจะเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลกให้ละกามเพื่อรักษาสุขภาพ ชีวิตคนเรามีเวลาจำกัด ควรทำประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ทำอยู่เรื่อย ๆ โอกาสที่จะมีสุขภาพแข็งแรงคงไม่ไกลเกินเอื้อม ขอให้ทุกคนจงสังวร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


2. เสียงจากผู้สำนึกผิด
เคยได้ยินคำว่า “พระโพธิสัตว์กลัวเหตุ ปุถุชนกลัวผล” เพราะเหตุดังฤา ผู้ปฏิบัติธรรมหากสร้างกรรมไว้ตามกฏแห่งกรรมผู้ปรารถนาโพธิญาณนั้นยากต่อการ บรรลุผลเป็นแน่แท้ ปุถุชนทั่วไป ไม่เข้าใจถึงความน่ากลัวของกฏแห่งกรรมการลุ่มหลงกับความใคร่ กามตัณหา เห็นเหตุให้สร้างกรรมไว้ หากผลกรรมบังเกิดผลแล้ว จะขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยก็ไร้ผล เพราะมันสายเสียแล้ว
นั่นเป็นประสบการณ์ของผมเอง เป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาก สุขภาพของผมอ่อนแอในวันนี้ สมองตื้อ โลหิตจาง มีความรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า ไปหาแพทย์ทานยาก็ช่วยไม่ได้มาก สิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ ที่สำคัญที่สุดได้สูญเสียโอกาสทองที่ร่ำเรียนศึกษา ทุกวันนี้ผมมีอาชีพที่แน่นอนโดยรับใช้คนทั่วไป สุขภาพเสมือนรถมือสองต้องทนทุกข์ทรมาน นั่นมาจากเหตุกรรมที่ผมได้ก่อขึ้นเอง
ผมจำได้ว่า สมัยเรียนชั้นประถม ผมชอบเล่นกีฬาร่างกายแข็งแรง เพื่อน ๆที่อายุรุ่นเดียวกันมักสู้ผมไม่ได้ ชอบเล่นกีฬาทุกประเภทโรคภัยไข้เจ็บไม่เคยมาเยือน เมื่อเรียนชั้นมัธยมผมยังคงชอบเล่นกีฬาอยู่ร่างกายก็ยังสมบูรณ์ พ่อแม่ก็เอาใจใส่ ทานอาหารที่มีคุณภาพ ยังให้ทานผลไม้หลังอาหาร ชีวิตตอนนั้น ความจำดี สติปัญญาดี วิชาอะไรขอได้อ่าน 3-4 เที่ยวสามารถท่องออกมาได้ ถึงแม้ผ่านพ้นไป 1-2 ปี ก็ยังไม่ลืม
ตอนอยู่ปลายมัธยม 1 ไม่รู้เพื่อนคนไหนเอาหนังสือลามก 4-5 เล่มมาให้อ่าน เนื่องด้วยอายุยังน้อย ยังแบ่งแยกชั่วดีไม่ออกแอบพลิกอ่านหลายหน้าเท่านั้น ทำให้ผมลุ่มหลงจนมีสภาพวันนี้ นั่นเป็นผีร้ายจริง ๆ อ่านหนังสือลามก ทำให้หัวใจเต้นแรง ใบหน้าแดงก่ำ ความคิดฟุ้งซ่าน เริ่มสำเร็จความใคร่ ในสมองคิดแต่เรื่องเพศสัมพันธ์ของชายหญิงเมื่อขึ้นมัธยม 3 ความจำเสื่อมถอย จิตใจรวนเร เวียนศีรษะ ปวดบั้นเอว จะปรึกษากับพ่อแม่ก็กลัวพ่อแม่ดุด่า
ทุลักทุเลจนจบมัธยม 6 ผมรินัดเพื่อนไปแอบดูหนังลามก แต่พอกลับบ้าน ผมพยายามยับยั้งไม่ให้คิดเรื่องความใคร่ ร่างกายเลยทรง ๆ อยู่เมื่อเข้ารับราชการเป็นทหาร วันหนึ่งต้องวิ่ง 5 กิโลเมตร วิ่งข้ามสิ่งกีดขวาง 500 เมตร และวิดพื้น ร่างกายไม่แข็งแรงจึงเป็นความทุกข์มาก
ปี พ.ศ.2526 ผมถูกปลดจากการเป็นทหาร ตอนนั้นผมหวังอยู่อย่างเดียวที่จะให้มีสุขภาพแข็งแรง ในโอกาสบังเอิญผมได้อ่านหนังสือธรรมะ จึงรู้สึกว่าที่แล้วมาผมได้ทำผิดอย่างมหันต์เป็นเหตุให้ผมทุกวันนี้ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แถมยังสุขภาพแย่ลง ในหนังสือธรรมะท่านพบหลวงปู่องค์หนึ่ง แนะนำโยมผู้ชายคนหนึ่งถึงวิธีการระงับความใคร่ เมื่อพบสาวสวยให้คิดว่า “หากเธอเกิดป่วยหนัก ร่างกายซูบผอม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายมีแต่หนังหุ้มกระดูก และเมื่อตายลง ร่างกายบวมเป่ง น้ำเหลืองไหลเยิ้ม.....ความใคร่จะถดถอยทันที" ผมทดลองดูได้ผล เป็นการตัดความใคร่ลงได้ เวลาเดียวกันก็หาหมอรักษา ถ้าบางครั้งเกิดความใคร่ขึ้นมารีบสวดคาถาเจ้าแม่กวนอิม ซื้อชีวิตสัตว์ปล่อย ทำบุญสุนทาน ร่วมทุนพิมพ์หนังสือธรรมะ สองเดือนให้หลัง จิตใจสงบมาก พบเห็นสาวสวยก็ไม่คิดฟุ้งซ่าน
ผมเขียนความผิดพลาดที่ผ่านมา เพื่อแสดงว่าผมมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าผมสำนึกผิดจริง ๆ และก็หวังว่าชาวโลกให้อุทิศสติปัญญาของเราทำประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศ ชาติ ส่วนหนังสือลามก หนังลามก อย่าริอ่านและไปดูเป็นอันขาด ถ้าพลาดท่าลงไป จะถูกญาติมิตร เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงานดูถูก ถึงตอนนั้นจะสายเสียแล้ว
(คัดจากนิตยสารเซิ่งเทียน)

3. บาปและสำนึกบาป
ผมยอมรับว่า ผมเป็นปีศาจ เป็นผีผู้หญิง เป็นคนชั่วช้าเลวทรามเพราะผมทำลายผู้หญิงดีมาเป็นจำนวนมาก ผมเองเวลานี้ไม่รู้จะต้องประพฤติตนอย่างไร จึงจะชดใช้บาปกรรมที่ผมเคยสร้างไว้
วันนี้กรรมได้สนองตัวผมแล้ว หวังว่าชาวโลกดูผมเป็นตัวอย่างอย่าก้าวผิดเหมือนกับผม เมื่อสำนึกผิดก็สายเกินแก้แล้ว
เมื่อผมยังหนุ่มอยู่ ผมมีบุคลิกสง่างาม วาทศิลป์ดี ถ้าผมพบหญิงสาวที่ถูกใจ ผมจะเข้าไปตีสนิท และให้พวกเธอกินหมากฝรั่งที่ทำขึ้นพิเศษ เมื่อพวกเธอรับประทานเข้าไป จะมีอาการสะลึมสะลือ แล้วก็มาเสียความบริสุทธิ์แก่ผม เด็กผู้หญิงบางคนเห็นว่าไหน ๆ ก็เสียท่าให้ผมแล้ว ยินดีจะแต่งงานกับผม ผมก็แกล้งดีใจจะได้ตักตวงความสุขจากร่างของเธอบ่อย ๆ เมื่อพวกเธอมีครรภ์ ผมก็หาเรื่องตีจาก แล้วพวกเธอก็หาทางออกโดยยอมแต่งงานกับทหารที่ปลดราชการแล้ว เมื่อคลอดลูกออกมา เพื่อความอยู่รอด จึงมามีอาชีพเป็นโสเภณี ผู้หญิงบางคนไม่ยอมให้ผมทอดทิ้งไปเธอจึงตามตื๊ออยู่ตลอดเวลา
เพื่อตัดปัญหายุ่งยาก ผมหันไปเที่ยวซ่องนางโลม ผมต้องหาวิธีเอาเงินมาใช้ คุณแม่ได้ตายไปนานแล้ว ส่วนคุณพ่อเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานการยุ่งมาก เมื่อผมหาข้ออ้างขอเงิน คุณพ่อก็ไม่เคยสอบถามรายละเอียดให้เงินตามขอทุกที มีคนเคยคุยเรื่องกฏแห่งกรรมให้ฟัง แต่ผมไม่เชื่อ ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องงมงาย เพราะทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ยังมีบางคนพูดถึงผีสางเทวดา ผมกลับถามว่า “คุณเคยพบเห็นแล้วหรือถ้าไม่เคยพบเที่ยวพูดทำไม?” บางคนพูดถึงคุณธรรม ผมจะถามเขาว่า “คุณธรรมชั่งขายได้เท่าไร?” ผมไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ผมยังใช้ชีวิตบัดซบต่อไป
ผมเป็นคนหัวดื้อ ไม่รับคำชี้แนะของผู้อื่น เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นผมจึงตำหนิ เพื่อน ๆ ทำไมไม่แนะนำให้ผมท่านหนังสือธรรมะ หนังสือธรรมะเท่านั้นที่จะให้แสงสว่างผมได้ อาจเป็นเพราะว่าผมไม่ได้สร้างบุญมาตั้งแต่ชาติปางก่อน จึงพลาดโอกาสที่จะได้ศึกษาธรรมะ บัดนี้ผมหวังว่าความสำนึกผิดของผมจะทำให้ชาวโลกสังวร อาจลดหย่อนบาปกรรมที่ผมได้ก่อขึ้นก็ได้

จำได้ว่าตอนบาปกรรมเริ่มตามสนอง ไม่มีลางเตือนภัยเลย เช้าวันหนึ่ง เมื่อผมตื่นนอน ปรากฏว่าต้นขาช่วงบนมีเม็ดแข็งเกิดขึ้นเพื่อนพูดเสมอว่า ผู้ชายที่ชอบสำส่อนมักจะติดโรคฝีมะม่วงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ไปหาซื้อยาตามร้านมาทาน อาการดีขึ้นบ้าง เลวลงบ้าง เป็นอยู่เช่นนี้ 10 กว่าวัน อาการโรคไม่เพียงไม่หาย กลับลามไปทั่วร่าง เริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามตัวทั้งคันทั้งเจ็บ เพียงไปเกาหน่อยเท่านั้น น้ำเหลืองก็ไหลออกมา บางครั้งก็เจ็บปวดมาก รีบไปหาแพทย์ แพทย์ลงความเห็นว่า นั่นไม่ใช่กามโรคธรรมดา หากแต่เป็นโรคซิฟิลิสชนิดเลวร้าย แพทย์ฉีดยาและให้ยามาทานทั้งยังได้เตือนด้วยความหวังดีว่า “คนหนุ่มควรรักษาตัวนะ เป็นโรคชนิดนี้แล้วควรเลิกสำส่อนแล้วนะ ถ้าประมาทอาจถึงแก่ชีวิตได้”
รักษามาสิบกว่าวัน ดูภายนอกก็ว่าหายเป็นปกติ เลยไม่ต้องไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลฉีดยากินยาอีก จิตใจเริ่มชุ่มชื่นขึ้น ได้บทเรียนนี้ทำให้ผมเลิกเที่ยวสำส่อนระยะหนึ่ง แล้วความหวั่นกลัวก็เริ่มจางหายลง ผมเริ่มออกไปเที่ยวตามผับ ไนท์คลับ แล้วก็หิ้วพาร์ตเนอร์ไปหลับนอน หาความสำราญเช่นนี้ประมาณเดือนเศษ กามโรคที่เข้าใจว่าหายดีแล้วกลับวกกลับมาอีก ออกดอกสะพรั่งทั้งสรรพางค์กายเริ่มเวียนศีรษะ ความรู้สึกเฉื่อยชา ร่างกายเริ่มเย็นชา อาการหนักกว่าคราวที่แล้วมาก จึงรู้ว่าเหตุการณ์เลวร้ายมาก ญาติ ๆ รีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาล
หลังตรวจเช็คเสร็จ แพทย์ลงความเห็นว่า เป็นโรคซิฟิลิสขั้นที่สองแล้ว คราวก่อนยังไม่หายขาดไปเที่ยวต่อ เลยไปติดเชื้อโรคมาอีก บัดนี้ เชื้อโรคได้แทรกซึมเข้าในเส้นเลือดแล้ว ระบบประสาทถูกกระทบกระเทือนถึงขั้นเป็นตายเท่ากัน หวังให้หายขาดคงเป็นไปไม่ได้ เพียงขอให้รักษาชีวิตอยู่ได้ก็นับว่าบุญโขแล้ว
อาการเริ่มเลวร้ายทุกวัน ผื่นแดงเริ่มแตกกลายเป็นแผลเป็น ผมบนศีรษะเริ่มหลุด ใบหน้า จมูก เริ่มเน่าเปื่อย แพทย์พยายามให้การรักษา โอ้.....พระเจ้า คนที่มีผิวพรรณละเอียด ขาวสะอาด ใบหน้าสง่างาม ร่างกายล่ำสัน ณ บัดนี้ได้กลายเป็นซากศพที่เดินได้ มองดูรูปถ่ายสมัยเด็ก ขาว ๆ อ้วน ๆ ช่างน่ารัก ไร้เดียงสาแต่ผมในวันนี้ไม่ผิดกับปีศาจ ใครเห็นใครกลัว ชีวิตได้กลับหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงแม้ว่าวันนี้ผมยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้านจิตใจทนทุกข์ทรมานมาก เสมือนตกอยู่ในนรกอเวจียังไงยังงั้น
วันนี้ ผมเขียนคำสารภาพจากจิตส่วนลึกของหัวใจด้วยมือสั่นยึกยัก ผมหวังว่าบทความนี้สามารถช่วยผมไถ่บาปได้บ้าง และก็หวังว่าคนที่กำลังเดินอยู่บนถนนบาปสามารถตื่นจากความฝัน ตัดสินใจเลิกละความชั่วที่เคยทำ หันมาใช้ชีวิตใหม่เพื่อความสุขในอนาคตเถิด
( คัดจากนิตยสารเซิ่งเทียน และข้าพเจ้า)


เวลาวารีไม่รอใคร
ลื่อโจ๊ว
ขมีขมัน ขมีขมัน
เร็วเร็วไวไว ทำกิจการงาน
ด้วยความว่องไว ขมีขมัน
เร็วเร็วไวไว ทำกิจการงาน
ให้แล้วให้ล่วง อย่ามัวแชเชือน
คอยแต่จะเล่น เร็วเร็วไวไว
เวลาไม่คอย ผ่านแล้วผ่านเลย
มิอาจจะเรียก ให้ได้กลับคืน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


4. สำนึกบาป
“โชคลาภหรือเภทภัยไร้ประตู ล้วนแต่มนุษย์เราสรรหามาเอง บุญบาปตามสนองเสมือนหนึ่งเงาตามตัว ผลบุญบาปไม่มีผิดเพี้ยน”
คิดถึงสองประโยคนี้ทีไร พาให้คิดถึงการกระทำในอดีต รู้สึกละอายต่อฟ้าดิน บิดามารดา และเสียชาติเกิดบัดนี้ผมเข้าใจแล้วว่า สวรรค์มีจริง นรกมีจริง นั่นเป็นกฏแห่งกรรมมิใช่งมงาย อาจเป็นบาปกรรมในอดีตชาติที่ได้ก่อไว้ ผมมีนิสัยกระด้าง ชั่วร้ายตั้งแต่เยาว์วัย ผมยังจำได้ว่า ตอนเรียนนอยู่ชั้นประถม ผมก็มีความประพฤติชั่ว ๆ เพื่อนหญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมก็ยื่นมือไปลูบคลำขาอ่อนของเธอ เธอไม่โกรธเพียงแต่อาย ๆ เท่านั้นไม่นึกว่าผมได้คืบจะเอาศอก ปฏิบัติเช่นนี้ทุกวัน เป็นผลบาปที่เริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา
วันหนึ่งผมพบว่าผมบนศีรษะเริ่มหงอกหลายเส้น ตอนนั้นผมไม่สนใจเลย คิดว่านั่นเป็นผลมาจากากรขยันหมั่นเรียนก็ได้ ผมหงอกเริ่มเพิ่มทวีขึ้น ผิวหนังบนศีรษะพลอยขาวไปด้วยจนเห็นได้ชัด เพื่อน ๆ เริ่มมองผมด้วยสายตาแปลกประหลาด จิตใจตอนนั้นเสมือนหนึ่งมีเข็มจำนวนมากปักแทงอยู่ เจ็บทรวงเหลือเกิน ความน้อยเนื้อต่ำใจเริ่มครอบงำ เริ่มเกลียดชังผู้อื่น เห็นเพื่อนหญิงเดินทางกลับบ้านด้วยกันหลังเลิกเรียน ผมมักใช้คำพูดเสียดสีเธอ ผมไม่เคยสำนึกเลยว่า การกระทำเช่นนั้นได้ฝังรากความชั่วร้ายไว้และจะได้ผลบาปในวันข้างหน้า
สมัยเรียนชั้นมัธยม เริ่มขโมยเงินในบ้านสิบกว่าครั้ง ขโมยเงินนอกบ้านได้เงินพันกว่าเหรียญ และได้ร่วมกับเพื่อนๆ ขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในโรงเรียน บุ๊คสโตร์ ร้านขายของชำ ผมก็เคยขโมยมาแล้ว วันหนึ่งระหว่างเดินทางกลับบ้าน ผมถูกตำรวจจับ และยังถูกพ่อตบตีอย่างสาหัส นิสัยผมจึงค่อยเปลี่ยนไปทางดีขึ้น
เวลาต่อมา ผมเริ่มสำเร็จความใคร่ ในสมองวัน ๆ คิดแต่เรื่องลามก การเรียนเริ่มถดถอย เพื่อนเลยยุยงพาไปดูหนังลามกอีกนับแต่นั้นมา ผมจมปลักอยู่กับกามคุณจนถอนตัวไม่ขึ้น

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมประกอบกรรมมหันต์ที่ขโมยเงินส่วนหนึ่งของเงินบริจาคที่เพื่อนนักเรียนทั้ง ห้องสละเงินเพื่อการกุศล โชคชะตาเริ่มเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะทำอะไรมีอุปสรรคหมด วันหนึ่งผมขี่จักรยานไปทำธุระนอกบ้าน ถูกมอเตอร์โซค์ชนจนฟันหน้าหักไปสองซี่ เลือดกลบปากและเจ็บปวดมาก คนขี่มอเตอร์ไซค์ยังมีคุณธรรมได้นำผมส่งโรงพยาบาล นั่น...ผลกรรมเริ่มแสดงฤทธิ์แล้ว แต่ผมยังไม่สำนึก
ตอนอยู่ชั้นมัธยมปลาย สุขภาพแย่ลง ศีรษะเริ่มปวด เจอลมพัดมาแผ่นหลังจะเจ็บปวด มีอยู่หลายครั้งเจ็บที่หัวใจด้วย หากหายใจแรงหน่อยก็รู้สึกเจ็บเหมือนกัน ร่างกายเลยเป็นศูนย์รวมของโรคภัยต่าง ๆ แพทย์ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ พ่อแม่ก็สิ้นเปลืองไปมากสุขภาพยังทรุดโทรมลงทุกวัน เวลานอนจะฝันร้ายบ่อย ๆบางครั้งรู้สึกว่าจะมีผีปีศาจอยู่ข้าง ๆทำให้จิตใจหวั่นไหว
ผมภาวนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดสงสารผม เมตตาผม ประทานอภัยและให้พรผม แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์รักความยุติธรรม ไม่ว่าบาปกรรมที่ผมทำมากน้อยแค่ไหน ผลกรรมก็ย่อมได้รับตามบาปกรรมที่ได้ประกอบขึ้น เดือนมกราคมปีนี้ หางคิ้วตาได้มีฝีร้ายเกิดขึ้น คนทั่วไปเห็นว่าฝีร้ายนั้นควรรีบรักษาจะได้หายไว ๆ แต่ความโชคร้ายยังไม่เข้าข้างผมฝีร้ายเริ่มบานปลายจนตาเกือบถูกปิดลง เพื่อน ๆ ได้แนะนำไปหาแพทย์คนนี้ แพทย์คนนั้น บอกว่าเป็นแพทย์เชี่ยวชาญรักษาโรคพรรค์นี้ ผมก็ไป ตอนแรกทำท่าจะดีขึ้นแล้วก็ทรุดลงหนักกว่าเก่าอีก
ผมท้อแท้ใจ ผมปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม วันหนึ่งมีเพื่อนพาไปรักษาที่คลีนิคแห่งหนึ่ง แพทย์นั้นเก่งจริง ๆ ฝีนั้นได้หายไปแต่เกิดเป็นแผลเป็นที่นั่น กล่าวคือตำแหน่งที่เป็นแผลนั้นเกิดบุ๋มลึกลงไป แต่รอบ ๆ ข้างมีเนื้องอกผุดขึ้นมา ใช้เวลารักษาร่วม 2 เดือนจึงจะหายขาด ผมถามตัวเองว่า เหตุใดคนไข้ที่เป็นอย่างผมรักษาไม่นานก็หายเป็นปกติ ทำไมผมจึงต้องรับกรรมทรมานเช่นนี้
ประมานสองเดือนก่อน ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือกฏแห่งกรรมจัดพิมพ์โดยสถานธรรมเซิ่งเทียน ทำให้ผมเข้าใจผลบุญผลกรรมที่ได้ก่อขึ้น ผมสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ชาตินี้ผมจะพยายามใช้หนี้กรรมที่ก่อขึ้นเมื่อชาติปางก่อน และจะเจริญรอยตามท่านใจบุญทั้งหลาย ประกอบแต่กรรมดี เชื่อว่าผลบุญที่หมั่นกระทำนั้นคงใช้หนี้กรรมเก่าหมดแน่
ถึงแม้ร่างกายของผมขณะนี้จะผ่ายผอมมาก แต่ผมก็มีจิตใจแน่วแน่ที่จะประกอบกรรมดี พิมพ์หนังสือธรรมะ ปล่อยชีวิตสัตว์ ช่วยคนยากไร้ ทะนุบำรุงพุทธศาสนา ฯลฯ ผมเชื่อว่าสุขภาพของผมคงได้กลับคืนมาวันหนึ่ง
บทความนี้จะถูกนำตีแผ่ในนิตยสารเซิ่งเทียน หวังว่าจะเป็นระฆังที่ปลุกให้ผู้ที่กำลังตกอยู่ในทะเลทุกข์จะได้ละจากการทำ ชั่ว เริ่มประกอบแต่กรรมดีเพื่อสู่แดนสุขาวดีในที่สุด

จิตสะอาด ก็ดีไปหมด
ลื่อโจ๊ว
การจะดิ้นรน เอาสิ่งพึงใจ
จิตมนุษย์นี้ไซร้ ช่างจักฝันใฝ่
ให้มากมากความ ไปเสียกระไร
ชำระจิตใจ ให้ใสสะอาด
ไม่ว่าที่ใด ไม่ว่าสิ่งใด
ก็ล้วนเป็นดี


5. ทำลายหนังสือลามก มีลาภยศ
ในสมัยราชวงศ์ชิง ที่มณฑลเหวินหนาน มีนักศึกษาชื่อเซี่ยเหลื่อตวน เป็นคนมีอัธยาศัยและคุณธรรมดีมาก มีจิตเมตตาตั้งแต่ยังเด็ก สมัยยังเป็นนักเรียนอยู่นั้น ถ้าพบเห็นหนังสือลามกวางขายอยู่ เกรางว่าจะเผยแพร่ในตลาด ทำให้ผู้อ่านเกิดจิตหวั่นไหวมีอารมณ์ทางเพศ และอาจก่อคดีการข่มขืนขึ้น จึงขอเงินจากพ่อแม่ออกกว้านซื้อหนังสือเหล่านั้นกลับมาเผาทำลายเสีย หนังสือลามกได้ถูกเขาทำลายไปเป็นจำนวนมาก คืนหนึ่งเขาฝันเห็นเทวดามาอวยพรว่า “เจ้าสละเงินกว้านซื้อและทำลายหนังสือลามกเป็นประจำ ได้ช่วยให้คนจำนวนมากไม่ต้องอ่านแล้วจิตใจว้าวุ่นซึ่งนับเป็นมหากุศล พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นว่า เจ้ามีจิตบริสุทธิ์ และเมตตาจึงทรงประทานลาภยศให้ ขอให้โชคดีนะ”
เมื่อตื่นจากความฝัน รู้ว่าเขาได้รับพรจากสวรรค์ จึงเพิ่มความหมั่นเพียรในการเรียน พร้อมกับสร้างบุญกุศลไปด้วย เวลาต่อมา เขาก็สอบได้เป็นจิ้นสือในปีเป๋งจื้อในสมัยจักรพรรดิคังซี และสอบได้เป็นจอหงวนในปีกุยหมี่ ชื่อเสียงของเขาเล่าลือไปทั่ว ลูกหลานก็เจริญรุ่งเรืองเช่นกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


6. ปฏิเสธการยั่วยุ รุ่งเรืองทั้งตระกูล
ครูเซี่ยเซียนเป็นชาวหยีเซียว ข้างบ้านมีหญิงสาวคนหนึ่งมีความพิศวงในตัวเขามาก จึงไปหาเขาในยามวิกาล ขณะที่พ่อแม่ของนางไปธุระข้างนอก ครูเซี่ยปฏิเสธการมาหาของนาง จึงได้กล่าวตักเตือนนางว่า “นางเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน หากเกิดได้เสียกัน ตัวนางเองจะมีมลทินติดตัวตลอดชีวิต พ่อแม่ของนาง สามีในอนาคตของนาง จะได้รับความอับอาย แล้วนางเองจะสบายใจหรือ” พูดแล้วครูเซี่ยได้เชิญนางกลับบ้าน นางรู้สึกอับอายและซาบซึ้งในคำเตือนเมื่อได้สติก็ลากลับด้วยน้ำตานองหน้า ในที่สุด ครูเซี่ยสอบได้เป็นจอหงวน และเป็นถึงเสนาบดีในเวลาต่อมา ลูกหลานก็มีความเจริญรุ่งเรืองในวงราชการ
คติ: ผู้มีหิริโอตตัปปะ ย่อมได้รับผลตอบแทนเสมอ
หมั่นถอดใจ
ลื่อโจ๊ว
ถอดใจออกมา ลองตกแต่งดู
ให้งามให้งาม ดั่งใจดั่งใจ
ค่อยใส่กลับคืน ให้แลดูงาม



7. ทำลายสาวพรหมจรรย์จนชื่อเสียถึงกับฆ่าตัวตาย
ในราชวงศ์หมิง มีบัณฑิตที่ขาดคุณธรรมชื่อ จางอันก๋วก เขาเคยล่อลวงหญิงสาวข้างบ้านคนหนึ่งจนเรื่องแดงขึ้น หญิงสาวนั้นได้ฆ่าตัวตายในที่สุด หลายปีต่อมา จางอันก๋วกไปสอบจอหงวนที่เมืองหลวง กรรมการผู้ตรวจสอบเห็นว่า บทความที่นายจางเขียนมาเป็นบทความที่เยี่ยมยศ อยากเลือกให้เป็นจอหงวน ทันใดนั้นมีเสียงตวาดจากฟ้าว่ามีหรือคนที่เคยข่มขืนคนอื่นจนต้องฆ่าตัวตายจะ ได้เป็นจอหงวน กรรมการผู้ตรวจได้ฟังเช่นนั้นก็ตกตะลึง เมื่อได้สติคืนมา บทความนั้นได้ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้ว
หลังจากการคัดเลือกได้ผ่านไป ผู้ตรวจได้นำเรื่องนี้ไปสอบถามจางอันก๋วก ซึ่งรู้สึกอับอายและเสียใจที่ได้กระทำความชั่วไว้ ในที่สุดก็ตรมใจตาย คติ : ผู้ที่ขาดคุณธรรม แม้จะมีความสามารถเพียงใดก็ไม่ประสบกับความสำเร็จได้


8. ล่วงเกินเมียเขา เมียเราใช้กรรมแทน
นายหลี่เป็นคนอาศัยอยู่ทางตะวันออกของเมือง วันหนึ่งได้ไปธุระในตัวเมืองและได้หลอกลวงเมียชาวบ้านคนหนึ่ง แล้วพากลับมาที่บ้านซึ่งเวลานั้นภรรยาของเขาก็ได้หนีตามชู้ไป นายหลี่กลับดีใจว่า ดีนะที่ได้เมียคนใหม่มา มิฉะนั้นจะต้องมาเป็นพ่อหม้าย ต่อมาอีกไม่นาน หญิงที่หลอกเขามาไม่ชอบชีวิตในชนบท จึงได้หนีตามหนุ่มข้างบ้านไป พอดีสามีเดิมของนางตามมาถึง จึงได้ฟ้องนายหลี่ในฐานหลอกลวงเมียเขาแต่เนื่องด้วยเมียนั้นได้หนีตามชู้ไป แล้ว ไม่มีหลักฐาน ทั้งสองจึงได้มากราบเทพที่ศาลเจ้าเพื่อให้ท่านตัดสิน เทพในร่างทรงเขียนบทกลอนกล่าวว่า
“ชีวิตชู้ สดชื่น ยามราตรี
จำให้ดี นางนั้น มีสามี
วันนี้พบกันอีก เลิกสร้าง กรรมที
กรรมไม่ดี ตามสนอง ทันท่องที”

ชายทั้งสองอ่านแล้วได้ลาจากไปโดยไม่พูดสักคำ มารู้ทีหลังว่าหญิงคนนั้นก็ถูกพาล่อลวงมาเช่นกัน
คติ : รอยเกวียนทับรอยโค ผลกรรมตามสนองอยู่ร่ำไป


9. เที่ยวซ่องโสเภณี เกียรติยศชื่อเสียงเกือบวายวอด
ในราชวงศ์ชิง ที่มลฑลซานตง มีคนชื่อจิวปะซุ่น ไปสอบบัณฑิตที่จังหวัดในปีกาจื้อในจักรพรรดิกงจื้อ ผลประกาศออกมารู้ว่าสอบได้เป็นเกยนั้ง (เทียบเท่าปริญญาตรี) มีความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงได้จัดโต๊ะเลี้ยงฉลองการสอบได้ครั้งนี้ พร้อมทั้งได้ว่าจ้างโสเภณีมาจำนวนหนึ่งเป็นการเลี้ยงดูปูเสื่อกับเพื่อนฝูง ในคืนที่ร่าเริงอยู่กับสุรานารีนั้น บิดาที่บ้านได้ฝันเห็นเทพยดามาบอกกล่าวดังนี้ “ลูกชายของเจ้าได้สอบเป็นเกยนั้งปีนี้ และอีก 4 ปีข้างหน้า ลูกชายเจ้าจะสอบได้เป็นจิ้นสือ แต่เสียดายที่เขาสอบได้แล้วก็มาฉลองด้วยสุรานารี เป็นการแสดงถึงธาตุแท้ของเขาที่ชอบมั่วสุมกับกามารมณ์ จริงอยู่ นารีนั้นเป็นโสเภณี สามารถใช้เงินทองซื้อความสุขชั่วคราวได้ แต่ความประพฤติจะเสื่อมทรามลง และได้กระทบกระเทือนถึงบุญกุศลที่บรรพบุรุษได้สั่งสมมา ดังนั้นโอกาสที่สอบผ่านจิ้นสือนั้น ได้ถูกเทพเจ้าบุ้นเชียงกุนลบออกเสียแล้ว ดีที่ปู่ของเจ้าได้ประกอบกรรมดีไว้มาก ผลบุญนั้นยังคุ้มครองอยู่ หากลูกชายของเจ้าสำนึกผิดและเริ่มต้นประกอบคุณธรรมใหม่ ชื่อเสียงเกียรติยศอาจกลับคืนมาก็ได้ หวังว่าเจ้าคงพูดให้เขาเข้าใจนะ”
ต่อมาจิวปะซุ่นกลับมาถึงบ้านด้วยความดีใจ คุณพ่อได้สอบถามเรื่องเที่ยวโสเภณี เขาปฏิเสธ พ่อเขาโกรธมากจึงได้เล่าความฝันให้ฟัง จิวปะซุ่นได้ฟังเช่นนั้น รู้สึกตกใจกลัวมากและยอมรับผิด จากนั้นก็จุดธูปอธิษฐานถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า นับจากนี้ไปเขาจะไม่ข้องเกี่ยวสิ่งลามกอีกต่อไป สวรรค์ทรงอภัยให้กับผู้สำนึกบาปอยู่แล้ว ดังนั้นอีก 4 ปีต่อมาเขาก็สอบได้เป็นจิ้นสือ

หนี้เก่าใช้ไป หนี้ใหม่ไม่มี
ลื่อโจ๊ว
ปรองดองปรองดอง สามัคคีปรองดอง
คนเราเกิดมา ได้มาพบปะ
ล้วนบุญล้วนบาป เป็นตัวนำพา
จะโกรธจะเกลียด ล้วนกรรมตกแต่ง
ให้ได้เป็นไป เมื่อหากรู้ตัว
ต้องรีบกลับลำ ไม่หลงเพิ่มกรรม
ข้ามภพข้ามชาติ ผูกติดกันไป
อโหสิกรรม อโหสิกรรม
หนี้เก่าเลิกรา หนี้ใหม่ไม่ก่อ
สุขกายสุขใจ เป็นดีกว่าเอย


ฉันนี่เอง เป็นดั่งที่ ท่านว่ามา
ลื่อโจ๊ว
ฉันคิดว่า ฉันได้รู้ รู้เห็นแจ้ง
ในทุกสิ่ง
ฉันจึงเป็น ฉันจึงทำ
เช่นอย่างฉัน
ทุกวันนี้ สมถะ
การกินอยู่
ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ถือศีลห้า
ดูเคร่งครัด เว้นสุรา
ดูจำเป็น ยังยืนหยัด ยืนอยู่ได
ในโลกนี้
ต้องหลอกหลอก เพื่อให้เขา
สบายใจ เป็นข้ออ้าง สำหรับเว้น
ข้อมุสา
ใครจะดี ใครจะเด่น
ฉันไม่ถือ เป็นสำคัญ คนไม่ซื่อ
ตระบัดสัตย์ ไม่จริงใจ ฉันไม่ชอบ
อย่ามาข้อง อย่ามาเกี่ยว กับฉันนะ
ฉันเฉยเมย ใครจะเลว ใครจะร้าย
ฉันอดทน ไม่ปริปาก ใครแสดง
แล้งน้ำใจ ไม่ทำตาม ตามใจกัน
อดไม่ไหว เสียงแหวแหว เอ็ดดังลั่น
บ้านสะเทือน ไปหลายวัน ดู ดู ดู
ที่ฉันคิด ว่าเห็นแจ้ง ในทุกสิ่ง
เป็นจริงหรือ ฉันสงสัย ใครตอบที
ฉันนี่เอง เป็นดั่งที่ ท่านว่ามา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


10. ยับยั้งสติ อนาคตไกล
นายติ๊กเหยินเจี๊ยด เป็นเสนาบดีในราชวงศ์ถัง เมื่อสมัยหนุ่มเขามีผิวพรรณดั่งหยก บุคลิกเขาสง่างามภูมิฐาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเดินทางไปสอบที่เมืองหลวง ระหว่างทางเขาได้พักแรมที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง คืนวันนั้นขณะที่เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่นั้น ทันทีก็มีหญิงสาวรูปงาม นางหนึ่งเแอบเข้ามาพบเขา เมื่อสอบถามดูได้ความว่านางคือลูกสะใภ้ของโรงเตี๊ยมนี้เอง เนื่องด้วยสามีของนางเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานนี่เอง จึงรู้สึกว้าเหว่มาก วันนี้ได้พบเห็นเขามาพักแรม เธอเกิดความหลงไหลรักใคร่ในความหล่อเหลาของเขา จึงแอบมาพบในยามดึก หวังว่าเขาคงสงสารและเห็นใจนาง
นายติ๊กเหยินเจี๊ยดได้ฟังเช่นนั้น รู้สึกตกตะลึง เมื่อเห็นนางกำลังทำท่ายั่วยุ รีบตั้งสติให้ดีแล้วพูดกับนางอย่างสุภาพว่า “ความงามของเธอทำให้ผมคิดถึงคำพูดของหลวงปู่ขึ้นมา ท่านบอกผมว่า ผมมีบุคลิกลักษณะดี อนาคตจะรุ่งเรือง หากแต่ผมจะต้องรักษาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์ที่สุด อนาคตจึงจะไม่ดับวูบ ผมจึงได้ถามวิธีรักษาศีลที่ดี ท่านบอกว่า ถ้าเราเห็นผู้หญิงสวยก็ให้นึกทันทีว่า ถ้านางป่วยหนัก ร่างกายจะซูบผอม ใบหน้าซีดเซียว ผมเผ้ายุ่งเหยิง เบ้าตาลึกลงไป ดูเผิน ๆ คล้ายกับซากศพที่เดินได้ และให้คิดต่อไปว่า ถ้านางตายลงศพจะขึ้นอืด น้ำเหลืองไหลเยิ้ม มีหนอนไชตามปาก จมูก ตา ร่างกายส่งกลิ่นเหม็นคุ้ง โยมลองคิดดู หญิงสวยคนนั้นโยมยังอยากกอดจูบอีกหรือ คำพูดของหลวงปู่มีเหตุผลดี ผมจึงจำใส่ใจตลอดเวลา วันนี้เห็นเธอมาหาผม ความงามของเธอ รูปร่างของเธอ พูดตรง ๆ ใครเห็นใครก็ชอบ แต่มานึกถึงคำเตือนของหลวงปู่ ผมก็ระงับความใคร่ลงได้ ผมเห็นใจเธอเป็นหม้ายเมื่อยังสาว หากนางมานึกถึงคำพูดของหลวงปู่บ้าง ผมจะมีอะไรที่ควรแก่ความรักใคร่อีก”
เมื่อนางฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งในคำพูดของเขา ยืนนึกอยู่ครู่หนึ่งน้ำตาเริ่มไหลรินแล้วคุกเข่าลงไหว้ติ๊กเหยินเจี๊ยดกล่า วว่า “ขอขอบพระคุณที่คุณได้ปกป้องความบริสุทธิ์ของฉัน และยังได้ชี้แนะวิธีระงับความใคร่ของฉันได้ นับต่อจากนี้ไป ฉันจะเป็นเมียที่ซื่อสัตย์ต่อสามีของฉัน จะไม่มัวหมองกับความใคร่อีกต่อไป”
ในที่สุดความดีของนางทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ทรงได้สรรเสริญ นางเป็นกุลสตรีที่ยอดเยี่ยม ส่วนติ๊กเหยินเจี๊ยดได้รับราชการช่วยราชวงศ์ถังปกครองบ้านเมืองให้ประชาชน อยู่เย็นเป็นสุข ได้เผาทำลายหนังสือลามกให้สิ้น อบรมประชาชนให้มีคุณธรรม จนได้รับแต่งตั้งเป็นเสนาบดี และได้แต่งตั้งเป็นเหยียงกัวะกง หลังสิ้นชีวิตไปแล้ว
แพ้เป็นพระ โบราณสอน น่าศึกษา
ถูกเขาด่า เบียดเบียน ก่อทุกข์ให้
จงหลบหลีก อดกลั้น ให้อภัย
เราอย่าไป เอาชนะ จะเป็นมาร


11. ผลกรรมที่ละทิ้งภรรยาหลวง ไปหลงรักภรรยาน้อย
นายเฝยเจียงเป็นคนเหอตง ในสมัยเด็ก พระภิกษุหยุ่นเจ้าได้ทำนายไว้ว่า เขามีลักษณะที่ดีมาก เมื่อเติบโตขึ้นมาจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
นายเฝยเจียงเริ่มมีครอบครัวเมื่อเป็นหนุ่ม หลังแต่งงานแล้วเขารังเกียจภรรยาอัปลักษณ์ (สมัยนั้นใช้แบบคุมถุงชน) จึงได้ย้ายเธอไปอยู่ในกระต๊อบเล็ก ๆ หลังหนึ่ง แล้วก็ทำการแต่งงานใหม่ ครั้งนี้ภรรยาน้อยเป็นคนที่มีหน้าตาสดสวย จึงหลงรักภรรยาน้อยมาก เวลาเดินผ่านกระต๊อบนั้นก็ไม่แวะเข้าไป
นางหลี่ (ภรรยาหลวง) เห็นว่าสามีของนางเป็นคนมีจิตต่ำทรามและก็น้อยใจที่ตนเกิดมาอัปลักษณ์เช่น นี้ ถึงแม้ว่าครอบครัวของเฝยเจียงอยู่ในขั้นเศรษฐี แต่นางมีชีวิตไม่ผิดแปลกอะไรกับคนยากจน เมื่อความเสียใจ น้อยใจได้สุมอกทุกวัน ๆ จนตรอมใจตาย
เวลาได้ผ่านพ้นไปยี่สิบปี เฝยเจียงได้พบกับพระภิกษุหยุ่นเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ท่านดูลักษณะของเฝยเจียงแล้วตกใจร้องออกมาว่า เมื่อ 20 ปีก่อน บุคลิกของโยมดีมาก เหตุไฉนวันนี้บุคลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โยมคงกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ขาดต่อคุณธรรมเป็นแน่แท้ ขอโยมเล่าความเป็นมาให้อาตมาฟัง
เฝยเจียงนึกอยู่พักหนึ่ง ไม่รู้ว่าสาเหตุจะมาจากเรื่องที่ผมไม่เหลียวแลเมียหลวงจนเธอตรอมใจตายหรือ เปล่า พระภิกษุหยุ่นเจ้าสอบถามรายละเอียดจนรู้เรื่องดีแล้ว ได้อุทานออกมาว่า โยมหลงใหลรูปงามและขาดคุณธรรม ทิ้งขว้างเมียหลวงเพียงเธอมีรูปอัปลักษณ์ จนนางต้องตรอมใจตาย อาตมากลัวว่า โยมจะได้รับเคราะห์กรรมหนักในเร็ว ๆ นี้ด้วย
ต่อมาไม่นาน เฝยเจียงได้ร้องขอชีวิตในขณะที่ร่างกายยังสมบูรณ์อยู่ หากแต่วิญญาณของเขาถูกนางหลี่ลากพาไปเสียแล้ว

ซื้อน้ำใจได้กระไร
ลื่อโจ๊ว
ขอพิศตริตรอง คิดใคร่ครวญดู
ต้องการเงินทอง มากมากทำไม
แจกแจกจ่ายจ่าย ให้ให้หมดไป
หรือว่ากระไร ตรองตรองตรองดู
น้ำจิตน้ำใจ อาจซื้อได้ด้วย
ก็ตัวเงินตรา ที่มีจำนวน
เป็นที่พอใจ พอหมดเงินตรา
น้ำใจไมตรี ก็จางหายไป
จะซื้อน้ำใจ ได้ด้วยน้ำเงิน
ก็ได้ชั่วคราว ขอตรองตรองดู


12. จิตบริสุทธิ์ สาวงามอยู่เคียงข้างไม่หวั่นไหว
นายหลิวหลี่ซุ่นเกิดในราชวงศ์หมิง เป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงมาก ตอนที่ยังไม่รุ่งโรจน์ ได้เป็นครูสอนหนังสือให้กับบุตรธิดาของเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งให้ความนับถือแก่ เขามาก เพื่อแสดงถึงความจริงใจที่ตนมีต่อครู จึงได้คัดเลือกสาวใช้ที่สวยที่สุดในหมู่สาวใช้เพื่อรับใช้นายหลิวหยี่ซุ่น ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดจนนอนบนเตียงเดียวกัน เจตนาของเศรษฐีอยากให้สาวใช้รับใช้เขาตลอดชีวิต
นายหลิวหลี่ซุ่นตอบว่า หรือว่าท่านเศรษฐีคิดว่า ข้าเป็นเสือผู้หญิงหรือข้าไม่ปฏิเสธว่าเธอสวยมาก อีกทั้งยังรับใช้ข้าพเจ้ามา 3 ปี แต่เนื่องด้วยข้าพเจ้าเป็นปัญญาชน รู้ซึ้งถึงคำสั่งสอนของนักปราชญ์เป็นอย่างยิ่ง จึงไม่กล้าละเมิดประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของเรา อีกอย่างข้าพเจ้ายังไม่ได้แต่งงาน จะไปมีเมียน้อยได้อย่างไร ขอท่านเศรษฐีโปรดเห็นใจด้วย
เศรษฐีมีความสงสัยว่าในโลกนี้ยังมีคนที่จิตใจล้ำเลิศเช่นนี้อีกหรือ มีสาวงามนอนข้างกายมา 3 ปี ไม่มีความรู้สึกเชียวหรือ จึงได้ให้สาวใช้ที่แต่งงานมาแล้วพิสูจน์ดู จึงรู้ว่าสาวใช้นั้นยังบริสุทธิ์อยู่ เศรษฐีจึงมีความนับถือมาก และก็ไม่กล้าขอร้องอะไรอีก ก่อนจากไปเศรษฐีได้พูดเป็นกลอนมีความหมายว่า
“สาวงามดั่งนางฟ้า ใครเห็นใครก็รัก หลับนอนมาสามปี เห็นแล้วเหมือนไม่เห็น ถูกต้องเนื้อตัวแล้ว จิตใจไม่หวั่นไหว คุณธรรมของคุณครู ไม่มีแล้วในโลกา”

หลิวหลี่ซุ่นก็ตอบเศรษฐีด้วยกลอนมีใจความว่า
“ใครบอกหญิงงามหวั่นไหวจิต ถึงนางอ่อนช้อยวาจาหวานหากขัดต่อประเพณีที่ดีงาม ก็ยากที่จะเปลี่ยนจิตของข้าได้ ถึงจะมีหญิงงามนอนข้างกาย ไม่แตกต่างอะไรกับนอนคนเดียว ถึงแม้มีโสเภณีร่วมโต๊ะกันแต่ในจิตปราศจากโสเภณี คำพูดของนักปราชญ์เฉิงหมิงเต้า ประชาชนยังกล่าวขวัญกันทุกวันนี้”
หลิวหลี่ซุ่นเป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่งและมีจิตใจเข้มแข็งดั่งหินเช่นนี้จึง ได้มีชื่อเสียงเกียรติยศ และได้เป็นนักปราชญ์ที่เรืองนาม ต่อมาและได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนเป็นย่างมาก
ดีชั่วตัวเราเอง
ลื่อโจ๊ว
ชีวิตคนเรา ก็เหมือนสาแหรก
จะแตกจะแหลก จะดีจะชั่ว
ขึ้นกับตัวเรา จิตที่ดิ่งลง
เป็นจุดกำเนิด การจุดสว่าง
แห่งจิตภายใน เพียรเถิดจงเพียร
ให้นิ่งให้ดิ่ง สุกสว่างกลางใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


13. ข่มขืนสาวใช้ โชคลางไม่ดี
นายจูยุ่ยเฉิงเป็นคนอำเภอฟ่งหยาง มณฑลอันฮุยในราชวงศ์ชิง ในบริเวณบ้านเขามีสระบัวแห่งหนึ่ง ถึงแม้จะปลูกมาหลายปี ต้นบัวไม่เคยออกดอกเลย
พอมาในปีกีอิ้วแห่งจักรพรรดิคังซี ก่อนออกเดินทางไปสอบประจำภาค 3 วัน ต้นบัวในสระเกิดออกดอกบัว 1 ต้นก้าน ผู้คนพบเห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การไปสอบครั้งนี้คงสอบได้เป็นเกยนั้งแน่ จูยุ่ยเฉิงเองก็มีความปีติกับลางดีครั้งนี้ด้วย คืนวันนั้น ได้นั่งดื่มสุราหน้าสระน้ำ ชื่นชมกับดอกบัวที่เบ่งบานจนย่างเข้ายามสอง ความปีติยังไม่สร่างซาลง จึงได้เกี่ยวพาราสีสาวใช้สวยคนหนึ่งที่คอยปฏิบัติอยู่ ในที่สุดก็ได้ข่มขืนเธอ เขาได้รับความสุขอย่างสมใจ เพียงคืนเดียวเท่านั้นดอกบัวที่กำลังเบ่งบานก็พลันอับเฉาโรยรา คืนต่อมา เขาก็ฝันว่าเขาได้ไปกราบไหว้เทพเจ้าเหวินเชียง เห็นชื่อของเขาบนกระดานถูกลบทิ้ง เขาจึงรู้ทันทีว่า คงเพราะสาเหตุมาจากการไปข่มขืนสาวใช้ เขาเสียใจที่ตัวเองได้กระทำลงไป จึงได้คุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนขอต่อเทพเจ้าเหวินเชียงให้อภัยความผิดในครั้ง นี้ด้วย และอย่าได้ลบชื่อเขาออกเลย แต่การกระทำของเขาได้กระทำไปแล้ว ยากที่จะอภัยแก่กันได้
เมื่อตื่นจากความฝัน เขารู้ว่าโอกาสที่จะสอบได้คงริบหรี่แต่ก็ไปสอบดู ผลประกาศออกมา เขาสอบตกทั้ง ๆ บทความที่เขียนถูกใจกรรมการผู้ตรวจสอบมาก


14. ข่มขืนแม่ชี ถูกวิญญาณตามล่า
สมัยราชวงศ์ชิง มีนักศึกษาคนหนึ่งชื่อจางซื่อจิ้น เขาเป็นคนหังโจว นายจางเป็นคนที่มีบุคลิกดี สง่างาม เกิดอยู่ในตระกูลผู้ดี เขาสอบได้เป็นเกยนั้ง เมื่อยังเยาว์วัย อนาคตของเขาส่อแววว่าจะมีความรุ่งโรจน์ถึงเวลาไปสอบจิ้นสือ เขาได้ร่วมเดินทางพร้อมกับพี่ชายที่ชื่อจางซื่อหวาง ทั้งสองได้พักอยู่ที่บ้านของชาวบ้านหลังหนึ่งเพื่ออ่านนหนังสือเตรียมสอบ ตรงข้ามบ้านที่เขาพักเป็นโรงเจของแม่ชี จางซื่อจิ้นชอบเข้าไปเที่ยวเตร่และรู้จักแม่ชีสาวนางหนึ่ง เมื่อสนทนากันก็รู้ว่า พ่อแม่ของนางได้มอบเงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งให้นางตอนบวชชี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อของไหว้พระตลอดชีวิต
จางซื่อจิ้นเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา อยากได้ทั้งตัวแม่ชีและทรัพย์สมบัติของนางด้วย จึงได้พยายามตีสนิทอาศัยคารมและบุคลิกดีในที่สุดแม่ชีก็หลงคารมจนได้ และเสียตัวให้เขา เพื่อให้ได้ความไว้วางใจจากเธอ เขาจึงให้คำสาบานว่า รอให้เขาสอบเสร็จแล้วก็จะมาสู่ขอ
แม่ชีนางนั้นเห็นว่าไหน ๆก็เสียตัวให้เขาแล้ว ก็ยอมเป็นคนของเขา เมื่อเห็นเขาสบถสาบานด้วย จึงได้มอบเงินก้อนหนึ่งให้เขาเป็นค่าใช้จ่ายในงานมงคล เมื่อนายจางได้ทั้งตัวทั้งเงินแล้วมีความพออกพอใจมาก เขาเป็นคนไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม เมื่อผลการสอบออกมาว่าสอบตก เขาก็ไม่ทำตามคำมั่นสัญญา จึงชวนคนรับใช้เดินทางกลับบ้านเกิด ส่วนแม่ชีสาวเมื่อรู้ว่าถูกหลอก ก็เสียใจมาก เลยคิดสั้นโดยการผูกคอตาย จนกลายเป็นผีพยาบาทเที่ยวติดตามนายจางทันที ระหว่างทางนายจางมีอาการสติฟั่นเฟือนแล้วล้มลงกับพื้น เขาได้ร้องตะโกนออกมาซึ่งเสียงนั้นเป็นเสียงของแม่ชีสาว ซึ่งดุด่านายจางว่าเป็นคนทรยศรัก เป็นคนโกหก

คนรับใช้เห็นเช่นนั้น จึงรับปากแทนเจ้านายว่า จะนิมนต์พระสงฆ์ช่วยสวดมนต์แผ่กุศลให้และขออโหสิกรรมด้วย แต่แม่ชีสาวขณะนั้นได้กลายเป็นผีไปแล้ว อาศัยปากนายจางซื่อจิ้นด่าออกมาว่า “แค้นนี้ยากแก่การอภัยเนื่องด้วยข้าเป็นแม่ชี เป็นพุทธมามกะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถูกเขาใช้วาจาหว่านล้อมจนข้าต้องเสียสาว ยังได้หลอกเงินทองของข้าไปอีกแค้นนี้ต้องชำระ ฉะนั้นกุศลใด ๆ ก็ยากต่อการขออโหสิกรรมได้”
นายจางถูกผีสิงในร่างตลอดเวลา เมื่อกลับถึงบ้านเขาได้ร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน ในที่สุดวิญญาณของเขาก็ถูกกระชากออกจากร่างตามแม่ชีสาวไป
แผ่เมตตาทุกวัน
ลื่อโจ๊ว
ขอสรรพชีวิต
ผู้ก้าวล่วงทุกข์เวลานี้
จงพ้นเคราะห์กรรมนี้เถิด
ขอบุญกุศลแห่งข้าฯ ที่เพียรบำเพ็ญ
เป็นแรงส่งให้รอดพ้นด้วยเถิด
ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง


หลักธรรมแห่งเต๋า ไม่มีอะไรเกิดได้โดดเดี่ยว
ลื่อโจ๊ว
บนแผ่นฟ้าแผ่นน้ำ เป็นกระจกส่องกัน
เมฆหมอกเป็นฉากกั้น
คลื่นลมปรากฏการณ์
ผันผวนไปตามกาล สัตว์น้อยใหญ่อุบัติขึ้น
ล้วนเป็นคู่เรียงเคียงไป สิ่งจะเกิดต้องมีสอง
เป็นเหตุเป็นปัจจัย จึงจะเกิดอีกสิ่งหนึ่ง
บางคู่เกิดมาเพื่อเสริมกัน บางคู่เกิดมาหักล้างกัน
การเกิดของสรรพสิ่ง ล้วนมีเหตุมีปัจจัย
ให้เกิดให้เป็นต่าง ๆ
เช่นว่าความมืดเกิด
ความสว่างหายไป ความสว่างปรากฏ
ความมืดก็หายไป ชายหญิงที่พึงใจ
สืบต่อสายสัมพันธ์ พืชพันธุ์ธัญญาหาร
ผสมพันธุ์ด้วยแมลง สลัดเม็ดตกลงดิน
พัดพาไปด้วยแรงลม มีดินแลมีน้ำ
ช่วยให้ลอกเสริมต่อพันธุ์ หากเพิ่มคนดูแล
หมั่นพรวนดินให้ปุ๋ยกัน แลดูงามเจริญไว
ผู้คนจักล้มตาย หากก่อนวัยที่อันควร
อาจด้วยเหตุมีโรคภัย หรือศัสตราคู่แค้นกัน
นี่เหตุผลเป็นพื้นฐาน ให้รู้เหตุรู้ปัจจัย
สิ่งใดเกิดสิ่งใดกระทบ ต้องมีตัวรับตัวถูกกระทบ
ไม่มีตัวรับตัวถูกกระทบ ก็ไม่มีอะไรเกิดไม่มีการกระทบ


15. ไม่รังแกหญิงเปลือยกาย ฟ้าประทานชื่อเสียงเกียรติยศ
ในสมัยราชวงศ์ซ้อง มีนักศึกษาคนหนึ่ง ชื่อหลินเติงหยุน มีบ้านอยู่ที่อำเภอเจียนหนาน วันหนึ่งเดินทางไปสอบบัณฑิตที่มณฑลโดยเรือ ระหว่างทางเรือได้จอดอยู่ซึ่งติดกับบ้านหลังหนึ่ง ในเวลายาม 3 บนบ้านเกิดเพลิงไหม้โดยไม่รู้สาเหตุ มีหญิงสาวคนหนึ่งหนีไฟกระโดดจากชั้น 2 ลงมาบนเรือ ในตอนนั้นหญิงสาวคนนั้นนุ่งแต่ชุดชั้นในเท่านั้น เขาเห็นแบบนั้นรีบถอดเสื้อมิ้งที่ใส่อยู่ให้แก่นาง นอกจากกันหนาวแล้ว ยังไม่อุจจาดตาด้วย ในเวลาเดียวกัน หลินเติงหยุนก็กลัวคนเรือไปลวนลามเธอ จึงจุดตะเกียงนั่งอ่านหนังสือทั้งคืนจนกระทั่งฟ้าสางจึงได้ส่งนางขึ้นบกและ ให้เธอกลับบ้านเอง
หลังสอบเสร็จ เขาสอบได้ เขากับนักศึกษาอีกคนหนึ่งที่สอบได้เช่นกันไปเข้าพบกรรมการผู้ตรวจสอบ กรรมการผู้ตรวจสอบได้บอกเขาว่า อันที่จริงบทความของเขายังไม่ดีพอจึงไม่ผ่าน คืนนั้นเขาฝันเห็นเทพเจ้ากวนอูเขียนหนังสือในบทความของเจ้า มีใจความว่า “หญิงเปลือยกาย เสื้อมิ้งคลุม จุดเทียนอ่านหนังสือทั้งคืนเหมือนกับข้าฯ” เจ้าไปทำกรรมดีอะไรมาหรือ ?
หลินหยุดคิดครู่หนึ่ง จึงนึกได้ว่า ระหว่างทางเขาได้ช่วยหญิงเปลือยกายคนหนึ่ง จึงได้เล่าให้กรรมการผู้ตรวจสอบผู้นั้นฟัง ทันใดนั้นนักศึกษาที่สอบได้เช่นกันลุกขึ้นคุกเข่าลงบอกว่า หญิงเปลือยกายนั้นภรรยาข้าเอง คืนนั้นข้ามีธุระไปข้างนอก พอกลับมาบ้านก็ถูกไฟไหม้แล้วสาวใช้กับคนแก่ที่บ้านถูกไฟไหม้ตาย ได้ข่าวว่าเมียข้ากระโดดหน้าต่างลงมาคิดว่าคงไม่รอดแล้ว พอรุ่งขึ้น นางก็กลับมาพร้อมเสื้อมิ้ง เลยเข้าใจว่านางคงไปมีชู้กับชายอื่น จึงไล่นางกลับบ้านพ่อแม่เธอ บัดนี้ได้ฟังท่านเล่ามาจึงรู้ว่า ข้าพเจ้าเข้าใจผิด ท่านไม่เพียงช่วยชีวิตนางยังปกป้องความบริสุทธิ์ของนางด้วย บุญคุณมหาศาลนี้ข้าพเจ้าขอจดจำชั่วชีวิตนี้
เมื่อกรรมการผู้ตรวจสอบได้ฟังทั้งสองพูดเช่นนั้น รู้สึกชื่นชมความดีของนายหลินมาก ยังได้ขอบคุณสวรรค์ที่ได้ชี้แนะให้เขาสอบผ่านได้ด้วย และได้บอกผู้ที่สอบได้รีบกลับไปรับภรรยากลับบ้าน สามีภรรยาจะได้คืนดีกัน เนื่องด้วยนายหลินเติงหยุนยังโสดอยู่ ท่านเสนาบดีเห็นเขาเป็นคนมีคุณธรรมสูง จึงได้ยกลูกสาวให้ ชีวิตราชการของนายหลินก็ราบรื่นมีลูกชาย 2 คน ก็รับราาชการใหญ่โตในแผ่นดินด้วย
ถ้าจะอ่อน จงอ่อน ดั่งใยไหม
สำหรับใช้ ผูกรัด มัดช้างสาร
ถ้าจะแข็ง แกร่งดั่งเพชร ให้ทนทาน
ขีดเส้นผ่าน กระจกแยก แตกกระเด็น


16. เพียงจิตลามก ฟ้ายังลงโทษ
ในสมัยจักรพรรดิเจิ้นเต๋อะแห่งราชวงศ์หมิง มีหมอดูได้ทำนายอนาคตของนักศึกษาชื่อ จ้าวหย่งเจินว่า เขามีบุญเก่า เขาจะสอบได้เป็นเจี่ยหยวน ถ้าเขามีอายุ 23 ปี หากยังขยันหมั่นเพียรอยู่ อนาคตยิ่งสดใส
พอเขาไปสอบเมื่ออายุ 23 ปี แต่เขาสอบตก คืนนั้นเขาฝันว่าเขาได้ไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าเหวินเชียง ในฝันเทพเจ้าเหวินเชียงทรงกริ้วมากตำหนิเขาว่า อันที่จริงเขาจะสอบได้ที่ 1 แต่เนื่องด้วยที่เขามีจิตลามก ชอบแอบมองสาวใช้ และยังชอบคุยเรื่องลามกกับหญิงข้างบ้าน ด้วยเหตุนี้ เกียรติยศของเขาจึงถูกถอดออก
จ้าวหย่งเจินได้แก้ตัวว่า “ถึงแม้ข้าพเจ้ามีจิตลามก แต่ข้าก็มิได้ข่มขืนพวกเธอ จะมาหาว่าข้าพเจ้าได้ผิดศีลธรรม ถึงขั้นต้องถูกลงโทษเช่นนั้นหรือ”
เทพเจ้าเหวินเชียงทรงตวาดว่า เจ้าคิดว่าการผิดศีลจำต้องขึ้นอยู่กับการกระทำข่มขืนหรือการกระทำด้วยความ เจตนา เพื่อยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดจิตใจว้าวุ่น หวั่นไหว พวกเธอยังเป็นสาวเป็นแส้อยู่ การทำให้พวกเธอใจแตก ยังว่าไม่ผิดงั้นหรือ การที่สวรรค์ลบชื่อเจ้าออกเช่นนี้แล้ว เจ้ายังไม่สำนึกผิดอีก ยังมาแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ระวังเคราะห์ภัยจะตามมา
เมื่อจ้าวหย่งเจินได้ฟังเช่นนั้น จึงเกิดสำนึกผิดขึ้นทันที ก้มลงกราบขออภัยจากท่านและสาบานว่า หากเขามีจิตสกปรกเช่นนั้นอีก ขอให้สวรรค์ทรงลงโทษจงหนัก เทพเจ้าเหวินเชียงเห็นจ้าวหย่งเจินเกิดสำนึกผิดจริง และได้สาบานอีกด้วย จึงได้ตรัสว่า “เมื่อเจ้าสำนึกผิดจริง และสาบานจะไม่ละเมิดอีกต่อไป หากเจ้าสามารถตักเตือนผู้อื่น ให้ระมัดระวังคำพูดและการกระทำอย่ามีจิตลามก ถ้าเจ้าทำได้เช่นนั้น ข้าก็จะคืนชื่อเสียงเกียรติยศให้แก่เจ้า” พูดแล้วก็ใช้พู่กันจิ้มที่หัวใจของนายจ้าว นายจ้าวตกใจและตื่นจากความฝัน
ดีที่นายจ้าวยังมีจิตกุศลเดิมอยู่ เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติคอยชี้แนะคนอื่นให้ละจากความคิดสกปรก และให้ประกอบแต่กรรมดี จ้าวหย่งเจิน ได้ปรับปรุงตัวเองอย่างจริงจัง เขาเลยสอบได้เป็นเจี่ยหยวน เมื่ออายุได้ 26 ปี เขายิ่งเพิ่มความพยายามมากขึ้น และได้แต่งบทกลอนชี้แนะคนอย่ามั่วกามารมณ์ สี่ปีต่อมา ผลบุญได้เพิ่มทวีขึ้นในที่สุดเขาก็สอบได้เป็นจิ้นสือ ต่อมารับราชการเป็นถึงผู้บัญชาการชายแดนลูกหลานของเขาก็เชื่อคำสอนของเขา จนได้เป็นใหญ่เป็นโตในแผ่นดินต่อมา
เวลา....ต้องตรง
ลื่อโจ๊ว
เวลาเวลา เป็นสิ่งสำคัญ
เวลานัดหมาย มิอาจคลาดเคลื่อน
จดจำเอาไว้ ให้ได้จงดี


17. ลุ่มหลงในกาม ชื่อเสียงถดถอยและตกอับในชีวิตบั้นปลาย
ในราชวงศ์หมิง มีนักศึกษาชื่อหลิวเอี่ยวจือ เป็นคนที่มีความรู้สูงแต่ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม วันหนึ่งนายหลิวเดินทางไปสอบเป็นบัณฑิตที่เมืองหลวง ขณะที่นั่งเรือไปนั้น เห็นลูกสาวเจ้าของเรือมีหน้าตาสวยงามคิดจะล่วงเกินจึงได้พูดจาเกี้ยวพาราสี แต่เนื่องด้วยเจ้าของเรือผู้เป็นพ่ออยู่บนเรือด้วย จึงไม่มีโอกาส เมื่อถึงเมืองหลวงหลิวเอี่ยวจือขึ้นจากเรือไปสอบ หลังสอบเสร็จแล้วเขาก็กลับไปที่เรืออีก พอดีขณะนั้นเจ้าของเรือไปทำธุระที่ตลาด นายหลิวเลยฉวยโอกาสได้เสียกับลูกสาวเจ้าของเรือ คืนวันนั้นพ่อแม่ของนายหลิวได้ฝันพร้อมกัน เห็นเทวดาองค์หนึ่งมาเข้าฝันว่า อันที่จริงลูกชายของเจ้าจะสอบได้ที่หนึ่งในครั้งนี้ แต่เขาละเมิดศีลข้อ3 ได้ข่มขืนลูกสาวเจ้าของเรือ ฉะนั้นสวรรค์จึงลบชื่อเขาออกพ่อแม่หลิวเมื่อตื่นขึ้นมารู้สึกเสียใจเป็น อย่างยิ่ง
ความฝันนั้นเป็นความจริง กรรมการผู้ตรวจสอบตอนแรกมีความคิดที่จะเลือกเขาเป็นที่ 1 แต่ทำไมไม่ทราบกรรมการผู้ตรวจสอบเห็นว่า เขาทำไม่ถูกกฏระเบียบการบางอย่างจึงได้คัดชื่อออก เมื่อสอบตกนายหลิวเดินทางกลับบ้าน ก็ถูกพ่อแม่ต่อว่า นายหลิวจึงรู้ว่า สาเหตุที่สอบไม่ผ่านมาจากตัวเองประพฤติชั่วนี่เอง จะแก้ไขก็สายเสียแล้ว ชีวิตเลยเริ่มตกต่ำจนตกอับตลอดชีวิต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2010, 13:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 13:20
โพสต์: 821


 ข้อมูลส่วนตัว


18. เขียนบทความแนะคนได้ชื่อเสียง
ในสมัยราชวงศ์หมิง ที่อำเภอเกียเฮง มีคนชื่อ หลี่ติ้ง เป็นคนที่มีคุณธรรม ไม่ชอบเปิดเผยความลับของผู้อื่น หากเป็นเรื่องความดี เขาจะเผยแพร่ให้ ถ้าเห็นเพื่อน ๆคุยเรื่องลามกหรือความลับของผู้อื่น เขามักตักเตือนทันที เพื่อให้ผู้คนเข้าใจผลร้ายที่ทำลายชื่อเสียงของสาว ๆ และชอบคุยเรื่องลามก จึงได้เขียนบทความ “บาปทางวจีกรรม”
บทความของเขาทำให้คนที่ชอบปากสนุกกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีเป็นจำนวนมาก ตามพรหมลิชิตของเขาไม่มีวาสนาในการสอบไล่ วันหนึ่งเพื่อนนักเรียนของเขาได้ชวนเขาไปสอบเป็นเพื่อน เขาก็ไม่หวังจะสอบได้ก่อนประกาศผลสอบหนึ่งคืน เขาฝันเห็นพ่อที่ตายไปแล้วมาบอกเขาว่า เนื่องด้วยชาติก่อนเขาเป็นบัณฑิต แต่มีนิสัยโอหัง ชอบดูถูกคน ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ฉะนั้น สวรรค์จึงลงโทษเจ้าจะสอบไม่ผ่านตลอดชีวิตของเจ้า แต่เนื่องด้วยการสอบครั้งนี้ มีคนที่ควรสอบได้เป็นเจี่ยหยวนและปีหน้าจะสอบได้เป็นจิ้นสือ แต่เขาเป็นคนเจ้าชู้เพราะเขาได้ข่มขืนหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา เทพเจ้าเหวินเชียงจึงได้ลบชื่อเขาออกไป พอดีเจ้าเขียนบทความ “บาปทางวจีกรรม” ทำให้คนสำนึกผิดจำนวนมาก ความดีนี้ใหญ่หลวง ท่านจึงเอาชื่อของเจ้าไปแทน หวังว่าจากนี้ไป เจ้าต้องพยายามทำแต่กรรมดี เพื่อตอบสนองที่สวรรค์ได้เอ็นดูเจ้า
รุ่งขึ้นเขาไปตรวจดูรายชื่อ เขาสอบได้เป็นเจี่ยหยวน และต่อมาเขาสอบได้เป็นจิ้นสือ อันที่จริง เขาหมดอาลัยตายอยากที่จะใฝ่หาชื่อเสียงเกียรติยศแล้วหลังจากเขาไปสอบหลาย ครั้งไม่ผ่าน ไม่นึกว่าความประพฤติของเขาช่วยให้เขาได้มีชื่อเสียงเกียรติยศ เพื่อตอบแทนความเมตตาของสวรรค์เขายิ่งเพิ่มความระมัดระวังในการกระทำทั้ง มโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม ให้มากขึ้น เมื่อเข้ารับข้าราชการ ก็ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา ไม่ทุจริตไม่รับอามิสสินจ้าง ชีวิตราชการของเขาจึงราบรื่น จนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน
อะไรไม่สำคัญเท่าฝึกจิต
ลื่อโจ๊ว
ไม่มีไม่มี ลืมหลงไปเอง
สติสติ มั่นคงมั่นคง
รอรอสักหน่อย อย่าได้ร้อนรน
ตั้งจิตทำใจ สงบสงบ
ขึ้นนั่งเก้าอี้ สงบจิตใจ
สมาธิภาวนา ให้มีเห็นผล
จักได้ชื่นชม กันมีสักที


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร