วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 19:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2011, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


ณ ถ้ำสองตา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีพระภิกษุชาวอเมริกันรูปหนึ่ง จำวัดอยู่เพียงลำพังที่นั่นมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยฉันอาหารมื้อเดียว ไม่รับกิจนิมนต์ ปฏิบัติธรรมอย่างสันโดษและจริงจัง…

พระอาจารย์ สุมโน ภิกขุ เกิด ที่เมืองชิคาโก จบการศึกษาด้านกฎหมายและประกอบกิจการส่วนตัว เป็นนักธุรกิจผู้มีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะตัดสินใจสละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและหันเหสู่เส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เป็นเวลากว่าสามสิบปีมาแล้ว ซึ่งในที่สุด ท่านได้เข้าไปสัมผัสกับวัดแนวพุทธศาสนาในประเทศอังกฤษ จนเข้าไปสู่ วัดหนองป่าพง ในเขตอำเภอวารินชำราบ ใกล้ตัวเมืองอุบลราชธานี อันที่เป็นพำนักของพระอาจารย์ชา สุภทฺโท หนึ่งในบรรดาพระอาจารย์ของท่าน…ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา พระอาจารย์ สุมโน ภิกขุ ได้พำนักอยู่ที่ถ้ำสองตา ในเขตพื้นที่เขาใหญ่ ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย อย่างสันโดษและสงบเงียบอย่างแท้จริง

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะเป็นการตอบข้อสงสัยของคนหลายชาติหลายภาษา เกี่ยวกับปัญหาชีวิตทางโลก ซึ่งพวกเขาอยากรู้ว่าหลักการปฏิบัติสมาธิ จะช่วยแก้ปัญหาที่พวกเขาประสบในชีวิตประจำวันได้อย่างไร คำถามแต่ละข้อล้วนน่าสนใจ และเป็นสิ่งที่พวกเราได้พบเจอกันทุกวัน ซึ่งพระอาจารย์ สุมโน ภิกขุ ก็ได้ให้คำตอบด้วยปัญญาอันชาญฉลาดที่ท่านได้จากการปฏิบัติสมาธินั่นเอง…

ดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ : http://www.kammatan.com/board/index.php ... 842#msg842

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ม.ค. 2011, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: ถาม ดิฉันคิดว่าเมื่อลูกๆๆเติบโตขึ้นและออกไปมีครอบครัวของตัวเองคงจะหายเป็นห่วงพวกเขาและคงจะรู้สึกสบายใจและโล่งอก แต่มันหาเป็นเช่นนั้นไม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่หมดแล้ว ดิฉันยังคงกังวลกับพวกเขา เมื่อพวกเขาไม่ติดต่อมา

:b44: ตอบ
อาตมาเข้าใจดีว่าโยมรู้สึกอย่างไร เมื่อมันไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ ความสับสนของโยมเป็นเรื่องธรรมดาและเป็น เรื่องลำบากที่จะเปลี่ยนแปลง ในความเป็นจริง อะไรที่เรารัก จะนำมาซึ่งความเสียใจ เป็นเวลานับสิบปีที่โยมมีความกังวลกับลูกๆๆ นั้น แสดงว่าโยมเป็นแม่ที่ดีจากการที่เลี้ยงดูพวกเขาด้วยวิธีนั้น โยมกลายเป็นนักกังวลเกี่ยวกับลูก
มองดูเหมือนเรื่องที่ถูกต้อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่าง โยมกับลูกๆ ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้เส้นประสาทส่วนที่สร้างความกังวลนั้นฝังติดแน่นกับจิตของโยม

แน่นอน อาตมาไม่ได้กำลังแนะนำว่า แม่ทั้งหลายจงเลิกมีความสัมพันธ์กับลูกๆๆ ในลักษณะนี้เสีย แต่อาตมากำลังจะแนะนำว่า แม่ทั้งหลายความสร้างสัมพันธ์กับลูกๆ อย่างถูกต้องและชาญฉลาด เราเป็นมนุษย์ที่มีหนทางหลากหลายที่จะรักใครสักคน เมื่อเรารักด้วยความห่วงกังวล และความกลัว ความรักชนิดนั้นจะนำมาซึ่งความเสียใจ
เมื่อเรารักโดยต้องการสิ่งตอบแทน
วันหนึ่งความรักแบบนั้นจะแว้งกลับมากัดโยม
เมื่อเรารักโดยเรียกร้องอะไรบางอย่าง
เราจะเกิดความทุกข์จากสิ่งไม่สมหวัง

มันมีความรักที่ทุกคนรู้จัก ที่เรียกว่า "ความรักระหว่างหญิงกับชาย
เป็นความรักชนิดที่เห็นแก่ตัว และเพ้อฝัน
ึ่ซึ่งในที่สุด ก็จบลงด้วยความเสียใจเช่นเดียวกัน
อย่างน้อยเราก็ต้องพบกับความเศร้า ซึ่งเกิดจากความพลัดพลาด
นี่คือความรัก ชนิดต่างๆ ที่ขึ้นต้นด้วย
"ร" ตัวเล็ก


ส่วนความรักที่ขึ้นต้นด้วย

"ร" ตัวใหญ่

นี่คือ ความรักที่เกิดจากความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา

เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องรู้ถึงความแตกต่าง และสิ่งที่ทำให้ความรักทั้งสองรูปแบบแตกต่างกัน ในกรณีความรักแบบทั่วไป ไปที่คนส่วนมากรู้จัก มันจะมีปริมาณความอยาก (ตัณหา) ความต้องการและความเป็นตัวตนเกี่ยวข้องสูงมาก ในกรณีของความรักอันบริสุทธิ์นั้น ไม่มีใครต้องการอะไร มีแค่การตอบสนองแบบง่ายๆ ต่อ "สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่" นี่คือความรักที่ไม่มีตัวตน เมื่อตัวตนไม่ได้ควบคุมสถานการณ์ มันก็ไม่มีความอยาก ความต้องการ ความกลัว หรือเกียติภูมิที่จะต้องรักษาการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ก็จะบริสุทธิ์ เมื่อการตอบสนองนั้นบริสุทธิ์มันก็ไม่มีความเจ็บปวด อะไรที่หนีไม่พ้นหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้
เช่นเดียวกับความรับแบบทั่วๆ ไป ที่ทั้งสองสิ่งนี้จะติดอยู่และตามไปทุกหนทุกแห่ง อาตมากำลังพูดและสอนจิตของคุณโยมให้รับรู้ โยมก็จะปราศจากความกังวล และความเครียดที่ความรักของโยมสร้างให้

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร