วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 11:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2011, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: มัวแต่ห่วงโลกอยู่ เลยไม่ได้ไปพระนิพพานผู้จะไปพระนิพพานได้ ท่านไม่ห่วง ไม่มีห่วงโลกห่วงใดๆ ทั้งนั้น เรื่องรูป เสียง กลิ่นรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ท่านตัดขาดพรวดไปเลย ไม่มีอีกแล้ว เรียกว่าตัดกิเลสตาย คลายกิเลสหลุด ถึงวิมุตติมรรคผลนิพพาน สว่างโร่ไม่มืดอีกแล้ว

:b39: ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใคร ไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใคร ให้อภัยแก่คนทุกจำพวก ไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับใครเลยต้องพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ อย่างนี้ใจเราสบาย

:b39: ใจมันต้องเผ็ดเด็ดเดี่ยวลงไป ทำความเพียรแผดเผากิเลสให้หนักแน่น

:b39: หัวใจมันข้องอันนั้น อันนี้ เรียกว่าผู้ยังมีภาระอยู่มากมาย ไปไหนหนามก็เกี่ยววางไม่ได้เลย เกี่ยวเกาะอยู่อย่างนั้นแหละรู้จักว่ามันเป็นเครื่องผูก ก็ยังไปยึดอยู่ได้รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เหล่านี้เครื่องผูกเครื่องข้อง เครื่องถ่วงความเจริญให้ติดอยู่ในวัฏฏสงสาร

:b39: จงอยู่กับพระวินัยให้เคร่งครัด

:b39: พิจารณาอสุภะให้มากๆ เอาให้กิเลสครางไปเลย ไม่นอนตามกิเลส ไม่ฉันตามกิเลสไม่เอาความสบายเพื่อกิเลส ทรมานมันอดตาหลับขับตานอน นั่งภาวนาก็ให้มันได้นานๆ หน่อย ไม่ใช่พอง่วงก็หลับเลยทำความเพียรให้เข้มแข็ง ทำข้อวัตรปฏิบัติให้มันจริงจัง เอาจนกิเลสมันเหือดแห้งไป

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2011, 15:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ: กิเลสชอบหลอกจิตให้คิดมาก ให้กังวลหลอกให้เป็นทุกข์ จิตก็รู้ว่ามันมาหลอกอีกแล้ว แต่จิตก็ชอบยอมให้กิเลสหลอกลวง
ต: ก็ธรรมดาแหละ เราเป็นพวกเดียวกับเขามานานแล้ว แต่นี่เราจะหนีจากเขาไปนิพพาน เขาก็รุมเรา เขาไม่อยากให้เราไปเขาก็เพียรพยายามจะดึงดูดเราไว้
ถ: กิเลสชอบหลอกว่ามันทุกข์ไม่เท่าไรหรอกทุกข์นิดหน่อย ไม่ต้องกลัวมัน
ต: อะไรเป็นกิเลส กิเลสอย่างอื่นก็ไม่เท่าไรหรอก ใจเราเป็นกิเลสเอง ใจเสียดาย ใจยังห่วงยังอาวรณ์กับโลกอยู่ ไปไม่ได้แล้ว กิเลสรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ก็ไม่เท่าไรหรอก แต่กิเลสใจของเรานี่สิมันเป็นโมหะอยู่ กิเลสเป็นของร้อนเผาตัวเอง ให้รู้เท่ามัน มันก็ไม่มารบกวนหรอก


:b42: ผู้จะไปพระนิพพานต้องไม่มีอะไรข้องสักอย่าง รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะก็ไม่ข้อง ต้องเป็นผู้เลี้ยงง่าย กินง่าย อยู่ง่ายนอนง่าย มีแต่ง่ายๆ มันก็ไม่ข้อง

:b42: หวง ห่วง ห้วง หวง เรามีของแล้ว ไม่อยากให้ใครได้ด้วย หวงเมีย หวงลูก ไม่อยากให้ใครมายุ่ง ห่วง คิดถึง ลูกได้กินอะไรบ้างไหมหนอ ห่วงไปห่วงมามันข้องเป็นห้วงมหรรณพ ติดไปไหนไม่ได้ กามโอฆะ ภวโอฆะ ทิฏฐิโอฆะ อวิชชาโอฆะ โอกแอ่งแก่งกันดาร

:b42: มีรักที่ไหนมีทุกข์ที่นั้น ความรักความใคร่มันโตขึ้นมาได้ รักน้อยๆ ต่อไปมันก็รักมากเข้าๆ เมื่อไรจะออกจากกันได้ ถ้าจะออกจากกันก็เป็นห่วงเป็นทุกข์ ความผูกความพันมันเหนียวแน่นมาก เหนียวแน่นจนลืมตัวเอง

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2011, 15:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: ใครจะว่าชั่วก็ตามที ใครจะว่าดีก็ตามชังอยู่อย่างนั้นแหละไม่มีดี ไม่มีชั่วตามใครทั้งนั้น โลกธรรมถูกต้องไม่หวั่นไหว สบายตัวคนเดียวก็พอ

:b44: คนเราชอบหลงหาเรื่องข้องใส่ตัวเอง เห็นรูปถูกใจๆ ก็ไปข้อง เห็นเสียงถูกใจๆก็ไปข้อง ได้กลิ่นหอมๆ ถูกใจก็ไปข้อง รสอร่อยๆก็ไปข้อง โผฏฐัพพะเครื่องถูกต้องร่างกายอยากได้ผ้าดีๆ ที่นอนดีๆ ก็เป็นเครื่องข้อง

:b44: โลกทั้งหลายเขาอยู่ด้วยราคะ โทสะ โมหะติดกันอยู่แค่นี้ เขาทำไปตามอำนาจกิเลสจะไปไหนๆ ทำอะไรๆ ก็เอากิเลสออกหน้าใส่ปุ๋ยให้ราคะ โทสะ โมหะ มันก็ใหญ่โตไปเรื่อยๆ เพราะตามใจมันทุกอย่าง ทำให้หลงหลงรัก หลงใคร่ หลงอยากได้ หลงยินดีหลงหาทั้งตาปี ไม่รู้เบื่อเชื่อตัณหา หลงแล้วก็ติด ติดในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะธรรมารมณ์ พอมันพลัดพรากจากเราไปก็เป็นทุกข์ เพราะความหลง ถ้าไม่เพ่งไม่ตัดมันเสียก่อน มันก็มีกำลังอยู่อย่างนั้น

:b44: พราหมณ์ผู้มีความเพียรเพ่งแผดเผากิเลส ไม่ได้เผลอได้หลงไปไหน อยู่กับอารมณ์อันนั้น แผดเผาอยู่อย่างนั้นตลอดวันตลอดคืน ต่อแต่นั้นความสงสัยของพราหมณ์ย่อมสิ้นไป ถ้าไม่เพ่งไม่แผดเผาก็สงสัยเรื่อยไป ยังให้ราคะ โทสะ โมหะมันกำเริบเสิบสาน มันปรุงมันแต่งเราได้อยู่ก็ชื่อว่าไม่แผดเผามัน ต้องไม่ตามใจมัน มันก็หมดอำนาจ ไม่ให้กำเริบเสิบสานไปทางอื่น แผดเผาจนว่ามันตายจนมันยอม กิเลสของเราก็หมดไป

:b44: ถ้าตั้งสติอยู่ทุกเมื่อ สัมปชัญญะรู้ตัวอยู่ทุกเมื่อ วิเศษวิโส กิเลสจะเบาไปบางไปสติเมื่อมันแก่กล้าขึ้นมาแล้ว ไม่เผลอไม่หลง หายใจเข้า รู้ หายใจออก รู้ จะว่าพุทโธไม่ว่าก็รู้ เอาความรู้นั้นแหละเป็นสติ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 มี.ค. 2011, 15:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: ชาติ ชรา พยาธิ มรณะ มันล้อมเราอยู่เรามีความรู้ตัวอยู่เสมอ ไม่เผลอ ไม่หลงตายเมื่อไรก็ตายได้ ถ้าตายเวลาเผลอมันก็หลง ถ้าหลงห่วงบ้าน ก็ต้องไปเกิดเป็นลูกหลานบ้านนั้นอีก หรืออาจเป็นจิ้งจก ตุ๊กแกก็ได้ พระรูปหนึ่งปลูกอ้อย อ้อยเจริญเติบโตดี พระเกิดมรณภาพ ก่อนมรณภาพเกิดห่วงหวงต้นอ้อยเลยไปเกิดเป็นด้วงอยู่ที่ต้นอ้อยนั้น นี่ความเผลอ ความหลงความหวง ความห่วง มันเป็นอันตรายอย่างยิ่ง อย่าให้ตายด้วยความหลง ให้ตายด้วยความรู้

:b44: คนจะรวยก็เพราะรวยน้ำใจมาก่อน คนจะจนก็เพราะจนน้ำใจมาก่อน

ถ: ผมเฝ้าดูจิต เห็นความชอบไม่ชอบเกิดยิบแย๊บขึ้นที่ใจ ถ้าเห็นทันมันก็ปรุงให้เราทุกข์ไม่ได้ ถ้าไม่เห็นมันก็หลงปรุงครับ
ต: ถ้าสติสัมปชัญญะรวมเป็นหนึ่ง พิจารณาอะไรขึ้นมาก็เป็นของจริง พิจารณาธรรมภายนอกได้ถูกต้อง มันเป็นญาณความรู้เป็นอนาคตังสญาณ มันรู้มาก่อน รู้เท่าทันมันเย็น ถ้ารู้ไม่เท่ามันเป็นของร้อน รู้ไม่เท่าราคะ โทสะ โมหะ มันก็เผาผลาญตัวเอง ถ้ารู้ทันก็ไม่หลงเอามันมาใช้

:b44: ถ้าตั้งสติแล้วไม่ห่วงใคร ใครจะเป็นใครจะตายมันเรื่องของเขา เรื่องของเรามีหน้าที่ภาวนา

:b44: สมมติ กับ วิมุตติ มันก็มานำกัน เมื่อวางสมมติออกได้แล้ว จิตก็วิมุตติ จิตก็หลุดพ้นถ้ามีสมมติอยู่ มีเขา มีเราอยู่ มีดี มีชั่วก็ยังอยู่ในสมมติ ถ้าเลยดีเลยชั่ว ไม่มีดีไม่มีชั่ว มันก็หลุดพ้นจากสมมติ สมมติกันเอาเองว่ามันดี สมมติกันเอาเองว่ามันชั่วถ้าดีมาก็ถูกใจ ถ้าไม่ดีมาก็เสียใจ อยู่แค่นี้แหละ สมมติทำให้ดีใจ เสียใจ ร้องไห้หัวเราะ ถ้าวิมุตติแล้วไม่มีโศกเศร้าโศกาอะไรเลย วางเฉยได้ อะไรดีก็ไม่มีอะไรชั่วก็ไม่มี ไม่มีดีใจ เสียใจ ร้องไห้หัวเราะ ไม่มีภาคภูมิอะไรเลย เหมือนขอนไม้ที่ตายแล้ว มันไม่ทุกข์ร้อนกับอะไรทั้งนั้น

:b44: เกิดเป็นมนุษย์ใช้ร่างกายให้คุ้มค่าศีลของเราดีหรือเปล่าทานของเราดีหรือเปล่าภาวนาของเราตั้งใจมั่นหรือเปล่าถ้าไม่แน่วแน่ ยังวอกแวกไม่เป็นอันเดียวมันก็งมโข่งไปเรื่อย ถ้าเราแน่วแน่ในใจเต็มที่ ไว้วางใจตนเอง เป็นที่เชื่อมั่นในตัวเองไม่ข้องเกี่ยวอะไร มีดวงจิตดวงเดียวเท่านั้น เวลาตายยิ้มตาย ไม่กลัวอะไรเลย

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b40: ความเกษมสุข ความไม่เศร้าโศก เป็นมงคล ใจจะรื่นเริงเสมอ ถ้าเศร้าโศก จะเสียมงคลไปหมด เหมือนต้นไม้มันเฉาแล้วน่าดูไหม เอาน้ำมารด เอาปุ๋ยมาใส่ชุ่มชื่นขึ้นมามันเป็นยังไง มันสดชื่นน่าชม

ถ: การเฝ้าดูเฝ้ารู้จิต บางทีก็มีผู้เข้าไปเห็นจิตบางทีก็มีแต่ความรู้ตัวเฉยๆ ไม่มีผู้ดูแต่ก็รู้จิตอยู่ รู้การเคลื่อนไหวของจิตอยู่
ต: เหมือนเราเดินผ่านไฟ มันมีเงาไปด้วยเพราะมีไฟส่อง ความรู้ของเรามันมีอยู่แล้วจิตเราเป็นผู้รู้ แต่เงาไม่รู้อะไรกับเราเลยเอามาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้หรอก ตัวเรารู้ว่าเราเดินผ่านไฟไปนี่
ถ: หมายถึงว่ายังเป็นนิมิตหรือครับ
ต: เป็นนิมิตก็ดี เป็นอะไรก็ดี ของเหล่านั้นไม่ใช่เราหรอก อย่าไปถือว่าเป็นเรา มันไม่รู้อะไร มันแค่ปรากฏเป็นตนเป็นตัวขึ้นมาเป็นภาพลวงตา ลวงใจเราให้ไปหลงมันซื่อๆ หรอก อย่าหลงตะครุบเงา อย่าหลงไปตามสัญญาอารมณ์ ส่งออกนอก เห็นนั้นเห็นนี่ ตัวไหนไปเห็น ตัวเราเนี่ยไปเห็นเอาความรู้นี่ รู้เท่าเอาทันมันอย่างเดียวพอหายใจเข้าพุท รู้ หายใจออกโธ รู้ ดูอยู่ที่นี่รู้อยู่ที่นี่ จิตมันรู้อยู่ มันสั้นหรือมันยาวก็รู้รู้ละเอียดลงไปๆ อริยมรรคจะเกิดขึ้นเป็นหนทาง หายใจเข้า รู้ หายใจออก รู้อย่าหลงเอามาเป็นเรา เพียงไปเห็นเฉยๆถ้าเอาลมมาเป็นเรา ก็ตะครุบเงา ไม่ได้ตะครุบตัวจริง

:b40: ใจต้องให้ขาดจากความเกี่ยวความข้องตัดน้ำยังตัดไม่ขาด สายสวาทตัดขาดอย่างไรตัดบัวก็ยังไว้ใย ตัดน้ำใจยังมีเมตตามีเมตตาอยู่ ข้องอยู่ ติดอยู่นั้นแหละ

:b40: ถ้ามีความโกรธ ต้องรักษาใจให้มันเย็นอย่าให้มันร้อน หาอุบายแก้ไขด้วยปัญญา น้ำที่ต้มเดือด ออกมาจากเตาแล้วไม่นานก็เย็นลง ถ้าใส่ตู้เย็นก็เป็นน้ำแข็งได้ใจเราก็เหมือนกัน มันเดือดแล้วก็เย็นได้เย็นแล้วก็สบาย อย่าลุอำนาจแก่ความโกรธเด็ดขาด สติอย่ามืดอย่างเดียว อย่าเอาความโกรธมาใช้งานเลย โทสะเป็นไฟอย่าตามใจมัน พอความโกรธหายไปบาปไม่หาย ตกนรกอย่างเดียว

:b40: ความโกรธเป็นอันตรายแก่ธรรมะทั้งหลาย ชื่อเสียง เกียรติยศ รสนิยม พังไปตามๆ กันเพราะความโกรธมันทำลายอะไรต่ออะไรได้ตามอำเภอใจ กำลังความโกรธรุนแรงเพราะมันเป็นไฟ อย่าไปลุอำนาจแก่มันเด็ดขาด ความโกรธทำลายผิวพรรณขี้โกรธผิวพรรณจะขี้ริ้ว เป็นไฝ เป็นฝ้าไม่ดี ถ้าไม่มีความโกรธ สีสัน วรรณะจะดี ไม่เปลืองเครื่องสำอางใดๆ เลย

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: กิเลสมันเหนียวมันแน่น ความตระหนี่ถี่เหนียว เป็นต้น เอาอะไรมาขัดมันออกมันเหนียว เหนียวจริงๆ ท่านจึงบัญญัติว่า ทานัง เทติ ให้ทานเป็นเครื่องขัดเครื่องเกลากิเลสในหัวใจ ความตระหนี่ก็จะเบาบางไป จึงควรทำทานอยู่บ่อยๆ

:b44: ขัดเกลากิเลสในหัวใจด้วยการรักษาศีลเว้นการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการกล่าวโป้ปดมดเท็จใดๆ ไม่พูด เว้นจากการดื่มกินสุราเมรัย ถ้าเว้นได้ทั้ง ๕ ข้อจิตใจจะเป็นยังไง จิตมันจะสบายขึ้นหรือเปล่า มันสบายขึ้นกว่าเดิม ไม่สลึมสลือเหมือนแต่ก่อน

:b44: ขัดเกลากิเลสในหัวใจด้วยการภาวนาภาวนาเป็นบุญสูงสุดเพราะมันไม่ติดไม่ข้องอะไร มันก็ได้บุญแล้ว กิเลสมีอยู่ในตัวเราทุกคน การปฏิบัติธรรมจำศีลภาวนาเพื่อต้องการชำระกิเลส ความชั่วความมัวหมองให้ออกจากจิตใจของเราต้องการแค่นี้ พระพุทธศาสนาที่ให้มาประพฤติปฏิบัติอยู่ ก็ต้องการให้ชำระกาย วาจา ใจให้ถึงความบริสุทธิ์ิเท่านั้น

:b44: การละบาปนั้น บาปมันมายังไง บาปเกิดที่จิตใจ ความโลภ ความโกรธ ความหลงเป็นบาป ชำระบาปทั้งหลายได้ด้วยการปฏิบัติธรรม รักษาศีล ไม่ให้มันกำเริบเสิบสาน ไม่ให้มันแก่กล้าขึ้น หากปล่อยไปตามอำนาจมัน จะทำให้เดือดร้อนทำลายตัวเอง

ถ: มีอุบายอย่างไรที่จะทำอาสวะให้สิ้นได้โดยเร็ว
ต: เราไม่มีอุบายอะไร เราจะเอาชนะมันทุกอย่างนั้นแหละ เราจะเอาชนะความโลภความโกรธ ความหลง ความรัก ความชังความยินร้าย ความยินดี ความดีใจความเสียใจ ความร้องไห้ ความหัวเราะเศร้าโศก โศกา อะไรก็ไม่ให้มันมีเลยโดดเดี่ยวอยู่อย่างนั้น ไม่มีอะไรมาปรุงแต่งเราได้แล้ว เรารู้หน้าตามันหมดแล้ว ก็ไปพระนิพพานได้


:b44: ถ้าผู้ใดล่วงรู้อำนาจของบาปทั้งหลายแล้วจะรู้ว่ามันทำลายตัวเอง ท่านทั้งหลายที่ยังไม่รู้จักว่าทำลายแบบไหน ก็เห็นอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ไม่ว่าประเทศไหนเอาความโลภเป็นหัวหน้าปฏิบัติงาน พังทุกราย ความโลภเป็นอันตรายแก่ธรรมทั้งหลายแก่ความเจริญทั้งหลาย โลภมากเท่าไรเป็นอันตรายแก่ตัวเองเท่านั้น รีบกำจัดความโลภด้วยการทำทานขัดเกลากิเลสอย่าให้ความตระหนี่ถี่เหนียวมาเป็นนายกุญแจ ปิดกุญแจแห่งกุศลของเรา

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2011, 22:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b40: เห็นอะไรก็อย่าปล่อยไปตามมัน เห็นปรากฏอยู่เฉยๆ อย่าคิดคาดคะเนไปทางอื่นใด ดูมันเฉยๆ เห็นอะไร รู้อะไรก็สักว่าแต่เห็น สักว่าแต่รู้ อย่าไปสำคัญมั่นหมายในสิ่งที่รู้ที่เห็นเอามาเป็นตัว มันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันเป็นเพียงสัญญาอนิจจา สังขาราอนิจจาธรรมาอนัตตา

:b40: ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม ไม่ให้ตกไปสู่โลกชั่วทุรกันดาร

:b40: กรรมฐานอะไรมันถูกจริต อะไรมันเป็นที่สบายก็เอาอันนั้น ไม่มีกฏบังคับกันหรอก

:b40: ใครจะว่าจะนินทา เฉยไว้ก็ดีเอง

:b40: การทำความเพียร อย่าหลอกลวงตัวเองให้เอาจริงเอาจังกับมัน

:b40: ถ้าปล่อยใจคิดไปทางอื่นก็ใช้ไม่ได้ ทำให้เราหลง หมดท่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

:b40: สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจ

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 22 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron