วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง





กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2014, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ธรรมะประทานพระพรปีใหม่
มีน้ำใจให้เป็นทาน เพื่อชีวิตที่งดงาม


:b46: :b46:

“มีน้ำใจเป็นทานเถิด จะรักษาศีลได้อย่างไม่ต้องตั้งใจเลย
ความเดือดร้อนก็จะผ่อนคลายถึงหมดสิ้นได้
โดยไม่ต้องเหนื่อยยากแก้ไขอีกต่อไป
เป็นการน้อมรับพระพุทธพรในปีใหม่นี้
ซึ่งจะยั่งยืนตลอดไปในทุกๆ ปี ไม่มีเสื่อมคลาย”


สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ขอพุทธานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย
ตลอดจนกุศลผลบุญที่ท่านได้กระทำมา
จงคุ้มครองให้ท่านและครอบครัว พร้อมทั้งบริวาร
ปราศจากทุกข์ภัยทั้งหลายทั้งสิ้น
ขอให้ท่านจงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย
คิดปรารถนาสิ่งใดขอให้สมปรารถนาในสิ่งนั้น
โดยมีธรรมบารมีแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นเกราะคุ้มครองป้องกัน และมีพระธรรมเป็นประทีปส่องสว่างในการดำเนินชีวิต
ขอให้พบกับชีวิตที่สมบูรณ์ ให้พบกับความสะอาด สว่าง สงบ แห่งชีวิตและจิตใจ
ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลจงมีแด่ท่านทุกทิพาราตรีกาลเทอญ



:b47: :b47:


สารบัญ

เรื่อง ธรรมะประทานพระพรปีใหม่
จาก “วรธรรมกถา” ประทานพระพร
ของสมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


ธรรมะประทานพระพรปีใหม่

พุทธพรปีใหม่
ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา
ศีลเท่านั้นที่จะช่วยให้ชีวิตปลอดภัย
อุบายวิธีที่จะช่วยให้เป็นผู้มีศีล
ความมีน้ำใจทำให้รักษาศีลได้


ธรรมคติพรประทาน

อานุภาพแห่งบุญที่ทำในพระพุทธศาสนา
เหตุของความผ่องใสหรือความเศร้าหมองของใจ
คนที่มีค่ายิ่ง ต้องมีความรู้คู่กับความดี
พระคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธศาสนา
หัวใจของพระพุทธศาสนา


วรคติธรรม


:b47: :b47:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2014, 22:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ธรรมะประทานพระพรปีใหม่
มีน้ำใจเป็นทาน เพื่อชีวิตที่งาม



๏ พุทธพรปีใหม่

พรปีใหม่จากใจปรารถนา
คือให้รู้เจรจาผูกพันจิต
“ปิยวาจา” พูดชื่นใจให้เป็นนิตย์
“ทานน้ำใจ” ผลวิจิตรกว่าทานใด

เพื่อให้พบความสุขสวัสดี
ให้ชีวิตมากมีสุขสดใส
ขอจงรับความดีเหล่านี้ไป
เป็นพุทธพรปีใหม่โปรดประทาน



๏ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา

สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงมีพระมหากรุณาโปรดประทานธรรมะ
อันจักยังให้เกิดความมีน้ำใจไมตรีต่อกัน
เป็นธรรมะหมวดสำคัญ ที่มีชื่อว่า “สังคหวัตถุ”
ประกอบด้วยธรรมะ ๔ ประการ
คือ...ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา

ทาน คือการให้ ที่จัดอยู่ในอันดับหนึ่ง
มีความสำคัญเป็นหนึ่งจริง
การให้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้น้ำใจ
ย่อมเป็นเหตุให้ ปิยวาจา...เจรจาเป็นที่ชื่นชอบใจเกิดตามมา
อัตถจริยา...การทำประโยชน์เกื้อกูลกันก็ย่อมตามมาด้วย
เช่นเดียวกันกับ สมานัตตตา...ความเสมอต้นเสมอปลาย
ที่ย่อมเกิดตามความมีน้ำใจมาด้วยเป็นอัตโนมัติ
คือไม่ต้องมีการฝืนใจ ทานน้ำใจจึงมีความสำคัญเป็นหนึ่ง
แม้ศีลก็เกิดได้เพราะมีทานพิเศษ คือ การให้น้ำใจเป็นทาน
และศีลนั้น แม้ศีล ๕ ก็เป็นเครื่องถนอมรักษาชีวิต
ให้งดงาม เป็นสุขสวัสดี ศีลเป็นความดีที่คนดีรักษาได้ไม่ยาก
เช่นเดียวกับความดีทั้งหลายที่คนดีทำได้ง่าย แต่คนไม่ดีทำได้ยาก



๏ ศีลเท่านั้นที่จะช่วยให้ชีวิตปลอดภัย

สองสามปีมานี้ เป็นที่รู้สึกกันว่าชีวิตไม่สงบสุขเช่นที่เคย
แม้พิจารณาก็ย่อมจักได้เป็นว่าความไม่ปฏิบัติรักษาศีล
ที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
โปรดประทานไว้คือเหตุที่แท้จริง
ต้องการความสงบสุขจึงต้องแก้ที่เหตุที่แท้จริง
ขอให้ชวนกันปฏิบัติในศีล ๕ ให้ดีที่สุดเสมอ
นั่นแหละจะเป็นการช่วยกันทำความเดือดร้อนวุ่นวายที่มากมีอยู่ทุกวันนี้
ให้บรรเทาเบาบางถึงหมดสิ้นก็ยังได้
เราจะได้พากันมีความสุขสงบสมปรารถนา
ไม่อยู่ในความวิตกกังวลหวาดกลัวภัยอันรายร้ายแรงต่างๆ นานา
ดังที่กำลังรู้สึกกันอยู่ทุกวันนี้

ขอให้มั่นใจว่า ศีลเท่านั้นจะช่วยได้ดีที่สุด
ศีลเท่านั้นไม่ใช่อะไรอื่น ที่จะช่วยให้ชีวิตที่ปลอดภัยแก่เราได้



๏ อุบายวิธีที่จะช่วยให้เป็นผู้มีศีล

สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
โปรดประทานอุบายวิธีช่วยให้เป็นผู้มีศีลได้
อย่างไม่ต้องตั้งใจแยกแกยะออกเป็นข้อนั้นข้อนี้
แฝงไว้ในทาน การให้น้ำใจแก่กันและกัน
ความมีน้ำใจให้กันนี้แหละ
จะทำให้มีศีล ๕ ได้อย่างง่ายดายสบายนัก

ดังนั้นปีใหม่นี้ ก็ขอให้ที่ไม่เคยมีน้ำใจให้แก่ใครเลย
จงพยายามมีน้ำใจให้กันบ้าง ที่มีอยู่แล้วก็ขอให้มีต่อไป
และให้พยายามขยายออกให้มากที่สุด
โดยปราศจากขอบเขต จะทำให้ไม่อาจผิดศีล ๕ ได้เลย



๏ ความมีน้ำใจทำให้รักษาศีลได้

“ความมีน้ำใจ” จะกีดกันให้ห่างไกล
ความละเมิดศีลทั้งหมดได้ เพราะความมีน้ำใจให้กัน
คือความห่วงใยถนอมรักษากัน
ไม่ให้ชอกช้ำทั้งทางกายและทางใจ
การเบียดเบียนใดๆ จึงไม่อาจทำแก่กันได้

เบียดเบียนชีวิตไม่ได้ เบียดเบียนทรัพย์สมบัติไม่ได้
เบียดเบียนร่างกายจิตใจไม่ได้
เบียดเบียนความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องไม่ได้
เบียดเบียนตนเองให้ขาดสติไม่ได้
ทั้งหมดคือความล่วงละเมิดศีล ๕ ไม่ได้



๏ จงมีน้ำใจให้แก่กันและกันตั้งแต่บัดนี้เถิด

มีน้ำใจให้เป็นทานเถิด จะรักษาศีลได้อย่างไม่ต้องตั้งใจเลย
ความเดือดร้อนก็จะผ่อนคลาย ถึงหมดสิ้นได้
โดยไม่ต้องเหนื่อยยากแก้ไขอีกต่อไป
เป็นการน้อมรับพระพุทธพรในปีใหม่นี้
ซึ่งจะยั่งยืนตลอดไปในทุกปีๆ ไม่มีเสื่อมคลาย
และเป็นพรที่จะขอพระราชทานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายที่วิเศษยิ่ง
แสดงความจงรักภักดีจริงต่อเบื้องพระยุคบาท ที่ไม่มีพรใดอาจเสมอได้
จึงขอพสกนิกรทั้งหลายได้มีน้ำใจให้เป็นทานแก่กันและกัน
ตั้งแต่บัดนี้เถิด ขออำนวยพร



:b47: :b47:

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2014, 22:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ธรรมคติพรประทาน
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



๏ อานุภาพแห่งบุญที่ทำในพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนานั้น เปรียบดังเพชรน้ำหนึ่ง
เนื้อแข็งบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งสกปรกใดจะแทรกซึมเข้าในเนื้อเพชรได้
ฉันใดฉันนั้นก็ไม่มีความสกปรกใดจะแทรกซึม
เข้าปะปนกับพระพุทธศาสนาได้ ได้ก็แต่เพียงแวดล้อมอยู่ภายนอก


ไม่มีบุญใดจะยิ่งใหญ่เท่าบุญที่เทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนา
จนกระทั่งเป็นที่เชื่อในหมู่ผู้ได้ประสบพบเห็นด้วยตนเอง
ว่าแม้เมื่อถึงเวลาที่กรรมไม่ดีที่ทำไว้ส่งผล จะหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่อานุภาพแห่งบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนา
แม้มากเพียงพอในปัจจุบัน ย่อมพิทักษ์รักษา
ให้ได้พ้นจากความเจ็บปวดทรมาน อย่างเป็นที่น่าประหลาดมาก



๏ อย่าหลงผิดคิดผิดทำผิดต่อพระพุทธศาสนา

ทราบกันดีแล้วว่า ศัตรูที่จะทำร้ายพระพุทธศาสนาได้นั้น
เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาเองเท่านั้น
คือต้องเป็นพระ เณร อุบาสก อุบาสิกาเท่านั้น
ที่เป็นผู้ทำร้ายพระพุทธศาสนาได้ ผู้อื่นทำไม่ได้

ดังนั้น เราจึงควรต้องระวังตนเอง ระวังพวกกันเองให้ดีที่สุด
อย่าให้หลงผิดคิดผิดทำผิดต่อพระพุทธศาสนา

หมั่นทบทวนดูแลตักเดือนตนเองให้ไม่ผิดศีลธรรมผิดพระวินัย
ที่สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางไว้ให้
เพื่อรักษาพระพุทธศาสนา โดยให้รักษาเราก่อน
ให้เรารักษาตัวเราได้ก่อน เพื่อเราจะได้รักษาพระพุทธศาสนาได้



๏ เหตุของความผ่องใสหรือความเศร้าหมองของใจ

ขอให้ทำหน้าที่ให้เต็มสติปัญญา ความสามารถ
สอนตัวเองให้ปฏิบัติหัวใจพระพุทธศาสนาให้เข็มแข็ง
อย่าทำความไม่ดีใดๆ ทั้งนั้น
ทำความดีทุกอย่าง ทำใจให้ผ่องใสเสมอ

ความคิดของตนเองสำคัญมาก
ความผ่องใสหรือความเศร้าหมองของใจ
มิได้เกิดแต่อะไรอื่นแต่เกิดจากความคิดของตนเอง
ใจขุ่นมัวเศร้าหมองเมื่อไร อย่าไปโทษคนอื่นว่าเป็นเหตุ
โทษความคิดของตนเอง และเปลี่ยนความคิดนั้นทันที
คิดถึงพระพุทธเจ้าให้ทันที คือ ท่องพุทโธ...พุทโธได้ทัน
และก็ได้ผลเป็นความสบายใจจริง



๏ วันเวลาเคลื่อนไปพร้อมกับวัยของเราทุกคน

พรที่ปรารถนาจะให้ในวันมงคลขึ้นปีใหม่นี่คือ
ขอให้พากันไม่ลืมนึกถึงความจริงที่สำคัญประการหนึ่ง
ไว้ให้เสมอว่า วันเวลากำลังเคลื่อนไปพร้อมกับวัยของเราทุกคน
และจะไม่มีการถอยหลังย้อนกลับมาได้อีกเลย



๏ คนที่มีค่ายิ่ง ต้องมีความรู้คู่กับความดี

อะไรที่ดีงามให้รีบทำเสีย อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
เมื่อโอกาสที่ทำได้ผ่านพ้นไป จะไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก

ดังเช่นเมื่อมีอายุในวัยเรียน มีโอกาสเรียน
ต้องเร่งเรียนให้เต็มสติปัญญา ความสามารถ
เพราะเมื่อพ้นวัยเรียนไปแล้ว
ย่อมยากจะมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนได้อย่างเต็มที่อีก
จะต้องทำอย่างอื่นแทน และอย่างอื่นที่จะทำนั้นก็จะทำไม่ได้ดี
เพราะไม่มีความรู้เป็นเครื่องส่งเสริม

ขณะเดียวกัน ขอให้รับรู้ว่า
ความรู้แม้มีมากในคนที่ไม่ดีย่อมทำให้เขาเป็นอันตรายที่ใหญ่ยิ่ง
ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น จึงต้องทั้งศึกษาหาความรู้
ไปพร้อมกับอบรมตนให้เป็นคนดี ให้สุดความสามารถ
มีความรู้ด้วย มีความดีด้วย จึงจะเป็นคนมีค่าที่แท้จริง



๏ คำสอนทางพระพุทธศาสนาไม่เลือกชั้นวรรณะ

พระพุทธศาสนา หรือคำสั่งสอน
ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
มีคุณยิ่งใหญ่แก่ชาวโลกทั่งไป ไม่เลือก ชาติศาสนา
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม นับถือพระพุทธศาสนาหรือไม่ก็ตาม
จักได้รับประโยชน์จากพระคุณของพระพุทธศาสนาแน่นอน


โดยมีบรรดาผู้นับถือปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นสื่อนำความดีงามทั้งปวงไปสู่เพื่อนร่วมโลกทั้งหลาย
โดยไม่เลือกชั้นวรรณะและศาสนา
ความประพฤติอยู่ในศีลในธรรม
ตามคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา
จะเป็นคุณยิ่งใหญ่แก่ผู้ประพฤติ และจะสามารถแผ่คุณนั้น
ไปถึงผู้อื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใด ศาสนาใด



๏ พระคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระพุทธศาสนา

ผู้มีศีลมีธรรมตามคำทรงสั่งสอน
ของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
คือคนดี และคนดีนั้นไม่ให้ทุกข์ ไม่ให้โทษแก่ใคร
ไม่มีเวรไม่มีภัยกับใคร ไม่ว่าชาติศาสนาใดทั้งนั้น
มีแต่จะให้คุณประโยชน์สถานเดียวแก่คนทั้งหลาย

ขอให้ทุกท่านช่วยกันทำให้ความจริงนี้ปรากฏประจักษ์
แม้เพียงในเขตประเทศนี้ก็ยังดี ตั้งใจรักษาศีล
รักษาพระธรรมวินัยให้จริง ให้ความเป็นพระดี
เป็นคนดี ในพระพุทธศาสนาปรากฏเด่นชัด

ให้เล่าลือล่วงรู้อยู่ตลอดไปว่า พระพุทธศาสนาให้คุณยิ่งใหญ่
โดยที่ไม่เลือกชั้นวรรณะ หรือศาสนาใดทั้งสิ้น



๏ หัวใจของพระพุทธศาสนา

พระมหากรุณาของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ยั่งยืนนาน ไม่ประกอบด้วยกาลเวลา
ก่อนแต่ทรงตรัสรู้ ทรงตรัสรู้แล้ว จนบัดนี้ และจนตลอดไป
พระมหากรุณาจะยังแผ่ไพศาลไม่มีขอบเขต
เราทุกคนพึงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการแสดงกตัญญูกตเวที
ต่อพระรัตนตรัยซึ่งทรงพระคุณสูงสุดคือ
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระธรรามคำสั่งสอนที่ถูกแท้ให้คุณทั้งหมด
และพระสงฆ์ผู้ทรงจำพระธรรมไว้ไม่ผิดพลาด
และอัญเชิญมาให้ปรากฏแก่ชาวโลก
ด้วยวาจาและด้วยการปฏิบัติเป็นแบบอย่าง
ให้หัวใจของพระพุทธศาสนา ๓ ประการเป็นที่เทิดทูนสืบไป คือ...

การไม่ทำบาปอกุศลทั้งปวง
การทำบุญกุศลทุกประการ และ
การทำใจของตนให้ผ่องใสไกลกิเลสเครื่องเศร้าหมอง



๏ ทั้งหมดของพระพุทธโอวาท คือความไม่ประมาท

พระพุทธศาสนาเป็นพยานรับรองความเลิศล้ำ
ไม่มีผู้ใดเปรียบเสมอ ทรงเลิศด้วยพระมหากรุณาธิคุณ
อันเป็นเหตุให้พระปัญญาคุณสว่างเจิดจ้า หามีแสงใดทัดเทียมไม่

พระบริสุทธิ์คุณจึงเกิดใสบริสุทธิ์ด้วยแสงแห่งพระปัญญา
อันความบริสุทธิ์แห่งจิตของผู้ใดก็ตาม หาเกิดได้จากเหตุอื่นไม่
จักเกิดได้แต่จากแสงแห่งปัญญาเท่านั้น

หัวใจพระพุทธศาสนา ๓ ประการนั้น
เท่ากับเป็นการทรงเตือนให้อบรมปัญญา
ให้มีแสงสว่างให้จิตใจพ้นความมัวหมอง
ทรงแสดงทางแห่งความสำเร็จไว้ในพระปัจฉิมโอวาทว่า

“ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

เป็นการทรงรวมพระพุทธโอวาททั้งปวง
ที่โปรดประทานสิ้น ๔๕ พรรษา
ลงในความไม่ประมาทเพียงแต่ประการเดียว

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2014, 22:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

วรธรรมคติ
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



ความมีสัมมาคารวะต่อความรู้สึกของผู้อื่น
เป็นความงดงามประจำจิตใจคนไทยมาแต่ไหนแต่ไร
เพิ่งจะมาได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่รำพึงรำพันหนาหูสมัยนี้
ว่าความงดงามแห่งจิตใจไทย แห่งมรรยาทไทย กำลังหมดไปทุกที
อย่างน่าเสียดาย อย่างน่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง
เหตุประการหนึ่งก็เพราะผู้เฒ่าผู้แก่
หรือแม่พ่อปู่ย่าตายาย พี่ป้าน้าอาสมัยนี้
มีความเกรงใจลูกหลานมากกว่าสมัยก่อน
น่าจะเพราะลูกหลานสมัยก่อนมีการศึกษาไม่เท่าสมัยนี้

ยิ่งลูกหลานเล่าเรียนสูง แม่พ่อปู่ย่าตายาย
พี่ป้าน้าอา ก็ยิ่งเกรงใจ ขัดหูขัดตาขัดใจเพียงไร
ก็อดทนเก็บเงียบไว้แต่ภายในใจโดยหารู้ไม่ว่า
นั่นคือการกำลังลงโทษลูกหลาน
ผู้เป็นที่รักดังแก้วตาดวงใจที่หนักหนา
หนักจนไม่มีทางจะสามารถแก้ไขให้ร้ายกลายเป็นดีได้อีกต่อไป


นิทานไทยเรื่องหนึ่ง ซึ่งรู้จักกันดี
ที่มีชายผู้หนึ่งต้องโทษประหารชีวิต
แม่พ่อร้องไห้คร่ำครวญ น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด
คำตัดพ้อของลูกชายที่กำลังเดินเข้าไปสู่ที่ประหารก็คือ
แม่พ่อฆ่าเขา แม่พ่อไม่เคยดุไม่เคยว่า
ไม่เคยตักเตือนอบรมสั่งสอนเลย เมื่อเขาทำผิดเล็กๆ น้อยๆ
บาททีก็ยังชื่นชมว่าเขาเก่งเขาฉลาด
ที่ทรยศคดโกงลักขโมยได้สำเร็จ โดยไม่ถูกจับได้ โดยไม่มีผู้รู้เท่าทัน
แม่พ่อทำให้เขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
ทำผิดทำชั่วรุนแรงร้ายกาจยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
จนถึงต้องเดินสู่หลักประหาร

ผู้ใหญ่ทั้งหลาย เมื่อได้รู้เรื่องนี้แล้ว
น่าจะนำไปคิดให้หนัก อย่าให้วันหนึ่งข้างหน้า
ต้องถูกลูกหลานตัดพ้อต่อว่า ทำนองเดียวกับนักโทษประหารผู้นั้น
และเมื่อถึงวันนั้น ท่านอาจมีความรู้สึก
ยิ่งกว่ากำลังเดินไปสู่หลักประหารด้วยตนเอง
จงดับไฟแต่หัวลม ไทยจะได้ไม่สิ้นสูญไปต่อหน้าต่อตา
พร้อมกับความสูญสิ้นของวัฒนธรรมไทยที่งดงามนัก



:b47: :b47: :b47:


กระทู้บอร์ดเก่า โพสต์โดย “คุณก้อนดิน”
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=8842

รวมพระนิพนธ์ “สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=43452

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร