วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปสมุฏฐาน
รูปสมุฏฐาน คือ เหตุหรือปัจจัยที่ทำให้รูปเกิด มี ๔ อย่าง
ได้แก่ กรรม จิต อุตุ อาหาร แต่อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นเหตุให้เกิดรูป

กรรม การกระทำทางกาย วาจา ใจ
เป็นกุศลหรือ อกุศลที่ได้ทำมาแล้ว ย่อมทำให้เกิดกรรมชรูปอยู่ทุกขณะจิต
นับตั้งแต่ปฏิสนธิขณะเป็นต้นมา

กรรม หมายถึงเจตนากรรมในจิต ๒๕ ดวง
คือเจตนาในอกุศลจิต ๑๒ มหากุศลจิต ๘ และรูปาวจรกุศลจิต ๕
รูปที่เกิดจากกรรมสร้างนั้น เรียกว่า กรรมชรูป มี ๑๘ รูป
ได้แก่ปสาทรูป ๕ หทยรูป ๑ ภาวรูป ๒ ชีวิตรูป ๑ อวินิพโภครูป ๘
และปริจเฉทรูป ๑ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย หัวใจ ชาย หญิง ชีวิต ดิน น้ำ
ไฟ ลม สี กลิ่น รส อาหารและอากาศ)

กรรมชรูปนี้ เกิดพร้อมร่วมมากับปฏิสนธิจิตตั้งแต่ขณะแรก
และจะดับไม่เกิดก่อนหน้าตาย (จุติ) ๑๗ ขณะ
คือก่อนสัตว์ตาย ๑๗ ขณะจิต กรรมชรูปหยุดสร้างรูป

แท้จริงกรรมคือเจตนาทั้งหมดมี ๓๓ ได้แก่อกุศล ๑๒
มหากุศล ๘ รูปาวจรกุศล ๕ อรูปาวจรกุศล ๔ และโลกุตรกุศล ๔

แต่เมื่อกล่าวถึงรูปก็ต้องเข้าใจว่าเป็นรูปขันธ์ในปัญจโวการภูมิ หรือเอกโวการภูมิ

อรูปาวจรกุศล ๔ เป็นจิตที่ปราศจากความต้องการรูปด้วยอำนาจแห่งวิราคภาวนา
จึงไม่ทำให้กรรมชรูปเกิด ส่วนโลกุตรกุศล ๔ หรือมรรค ๔ นั้นเป็นจิตที่ทำลายภพชาติ
กรรมชรูปคือตัวภพชาติ โลกุตรกุศล ๔ จึงไม่ทำให้กรรมชรูปเกิด
ดังนั้นจึงเหลือจิตพียง ๒๕ ดวง ที่ทำให้กรรมชรูปเกิดเป็นชาติภพ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 16:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต

เป็นสมุฏฐานให้รูปเกิดมี ๗๕ ดวงคือ
อกุศล ๑๒ อเหตุก ๘ (เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐)
กามโสภณ ๒๔ รูปาวจร ๑๕ อรูปาวจรกุศล ๔
อรูปาวจรกิริยา ๔ และโลกุตร ๘

รูปที่เกิดจากจิต เรียกว่า จิตตชรูป มี ๑๕ รูป
คือ วิญญัติรูป ๒ วิการรูป ๓ สัททรูป ๑
อวินิพโภครูป ๘ และปริจเฉทรูป ๑
เช่นการประนมมือไหว้ วาจาที่พูด การเดิน การยืน
อิริยาบถต่างๆ ฯลฯ เกิดขึ้นจากจิตบงการและเป็นจิตตชรูป

จิตตชรูปนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่อุปาทะขณะของปฐมภวังค์
ตลอดเรื่อยไปจนถึงจุติจิต(ตาย)

เหตุที่เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ และอรูปาวจรวิบาก ๔
ว่าไม่เป็นสมุฏฐานให้จิตตชรูปเกิด ก็เพราะทวิปัญจวิญญาณ ๑๐
เป็นวิบากจิตที่มีกำลังอ่อน
ส่วนอรูปาวจรวิบาก ๔ เป็นตัวอรูปภพที่ปราศจากรูป
จึงไม่สามารถทำให้จิตตชรูปเกิดได้

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 16:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อุตุ ความเย็นร้อน

ทำให้ อุตุชรูป เกิดภายในสัตว์ทั้งหลาย
อุตุชรูปเกิดอยู่ทุกขณะจิต นับตั้งแต่ฐีติขณะของปฏิสนธิจิตเป็นต้นมา
อุตุชรูปภายนอกมีอยู่ในดินฟ้าอากาศ ภูเขา ต้นไม้ เป็นต้น
ส่วนอุตุชรูปภายในได้แก่ ลักษณะเย็นร้อนอยู่ในขันธสันดานของสัตว์

รูปที่เกิดด้วยอุตุมี ๑๓ รูป คือ วิการรูป ๓ สัททรูป ๑
อวินิพโภครูป ๘ ปริจเฉทรูป ๑

อุตุชรูปภายในเกิดตลอดไปจนจุติจิตดับ
แล้วอุตุภายนอกก็เกิดมีในซากศพนั้น


อาหารโอชะที่เกิดจากอาหารที่กินเข้าไป

เป็นเหตุให้เกิด อาหารรูป
อาหารรูปคือ รูปที่เกิดจากอาหารมี ๑๒ รูปด้วยกัน ได้แก่
วิการรูป ๓ อวินิพโภครูป ๘ ปริจเฉทรูป ๑
เช่นวิการรูป ๓ อาการเบา อ่อนโยน คล่องแคล่ว
ย่อมอาศัยอาหารรูปเป็นสมุฏฐาน มิฉะนั้นแล้วลักษณะเช่นนั้นจะไม่เกิดเป็นต้น

อาหารรูปเกิดทำการเลี้ยงร่างกายอยู่ทุกฐีติขณะ

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 พ.ค. 2009, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2006, 20:52
โพสต์: 1210

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรรม จิต อุตุ อาหาร เป็นสมุฏฐานของรูปพอจะเห็นได้ดังนี้

ในขณะที่สัตว์ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน พูดจา ทำการงานประการใด

สมุฏฐานทั้ง ๔ ย่อมเป็นปัจจัยอยู่เสมอ กล่าวคือ

กรรมก็กำลังสร้างกรรมชรูปไปตามวิบากของกุศลและอกุศลที่ได้ทำไว้

จิตก็กำลังสร้างจิตตชรูปให้นั่ง ให้ยืน หรือทำการงาน

อุตุก็กำลังสร้างอุตุชรูปให้เกิดความร้อน อบอุ่น ทำให้ร่างกายเบาว่องไว อ่อนโยน

และอาหารก็กำลังสร้างอาหารรูปให้เกิดพละกำลังทำให้รูปเบาว่องไว อ่อนโยน

เหมาะสมที่จะประกอบกิจการงาน รวมความว่าสมุฏฐานทั้ง ๔ ประชุมรวมกัน
เป็นปัจจัยแก่รูปอยู่ในทุกขณะจิต

รูปยังมีกล่าวต่อไปอีกหลายอย่าง เกินความหมายที่จะนำลงในที่นี้เพื่อความเข้าใจในเบื้องต่ำ ถ้ามีความประสงค์จะทราบโดยละเอียดถี่ถ้วน ขอได้โปรดศึกษาจากตำราพระอภิธรรมปริทเฉทที่ ๖


ที่มา : พระอภิธรรมสังเขปฯ : พระนิติเกษตรสุนทร : ๒๕๐๕ : ๘๓-๘๖

.....................................................
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ ธรรมา อนัตตา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 21:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาด้วยนะคะคุณ แมวขาวมณี :b4: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร