วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 07:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 20:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ม ห า กุ ศ ล จิ ต
อาจารย์สำรวม สุทธิสาคร
มูลนิธิพุทธศาสนศึกษา วัดบุรณศิริมาตยาราม


มหากุศลจิต หรือ กามาวจรกุศลจิต
เป็นชื่อของกุศลประเภทหนึ่ง
ที่ยังเกี่ยวข้องกับกามคุณอารมณ์
เป็นกุศลจิตที่เป็นโลกียกุศล
ซึ่งทำให้ต้องกลับมาเวียนว่าย ตายเกิดอีก

แต่ก็มิใช่เป็นสิ่งไม่ดี

เพียงแต่ไม่ได้ทำพ้นจากความทุกข์
คือการเวียนว่าย ตายเกิดเท่านั้น
หากแต่เป็นสิ่งที่ช่วยขัดเกลากิเลสต่างๆ ให้เบาบางลง
และเป็นปัจจัยให้ปฏิบัติธรรม
แล้วบรรลุมรรคผลนิพพานได้


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


จิตที่ชื่อว่ามหากุศล หรือกามาวจรกุศลนั้น
มีการแบ่งด้วยลักษณะ
คือ

๑. ปั ญ ญ า

การมีปัญญาเข้าประกอบหรือไม่มีปัญญาเข้าประกอบ

มหากุศลที่มีปัญญาเข้าประกอบ

จะมีความเข้าใจในหตุผลในการกระทำ
มีความเข้าใจในเรื่องกรรม การเวียนว่ายตายเกิด
มีความใจสภาวธรรมเรื่องนาม รูป
มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา


มหากุศลที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา

ก็จะไม่มีลักษณะเหล่านี้
เช่น กุศลที่ทำตามคำบอกเล่ากันมา ทำตามความเชื่อ


การที่จะมีปัญญาในการทำกุศลได้นั้น
ต้องอาศัยการฟังเรียกว่า “สุตมยปัญญา”
อาศัยการพิจารณาใคร่ครวญ เรียกว่า “จินตมยปัญญา”
และอาศัยการปฏิบัติเรียกว่า “ภาวนามยปัญญา”

ปัญญานั้นมีความสำคัญมาก
เพราะเมื่อมีความรู้ ความเข้าใจแล้ว
ก็จะทำให้กุศลที่ทำมีกำลังมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้เกิดผลที่มีกำลังมากขึ้นด้วย


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๒. เ ว ท น า

คือความรู้สึกเป็นสุข เรียกว่า “โสมนัสเวทนา”
หรือรู้สึกเฉยๆ เรียกว่า “อุเบกขาเวทนา”


ในการเกิดขึ้นของมหากุศลนั้น
บางครั้งก็รู้สึกว่ามีปีติ มีความสุขปลาบปลื้ม
จัดเป็นโสมนัสเวทนา
บางครั้งก็รู้สึกเฉย จัดเป็นอุเบกขาเวทนา

การทำกุศลที่มีความรู้ความเข้าใจ
และทำอย่างเต็มกำลัง
จะมีส่วนช่วยทำให้จิตเกิดโสมนัสเวทนาได้ง่ายขึ้น


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 21:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


๓. ก า ร ชั ก ช ว น หรือ มี กำ ลั ง

กุศลประเภทหนึ่ง มีกำลังมาก
ปรารภในการทำเอง ไม่ต้องอาศัยผู้อื่นชักชวน
เรียกว่า
“อสังขาริก”

ส่วนอีกประเภทหนึ่ง มีกำลังอ่อน
ต้องอาศัยผู้อื่นชักชวน เรียกว่า
“สสังขาริก”


จากกระแสของการพัฒนา ทำให้คนมีความโลภ
มีความต้องการเสพอารมณ์ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวมากขึ้น
เมื่อมีความต้องการ ต้องมีการแสวงหา
เพื่อให้ได้เสพอารมณ์ตามที่ต้องการ
ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น และทางกาย
พร้อมกับการขาดการศึกษา สดับตรับฟังธรรมะ
จึงทำให้ความต้องการที่จะทำบุญ ความดีต่างๆ น้อยลง

ทำให้บุญประเภทที่มีกำลังแก่กล้า (อสังขาริก) เกิดขึ้นน้อยลง
ส่วนใหญ่จะเป็นบุญประเภทที่มีกำลังอ่อน
ต้องอาศัยผู้อื่นชักชวน หรือมีเครื่องล่อ เครื่องจูงใจจึงจะทำ


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


เมื่อจำแนกด้วย ลักษณะนี้
จะทำให้มหากุศลจิตแบ่งออกได้เป็น
ประเภท
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้


๑. เกิดพร้อมด้วยโสมนัสเวทนา ประกอบด้วยปัญญา อสังขาริก (ไม่ต้องมีการชักชวน)

๒. เกิดพร้อมด้วยโสมนัสเวทนา ประกอบด้วยปัญญา สสังขาริก (ต้องมีการชักชวน)

๓. เกิดพร้อมด้วยโสมนัสเวทนา ไม่ประกอบด้วยปัญญา อสังขาริก (ไม่ต้องมีการชักชวน)

๔. เกิดพร้อมด้วยโสมนัสเวทนา ไม่ประกอบด้วยปัญญา สสังขาริก (ต้องมีการชักชวน)

๕. เกิดพร้อมด้วยอุเบกขาเวทนา ประกอบด้วยปัญญา อสังขาริก (ไม่ต้องมีการชักชวน)

๖. เกิดพร้อมด้วยอุเบกขาเวทนา ประกอบด้วยปัญญา สสังขาริก (ต้องมีการชักชวน)

๗. เกิดพร้อมด้วยอุเบกขาเวทนา ไม่ประกอบด้วยปัญญา อสังขาริก (ไม่ต้องมีการชักชวน)

๘. เกิดพร้อมด้วยอุเบกขาเวทนา ไม่ประกอบด้วยปัญญา สสังขาริก (ต้องมีการชักชวน)


(มีต่อ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


เมื่อพิจารณามหากุศลทั้ง ประเภทแล้ว

มหากุศลประเภทที่ ๑ จะดีที่สุด

ในการทำกุศลครั้งนั้น มีทั้งความโสมนัส ยินดี
มีปัญญา และมีกำลังแก่กล้า
ไม่ต้องอาศัยผู้อื่นชักชวน

และมหากุศลประเภทที่ ๘ ดีน้อยที่สุด

คือมีความรู้สึกเฉยๆ ไม่มีปัญญา
และต้องอาศัยผู้อื่นชักชวน


ดังนั้นการทำกุศล
ควรทำให้มีลักษณะประเภทที่ ๑ อยู่เสมอๆ


กุศลที่ทำเช่นไร ผลของกุศลก็มีลักษณะเช่นนั้น

เราเรียกผลของมหากุศลว่ามหาวิบาก
ซึ่งจะมีความสำคัญมากในการให้ผลนำเกิด


ถ้าเรามีมหาวิบากประเภทที่ ๑ นำเกิด
ก็ถือว่ามีต้นทุนคือทรัพย์ภายในที่สูงมาก
จะรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำกุศล
มีปัญญาในการกุศลรู้เหตุผล
เห็นประโยชน์ในการทำ
และปรารภในการทำกุศลเองได้ง่าย


:b8: :b8: :b8:

(คัดลอกบางตอนมาจาก “สาระจากพระอภิธรรม”
โดย อาจารย์สำรวม สุทธิสาคร ใน ธรรมะเพื่อชีวิต เล่มที่ ๖๕ ฉบับเข้าพรรษา ๒๕๕๓
จัดทำโดย มูลนิธิพุทธศาสนศึกษา วัดบุรณศิริมาตยาราม,
หน้า ๗-๑๐)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ส.ค. 2010, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาสาธุในมหากุศลจิตคุณโยมกุหลาบสีชา :b1:

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 00:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระคุณเจ้าพุทธฎีกา เขียน:
อนุโมทนาสาธุในมหากุศลจิตคุณโยมกุหลาบสีชา :b1:


นมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพ
ขอน้อมรับคำชี้แนะจากพระคุณเจ้าในโอกาสต่อๆไปด้วย..เจ้าค่ะ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 08:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนายิ่งขอรับ

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ต.ค. 2010, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ย. 2007, 13:40
โพสต์: 464

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว




ผังภาพแสดง มหากุศลจิต.jpg
ผังภาพแสดง มหากุศลจิต.jpg [ 75.9 KiB | เปิดดู 1576 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2010, 00:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: ขอบพระคุณมากค่ะ ท่านนัน 555 :b8:
สำหรับผังภาพแสดง "มหากุศลจิต"
เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของจิต และเจตสิก


แก้ไขล่าสุดโดย กุหลาบสีชา เมื่อ 14 ต.ค. 2010, 00:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 73 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร