ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เหตุปัจจัยการพูด
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=35437
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 04 พ.ย. 2010, 20:11 ]
หัวข้อกระทู้:  เหตุปัจจัยการพูด

การที่คนเราจะแปล่งคำพูดออกมาหนึ่งคำ จะต้องประกอบด้วยเหตุปัจจัยอะไรบ้าง?

เจ้าของ:  buddha's student [ 04 พ.ย. 2010, 21:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

คำพูด มาจาก ความคิด
คิดแบบใดก็มักจะพูดแบบนั้น

แต่เราไม่จำเป็นต้องพูดทั้งหมดที่คิด พูดเฉพาะสิ่งที่เป็ประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้างค่ะ

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 04 พ.ย. 2010, 23:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

แล้วอะไรเป็นเหตุปัจจัยของความคิด (สังกัปปะ หรือ สังขาร)

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 05 พ.ย. 2010, 00:22 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

Supareak Mulpong เขียน:
การที่คนเราจะแปล่งคำพูดออกมาหนึ่งคำ จะต้องประกอบด้วยเหตุปัจจัยอะไรบ้าง?


วิญญาณ...เวทนาสัญญาสังขาร..

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 07 พ.ย. 2010, 02:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

Supareak Mulpong เขียน:
แล้วอะไรเป็นเหตุปัจจัยของความคิด


อวิชชา...เวทนาสัญญา

เจ้าของ:  govit2552 [ 07 พ.ย. 2010, 04:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

วจีสังขาร คือ วิตก วิจารณ์
ส่วนรายละเอียด ก็ต้องรอคนที่อธิบายได้

เรื่องกายสังขาร
วจีสังขาร
มโนสังขาร(จิตสังขาร)
อยู่ในพระไตรปิฏก ..........พอให้ได้แจ่มแจ้ง

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 07 พ.ย. 2010, 22:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

สังขาร คือ ความคิดปรุงแต่ง แล้วอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดความคิดขึ้น? ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ ไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรม ต้องประกอบด้วยเหตุปัจจัยให้เกิดจึงเกิด แล้วความคิดคนเรามาจากใหนหนอ?

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 พ.ย. 2010, 03:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

ผัสสะ..เกิดที่ไหน..วิญญาณแห่งอายาตนะนั้น..ก็เกิด
วิญญาณเกิด..จิตรู้...ดีหรือไม่ดี..ต่อกายนี้..หากไม่รู้ก็เทียบกับสัญญาเก่า ๆ

หากดี..ก็คิดเอามา..สร้างสุขเวทนาเพื่อเร่งเร่า..ใช้ความคิดเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา
หากไม่ดี..ก็คิดผลักออกไป..สร้างทุกขเวทนาเพื่อเร่งเร่า..ใช้ความคิดเพื่อขจัดสิ่งนั้นออกไป

(ความคิด..จึงเกิดที่นี้..เกิดจากผัสสะ)

ที่ทำทั้งหมดนี้ก็แค่เพราะว่าอวิชชา...หลงในร่างกายนี้..เท่านั้นเอง..นี้แหละจึงว่าทำไม..ต้องละสังโยชน์ข้อแรกเสียก่อน..เพราะมันคือต้นตอของวัฏฏะนั้นเอง

***ในสภาพจริง..ผัสสะเกิด...เวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ..เกิดแทบจะพร้อม ๆ กัน..แยกไม่ออก***

เจ้าของ:  govit2552 [ 08 พ.ย. 2010, 04:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

สาธุ :b8: ครับคุณกบนอกกะลา

อ้างคำพูด:
ผัสสะ..เกิดที่ไหน..วิญญาณแห่งอายาตนะนั้น..ก็เกิด


ดูให้ดีแล้ว ต้องพร้อมด้วยธรรม 3 อย่างจึงจะเรียกว่า ผัสสะ
ถ้าเป็นธรรมแค่ 2 อย่างไม่เรียกว่า ผัสสะ
ธรรม 3 อย่างนั้นคือ อะไร
อายตนะภายใน+อายตนภายนอก+วิญญาณ(ที่เรียกชื่อตามอายตนะนั้น) = ผัสสะ

มีหลายคน ไปกล่าวว่า
อายตนะภายใน + อายตนะภายนอก = ผัสสะ .................ซึ่งไม่ถูกต้องครับ

อ้างคำพูด:
***ในสภาพจริง..ผัสสะเกิด...เวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ..เกิดแทบจะพร้อม ๆ กัน..แยกไม่ออก**

เห็นด้วยกับคุณกบ ครับ

ที่ใดมีจิต ที่นั่นต้องมี เวทนา สัญญา สังขาร .................เพราะเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกันครับ
ที่ใดมีจิต ที่นั่นต้องมี เจตสิก(เวทนา สัญญา สังขาร)
ที่ใดมีจิต ที่นั่นต้องมี เจตสิก
ที่ใดมีจิต ที่นั่นต้องมี เจตสิก มี รูป ..........................ในภูมิที่มีขันธ์5 ครับ

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 08 พ.ย. 2010, 08:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

เมื่อวิญญาณเกิดขึ้นมาเพื่อรับรู้อารมณ์อย่างใดอย่างนึ่ง แล้วถ้าจิตมันรู้เองได้ว่าดีหรือไม่ดี จิตมันรู้ได้อย่างไรละครับ? แล้วอวิชชามาเกี่ยวข้องตอนใหนละครับ?

เจ้าของ:  Yodyood [ 08 พ.ย. 2010, 09:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

แนะนำให้ศึกษาปฏิจสมุปบาทครับ น่าจะได้คำตอบของคำถามทั้งหมด

อวิชชา->สังขาร->วิญญาน->นามรูป->สฬายตนะ -----------------
^
ชรา-มรณะ<-ชาติ<-ภพ<-อุปาทาน<-ตัณหา<-เวทนา<-ผัสสะ<----


วัฏฏะสังสารหาต้นไม่ได้ หาปลายไม่เจอครับ
เพราะไม่รู้แน่ว่าสิ่งไหนในวงกลมนั้นเป็นต้นตอ หรือเป็นปลายสุด

เจ้าของ:  ploypet [ 08 พ.ย. 2010, 12:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

ถามหน่อยนะคะ
ทุกครั้งที่จิตเกิดขึ้นจะต้องมีธรรมชาติอีก 2 ประการเกิดร่วมด้วยเสมอ ธรรมชาตินั้นได้แก่
อารมณ์และเจตสิก(ในหนังสือเรียนพระอภิธรรมทางไปรษณีย์)

หมายเหตุ ถ้าอ่านแล้วเข้าใจผิดกรุณาชี้แจงด้วยคะ

ช่วยอธิบายหน่อยนะคะว่าเจตสิกกับอารมณ์ แตกต่างเช่นไร

เจ้าของ:  Supareak Mulpong [ 08 พ.ย. 2010, 16:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

อารมณ์ คือ ข้อมูลที่จิตสามารถรับรู้ได้ มี ๖ อย่าง ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และความคิด
เจตสิก คือ สภาวะที่ปรุงแต่งจิต

ยกตัวอย่าง ตาเห็นดอกไม้ จิตเกิดขึ้นมาเพื่อรับรู้รูปดอกไม้ (รูปารมณ์) ถ้ามีความพอใจหรือชอบดอกไม้ แสดงว่า มีโลภะเจตสิกเกิดขึ้นประกบกับจิตดวงนั้นปรุงแต่งให้เกิดความรู้สึกพอใจ และอาจจะพูดออกว่า ดอกไม้สวย เป็นต้น

สรุปว่า พอเกิดผัสสะ ก็เกิดความคิด เกิดความคิดและก็ืำให้เกิดการพูด ผัสสะจึงอุปมาได้เหมือนตัวลั่นไก ไม่ได้ส่งอิทธิพลต่อความคิดที่เป็นไปต่างๆ นาๆ

(ถ้า)การพูด (วาจา) มาจากความคิด (สังกัปปะ) เริ่มเกิดเพราะผัสสะ ตกลงก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ความคิดของคนเราที่เป็นไปต่างๆ นาๆ มาจากใหน มีอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความคิดอย่างนั้นๆ ทำไมจึงเกิดความคิดดี คิดไม่ดี หรือคิดเฉยๆ ขึ้นมาได้?

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 08 พ.ย. 2010, 20:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

govit2552 เขียน:
ดูให้ดีแล้ว ต้องพร้อมด้วยธรรม 3 อย่างจึงจะเรียกว่า ผัสสะ
ถ้าเป็นธรรมแค่ 2 อย่างไม่เรียกว่า ผัสสะ
ธรรม 3 อย่างนั้นคือ อะไร
อายตนะภายใน+อายตนภายนอก+วิญญาณ(ที่เรียกชื่อตามอายตนะนั้น) = ผัสสะ



สาธุ.. :b8: :b8:
ขอบคุณครับ...

เจ้าของ:  govit2552 [ 08 พ.ย. 2010, 20:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เหตุปัจจัยการพูด

อายตนะภายใน+อายตนะภายนอก+วิญญาณ = ผัสสะ
อายตนะภายใน+อารมณ์6+วิญญาณ = ผัสสะ
อายตนะภายใน + อารมณ์6 + จิต = ผัสสะ
อายตนะภายใน + อารมณ์6 + จิต(เจตสิกและรูป) = ผัสสะ

อารมณ์ จึงเท่ากับ อายตนะภายนอก
เจตสิก จึงอยู่ต่างหากออกไปจากอารมณ์
ลำพังจิต ตัวเดียว เป็นสภาพรู้เท่านั้น ไม่จำ ไม่คิด ไม่สุข ไม่ทุกข์
แต่เพราะประกอบด้วยเจตสิก จิตจึงสามารถจำได้(ด้วยสัญญา) จิตคิดได้(ด้วยวิตก) จิตสุขทุกข์เฉยได้(ด้วยเวทนา) จิตกระทบอารมณ์ได้(ด้วยผัสสะ)

จิต ไม่ใช่ เรา
เรา ไม่ใช่ จิต

เราไม่รู้สึกตัวแล้ว แต่จิตยังมี
เราตายไปแล้ว แต่จิตยังมี
เราหลับไปแล้ว แต่จิตยังมี

เราสั่งจิตไม่ได้ เหมือนเราสั่งเล็บไม่ได้ ......ขอเล็บเราจงอย่ายาวออกมา.....สั่งไม่ได้

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/