วันเวลาปัจจุบัน 17 เม.ย. 2024, 02:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2010, 19:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญจทวารวิถี

ปัญจทวารวิถี อยู่ในประเภท กามวิถีอย่างเดียว เพราะอัปปนาวิถีไม่เกิดทาง ปัญจทวาร ปัญจทวารวิถี คือ วิถีจิตที่ปรากฏอารมณ์ทางปัญจทวารเท่านั้น

- กล่าวโดยวิถีจิตแล้วมี ๗

- กล่าวโดยจิตตุปปาทะแล้วมี ๑๔

- กล่าวโดยพิสดารแล้วมี ๕๔

อธิบาย

ปัญจทวารวิถี กล่าวโดยวิถีจิต คือ จิตที่นับเป็นวิถีแล้ว มี ๗ ได้แก่ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑, ทวิปัญจวิญญาณจิตดวงใดดวงหนึ่งแล้วแต่อารมณ์ที่มา ปรากฏ ๑, สัมปฏิจฉันนจิต ๑, สันตีรณจิต ๑, โวฏฐัพพนจิต ๑, ชวนจิต ๑, และ ตทาลัมพนจิต ๑

เมื่อกล่าวโดยจิตตุปปาทะ คือ ตามจำนวนจิตที่เกิดขึ้นแล้วมี ๑๔ ได้แก่ ปัญจ ทวาราวัชชนจิตเกิดขึ้น ๑ ดวง ทวิปัญจวิญญาณจิตเกิดขึ้น ๑ ดวง สัมปฏิจฉันนจิต เกิดขึ้น ๑ ดวง สันตีรณจิตเกิดขึ้น ๑ ดวง โวฏฐัพพนจิตเกิดขึ้น ๑ ดวง ชวนจิตเกิด ขึ้น ๗ ดวง (คือ ๗ ขณะ) และตทาลัมพนจิตเกิดขึ้น ๒ ดวง (คือ ๒ ขณะ) ดังนี้ จึงรวมเป็น ๑๔

การนับจำนวนวิถีจิตก็ดี การนับจำนวนจิตตุปปาทะก็ดี ได้แสดงเป็นภาพเพื่อ ให้เห็นได้ง่าย ที่หน้า ๕-๖ ขอให้พลิกไปดูประกอบด้วย

ถ้ากล่าวโดยพิสดารแล้วมี ๕๔ นั้น หมายความว่า บรรดาจิตที่อาจจะเกิดขึ้น ในปัญจทวารวิถีได้มีทั้งหมดรวม ๕๔ ดวง หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ปัญจทวารวิถี มีจิตที่จะเกิดได้ถึง ๕๔ ดวง ซึ่งจิตทั้ง ๕๔ ดวงนี้ ล้วนแต่เป็น กามจิต ทั้งนั้น คือ

วิถีจิตที่เรียกว่า ปัญจทวาราวัชชนจิต มีจิตที่เกิดได้คือ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า ปัญจวิญญาณจิต มีจิตที่เกิดได้คือ ทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า สัมปฏิจฉันนจิต มีจิตที่เกิดได้คือ สัมปฏิจฉันนจิต ๒ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า สันตีรณจิต มีจิตที่เกิดได้คือ สันตีรณจิต ๓ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า โวฏฐัพพนจิต มีจิตที่เกิดได้คือ มโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า ชวนจิต มีจิตที่เกิดได้คือ กามชวนจิต ๒๙ ดวง

วิถีจิตที่เรียกว่า ตทาลัมพนจิต มีจิตที่เกิดได้คือ ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง

รวมตัวเลขได้ ๕๗ แต่ต้องหัก สันตีรณจิต ๓ ซึ่งรวมอยู่ในตทาลัมพนจิต ๑๑ อีกด้วยนั้นออกเสีย เพราะซ้ำกัน จึงคงเหลือ ๕๔ ดวง ทั้ง ๕๔ ดวงนี้ เป็นกามจิต ทั้งสิ้น แสดงเป็นภาพได้ดังนี้

ตี น ท ป วิ สํ สัน วุ ช ช ช ช ช ช ช ต ต

อนึ่ง ที่แสดงว่า ปัญจทวารวิถี กล่าวโดยวิถีจิตมี ๗ กล่าวโดยจิตตุปปาทะมี ๑๔ กล่าวโดยพิสดารมี ๕๔ นั้น เป็นการแสดงส่วนรวมถึงจำนวนอย่างมากที่จะ พึงมีพึงเป็นไปได้

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2010, 19:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิตในอติมหันตารมณ์วิถี

อติมหันตารมณ์วิถี เป็นวิถีจิตที่เกิดทางปัญจทวาร มีถึง ๑๗ ขณะจิต ตาม ลำดับดังต่อไปนี้

ขณะที่ ๑ อตีตภวังค เป็นภวังคจิตดวงแรกที่กระทบกับอารมณ์ใหม่ หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า อารมณ์ใหม่มากระทบกับภวังคจิตดวงใด ภวังคจิตดวงนั้นได้ชื่อ ว่า อตีตภวังค

ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ภวังคจิตมี กรรมอารมณ์ หรือกรรมนิมิตอารมณ์ หรือคตินิมิตอารมณ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นอารมณ์ที่ได้มาจากภพก่อน ซึ่งขอ สมมติเรียกว่าอารมณ์เก่า อตีตภวังคก็คงมีอารมณ์เก่า ยังไม่ได้รับอารมณ์ใหม่ เป็น แต่เพียงอารมณ์ใหม่มากระทบเท่านั้นเอง ดังนั้น จิตดวงนี้จึงยังไม่เรียกว่า วิถีจิต

ขณะที่ ๒ ภวังคจลนะ เป็นภวังคจิตที่ไหวตัว เพราะเหตุที่มีอารมณ์ใหม่ มากระทบ แต่ยังคงเป็นภวังคจิตที่มีอารมณ์เก่าอยู่ จึงยังไม่เรียกว่าวิถีจิตเหมือนกัน

ขณะที่ ๓ ภวังคุปัจเฉทะ เป็นภวังคจิตที่ตัดกระแสภวังค คือ ปล่อยอารมณ์ เก่า วางอารมณ์เก่า เพื่อรับอารมณ์ใหม่ที่มากระทบนั้นต่อไป ภวังคุปัจเฉทะนี้ ก็ยัง คงเป็นภวังคจิตที่มีอารมณ์เก่าอยู่ จึงยังไม่เรียกว่าวิถีจิตเช่นเดียวกัน

อตีตภวังค ภวังคจลนะ และ ภวังคุปัจเฉทะ ทั้ง ๓ ขณะ ที่กล่าวมานี้ ได้แก่ ภวังคจิตดวงเดียวกัน ดวงใดดวงหนึ่งในจำนวนภวังคจิต ๑๕ ดวง (เว้นอรูป วิปากจิต ๔)

ขณะที่ ๔ ปัญจทวาราวัชชนะ เป็นกิริยาจิตก็เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาอารมณ์ ใหม่ที่มากระทบนั้น ว่าเป็นอารมณ์ที่มาทางทวารไหน จะได้เป็นปัจจัยให้สัญญาณแก่ วิญญาณจิตทางทวารนั้น

ปัญจทวาราวัชชนจิตนี้เป็นปฐมวิถีจิต คือ เป็นจิตดวงแรกที่ขึ้นวิถี หรือที่นับ เป็นวิถี เพราะจิตดวงนี้ได้รับอารมณ์ใหม่แล้ว และจิตดวงต่อ ๆ ไป ก็รับอารมณ์ ใหม่ และนับเป็นวิถีจิต จนกว่าจะสุดวิถี คือ กลับเป็นภวังคไปตามเดิม

ขณะที่ ๕ ปัญจวิญญาณ ก็เกิดขึ้นตามควรแก่อารมณ์ คือ
เป็นรูปารมณ์ จักขุวิญญาณก็เกิดขึ้น เห็นรูปนั้น
เป็นสัททารมณ์ โสตวิญญาณก็เกิดขึ้น ได้ยินเสียงนั้น
เป็นคันธารมณ์ ฆานวิญญาณก็เกิดขึ้น รู้กลิ่นนั้น
เป็นรสารมณ์ ชิวหาวิญญาณก็เกิดขึ้น รู้รสนั้น
เป็นโผฏฐัพพารมณ์ กายวิญญาณก็เกิดขึ้น รู้สึกในสัมผัสนั้น

ขณะที่ ๖ สัมปฏิจฉันนะ ก็เกิดขึ้นรับอารมณ์จากปัญจวิญญาณเสนอต่อไป ยังสันตีรณะ

ขณะที่ ๗ สันตีรณะ เกิดขึ้นไต่สวนอารมณ์นั้น ว่าดีหรือไม่ประการใด

ขณะที่ ๘ โวฏฐัพพนะ คือ มโนทวาราวัชชนจิต ที่ทำหน้าที่ โวฏฐัพพนกิจ ทางปัญจทวารนี้ก็เกิดขึ้น ตัดสินและกำหนดให้เป็นไป กุสล หรือ อกุสล หรือกิริยา ตามควรแก่ มนสิการ และบุคคล

ขณะที่ ๙ ถึงขณะที่ ๑๕ รวม ๗ ขณะ เป็น ชวนจิต ทั้ง ๗ ขณะ เกิดขึ้น เสพอารมณ์นั้นเป็นกุสล อกุสล กิริยา ตามที่โวฏฐัพพนะได้ตัดสินและกำหนดมานั้น แล้ว

เสพให้เป็นกุสลก็เป็นกุสลทั้ง ๗ ขณะ ให้เป็นอกุสลหรือกิริยาอย่างใดก็เป็น อย่างนั้นแต่อย่างเดียวตลอดทั้ง ๗ ขณะ

ชวนจิตที่เกิดได้ในวิถีนี้ ได้เฉพาะกามชวนจิต ๒๙ ดวงเท่านั้น

ขณะที่ ๑๖ และ ๑๗ ตทาลัมพนะ ก็เกิดขึ้นยึดหน่วงอารมณ์ที่เหลือจาก ชวนะนั้นอีก ๒ ขณะ

เป็นอันครบ ๑๗ ขณะจิต เป็นอันสิ้นสุดวิถี และสิ้นอายุของอารมณ์ใหม่นั้น ด้วยพอดี แล้วก็กลับเป็นภวังคจิต รับอารมณ์ต่อไปตามเดิม

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2010, 19:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิตในมหันตารมณ์วิถี

มหันตารมณ์วิถี เป็นวิถีจิตทางปัญจทวาร มี ๒ นัย มีขณะจิตเหมือนกับ อติมหันตารมณ์วิถีทุกประการ เว้นแต่

ก. มหันตารมณ์วิถีนัยที่ ๑ มีอตีตภวังค ๒ ขณะ นัยที่ ๒ มีอตีตภวังค ๓ ขณะ

ที่มีอตีตภวังคมากขณะ ก็เพราะว่าวัตถุ ๕ (คือปสาทรูป ๕) และปัญจารมณ์ นั้นบกพร่องหรืออ่อน อารมณ์นั้นจึงต้องกระทบกับภวังคจิตหลาย ๆ ครั้ง ภวังคจิต จึงจะรู้สึกตัวไหวตัวได้

ข. ไม่มีตทาลัมพนะภายหลังชวนะ (ดูภาพที่หน้า ๗ ประกอบด้วย) กล่าวคือ เมื่อชวนะเสพอารมณ์ครบ ๗ ขณะแล้ว ก็เป็นภวังคจิตรับอารมณ์เก่าไปเลย ทั้งนี้ เพราะอารมณ์นั้นหมดอายุ จึงดับไปไม่เหลือพอให้เกิดตทาลัมพนะได้ ๒ ขณะ

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2010, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิตในปริตตารมณ์วิถี

ปริตตารมณ์วิถี เป็นวิถีจิตทางปัญจทวาร มี ๖ นัย

นัยที่ ๑ มี อตีตภวังค ๔ ขณะ มีภวังคจิตข้างหลังวิถีจิต ๔ ขณะ

นัยที่ ๒ มี อตีตภวังค ๕ ขณะ มีภวังคจิตข้างหลังวิถีจิต ๓ ขณะ

นัยที่ ๓ มี อตีตภวังค ๖ ขณะ มีภวังคจิตข้างหลังวิถีจิต ๒ ขณะ

นัยที่ ๔ มี อตีตภวังค ๗ ขณะ มีภวังคจิตข้างหลังวิถีจิต ๑ ขณะ

นัยที่ ๕ มี อตีตภวังค ๘ ขณะ ไม่มีภวังคจิตข้างหลังมีแค่โวฏฐัพพนะ ๓ ขณะ

นัยที่ ๖ มี อตีตภวังค ๙ ขณะไม่มีภวังคจิตข้างหลังและมีโวฏฐัพพนะเพียง ๒ ขณะ

ปริตตารมณ์วิถีนี้ มีจิตตุปปาทะ หรือวิถีจิตเพียงแค่โวฏฐัพพนะเท่านั้น ทั้งนี้ เพราะวัตถุ ๕ หรือปัญจารมณ์ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างบกพร่องมาก จึงรับอารมณ์ได้ไม่ชัดเจนแจ่มแจ้งพอที่จะตัดสิน และกำหนดลงไปได้ว่า ควรจะเป็น อย่างไร

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2010, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2009, 09:26
โพสต์: 1517

แนวปฏิบัติ: วิปัสสนาภาวนา
อายุ: 39
ที่อยู่: ลำพูน

 ข้อมูลส่วนตัว


ขณะจิตในอติปริตตารมณ์วิถี

อติปริตตารมณ์วิถี เป็นวิถีจิตทางปัญจทวาร ที่มีอารมณ์อ่อนที่สุด อารมณ์ กระทบกับภวังคจิตหลายครั้ง ภวังคจิตนั้นจึงรู้สึกตัว ไหวตัว และเป็นแต่แว่ว ๆ ไหว ๆ เพียงแต่ ๒ ขณะเท่านั้นยังไม่ทันรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ปล่อยวางอารมณ์ใหม่ กลับไปทำหน้าที่ภวังค มีอารมณ์เก่าไปตามเดิมอีก

มี ๖ นัย มีอตีตภวังคตั้งแต่ ๑๐ ขณะ ขึ้นไปจนถึง ๑๕ ขณะ แล้วมีภวังค จลนะ คือไหวตัว ๒ ขณะเท่านั้น (ดูภาพที่หน้า ๘ ประกอบด้วย) ไม่มีแม้แต่จิตตุป ปาทะ หรือวิถีจิตเลย ถึงกระนั้นก็ยังเรียกว่าวิถี เพราะได้มีอารมณ์ใหม่มากระทบกับ ภวังคจิตแล้ว จนถึงกับไหวตัวเป็นภวังคจลนะ

มีข้อที่ควรสังเกตว่า วิถีใดมีอตีตภวังคน้อยขณะ วิถีนั้นก็มีอารมณ์ชัดเจนแจ่ม แจ้งมาก มีจิตตุปปาทะมาก มีวิถีจิตมาก แต่ถ้ามีอตีตภวังคมากขณะเท่าใด ก็แสดง ว่าวิถีนั้นก็มีอารมณ์ชัดน้อยลง มีจิตตุปปาทะน้อยลง มีวิถีจิตน้อยลงเท่านั้น จนถึง กับไม่มีเลย

.....................................................
"ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา..."
"... ไม่เที่ยง เกิดดับ ..."


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร