วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2023, 06:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




1698445553892.jpg
1698445553892.jpg [ 95.4 KiB | เปิดดู 2700 ครั้ง ]
บุญกับบาปใครมีผลมากกว่ากัน

บุญมีผลมาก บาปมีผลน้อย เพราะผู้ที่ทำบาปเมื่อนึกถึงบาปทีไร
ก็ไม่สบายใจทุกที เพราะบาปให้ผลเป็นทุกข์ เมื่อนึกถึงทีไรใจก็หดหู่อยู่เพียง
นั้นไม่ทวีขึ้น เพราะบาปไม่เป็นที่ยินดีของคนทั้งหลาย แม้จะแจกให้ใครๆ
ก็ไม่มีใครเอาไม่เหมือนแจกบุญกุศล ยังมีผู้ยินดีรับ
เหตุนี้บาปจึงไม่มีผลกว้างขวางเหมือนบุญ
ส่วนบุญที่ทำแล้วเมื่อนึกถึงทีไร จิตใจย่อมยินดีในบุญ เมื่อบุคคล
ยินดีในบุญของตนเนืองๆ ปีติก็เกิดขึ้น กายก็ระงับ จิตก็ระงับ กายก็เป็น
จิตก็เป็นสุข สมาธิปัญญาก็เจริญขึ้น บุญจึงทวีผลเพิ่มขึ้นทุกทีหาหยุด
อยู่เหมือนบาปไม่ เพราะฉะนั้น บุญจึงให้ผลกว้างขวางมากกว่าบาป

และบุญก็ยันแจกได้ ยังมีผู้ต้องการบุญ อาการที่ระสีกถึงบุญกุศลที่ตนทำแล้ว
ทำให้เกิดปีติยินดี บุญจึงเปรียบเหมือนบ่อน้ำที่ขุดพบตา
น้ำจะแล่นถึงกันเนืองนิตย์ ใครๆ จะมาตักเอาไปสักเท่าใดๆ น้ำก็ไม่มีวัน
หมดสิ้นฉันใด บุญกุศลที่ทำแล้วก็เช่นกัน เมื่อเผื่อแผ่ให้ใครๆ บุญก็ไม่
หมดสิ้นฉันนั้น มีแต่เจริญมากขึ้นทุกที เพราะบุญให้ผลเป็นสุข นำไปปฏิสนธิ
ได้ถึง ๒๗ ภูมิ และบุญที่เป็นโลกุตตรกุศล ยังผลให้พ้นจากภพชาติการเกิด
ทำให้พันทุกข์ทั้งปวงอีกด้วย ส่วนบาปให้ผลเป็นทุกข์นำปฏิสนธิได้ ๔ ภูมิ
ด้วยเหตุนี้บุญจึงมีผลมาก ส่วนบาปมีผลน้อย

อีกอย่างหนึ่ง บุคคลที่ไม่รู้จักบุญไม่รู้จักบาป เมื่อทำบาปย่อมได้
บาปมาก เมื่อทำบุญย่อมได้บุญน้อย เปรียบเหมือนคนไม่รู้จักถ่านไฟร้อน
มีขี้เถ้าห่อหุ้มอยู่ เมื่อจับก็จับเต็มที่จึงเจ็บมาก เหมือนตนไม่กลัวบาปย่อม
บาปเต็มที่จึงได้ทุกข์มาก แต่เวลาทำบุญย่อมได้บุญน้อย เพราะเวลาทำบุญ
มีเจตนาขณะกำลังทำอย่างเดียวจึงได้บุญน้อย

ส่วนคนที่รู้จักบาปรู้จักบุญ เวลาทำบาปได้บาปน้อย เวลาทำบุญ
ได้บุญมาก เพราะเวลาทำบาปจิตใจหวั่นไหวกลัวบาป บาปจึงเกิดน้อย เหมือน
คนที่รู้จักถ่านไฟร้อน ก็จับแต่น้อยหรือจับโดยเร็วแล้วรีบวางทันที จึงเจ็บน้อย
แต่เวลาทำบุญเข้าใจทำมีเจตนาครบ ๓ กาล คือ มีเจตนาก่อนทำ มีเจตนา
ขณะกำลังทำ ทำแล้วก็คิดถึงบุญนั้นบ่อยๆ บุญก็เกิดมากจึงได้ผลมาก
เวลาทำบุญก็ทำเพื่อให้หมดจากกิเลส เพื่อให้พ้นทุกข์ ไม่หวังผลตอบแทนบุญจึงให้ผลมาก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มี.ค. 2024, 23:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 19 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron