ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ปริเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=46000
หน้า 9 จากทั้งหมด 9

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2013, 06:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปริเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค

เจตสิกที่ประกอบกับมัคคจิตนั้นมี ๓๖ ดวง ในจำนวน ๓๖ ดวงนี้ มีปัญญา เจตสิก วิตกเจตสิก
สัมมาวาจาวิรตีเจตสิก สัมมากัมมันตวิรตีเจตสิก สัมมาอาชีว วิรตีเจตสิก วิรียเจตสิก สติเจตสิก และเอกัคคตาเจตสิก รวมอยู่ด้วย เจตสิก ๘ ดวง นี้เป็นองค์อัฏฐังคิกมัคค คือเป็นองค์ธรรมของมัคคสัจ เมื่อยกเจตสิก ๘ ดวง ซึ่งเป็นตัวมัคคสัจออกเสียแล้ว เจตสิกที่เหลือ ๒๘ ดวง (๓๖-๘=๒๘) ก็ไม่ใช่สัจจะใด ๆ เลย เพราะมีหลักอยู่ว่า เจตสิกที่ประกอบกับจิตใดก็มีฐานะเหมือนจิตนั้น ก็เจตสิก ๒๘ ดวงนี้ประกอบกับมัคคจิตซึ่งมีฐานะพ้นพิเศษจากสัจจทั้ง ๔ ดังนั้น
เจตสิก ๒๘ ดวงนี้ จึงพ้นพิเศษจากอริยสัจทั้ง ๔ ไปตามฐานะของมัคคจิตด้วย
ก็น่าจะสงสัยว่า เจตสิกที่ประกอบกับจิตใดก็มีฐานะเหมือนจิตนั้น เจตสิก ๘ ดวง ที่ว่านี้ก็ประกอบกับมัคคจิต ซึ่งมีฐานะพ้นพิเศษจากอริยสัจ ๔ เหตุใดเจตสิก ๘ ดวงนี้ จึงไม่พ้นพิเศษไปตามฐานะของมัคคจิตด้วย ข้อนี้เป็นเพราะในมัคคสัจ ได้ระบุบอกไว้โดยชัดแจ้งว่า เจตสิก ๘ ดวงนี้ ที่ประกอบกับมัคคจิตเป็นองค์ธรรม ของมัคคสัจเป็นตัวมัคคสัจ ซึ่งเป็นสัจจที่ทำลายหรือประหารตัณหา หรือสมุทัย ดังนั้นเจตสิก ๘ ดวงนี้ ถึงแม้ว่าจะประกอบกับมัคคจิตที่พ้นจากสัจจะ ก็ไม่ทำให้ตัวเองพ้นจากสัจจะไปได้
ตอนนี้รวมความได้ว่า มัคคจิต ๑ เจตสิกที่ประกอบ ๒๘ (โดยเว้นเจตสิก ๘ ดวงที่เป็นองค์ธรรมของมัคคสัจออกแล้ว) รวมเป็นธรรม ๒๙ นี้ เป็นธรรมที่พ้น พิเศษจากอริยสัจ ๔ คือ เป็นสัจจวิมุตติไป
ส่วนผลจิต ๑ ก็มีเจตสิกประกอบ ๓๖ ดวง เหมือนกัน ผลจิต ๑ เจตสิก ๓๖ รวม เป็นธรรม ๓๗ นี้ ก็พ้นพิเศษจากอริยสัจ ๔ คือ เป็นสัจจวิมุตติทั้ง ๓๗
เจตสิก ๓๖ ดวงที่ประกอบกับผลจิต ก็มีเจตสิก ๘ ดวงที่เป็นองค์ของ อัฏฐังคิกมัคค คือเป็นองค์ธรรมของมัคคสัจรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องเว้นหรือไม่ต้อง หักเจตสิก ๘ ดวงนี้ออก เพราะเจตสิก ๘ ดวงนี้ ประกอบกับผลจิต ไม่ได้ประกอบ กับมัคคจิต ไม่ได้ทำหน้าที่ประหารสมุทัย จึงไม่เป็นมัคคสัจจเหมือนกับที่ประกอบ กับมัคคจิต

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 05 ต.ค. 2013, 17:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปริเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค

อนินทรียพัทธรูปและบัญญัติก็เป็นสัจจวิมุตติ

นอกจาก มัคคจิตตุปปาท ๒๙ ผลจิตตุปปาท ๓๗ เป็นสัจจวิมุตติดังกล่าว มาแล้วนี้ ยังมีธรรมที่เป็นสัจจวิมุตติ อีก ๒ คือ อนินทรียพัทธรูป และ บัญญัติธรรม

อนินทรียพัทธรูป คือ รูปธรรมที่ไม่เนื่องด้วยอินทรีย์ นั่นก็หมายถึงรูปธรรม ที่ไม่เนื่องด้วยสิ่งที่มีชีวิต
รูปธรรม ๒๘ ที่เป็นทุกขอริยสัจนั้น ต้องเป็น อินทรียพัทธรูป คือ รูปธรรมที่เนื่องด้วยอินทรีย์ เป็นรูปธรรมที่เนื่องกับสิ่งที่มีชีวิต เท่านั้น ส่วนรูปธรรมที่ไม่เนื่องกับสิ่งที่มีชีวิต คือ อนินทรียพัทธรูปนี้ จึงไม่ใช่ ทุกขอริยสัจ ก็เป็นธรรมที่พ้นพิเศษจากอริยสัจ ๔ เป็น สัจจวิมุตติไป
บัญญัติธรรม เป็นธรรมที่สมมติขึ้นบัญญัติขึ้นตามโวหารของชาวโลก เป็น สมมติไม่เหมือนกัน

อวสานคาถา ปริจเฉทที่ ๗

อิจฺจานุรุทฺธรจิเต อภิธมฺมตฺถสงฺคเห
สตฺตโม ปริจฺเฉโทยํ สมาเสเนว นิฏฺฐิโต ฯ

นี่ปริจเฉทที่ ๗ ( ชื่อ สมุจจยสังคหวิภาค ) ในปกรณ์อันรวบรวมซึ่งอรรถแห่งพระอภิธรรม ที่พระอนุรุทธาจารย์รจนาไว้นั้น จบแล้วโดยย่อแต่เพียงเท่านี้แล้ว

ที่มา http://www.thepathofpurity.com

หน้า 9 จากทั้งหมด 9 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/