ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

องค์ธรรมของอิทธิบาท ๔
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=47440
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 14 มี.ค. 2014, 06:52 ]
หัวข้อกระทู้:  องค์ธรรมของอิทธิบาท ๔

อธิบดี กับ อิทธิบาท

อธิบดีกับอิทธิบาท ซึ่งเป็นองค์ธรรมเดียวกัน คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ ปัญญา
ถึงกระนั้นก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง กล่าว คือ

อธิบดีนั้นเป็นไปเพื่อความสำเร็จในกิจการงานต่างๆในกิจการงาน
อันเป็นกุศล อกุศล และอัพยากตะ ได้ทั้งนั้น

ส่วนอธิบาทนี้ เป็นไปเพื่อความสำเร็จในกิจการงานอันเป็นกุศล แต่ฝ่ายเดียว
และเป็นกุศลที่จะให้บรรลุถึงมหัคคตกุศล และโลกุตรกกุศลด้วย

ดังนั้น ฉันทะ วิริยะ จิต(กิริยาจิต) และ ปัญญา ของพระอรหันต์จึงไม่ชื่อว่าอิทธิบาท
เพราะพระอรหันต์เป็นผู้สัมฤทธิผลที่สุดยอดแล้ว ไม่ต้องทำให้สัมฤทธิผลอีกแต่อย่างใด

ฉันทะ วิริยะ จิตตะ ปัญญา ที่อยู่ในโลกุตรวิบากจิต คือผลจิตนั้น ก็ไม่ชื่อว่าอิทธิบาท
เพราะผลจิตเป็นจิตที่สัมฤทธิผลแล้ว

๑. ฉันทิทธิบาท ความเต็มใจความปลงใจกระทำ เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล อธ.ได้แก่
ฉันทเจตสิก ที่ใน กุศลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗

๒. วิริยิทธิบาท ความเพียรที่ยิ่งยวด เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล อธ.ได้แก่
วิริยเจตสิก ที่ใน กุศลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗

๓. จิตติทธิบาท ความที่มีจิตจ่อปักใจอย่างมั่นคง เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล อธ.ได้แก่
จิต คือ กุศลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗

๔. วิมังสิทธิบาท ปัญญา เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล อธ.ได้แก่
ปัญญาเจตสิก ที่ใน กุศลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗

กิจการงานอันเป็นกุศลที่ถึงซึ่งความสัมฤทธิผลนั้น ย่อมไม่ปราศจากธรรมทั้ง ๔ ที่เป็นองค์ธรรม
ของอิทธิบาทนี้เลย แต่ว่าความเกิดขึ้นนั้นไม่กล้าเสมอกัน บางที่ฉันทะกล้า บางทีวิริยะกล้า
บางทีจิตกล้า บางทีปัญญากล้า ถ้าธรรมใดกล้าแล้ว ก็เรียกธรรมนั้นกล้านั้นแต่องค์เดียวว่าเป็น อิทธิบาท

ไฟล์แนป:
Image-2133.jpg
Image-2133.jpg [ 189.51 KiB | เปิดดู 1949 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 14 มี.ค. 2014, 19:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: องค์ธรรมของอิทธิบาท ๔

อิทธิบาท ๔ เป็นวิหารธรรมชนิดหนึ่ง คือเป็นที่ตั้ง
ที่อาศัยของจิต เนื่องจากร่างกายต้องมีอาคารเป็นที่พักที่อาศัย
หลบร้อนหลบหนาวให้ปลอดภัยจากอันตราย
จิตก็มีอาคารเป็นที่พักอาศัย คือวิหารธรรม หากไม่มีวิหารธรรม

จิตก็จะเปลี่ยวเปล่าร้อนรุ่มและเป็นอันตรายได้โดยง่าย
วิหารธรรมใดจิตเข้าไปตั้งไปอาศัยก็ได้ชื่อว่าจิตสถิตในวิหารธรรมนั้น
เช่น พรหมวิหาร อานาปานสติวิหาร อิทธิบาทวิหาร
อริยวิหาร ตถาคตวิหาร เป็นต้น อริยวิหารและตถาคตวิหาร
นั้นเป็นวิหารธรรมขั้นสูง ตั้งแต่การบรรลุถึงอรูปฌานจนถึงภูมิพระอรหันต์

ส่วนพรหมวิหาร อานาปานสติวิหาร อิทธิบาทวิหารเป็นวิหาร
ธรรมที่คนธรรมดาทั่วไปเข้าถึงได้ และเมื่อเจริญธรรมเหล่า
นั้นแล้วก็สามารถตั้งจิตไว้ในวิหารธรรมเหล่านั้นได้ และ
สามารถยกระดับที่สูงขึ้นไปได้ ดังที่พระตถาคตเจ้าทรงตรัส
ว่าพระองค์มีปกติอยู่ในอานาปานสติวิหาร

อิทธิบาท ๔ เป็นองค์ธรรมแห่งความสำเร็จ ประกอบด้วย
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา ความสำเร็จทั้งปวงไม่ว่าใน
ทางโลกหรือทางธรรมจักสำเร็จได้ด้วยอิทธิบาททั้งนั้น
หากขาดอิทธิบาทแล้วก็ยากที่จะประสพความสำเร็จ การฝึกฝน
อบรมจิตและการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาพระตถาคต
เจ้าจึงทรงเน้น ทรงย้ำเป็นอันมากว่าต้องอาศัยอิทธิบาท

อิทธิบาทเป็นรากฐานหรือบาทฐานของอิทธิปาฏิหาริย์ นั่น
คือการกระทำความสำเร็จอย่างอัศจรรย์ต้องอาศัยอิทธิบาท
เหตุนี้อิทธิบาทธรรม ๔ ประการคือฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
จึงได้ชื่อว่าอิทธิบาท ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่าเท้าหรือรากฐานของ
การกระทำความสำเร็จที่อัศจรรย์ ถ้าไม่มีเท้าก็เดินไม่ได้
ฉันใด ไม่มีอิทธิบาทก็กระทำอิทธิปาฏิหาริย์ไม่ได้ฉันนั้น

เพราะการกระทำอิทธิปาฏิหาริย์นั้นต้องอาศัยกำลัง ๔ อย่าง
คือ กำลังสมาธิ กำลังฌาน กำลังอิทธิบาท และกำลังอธิษฐาน
กำลังทั้งหมดนี้กำลังอิทธิบาทก็คือกำลังเท้าหรือรากฐานของ
การทำความสำเร็จที่อัศจรรย์นั่นเอง

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 08 เม.ย. 2019, 11:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: องค์ธรรมของอิทธิบาท ๔

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/