ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สหวุตติ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=53906 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 15 พ.ค. 2017, 15:21 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | สหวุตติ | ||
คำว่า กลาป หมายความว่า หมวด หมู่ มัด และในรูปหนึ่งๆ นั้นจะต้องมีสภาพความเป็นไปพร้อมกัน ๓ อย่าง ที่เรียกว่า สหวุตติ คือ ๑. เอกุปฺปาท เกิดพร้อมกัน ๒. เอกนิโรธ ดับพร้อมกัน ๓. เอกนิสฺสย มีที่อาศัยคือมหาภูตรูปอย่างเดียวกัน เมื่อมีความเป็นไปพร้อมกันทั้ง ๓ อย่างนี้ เรียกว่า รูปกลาป และรูปกลาป มีจำนวน ๒๓ กลาป คือ กัมมชกลาป ๙ จิตตชกลาป ๘ อุตุชกลาป ๔ อาหารชกลาป ๒ รวม ๒๓ กลาป ดังมีหลักฐานบาลีแสดงว่า กมฺมจิตฺโตตุกาหาร สมุฏฺฐานา ยถากฺกมํ นวฏฺฐ จตุโร เทฺวติ กลาปา หิ เตวีสติ รูปกลาปทีมี กรรม จิต อุตุ อาหาร เป็นสมุฎฐานเหล่านี้ เมื่อว่าโดยจำนวนที่แท้จริงแล้ว มีตามลำดับดังนี้คือ กัมมชกลาป ๙ จิตตชกลาป ๘ อุตุชกลาป ๔ อาหารชกลาป ๒ รวม ๒๓
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 15 พ.ค. 2017, 17:23 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สหวุตติ | ||
ทำไมพระอนุรุทธาจารย์จึงกล่าวว่า รูปที่อยู่ในกลาปเดียวกันนั้น จะต้องพร้อมด้วยองค์ ๓ ที่เรียกว่า สหวุตติ จะมากกว่า ๓ หรือ น้อยกว่า ๓ ไม่ได้หรือ? ตอบ..... การที่พระอนุรุทธาจารย์กล่าวว่า รูปที่อยู่ในกลาปเดียวกันนั้นจะต้อง พร้อมด้วยองค์ ๓ ที่เรียกว่า สหวุตติ จะมากกว่าหรือน้อยกว่า ๓ ไม่ได้นั้น คือลักษณะทั้ง ๓ ที่เรียกว่า สหวุตติ ของรูปกลาปนี้ เหมือนลักษณะทั้ง ๔ ของเจตสิก ต่างกันที่ไม่มีข้อ เอกาลมฺพน คือมีอารมณ์เดียวกันเท่านั้น นอกนั้นเหมือนกันหมด คือ เอกุปฺปาท เกิดพร้อมกัน เอกนิโรธ ดับพร้อมกัน เอกวตฺถุก หรือ เอกนิสฺสย มีที่อาศัยเกิดอย่างเดียวกัน ฉะนั้น ถ้าองค์ของรูปกลาปจะมีมากกว่า ๓ ก็หมายความว่า จะต้องมีองค์ ที่ว่า เอกลมฺพน อยู่ด้วย แต่ เอกาลมฺพน นี้ เป็นองค์ของรูปกลาปไม่ได้ เพราะรูปธรรมนั้นเกิดขึ้นโดยไม่ได้อาศัยอารมณ์ แต่เกิดจาก กรรม จิต อุตุ อาหาร เท่านั้น และ กรรม จิต อุตุ อาหาร นี้ เป็นตัวอารมณ์ก็จริง แต่ เป็นอารมณ์ของจิตเจตสิกเท่านั้น ฉะนั้น เอกาลมฺพน จึงไม่ใช่องค์ของรูปกลาป ด้วยเหตุนี้องค์องค์ของรูปกลาปจึงมีมากกว่า ๓ ไม่ได้ องค์ของรูปกลาปมีน้อยกว่า ๓ ไม่ได้นั้น เพราะธรรมดารูปที่เกิดอยู่ในสันดาลของสัตว์ ทั้งหลายนั้นมีจำนวนมากมาย เกิดดับอยู่่เสมอมิได้ขาดเหมือนกับกระแสน้ำ ในจำนวนรูปเหล่านี้ รูปที่เกิดพร้อมกันก็มี รูปที่ดับพร้อมกันก็มี รูปที่เกิดไม่พร้อมกันก็มี รูปที่ดับไม่พร้อมกันก็มี ไม่ได้อาศัยมหาภูตรูปอย่างเดียวกันก็มี เช่น จักขุปสาทที่เกิดอยู่ในตาของคนหนึ่งๆนั้น นับอย่างสามัญแล้วต้องมีจำนวน แสนๆล้านๆกว่าเสมอ ในจักขุปสาทแสนๆล้านๆกว่านี้ จักขุปสาทที่เกิดพร้อมกันก็มี ดับพร้อมกันก็มี แต่มหาภูตรูปที่เป็นที่อาศัยเกิดนั้นไม่ใช่อย่างเดียวกัน เช่นนี้แล้วจะเรียกว่าเป็นรูปกลาปเดียวกันไม่ได้ และมหาภูตรูปที่เกิดอยู่ที่เกิดอยู่ในกลาปเดียวกันก็มี หลายชนิด คือ กัมมชมหาภูตรูป จิตตชมหาภูตรูป อุตุชมหาภูตรูป อาหารชมหาภูตรูป ๔ อย่างนี้ เกิดพร้อมกันก็มี ดับพร้อมกันก็มี แต่ที่อาศัยเกิดต่างกัน เพราะกัมมชมหาภูตรูป ก็ต้องอาศัยกัมมชมหาภูตรูปด้วยกัน จิตตชมหาภูตรูปก็ต้องอาศัยจิตตชมหาภูตรูปด้วยกันดังนี้ เป็นต้น จึงจะเป็นกลาปเดียวกันได้ แม้ว่าเป็นมหาภูตรูปด้วยกัน แต่สมุฎฐานต่างกัน ก็เป็นกลาปเดียวกันไม่ได้ เช่น ปถวีเป็นกัมมชปถวี อาโปเป็นจิตตชอาโป เตโชเป็นอุตุชเตโช วาโยเป็นอาหารชวาโย ดังนี้แล้ว มหาภูตรูปทั้ง ๔ นี้ก็เป็นรูปกลาปเดียวกันไม่ได้ อย่าว่าแต่สมุฏฐานต่างกันเลย แม้แต่สมุฏฐานอย่างเดียวกันเกิดดับพร้อมกัน แต่ถ้าที่อาศัยต่างกันแล้วก็เป็นรูปกลาปเดียวกันไม่ได้ เช่น มหาภูตรูปที่เกิดจากกรรมมีอยู่ ๒ ชุด ด้วยกัน ทั้ง ๒ ชุดนี้เกิดก็พร้อมกัน ดับก็พร้อมกัน แต่ที่อาศัยของมหาภูตรูปทั้งสองนี้ต่างกันคือ ที่อาศัยของปถวีอยู่ในชุดที่ ๑ ต้องเป็น อาโป เตโช วาโย ที่อยู่ในชุดที่ ๑ ด้วยกัน อาโป เตโช วาโยที่อยู่ในชุดที่ ๒ จะเป็นที่อาศัยของปถวีในชุดที่ ๑ ไม่ได้ ในทำนองเดียวกัน อาโป เตโช วาโยที่อยู่ในชุดที่ ๑ ก็เป็นที่อาศัยของปถวีในชุดที่ ๒ ไม่ได้ ฉะนั้น มหาภูตรูปทั้ง ๒ ชุดนี้ จึงเป็นรูปกลาปเดียวกันไม่ได้ อุปมาเหมือนคน ๒ คน เกิดวันเดียวกัน ตายวันเดียวกัน แต่คนละมารดา แล้วจะเรียกคน ๒ คนนี้ว่าเป็นพี่น้อง ท้องเดียวกันไม่ได้ฉันใด รูปกลาปเดียวกันก็ฉันนั้นด้วย เหตุผลดังที่ได้อธิบายมานี้ จึงแสดงให้เห็นว่า องค์แห่งรูปกลาปที่เรียกว่า สหวุตติ นั้น จะน้อยกว่า ๓ ไม่ได้
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 18 พ.ค. 2017, 11:42 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สหวุตติ | ||
ปุจฉา รูปอื่น ๆ เป็นองค์ของรูปกลาปได้ แต่ทำไมปริเฉทรูป ๑ และลักขณรูป ๔ เป็นองค์ของรูปกลาปไม่ได้ ? วิสัชนา ในการที่ปริเฉทรูปรูป เป็นองค์ของรูปกลาปไม่ได้นั้น เพราะปริเฉทรูปเป็นรูป ที่กำหนดขอบเขตรูปกลาปต่อรูปกลาป จึงไม่นับเข้าในองค์ของรูปกลาป ส่วนลักขณรูป ๔ นั้นก็เป็นเครื่องหมายของรูปกลาป ฉะนั้นจึงไม่นับเข้าอยู่ ในองค์ของค์ของรูปกลาปเช่นเดียวกัน ดังมีคาถาแสดงว่า กลาปนํ ปริจฺเฉท ลกฺขณตฺตา วิจกฺขณา น กลาปงฺคมิจฺจาหุ อากาสํ ลกฺขณานิ จ อากาสรูป ๑ และลักขณรูป ๔บัณฑิตทั้งหลายไม่แสดงว่าเป็นองค์ของกลาปส เพราะรูปทั้ง ๕ เหล่านี้ เป็นส่วนแยกของรูปกลาป และเป็นเครื่องหมายของรูปกลาปนั้น
|
เจ้าของ: | sirinpho [ 16 ม.ค. 2024, 09:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สหวุตติ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |