ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
มุสาวาทที่ไม่นำไปสู่อบาย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=54880 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 27 พ.ย. 2017, 18:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | มุสาวาทที่ไม่นำไปสู่อบาย |
ชนิดที่นำไปสู่อบายได้นั่น ต้องทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อนั้นเกิดความเสียหายได้ ถ้าผู้เชื่อไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด มุสาวาสชนิดไม่นำไปสู่อบาย เช่น การพูดมุสาของอำมาตย์ผู้หนึ่งต่อพระราชา เพื่อรักษาศรัทธาของพระราชาไว้ และรักษาชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งไว้ ดังมีเรื่องเล่าว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นคนยากจนอาศัยอยู่ที่ศาลาแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่นอกเมือง ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ และมีอาการแพ้ท้องอยากกินอาหารที่เป็นของเสวย จึงได้อ้อนวอนให้สามีออกไปหาอาหารมาให้ และถ้านางไม่ได้กินอาหารมี่ต้องประสงค์แล้ว ชีวิตของนางก็ไม่อาจยืนต่อไปได้ สามีรักและสงสารภรรยาเกรงว่านางจะตาย จึงได้คิดอุบายปลอมเป็นพระอุ้มบาตรเข้าไปในพระราชวัง เพื่อรับบิณฑบาต ด้วยกิริยาอันสำรวม ขณะนั้นเป็นเวลาใกล้จะเพล พระราชากำลังจะ เสวยพระกระยาหารอยู่ แล้วทอดพระเนตรเห็นพระเดินสำรวมมาบิณฑบาตร ด้วยกิริยาอันน่าเลื่อมใส ก็เกิดมีพระราชศรัทธาขึ้นด้วยเช้าพระทัยว่า พระองค์นี้คงไม่เป็นพระสามัญ ต้องเป็นพระที่มีคุณธรรมพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเอาอาหารที่จะเสวยนั้นไปใส่บาตรแก่ชายผู้นั้น แล้วรับสั่งอำมาตย์ผู้ใกล้ชิดสะกดรอยติดตามเพื่อให้รู้แน่ว่ามาจากไหน และจะไปไหน แล้วอำมาตย์ก็เดินติดตามชายผู้นั้นไปโดยที่ชายผู้นั้น ไม่รู้ตัว พอเดินไปถึงศาลาที่พักก็เปลื้องจีวรออกกลับเป็นคนธรรมดา เอาอาหารให้ภรรยากิน อำมาตย์แลเห็นก็รู้ว่าชายคนนี้แกล้งหลอกลวงว่าเป็นพระ ถ้าเรานำเรื่องนี้ไปทูลแกพระราชาตามความเป็นจริงแล้ว ผลร้ายจะบังเกิดแก่ บุคคลที้สองฝ่าย คือพระราชาจะต้องเสียศรัทธาที่มีอยู่แรงกล้า ฝ่ายบุรุษผู้หลอกลวงอาจได้รับโทษถึงชีวิต ฉะนั้นเราจำเป็นที่จะต้องพูดเป็นกลางๆไว้ เพื่อรักษาประโยชน์ให้ทั้งสองฝ่าย อำมาตย์จึงกลับมาทูละระราชาว่า ข้าพุุทธเจ้าเดินตามพระรูปนั้นไปจนออกนอกเมือง เมื่ออกไปนอกเมืองแล้วผ้าเหลืองนั้นก็หายไปจากสายตาของข้าพระพุทธเจ้า พระราชาได้ฟังแล้วเกิดความปิติโสมนัสตรัสว่าแน่แล้ว ๆ พระองค์นี้น่าจะเป็นพระอรหันต์ ทานของเรานั้นต้องเป็นทานมี่ประเสริฐ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคำกล่าวทั้งหมดไม่เป็นความจริง ที่ทำให้พระราชา เข้าพระทัยผิดแต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย กลับให้ทำประโยชน์เช่นนี้ ผู้กล่าวแม้จะเป็นผู้มุสา แต่ก็เป็นมุสาที่ไม่มีโทษ ไม่สามารถนำไปสู่อบาย |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 พ.ย. 2017, 08:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มุสาวาทที่ไม่นำไปสู่อบาย |
อีกเรื่องหนึ่งในปัญจาวุธชาดก ปัญจาวุธกุมาร ขณะที่ถูกยักษ์ขนเหนียว ชื่อสิเลสโลมะจับไว้จะกิน ได้ออกอุบายกล่าวว่าในท้องของเรานี้มีอาวุธ ถ้าเจ้ากินเราอาวุธ ของเราจะบาดไว้พุงของเจ้าให้ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยชิ้นใหญ่ แล้วเจ้าขะต้องตายด้วย เมื่อยักษ์ได้ยินดังนั้นก็คิดว่ามาณพนี้คงพูดจริง ดังนี้แล้วยักษ์จึงไม่กล้ากินปัญจาวุธกุมาร ที่ปัญจาวุธกุมารกล่าวว่า ในท้องมีอาวุธนั้นมุ่งหมายเอาญาณาวุธ คือปัญญาที่อยู่ในตน แต่ยักษ์ เข้าใจว่าเป็นอาวุธจริงๆ เรื่องนี้ก็แสดงว่าการกล่าวมุสาของปัญจาวุธกุมารนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หลงเชื่อแต่อย่างใด https://www.kkdee.com/nithan/index/story/var/180 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 28 พ.ย. 2017, 12:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มุสาวาทที่ไม่นำไปสู่อบาย |
อีกอย่างหนึ่งในการแสดงกิริยาอาการไล่สัตว์มีนกกา เป็นต้น โดยอาการเหมือนจะขว้างหรือยิง ทำให้สัตว์นั้นคิดว่าจะยิง หรือข้วางปาตนแล้วหนีไป เหล่านี้ก็กล่าวได้ว่าเป็นมุสาทางกาย แต่ก็ไม่เกิดการเสียหายเช่นเดียวกัน |
เจ้าของ: | sirinpho [ 07 ม.ค. 2021, 21:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: มุสาวาทที่ไม่นำไปสู่อบาย |
![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |