วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 20:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2019, 22:07 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระอภิธรรมปิฎก เป็นพระพุทธพจน์หรือไม่
:: ศ. (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต
=====

:b44: ประวัติและความเป็นมาของพระอภิธรรมปิฎก

– ศึกษาแง่ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา พระอภิธรรมปิฎกเป็นพัฒนาการในยุคหลัง พระไตรปิฎกพูดถึงสังคายนาครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สองเท่านั้น และสังคายนาทั้งสองครั้งเรียกว่า ธัมมวินยสังคีติ (สังคายนาพระธรรมวินัย) หรือธัมมวินยวิสัชชนา (วิสัชนาพระธรรมวินัย) ไม่เรียกว่า “ติปิฎกสังคีติ” (สังคายนาพระไตรปิฎก) หรือ “ติปิฏกวิสัชนา” (วิสัชนาพระไตรปิฎก)

– ในแง่ภาษา ภาษาในพระอภิธรรมปิฎก เป็นภาษาเขียน ภาษาวิชาการ ที่เรียบเรียงเป็นขั้นเป็นตอน มิใช่ภาษาพูดเหมือนอย่างในพระสุตตันตปิฎก และพระวินัยปิฎก ข้อนี้แสดงว่า พระอภิธรรมปิฎกเพิ่มมาภายหลัง


:b44: พระอภิธรรมปิฎกเป็นพระพุทธพจน์หรือไม่

มีทั้งฝ่ายปฏิเสธ และฝ่ายยอมรับว่าเป็นพุทธพจน์ มีข้อเสนอความคิดเห็นทั้งสองฝ่ายดังนี้

ฝ่ายที่ปฏิเสธพระอภิธรรมปิฎก ให้เหตุผลดังนี้

(๑) ภาษาในพระอภิธรรม เป็นสำนวนภาษารุ่นหลังเป็นภาษาที่เรียบเรียงเป็นลักษณะวิชาการ จัดอยู่ในประเภท “เวยยากรณะ” ไม่ใช่ภาษาพูดหรือสนทนาแบบภาษาในพระสูตรและพระวินัย

(๒) ก่อนจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัสสมหาปเทศ ๔ ให้สาวกเทียบเคียงหลักปฏิบัติว่าผิดหรือถูก โดยให้สอบสวนให้ถูกต้องลงรอยกันได้ ให้ถือปฏิบัติ ถ้าไม่ถูกต้องลงรอยกัน ไม่ควรถือปฏิบัติ ในที่นี้มิได้เทียบเคียงกับพระอภิธรรมปิฎกเลย

(๓) ข้ออ้างของอีกฝ่ายหนึ่งว่าพระพุทธเจ้าตรัสอภิธรรมปิฎก โดยยกเรื่องพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปเทศนาโปรดพุทธมารดาที่ดาวดึงส์เป็นเพียงคำกล่าวของพระอรรถกถาจารย์ (พระพุทธโฆสาจารย์ ผู้แต่งสมันตปาสาทิกา) เป็นหลักฐานรุ่นหลังมาก เรื่องนี้ไม่มีในพระสูตรและพระวินัย

(๔) แม้คำว่า “อภิธมฺเม” ที่ปรากฏในพระสูตรบางแห่งก็มิได้หมายถึงพระอภิธรรมปิฎก เช่น ในกินติสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ คำว่า “อภิธมฺเม” พระอรรถกถาจารย์ กล่าวว่า หมายถึง โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ

(๕) ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัสมอบพระพุทธศาสนาไว้ในความรับผิดชอบของเหล่าสาวกว่า ธมฺโม จ วินโย จ หมายถึง พระธรรมกับพระวินัยเท่านั้น มิได้หมายถึงพระอภิธรรมเลย

(๖) ในอภิธรรมปิฎกเองปรากฏคำว่า ยญจ โข ภควตา ชานตา ปสฺสตา… แปลว่า พระผู้มีพระภาคเจ้ารู้อยู่ เห็นอยู่ และคำว่า วุตตญเจตํ ภควตา แปลว่า พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ดังนี้ สำนวนเช่นนี้ เป็นของพระสังคีติกาจารย์ มิใช่พระพุทธวจนะ

(๗) นิกายสรวาสติวาทิน ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างหนึ่งว่า นิกายอภิธรรม เพราะนับถืออภิธรรมมากก็ถือว่าอภิธรรมปิฎกเป็นสาวกภาษิต มิใช่พุทธวจนะ

ฝ่ายที่ยอมรับพระอภิธรรมปิฎก ให้เหตุผลดังนี้

(๑) เรื่องพระพุทธเจ้าเสด็จไปเทศนาพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดา มีหลักฐานปรากฏชัดในปรมัตถทีปนี และธัมมปทัฏฐกถา

(๒) ในอังคุตรนิกาย (๒๒/๓๓๑/๔๓๙) ข้อความตอนหนึ่งว่า สมัยนั้นแล ภิกษุผู้เป็นเถระจำนวนมาก กลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัตแล้ว นั่งประชุมกล่าวอภิธรรมกถา (อภิธมฺมกถํกเถนฺติ) กันที่โรงธรรม

ในพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ (๑/๕๕๓/๓๖๙) ข้อความว่า พระทัพพมัลลบุตร จัดเสนาสนะให้พระภิกษุที่เรียนอภิธรรม (อาภิธมฺมิกา) อยู่รวมกันด้วย คิดว่าท่านเหล่านั้นจักได้สนทนาอภิธรรมกัน

ในพระวินัยปิฎก ภิขุนีวิภังค์ (๓/๔๗๗/๒๕๔) กล่าวว่า ภิกษุณีถามปัญหา ถ้าขอโอกาสถามพระสูตร แต่ไปถามพระวินัย หรือพระอภิธรรม ต้องปาจิตตีย์ ถ้าขอโอกาสถามพระวินัยแต่กลับไปถามพระสูตร หรือพระอภิธรรม ต้องปาจิตตีย์ ถ้าขอโอกาสถามพระอภิธรรม แต่กลับถามพระสูตร หรือพระวินัย ต้องปาจิตตีย์

ในขุททกนิกาย อปทาน (๓๒/๘/๖๓) มีข้อความว่า พระสูตร พระอภิธรรม พระวินัย รวมพระพุทธวจนะมีองค์ ๙ นี้ทั้งสิ้น เป็นธรรมสภาของพระองค์

ในเถรีอปทาน (๓๓/๑๕๘/๓๐๙) กล่าวว่า (นางเขมาเถรี กล่าวว่า) ข้าพเจ้าฉลาดในวิสุทธิ ๗ และสามารถในกถาวัตถุ เป็นผู้นัยแห่งพระอภิธรรม ยังมีตัวอย่างอื่นๆ อีกมากมาย คำว่า “อภิธมฺม” ในที่นี้หมายถึง พระอภิธรรมปิฎกนั้นเอง

(๓) คำว่า ธมฺโม จ วินโย จ ซึ่งแปลว่า พระธรรมและพระวินัยนั้น คำว่าธรรมมิได้หมายเพียงสุตตันนปิฎกเท่านั้น แต่หมายรวมถึง พระอภิธรรมปิฎกด้วย

(๔) ถ้าปฏิเสธพระอภิธรรมปิฎก เพราะเหตุเพียงคำว่า วุตฺตญเหตํ ภควตา เป็นต้น พระสูตรกับพระวินัยก็ควรปฏิเสธด้วย เพราะทั้งพระสูตรและพระวินัย ล้วนฟังมากจากพระพุทธเจ้าทั้งนั้น พระพุทธองค์มิได้ทรงขีดเขียนไว้ที่ไหน และในพระสูตรเองก็มีคำว่า “เอวมฺเมสุตํ” ข้าพเจ้าสดับมา ดังนี้ในพระวินัยปิฎกก็มีคำว่า เตน โข ปน สมเยน ภาวตา โดยสมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค… เหล่านี้ล้วนเป็นคำพูดของพระสังคีติกาจารย์ทั้งสิ้น

(๕) ยอมรับว่าในอภิธรรมปิฎก มีภาษิตของพระเถระอยู่คัมภีร์หนึ่งคือ กถาวัตถุ ซึ่งแต่งโดยพระโมคคคัลลีบุตร ติสสเถระ แต่พระโมคคัลลีบุตรก็แต่งตามพุทธาธิบาย

การโต้แย้งหักล้างกัน ในเรื่องนี้มีมานานแล้ว และคงจะมีต่อไป การหักล้างกันด้วยวาทะบางครั้งก็รุนแรง ดังในอัฏฐสาลินี อรรถกถาที่แต่งโดยพระพุทธโฆสาจารย์ พระแห่งสำนักอภิธรรม เมื่อพุทธศตวรรษที่ ๑๐ ได้ว่าผู้ปฏิเสธอภิธรรมเสียเจ็บแสบ

น่าประหลาดที่นิกายสรวาสติวาทิน ซึ่งมีชื่อหนึ่งว่า นิกายอภิธรรม เพราะนับถืออภิธรรมมาก กลับมีความเชื่อว่าพระอภิธรรมปิฎกเป็นบทนิพนธ์ของพระสาวกสำคัญ ๓ รูป มิใช่พระวจนะของพระพุทธเจ้า พระสาวกสำคัญ ๓ รูปนั้นคือ พระมหาสังกัจจายนะ พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ

(๖) เสถียร โพธินันทะ แสดงมติในเรื่องนี้ว่า “อภิธรรมปิฎกนี้ไม่ใช้เป็นพุทธสุภาษิตทั้งหมด จะเป็นพุทธภาษิตก็เฉพาะแต่บทมาติกา และข้ออธิบายบางแห่ง นอกจากนั้น เป็นอาจริยภาษิต ซึ่งอรรถกถาธิบายมาติกาให้พิสดาร ตามพุทธมติ จึงไม่ควรถือว่า เมื่อไม่ใช่พระพุทธภาษิตทั้งหมด แล้วก็เลยไม่นิยมนับถือ ความจริงพระอภิธรรมนั้นมิใช่อื่นไกลที่ไหน เนื้อแท้ก็เป็นธรรมะในพระสูตรนั่นเอง”

(๗) พุทธทาสภิกขุ ได้ให้ความหมายของ “อภิธรรม” ว่าหมายถึงส่วนที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ ส่วนเกินก็ได้ ที่ว่ายิ่งใหญ่นั้น อภิธรรมยิ่งใหญ่ไปในทางสำหรับโต้เถียงกัน ไม่ใช่ยิ่งใหญ่ในทางปฏิบัติและที่ว่าเกินนั้น หมายความว่า เกินความจำเป็นที่มนุษย์จะต้องรู้หรือต้องปฏิบัติ

มนุษย์เราจำเป็นต้องรู้แต่เรื่องที่ปฏิบัติเพื่อดับทุกข์


วิวาทะเกี่ยวกับเรื่องนี้มีมาก ยกมาเป็นตัวอย่างเพียงสองสามทรรศนะ สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นปราชญ์ตะวันตกหรือตะวันออก ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ต่างก็ลงรอยกันในประเด็นสรุปข้างท้ายนี้คือ

– ที่พูดว่าอภิธรรมปิฎกมิใช่พุทธพจน์ทั้งหมด หรือใช่พุทธพจน์เฉพาะบทมาติกาก็ดี พระอภิธรรมไม่อยู่ในรูปพุทธพจน์ก็ดี ผู้พูดมิได้ปฏิเสธว่าพระอภิธรรมปิฎกมิใช่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เพียงแค่ต้องการบอกว่า อภิธรรมปิฎกเป็นเรื่องที่ “แต่งเพิ่มเข้ามาภายหลัง”

– ทุกคนยอมรับว่าเนื้อหาในพระอภิธรรมปิฎก เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะสอดคล้องตามหลักตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการแล้ว โดยประการทั้งปวง


:b8: :b8: :b8: คัดจาก...พระไตรปิฎกมีความเป็นมาอย่างไร ?
:: ศ. (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=74&t=57649

=====

:b45: ๏๏ การสังคายนาพระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาท
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=47652


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร