วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 19:14  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2021, 04:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




75361517399.png
75361517399.png [ 159.47 KiB | เปิดดู 910 ครั้ง ]
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคกล่าวไว้ว่า
โค้ด:
อิมินา ปน ฌาเณน สมนฺนาคโต วิปสฺสโก พุทฺธสาสเน สทฺธสฺสาโส
สทฺธปติฏโฐ นืยตคติโก จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติ.
(วิสุทธิ.๒/๒๗๐)

โยคีผู้ปฏิบัติวิปัสสนากัมมฐาน ผู้ได้ญานเรียกว่า กังขาวิตรณวิสุทธิ นี้เป็นพระจูฬโสดาบันบุคคลผู้ได้ความโล่งใจได้ที่พึ่งพิงในพระพุทธศาสนา มีสุคติเป็นที่ไปอย่างแน่นอน

อธิบายว่า ความโล่งใจอย่างแท้จริงในพระพุทธศาสนาคืออริยมรรค อริยผล เป็นที่พึ่งอันแท้จริงในพระพุทธศาสนาส่วนผู้ที่กำลังดำเนินอยู่บนเส้นทางกัมมฐาน ซึ่งเป็นทางที่จะได้มรรคผลอย่างแน่นอน จึงสมควรได้ชื่อว่า"ผู้ได้ความโล่งใจ ผู้ได้ที่พึ่งพิง"เช่นกัน

อีกอย่างหนึ่งคือผู้ที่รู้แจ้งนามรูปตามสภาพที่เป็นจริงด้วยนามรูปปริเฉทญาณ ย่อมได้ความปราโมทย์ในพระธรรมคำสอนเพราะฉะนั้นจึงกล่วได้ว่าเป็นผู้ได้ความโล่งใจ นอกจากนี้ผู้ใดรู้นามรูปด้วย ปัจจยปริคคหญาณว่า นามรูปทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ผู้นั้นย่อมไม่เป็นผู้มีความเห็นผิด คือไม่เห็นผิดว่ามีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ไม่เห็นผิดว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลก หรือไม่เห็นผิดว่าสัตว์โลก เกิดขึ้นปราศจากเหตุปัจจัย ดังนี้เป็นต้น เมื่อมีความเห็นถูกต้อง ศรัทธาความเชื่อก็มั่นคง ไม่คลอนแคลน ผู้มีศรัทธาเช่นนี้ ก็ชื่อว่า เป็นผู้ได้ความ โล่งใจ ได้ที่พึ่งพิงในพระศาสนาเช่นกัน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2021, 06:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


ต่อไปนี้เป็นการนำหลักฐานที่มาในวิสุทธิมรรคมหาฎีกามาสาธก
โค้ด:
อปริหีนกงฺขาวิติรณวิสุทฺธิโก
โลกิยาหิสีลสมาธิปญฺญสมฺปทาหิ
สมนฺนาคตตฺตา อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต สุคติปรายโณ โหตีติ วุตฺตํ นิยตคติโก ติ,
ตโต เอว จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติ.
(วิสุทฺธิ. ฎี. ๒/๔๒๔)

โยคีผู้เจริญวิปัสสนากัมมฐาน ผู้กำลังก้าวหน้าในกังขาวิตรณวิสุทธิ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญาที่บริสุทธิแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นหลุดพ้น (เพราะเป็นโลกียะ) ถึงแท้จะยังไม่บรรลุคุณธรรมพิเศษยิ่งๆขึ้นไปก็ตามแต่ก็เป็นผู้มีสุคติภพเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ดังนั้น ท่านกล่าวว่า “นิยตคติโก” (เป็นผู้มีคติภพที่แน่นอน) และด้วยเหตุที่เป็นผู้มีคติภพที่แน่นอนนี้ จึงได้ชื่อว่าเป็น “พระจูฬโสดาบัน”

ข้อความข้างต้นของบทว่า อปริหีนกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิโก นี้ท่านแสดงความหมายดังต่อไปนี้ ผู้ที่ปราศจากทิฏฐิและวิจิกิจฉากำลังก้าวหน้าในกังขาวิตรณวิสุทธิ คือ ผู้มีคติภพแน่นอน แต่เนื่องจากวิสุทธิที่ว่ามานี้ยังไม่ถึงขั้นโลกุตตระ นั้นเป็นเพียงโลกียะเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ อาจเสื่อมไปจากบุคคลนั้น เมื่อไหร่ก็ได้ จะด้วยเหตุที่ตนตั้งจิตไว้ผิดๆ ก็ดี ด้วยเหตุที่ได้ยินได้ฟังสิ่งที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัยก็อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งถ้าเมื่อใดทิฏฐิและวิจิกิจฉาเหล่านั้นมีกำลังมาก วิสุทธิที่ว่ามานี้ก็จะลดน้อยค่อยๆ เสื่อมสิ้นไปในที่สุด ถึงตอนนั้นก็ไม่ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่า เป็นผู้ที่มีคติที่แน่นอน นี้เป็นการอธิบายเนื้อความโดยพยติเรกนัย (นัยที่ถือเอาความโดย วิธีกลับกันจากนัยที่กล่าวมาก่อน)

ด้วยบทว่า สีลสมธิปญฺญาสมฺปทาหิ สทนฺนาคตฺตา นี้ท่านอธิบายความดังต่อไปนี้ เนื้อความของบทโดยตรงแปลว่า ผู้ที่ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญาที้กำลังปฏิบัติอยู่ คือผู้มีคติภพที่แน่นอน แต่โดยเนื้อความแฝงแล้ว ท่านแสดงให้รู้โดยพยติเรกนัยว่ ถ้าบุคคลขาดการเจริญวิปัสสนากัมัฏฐาน เสื่อมจากศีล สมาธิ ปัญญา ก็ไม่สามารถเรียกว่าเป็นผู้มีคติภพที่แน่นอน

สรุปแล้ว ผู้ที่จะบริบูรณ์ด้วยวิสุทธิอย่างนี้ จะต้องเป็นผู้ที่กำลังเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน หรือถ้าไม่ใช่ผู้ที่กำลังเจริญเจริญ ก็จะต้องปราศจากทิฏฐิและวิจิกิจฉาอย่างน้อยก็จะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ จึงจะถือได้ว่าเป็นผู้มีคติภพที่แน่นอนได้เพราะฉะนั้น บุคคลไม่ควรประมาทตัวเอง “ข้าพเจ้าเป็นพระจูฬโสดาบันแล้ว มีคติภพเป็นที่ไปแน่นอนแล้ว” โดยเด็ดขาด เพราะถ้าท่านพอใจในธรรมเพียงขั้นต้นไนี้แล้วไม่เอาใจใส่ วิปัสสนากัมมัฏฐานยิ่งๆ ขึ้นไปหรือไม่ยอมรักษาศีลสิกขาของตนให้บริสุทธิ์ผุดผ่องมัวแต่อยู่อย่างประมาทขาดสติแล้วท่านก็จะไม่เจริญในคุณธรรมอย่างแน่นอน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.ย. 2021, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


เครื่องวัดความแน่นอนของคติภพ

ถ้าจะถามว่า คติของพระจูฬโสดาบันนั้นแน่นอนทุกภพทุกชาติหรือไม่ ขอบตอบว่า แน่นอนเฉพาะภพที่ ๒ เท่านั้น ส่วนภพที่ ๓ เป็นต้นไปยังไม่แน่นอน เหตุผลก็คือตามคัมภีร์ฎีกาที่ยกมาแล้วข้างต้นนั้น ท่านแสดงว่า ผู้ที่มีคติแน่นอนได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ไม่เสื่อมจากกังขาวิตรณวิสุทธิ และจะต้องเป็นผู้บริบูรณ์ด้ววโลกียศีล โลกียสมาธิ และโลกียปัญญา อาศัยคำกล่าวของฎีกาจารย์นี้ทำให้รู้ว่า แม้แต่ในภพชาติปัจจุบันก็ยังเสื่อมจากศีล สมาธิ และกังขาวิตรณญาณปัญญาได้ ดังนั้น ในภพที่ ๒ เป็นต้นไป ไฉนเลยจะเสื่อมไม่ได้ หมายความว่าสามารถเสื่อมได้แน่นอน ในเรื่องนี้มีสาธกหลักฐานดังต่อไปนี้

ในพระบาลีพุทธวงศ์ระบุไว้ว่า เมื่อตอนที่พระโพธิสัตว์ของพวกเราทั้งหลายบำเพ็ญบารมีอยู่ได้นานถึง ๔ อสงไขยแล้วจึงได้พบพระพุทธเจ้า เริ่มจากพระพุทธเจ้าโกณฑัญญะเป็นต้น และได้บวชในสำนักของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น รวมถึง ๙ ชาติ ๙ พระองค์ และในพระบาลี มัชฌิมปัณณาสก์ระบุไว้ว่า พระโพธิสัตว์ทุกท่านที่เคยบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น ต่างก็เคยบำเพ็ญคตปัจจาคตวัตร (วัตรกัมมัฏฐานอย่างหนึ่งที่ต้องกำหนดสติตลอดทั้งเวลาไปกลับจากบิณฑบาตหรือในขณะบำเพ็ญสติอยู่ เช่นเวลาเดิน ถ้าขาดสติเมื่อไร ก็จะกลับมาที่เก่า แล้วเริ่มต้นเดินใหม่) มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น จนกระทั้งเกือบบรรลุอริยมรรร กล่าวคือ เจริญวิปัสสนาจนถึงขั้นอนุโลมญาณ แล้วก็พึงพอใจอยู่เพียงแค่นั้น

viewtopic.php?f=66&t=58286

อนึ่ง ระยะกาลที่พระโพธิสัตว์ของเราทั้งหลายเสวยชาติเป็นนาคราชนั้น ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้านามว่า สุมนะ พระนามว่า วิปัสสี แล้วกาลที่เสวยชาติเป็นพยาราชสีห์ ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้านามว่า ปทุมุตตระ ซึ่งเรื่องนี้แสดงไว้ในพุทธวงค์ เราจะเห็นได้ว่าในชาดก สุตตนิบาต และในนิทานทั้งหลาย ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่แสดงเรื่องที่เกิดขึ้นในกัปนี้ได้ระบุว่า พระโพธิสัตว์เคยเป็นสัตว์เดรัจฉานมาแล้วมากมาย และจะเห็นว่าในเรื่องพระเตมีย์ใบ้นั้น มีการเกิดในนรกเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเทียบเคียงดูคำทั้งในพระบาลีและอรรถกถาแล้วจะเห็นได้ว่า แม้แต่พระโพธิสัตว์ ซึ่งบำเพ็ญวิปัสสนาถึงขั้นสังขารุเปกขาญาณที่ประเสริฐกว่า กังขาวิตรณวิสุทธิเป็นไหนๆ แต่ยังไม่พ้นไปจากอบายได้ ส่วนบุคคลสามัญซึ่งเพียงกังขาวิตรณวิสุทธิเท่านั้น จะพ้นไปได้ตลอดได้อย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้โยคีผู้ปราถนาที่จะหลุดพ้นจากทุคติอบายภูมิตลอดไป ต้องพยายามอย่างยิ่งเพื่อจะละสักกายทิฏฐิได้ด้วยโสดาปัตติมรรคจิต จะมานอนใจเพียงได้กังขาวิตรณวิสุทธิ เท่านั้นยังไม่ได้

นี่คือโอวาทที่มาในพระบาลีสังยุตตนิกาย
สตฺติยา วิย โอมฏฺโฐ ฑยฺหมาโนว มตฺถเก
สกฺกายทิฏฺฐิปฺปทานาย สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

(สํ.ส. ๑๕/๒๑/๑๕)

ภิกษุผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร พึงมีสติกำหนดตลอดเวลา เพื่อประหานสักกายทิฏฐิให้จงได้ เสมือนบุรุษผู้เสียดแทงด้วยหอกแล้วหาทางถอนหอกนั้นออกจากอกให้ได้โดยเร็วที่สุด หรือบุรุษถูกไฟไหม้อยู่บนหัว แล้วหาทางดับไฟบนหัวให้ได้โดยเร็วที่สุดฉันนั้น

๔๖๓

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2023, 09:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




13736bb9db374a34e8799d6f7cf91217.png
13736bb9db374a34e8799d6f7cf91217.png [ 184.95 KiB | เปิดดู 765 ครั้ง ]
.........

จูฬโสดาบัน ภพชาติที่ไปแน่นอนเพียงชาติที่ ๒ แน่นอน ในภพชาติที่ ๓ นั้นไม่แน่นอน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ม.ค. 2024, 09:40 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2876


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร