วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 08:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2021, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


มหาวิปัสสนา ๑๘

อฏฺฐารส มหาวิปสฺสนา นาม อนิจฺจานุปสฺสนาทิกา ปญฺญา
มหาวิปัสสนา ๑๘ คือ อนิจจานุปัสสนาปัญญา เป็นต้น
ก็มหาวิปัสสนาดังกล่าวนั้นได้แก่

ยาสุ อนิจฺจานุปสฺสนํ ภาวนฺโต นิจฺจสญฺญํ ปชหติ.
๑. ผู้ที่เจริญอนิจจานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ความไม่เที่ยง)
ย่อมละนิจจสัญญา(ความสำคัญว่าเป็นของเที่ยงแท้)

ทุกฺขานุปสฺสน๋ ภาเวนฺโต สุขสญฺญํ ปชหติ.
๒. ผู้ที่เจริญทุกขานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ความทุกข์)
ย่อมละสุขสัญญา(ความสำคัญว่าเป็นสุข)

อนตฺตานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อตฺตสญฺญํ ปชทติ.
๓. ผู้ที่เจริญอนัตตานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ อนัตตา ความไม่เป็นไปตาม)
ย่อมละอัตตสัญญา(ความสำคัญว่าเป็นตัวตน)

นิพฺพิทานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต นนฺทึ ปชหติ
๔. ผู้ที่เจริญนิพพิทานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้เพื่อให้เกิดความหน่าย)
ย่อมละตัณหา(ความยินดี)

วิราคานุปสฺสนาภาเวนฺโต ราคํ ปชหติ
๕. ผู้ที่เจริญวิราคานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้เพื่อคลายความกำหนัด)
ย่อมละราคะ(ความกำหนัด)

นิโรธานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต สมุทยํ ปชหติ
๖. ผู้ที่เจริญนิโรธานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ความดับหรือญาณที่กำหนดรู้
จนกระทั่งสังขารดับลงด้วยลักษณะที่ไม่เกิดใหม่ในภพต่อๆไป)
ย่อมละสมุทัย(ความเกิด)

ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อาทานํ ปชหติ
๗. ผู้ปฏิบัติปฏินิสสัคคานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้โดยอาการที่สลัดกิเลสความยึดมั่นว่า
เที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน และน้อมไปหานิพพาน)
ย่อมละอาทานะ(การรับเอากิเลสและอารมณ์ที่เป็นสังขาร)

ขยานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต ฆนสญฺญํ ปชหติ
๘. ผู้ที่เจริญขยานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ว่าสิ้นไป)
ย่อมละฆนะสัญญา(ความสำคัญว่าเป็นสิ่งที่เป็นปึกแผ่นเดียวกัน)

วยานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อายูหนํ ปชหติ
๙. ผู้ที่เจริญวยานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ควาทดับแห่งสังขารที่เป็นอดีต และอนาคต
โดยลักษณะเปรียบเทียบกับความดับแห่งสังขารปัจจุบัน)
ย่อมละอายูหนะ(ความสรรสร้าง)

วิปริณามานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต ธุวสญฺญํ ปชหติ
๑๐. ผู้ที่เจริญวิปริณามานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ความแปรเปลี่ยน)
ย่อมละธุวะ(ความสำคัญว่าเป็นของยั่งยืนเที่ยงแท้)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2021, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว


อนิมิตฺตานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต นิมิตฺตํ ปชหติ
๑๑. ผู้ที่เจริญอนิมิตตานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ว่า เป็นสิ่งไม่เที่ยง ไม่มีรูปทรงสัณฐาณ)
ย่อมละนิมิต กล่าวคือสังขานฆนนิมิตและนิจจนิมิตอันปรากฏออกมาในลักษณะคล้ายกับว่าของเที่ยง
เป็นของมีรูปทรงสัณฐาน

อปฺปณิหิตานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต ปณิธึ ปชหติ
๑๒. ผู้ที่เจริญอัปปณิหิตานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ว่าเป็นสิ่งที่ปราศจากความน่าปรารถนา)
ย่อมละปณิธิ(ตัณหา ความปรารถนาในสุข)

สุญฺญตานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อภินิเวสํ ปชหติ
๑๓. ผู้ที่เจริญสุญญตานุปัสสนา(ญาณที่กำหนดรู้ว่าเป็นสิ่งที่ว่างเปล่าจากอัตตา)
ย่อมละอภินิเวสะ(ความยึดมั่นถือมั่น)

อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนํ ภาเวนฺโต สาราทานาภินิเวสํ ปชหติ
๑๔. ผู้ที่เจริญอธิปัญญาธัมมวิปัสสนา(ญาณคือปัญญาอันแก่กล้าซึ่งหลังจากที่เห็นความเกิดดับ
อย่างต่อเนื่องของธรรมที่เป็นฝ่ายอารมณ์และธรรมที่เป็นฝ่ายอารัมมณิกะ(ผู้รับรู้อารมณ์นั้น)
แล้วได้ทำการกำหนดรู้สภาวธรรมเหล่านั้นว่า"นี้เป็นเพียงความดับของสังขารเท่านั้น"
ย่อมละสาราทานาภินิเวสะ(ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของมีสาระ)

ยถาภูตญาณทสฺสนํ ภาเวนฺโต สมฺโมหาภินิเวสํ ปชหติ.ยาภินิเวสํ ปชหติ
๑๕. ผู้ที่เจริญยถาภูตญาณทัสสนะ(ญาณที่ตรัสรู้เห็นนามรูปพร้อมทั้งเหตุปัจจัยตามสภาพที่เป็นจริง)
ย่อมละสัมโมหาภินิเวสะ(ความยึดมั่นชนิดแบบหลงงมงาย เช่น มีความเชื่อผิดๆว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้าง
สรรพสิ่งในโลกมีความสงสัยว่า ตัวเราเคยเกิดมาแล้วในอดีตจริงหรือ ดังนี้เป็นต้น

อาทีนวานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อาลยาภินิเวสํ ปชหติ.
๑๖. ผู้ที่เจริญอาทีนวานุปัสสนา(ญาณทีเห็นโทษของสังขารและภพทั้งปวง)
ซึ่งปรากฏในลักษณะเป็นสิ่งที่น่ากลัว ย่อมละอาลยาภินิเวสะ
(ย่อมยึดมั่นในสังขารว่าเป็นที่พึ่งพิงหรือที่อาศัย)

ปฏิสงฺขานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อปฺปฏิสงฺขํ ปชหติ
๑๗. ผู้ที่เจริญปฏิสังขานุปัสสนา(ญาณที่นำสังขารมากำหนดมาพิจารณาใหม่) ย่อมลัโมหะ
ซึ่งเป็นธรรมที่ไม่สามารถนำสังขารมากำหนดพิจารณาโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์
และเป็นของไม่ใช่ตัวตน

วิวฏฺฏานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต สํโยคาภินิเวสํ ปชหติ.
๑๘. ผู้ที่เจริญวิวัฏฏานุปัสสนา(สังขารุเปกบขาญาณและอนุโลมญาณซึ่งพิจารณาสังขารด้วยความหดหู่)
ย่อมละสังโยคาภินิเวสะ(กิเลสที่เข้าไปเกาะเกี่ยวอยู่ในสังขาร)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 83 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร