วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2021, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




FB_IMG_1633472600448.jpg
FB_IMG_1633472600448.jpg [ 37.47 KiB | เปิดดู 1516 ครั้ง ]
ความมหัศจรรย์ของทุกข์
สิ่งใดใดในโลกหรือสรรพสิ่งต่าง ๆ ล้วนตกอยู่ในกองทุกข์ทั้งหมดทั้งมวล
สัตว์โลกที่เป็นมนุษย์ หรือเทวดา ต่างก็แสวงหาความพ้นทุกข์ เช่นเดียวกัน

แต่การแสวงหาความพ้นทุกข์นั้นจะแตกต่างกันออกไป
โดยการแสวงหาสุขให้ทางตา
แสวงหาสุขให้ทางหู ให้ทางลิ้น ทางกาย เป็นต้น
หรือว่าการให้ทาน รักษาศึล เจริญภาวนา และอีกมากมาย

ทุกข์ เป็นความจริงข้อหนึ่งที่อยู่ในอริยสัจจ์
ซึ่งเป็นข้อแรกของการกำหนดรู้ แต่เราจะไปพยายามกำหนดละ
ในเมื่อยังไม่รู้จักทุกข์ ก็ย่อมจะออกจากทุกข์ไม้ได้เช่นกัน
เมื่อทุกข์เกิดต่างก็จะหนีทุกข์ เช่นว่าเมื่อยืนอยู่นานๆ อากากปวดเมื่อยก็เกิดขึ้น
นั่นแสดงว่าอาการของทุกข์กำลังปรากฏขึ้นให้เรารู้ว่าสัจจะข้อหนึ่งได้แสดงอากาาปรากฏขึ้นแล้ว

แต่เรากลับไปแสวงหาที่นั่งเสีย เพื่อให้สัจจะกำลังปรากฏนั้นหายไปเสียโดยมิได้เอา
ทุกขสัจจะนั้นมากำหนดรู้ โอกาสที่ดีๆจึงหมดไปจึงกล่าวได้ว่าทุกข์มีอยู่ในทุกกิริยาบถ
ทุกข์นี้จึงเป็นเพื่อนที่แสนดีที่อยู่กับเราตลอดเวลา

ทุกข์นั่นแหละที่จะพยายามสอนเราเพื่อให้ออกจากทุกข์ แต่เรากลับไม่สนใจ
กลับไปแสวงสุขโดยเปลี่ยนกิริยาบถใหม่เสีย เช่น ปวดอุจจาระ ปัสสาวะ ก็รีบไปทำกิจนั้นเสีย
เพื่อให้ทุกข์นั้นหายไปหวังว่าจะเอาสุขมาแทนทุกข์สัจจะที่ได้แสดงบอกหนทางออกจากทุกข์อยู่

เรากินอยู่กับทุกข์ นอนอยู่กับทุกข์ ไปไหนก็ไปกับทุกข์ โดยที่ไม่เห็นคุณของทุกข์
ผมจึงกล่าวได้ว่านี้แหละเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของทุกข์อย่างยิ่งจึงไม่ควรมองข้ามไปเสีย

จงหันมาเอาทุกข์นี่แหละมาทำการกำหนดรู้ให้ได้ เพื่อความพ้นทุกข์ที่แท้จริง
ถ้าผู้ใดเห็นทุกข์ ได้ชื่อว่าได้เห็นความมหัศจรรย์ เพราะญาณได้เกิดขึ้นแล้ว
ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้ว

ดังที่พระพุทธองค์กล่าวไว้ว่าผู้ใดเห็นทุกข์
ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต...

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ธ.ค. 2021, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




FB_IMG_1576285837311.jpg
FB_IMG_1576285837311.jpg [ 35.73 KiB | เปิดดู 1514 ครั้ง ]
การแสวงหาทางออกจากทุกข์นั้นเป็นเรื่องดีประเสริฐแท้
การแก่งแย่งกันเป็นใหญ่เป็นโตนั้นในที่สุดทุกคนก็รู้เองว่าแย่งกันเข้าไปกอดกองไฟ
มีแต่ความเร่าร้อนกระวนกระวาย เสนาบดีดื่มน้ำด้วยภาชนะทองคำ กับคนจนๆ ดื่มน้ำด้วยภาชนะ
ที่ทำด้วยกลามะพร้าว เมื่อมีความพอใจย่อมมีความสุขเท่ากัน

นี่เป็นข้อยืนยันว่าความสุขนั้น...อยู่ที่ความสุขทางใจเป็นเรื่องสำคัญ อย่างพวกเธออยู่ที่นี่
แต่ความพอใจแม้กระท่อมมุงด้วยใบไม้ด้วยหญ้าฟาง ก็มีความสุขกว่าอยู่ในพระราชฐานอันโอ่อ่า
แน่นอนทีเดียวคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น มิใช่คนใหญ่โตอะไร แต่เป็นคนที่รู้สึกว่าชีวิต
ของตนมีความสุข สงบเยือกเย็น ปราศจาดความเร่าร้อนกระวนกระวาย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 14 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron