วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 13:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2021, 12:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




SmartSelectImage_2022-01-03-06-25-37.jpg
SmartSelectImage_2022-01-03-06-25-37.jpg [ 93.18 KiB | เปิดดู 925 ครั้ง ]
โพธิปักขิยธรรม หรือ โพธิปักขิยธรรม ๓๗ เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ
เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี ๓๗ ประการ มี ๗ หมวด คือ

๑. สติปัฏฐาน ๔
๒. สัมมัปปธาน ๔
๓. อิทธิบาท ๔
๔. อินทรีย์ ๕
๕. พละ ๕
๖. โพชฌงค์ ๗
๗. มรรคมีองค์ ๘

ย่อลงในสิกขา ๓ (ศีล สมาธิ ปัญญา)

โพธิปักขิยธรรม เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามัคคีธรรม มี ๓๗ ประการคือ

๑. สติปัฏฐาน ฐานเป็นที่กำหนดของสติ

๑. การตั้งสติกำหนดพิจารณากาย (กายานุปัสสนา) = (สมาธิ)
๒. การตั้งสติกำหนดพิจารณาเวทนา(เวทนานุปัสสนา) = (สมาธิ)
๓. การตั้งสติกำหนดพิจารณาจิต (จิตตานุปัสสนา) = (สมาธิ)
๔. การตั้งสติกำหนดพิจารณาธรรม (ธรรมานุปัสสนา) = (สมาธิ)

๒. สัมมัปปธาน หลักในการรักษากุศลธรรมไม่ให้เสื่อม

๑. การเพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในตน (สังวรปธาน) = (สมาธิ)
๒. การเพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว (ปหานปธาน) = (สมาธิ)
๓. การเพียรสร้างกุศลให้เกิดขึ้นในตน (ภาวนาปธาน) = (สมาธิ)
๔. การเพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้เสื่อมไป (อนุรักขปธาน) = (สมาธิ)

๓. อิทธิบาท เป้าหมายของความเจริญ

๑. ความชอบใจทำ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น (ฉันทะ) = (ศีล)
๒. ความแข็งใจทำ เพียรหมั่นประกอบในสิ่งนั้น (วิริยะ) = (สมาธิ)
๓. ความตั้งใจทำ เอาใจฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ไม่ทอดทิ้งธุระ (จิตตะ) = (สมาธิ)
๔. ความเข้าใจทำ การใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองหาเหตุผลในสิ่งนั้น (วิมังสา) = (ปัญญา)

๔. อินทรีย์

๑. ให้เกิดความเชื่อ (ศรัทธินทรีย์) = (ศีล)
๒. ให้เกิดความเพียร (วิริยินทรีย์) = (สมาธิ)
๓. ให้เกิดความระลึกได้ (สตินทรีย์) = (สมาธิ)
๔. ให้เกิดความตั้งมั่น (สมาธินทรีย์) = (สมาธิ)
๕. ให้เกิดความรอบรู้ (ปัญญินทรีย์) = (ปัญญา)

๕.พละ

๑.ความเชื่อ (ศรัทธาพละ) = (ศีล)
๒. ความเพียร (วิริยะพละ) = (สมาธิ)
๓. ความระลึกได้ (สติพละ) = (สมาธิ)
๔. ความตั้งมั่น (สมาธิพละ) = (สมาธิ)
๕. ความรอบรู้ (ปัญญาพละ) = (ปัญญา)

๖. โพชฌงค์ องค์แห่งการตรัสรู้

๑. มีความระลึกได้ (สติสัมโพชฌงค์) = (สมาธิ)
๒. มีความพิจารณาในธรรม (ธัมมวิจยะสัมโพชฌงค์) = (ปัญญา)
๓. มีความเพียร (วิริยะสัมโพบฌงค์) = (สมาธิ)
๔. มีความอิ่มใจ (ปีติส้มโพบฌงค์) = (สมาธิ)
๕. มีความสงบสบายใจ (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์) = (สมาธิ)
๖. มีความตั้งมั่น (สมาธิสัมโพชฌงค์) = (สมาธิ)
๘. มีความวางเฉย (อุเบกขาสัมโพชฌงค์) = (สมาธิ)

๗. มรรค หนทางดับทุกข์

๑.ใช้เพื่อเห็นชอบ คือ เห็นอริยสัจ (สัมมาทิฏฐิ) = (ปัญญา)
๒. ใช้เพื่อดำริชอบ คือ ดำริละเว้นในอกุศลวิตก (สัมมาสังกัปปะ) = (ปัญญา)
๓. ใช้เพื่อเจรจาชอบ คือ เว้นจากวจีทุจริต (สัมมาวาจา) = (ศีล)
๔. ใช้เพื่อทำการงานชอบ คือเว้นจากกายทุจริต (สัมมากัมมันตะ) = (ศีล)
๕. ใช้เพื่อทำอาชีพชอบ คือ เว้นจาก การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด (สัมมาอาชีวะ) = (ศีล)
๖. ใช้เพื่อเพียรชอบ คือ สัมมัปปธาน (สัมมาวายามะ) = (สมาธิ)
๗. ใช้เพื่อระลึกชอบ คือ ระลึกในสติปัฏฐาน ๔ (สัมมาสติ) = (สมาธิ)
๘. ใช้เพื่อตั้งใจมั่นชอบ คือ เจริญฌานทั้ง ๔ และวิปัสสนา (สัมมาสมาธิ) = (สมาธิ)

รวมสิกขา ๓ ในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ หรือโพชฌงค์ ๗ ได้แก่
ศีล มี ๖ สมาธิ มี ๒๕ ปัญญา มี ๖

:b44: กดดูกระทู้ที่ต่อเนื่อง
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=57311

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ม.ค. 2022, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




SmartSelectImage_2022-01-05-11-57-09.jpg
SmartSelectImage_2022-01-05-11-57-09.jpg [ 127.15 KiB | เปิดดู 815 ครั้ง ]
โพธิปักขิยธรรม ๓๗ หรือโพชฌงค์ ๗ องค์แห่งการตรัสรู้ ประชุมลงใน อริยะมรรค ๘
ละอารมณ์ปรมัตถธรรม ไปเอานิพพานเป็นอารมณ์ เพื่อประหารกิเลสตามสมควรแก่มรรคนั้น
จนถึงการสิ้นอาสวะกิเลส

หมวด ศีล มี ๖ คือ
๑. ฉันธิบาท ๒. สัทธินทรีย์ ๓. สัทธาพละ
๔. สัมมาวาจา ๕. สัมมากัมมันตะ ๖. สัมมาอาชีวะ

หมวด สมาธิ มี ๒๕ คือ
๑. สติปัฏฐาน ๔
๒. สัมมัปปธาน ๔
๓. วิริยินธิบาท ๑
๔. จิตตธิบาท ๑
๕. วิริยินทรีย์ ๑
๖. สตินทรีย์ ๑
๗. สมาธินทรีย์ ๑
๘. วิริยะพละ ๑
๙. สติพละ ๑
๑๐. สมาธิพละ ๑
๑๑.สติสัมโพชฌงค์ ๑
๑๒. วิริยะสัมโพชฌงค์ ๑
๑๒. ปิติสัมโพชฌงค์ ๑
๑๓. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ๑
๑๔. สมาธิสัมโพชฌงค์ ๑
๑๕. อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ๑
๑๖. สัมมาวายามะ ๑ (สัมมัปปธาน ๔)
๑๗. สัมมาสติ ๑ (สติปัฏฐาน ๔)
๑๘. สัมมาสมาธิ ๑ (ฌาน ๔)

หมวด ปัญญา (รู้อริยสัจ ๔) มี ๖ คือ
๑. สัมมาทิฎฐิ ๒. สัมมาสังกัปปะ
๓. วิมังสิทธิบาท ๔. ปัญญิณทรีย์ ๕. ปัญญาพละ
๖. ธัมมะวิจยะสัมโพชฌงค์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร