ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=61606 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 24 ม.ค. 2022, 14:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ |
๑๓๒ บุคคลย่อมห้ามกามวิตกด้วยอินทรีย์ใด อินทรีย์นี้ชื่อว่า สตินทรีย์ บุคคลย่อมห้ามพยาบาทวิตกด้วยอินทรีย์ใด อินทรีย์นี้ชื่อว่า สมาธินทรีย์ บุคคลย่อมห้ามวิหิงสาวิตกด้วยอินทรีย์ใด อินทรีย์นี้ย่อมชื่อว่า วิริยินทรีย์ บุคคลย่อมละ ย่อมบรรเทา ย่อมทำให้สิ้นไป ย่อมทำให้ถึงความไม่มี ย่อมอดกลั้นอกุศลธรรมอันทราม ที่เกิดขึ้นแล้ว (คือ ไม่ยอมให้อกุศลธรรมเกิดขึ้น) ด้วยอินทรีย์ใด อินทรีย์นี้ชื่อว่า ปัญญินทรีย์ ศรัทธาที่มั่นคงในอินทรีย์ ๔ เหล่านี้ ชื่อว่า ศรัทธินทรีย์ ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ คือ ๑. ศรัทธินทรีย์ คือ ความเชื่อมั่นในอินทรีย์ ๔ กล่าวคือ ศรัทธาก่อให้เกิดวิริยะ วิริยะก่อให้เกิดสติ สติก่อให้เกิดสมาธิ สมาธิก่อให้เกิดปัญญา และปัญญาย่อมก่อให้เกิดศรัทธา อินทรีย์ ๕ เหล่านี้เป็นเหตุ เป็นผลของกันและกันอย่างนี้ ๒. วิริยินทรีย์ ห้ามวิหิงสาวิตก เพราะวิหิงสาวิตกย่อมถูกข่มไว้ด้วสวิริยะ เนื่องจากผู้ที่ปรารภความเพียร ในกุศลธรรมย่อมอดกลั้นโทษของผํอื่นได้ง่าย ๓. สตินทรีย์ ห้ามกามวิตก เพราะวิหิงสาวิตกย่อมข่มไว้ด้วยมติปัฏฐานภาวนาที่เป็นการเพ่งอสุภกรรมฐาน ๔. สมาธินทรีย์ ห้ามพยาบาทวิตก เพร่ะพยาบาทวิตกื่เป็นปัจจัยแก่ความฟุ้งซ่านและมีความทุกบ์ใจ เป็นที่ตั้งย่อมถูกข่มไว้ด้วยสมาธิที่ไม่ฟุ้งซ่านและมีสุขเป็นเหตุใกล้ ๕. ปัญญินทรีย์ ห้ามอกุศลธรรมทั้งหมด เพราะการละปฏิปักษ์ของสมาธิเป็นต้น ย่อมสำเร็จแก่ผู้มีปัญญาเท่านั้น |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 24 ม.ค. 2022, 16:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ |
ถามว่า : ในอินทรีย์เหล่านั้น สัทธินทรีย์พึงทราบ (ว่าเป็นใหญ่ในวิสัยของตน) ที่ไหน ตอบว่า : ในขณะบรรลุกระแสอริยมรรคทั้ง ๔ (มรรค ๔) ถามว่า : วิริยินทรีย์พึงทราบได้ที่ไหน ตอบว่า : ในสัมมัปธาน ๔ (วิริยะเป็นสัมมัปธาน ๔) ถามว่า : สตินทรีย์พึงทราบได้ในที่ไหน ตอบว่า : ในสติปัฏฐาน ๔ (สติเป็นสติปัฏฐาน ๔) ถามว่า : สมาธินทรีย์พึงทราบได้ที่ไหน ตอบว่า : ใน (รูป) ฌาน ๔ (เอกัคคตาเป็นองค์ฌาน) ถามว่า : ปัญญีทรีย์พึงทราบได้ที่ไหน ตอบว่า : ในอริยสัจ ๔ (สัมมาทิฏฐิเป็นอริยมรรค) โดยประการดังนี้ พระเสกขะผู้ไม่ประมาทแล้วในกุศลธรรมทั้งปวง พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญว่า เป็นผู้มีใจไม่ขุ่นมัว สมจริงดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "มีใจไม่ขุ่นมัว" |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ม.ค. 2022, 06:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ |
พระอริยบุคคลผู้บรรลุมรรคนั้นต้องมีอินทรีย์ ๕ สมดุลกัน กล่าวคือ ศรัทธาเสมอกับปัญญา และวิริยะเสมอกับสมาธิ ส่วนสติเป็นธรรมที่ปรับวิริยะกับสมาธิให้สมดุลกันเพื่อมิให้เกิดความฟุ้งซ่าน เพราะวิริยะมากกว่าสมาธิ หรือเกิดความง่วงเหงาซึมเซา เพราะสมาธิมากกว่าวิริยะ อย่างไรก็ตาม อินทรีย์ ๕ เหล่านี้มีกำลังมากในวิสัยของตนในแต่ละขณะ กล่าวคือ ๑. ศรัทธินทรีย์ มีกำลังมากในขณะบรรลุมรรคทั้ง ๔ กล่าวคือ ผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอริยะบุคคลนั้น เป็นผู้มีศรัทธาตั้งมั่นไม่หวั่นไหวอย่างแท้จริง เหมือน เสาเขื่อนที่ปักลงดินอย่างมั่นคง พระอริยะบุคคลเหล่านั้นมีพระพุทธเจ้าแนะนำตนเป็นศาสดา มีธรรมเป็นที่พึ่ง และมีพระอริยะสงฆ์เป็นเพื่อนผู้ประพฤติธรรม แม้ท่านจะไปเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา หรือพรหม ก็รู้ตัวว่าตนเป็นพระอริยะบุคคล และไม่นับถือบุคคลอื่นเป็นศาสดา ๒. วิริยินทรีย์ มีกำลังมากในสัมมัปปธาน ๔ เพราะเป็นความเพียร ที่มุ่งมั่นเพื่อละอกุศลและสั่งสมกุศลในกระแสจิตของตน ๓. สตินทรีย์ มีกำลังมากในสติปัฏฐาน ๔ เพราะทำให้จิตรับรู้สภาวธรรม ปัจจุบัน โดยไม่มีสมมุติบัญญัติ ตัวเรา ของเรา บุรุษ หรือสตรี ๔. สมาธินทรีย์ มีกำลังมากในรูปฌาน ๔ เพราะบรรลุอัปปนาสมาธิ ความจริงแล้วรูปฌาน ๔ ที่เป็นบาทของวิปัสสนา จัดเป็นสมาธินทรีย์และสัมมาสมาธิ ส่วนรูปฌาน ๔ ที่ไม่เป็นบาทของวิปัสสนา ไม่นับเข้าในเรื่องนี้นอกจากนั้น แม้มรรคจิตของบุคคลผู้ออกจากปทกฌาน คือ ฌานที่เป็นบาทของวิปัสสนา ก็มีองค์ฌานในรูปฌานนั้นๆ ประกอบร่วมกับมรรคจิต ดังนั้น ท่านจึง กล่าวว่าสมาธินทรีย์มีกำลังมากในรูปฌาน ๔ อย่างไรก็ตาม ข้อความนี้กล่าวไว้โดยอุกกัฏฐานัย คือ นัยที่แสดงความสูงสุด แม้อุปจารสมาธิ ที่เป็นบาทของวิปัสสนา และวิปัสสนาขณิกสมาธิที่มีกำลังเสมอกับอุปจารสมาธิซึ่งเรียกโดยอ้อม ว่าเป็นอุปจารสมาธิ โดยสทิสูปจาระ คือ สำนวนที่กล่าวถึงสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ก็นับว่าเป็นสมาธินทรีย์ และสัมมาสมาธิ เพราะทำให้จิตหมดจดปราศจากนิวรณ์และอยู่ใกล้อัปปนาคือมรรคผล อนึ่ง พระพุทธองค์ตรัสรูปฌาน ๔ ไว้ในที่นี้ เพราะในพระสูตรต่างๆ มักแสดงรูปฌาน ๔ เพราะ รูปฌานที่ ๔ เป็นบาทของอภิญญาที่มักกล่าวไว้ต่อจากรูปฌาน ๔ ดังนั้น พระมหากัจจายนะจึง กล่าวถึงรูปฌาน ๔ ไว้ตามนิเทศของสัมมาสมาธิในมหาสติปัฏฐานสูตร อย่างไรก็ตาม อรูปฌาน ก็เป็นบาทของวิปัสสนาได้เช่นเดียวกัน ๕. ปัญญินทรีย์ มีกำลังมากในอริยสัจ ๔ เพราะอริสัจ ๔ เป็นปรมัตถธรรม อย่างสูงสุด ผู้ที่บรรลุธรรมในพระศาสนานี้คือผู้รู้แจ้งแทงตลอดอริยะสัจ ๔ นั่นเอง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ม.ค. 2022, 17:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท่านกล่าวอินทรีย์ ๕ ไว้ดังนี้ |
บุคคลใดเจริญอริยสัจสี่ที่พระพุทธเจ้าผู้ทรงปัญญาอันลึกซึ้ง ตรัสไว้ดีแล้ว แม้ว่าท่านเหล่านั้นยังเป็นผู้หลงเพลินอย่างมากมาย แต่ท่านก็จะ ไม่เกิด ในชาติที่แปดอีก ข้อนี้เป็นพระรัตนคุณอันประเสริฐของพระสงฆ์ ด้วยสัจวาจานี้ ขอจงมีความสวัสดีๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |