ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
นิสสยปัจจัย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62336 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 23 ก.ค. 2022, 06:30 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | นิสสยปัจจัย | ||
นิสสยปัจจัย ธรรมอันเป็นที่พึ่งพิง ปัจจยธรรม หมายถึง รูปวัตถุหรือรูปกายอันเป็นส่วนสำคัญและเป็นที่อาศัยของจิตวิญญาณไ ด้แก่วัตรูป ๖ ซึ่งประกอบด้วยจักขุ, โสตะ, ชิวหา, กายะ, และหทัยวัตถุ ปัจจยุบันนธรรม ได้แก่ การรับรู้สิ่งที่มาสัมผัสอารมณ์ ๖ ประการคือ การเห็น, การได้ยิน, การได้กลิ่น, การรู้รส, การรับรู้ทางกายสัมผัส และการเข้าใจ(การรับรู้ทางใจ) ลักษณะการเกิดขึ้นของการรับรู้ทั้ง ๖ ประการที่ได้กล่าวมานี้เป็นไปในลักษณะของการอาศัยอวัยวะรูปส่วนที่เป็นฐานรองรับ(วัตถุ)ซึ่งเป็นเสมือนบ้านที่ตั่งที่อาศัยของตนนั่นเอง การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์เช่นการเห็นเป็นต้นโดยอาศัยวัตถุรูปของใครของมันเช่น การเห็น(จักขุวิญญาณ)เกิดได้ เพราะอาศัยจักขุปสาท การได้ยินเกิดขึ้นได้เพราะอาศัย โสตปสาท ดังนี้เป็นต้นก็การเกิดปรากฏการณ์แห่งสภาวะความเช่นนี้ท่านเรียกว่าการเกื้อกูลในรูปแบบของความเป็นนิสสยปัจจัย ประสาทตาดี จึงทำให้มองเห็นชัด ก็ตานี่แหละ แม้จะเป็นกรรมชรูปที่เป็นผลมาจากกรรมในอดีตชาติ แต่ก็ยังต้องมีความเกี่ยวดองกับจิตใจอยู่ เช่นหากคนเราเกิดความโกรธ จิตใจก็จะขุ่นมัวส่งผลให้วัตถุรูปเช่นจากกลุ่มประสาทมีลักษณะขุ่นมัวแดงก่ำ ไม่ใสสะอาดซึ่งสามารถเป็นเหตุให้เรามองสิ่งต่างๆได้ไม่ชัดตรงกันข้ามหากจิตใจเรามีเมตตา กรุณาต่อสัตว์ ทั้งปวงอำนาจแห่งเมตตาธาตุอันเป็นธาตุแห่งความเย็นก็จะแห่กระจายไปสู่รูปธาตุทั้งปวงเป็นเหตุให้ธาตุคือจักขุประสาทเย็น ไปสู่วิถีจิตอื่นๆ และใสสะอาดปราศจากมลทินบุรีในดวงตาเป็นธาตุนำมาซึ่งการเห็นรูปอารมณ์ชัดเจนและส่งพลังความสงบร่มเย็นนั้นให้ไปสู่วิถีจิตอื่นนๆ อันเป็นเหตุแห่งความสงบ สุขร่มเย็นทั้งตนเองและผู้อื่นได้ในที่สุด แม้ในกรณีของการได้ยินเสียงเป็นต้นก็เพิ่งทราบโดยทำนองเดียวกันนี้แล ในส่วนของหทยวัตถุรูปนั้น เพิ่งทราบว่า ในพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาท่านอธิบายว่า คือเลือดจากส่วนในของหัวใจแต่ในตามหลักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เขาบอกว่า หทยวัตถุ ก็คือสมอง จะอย่างไรก็ตามในเวลาที่คนเราเกิดอาการเหนื่อยใจอ่อนเพลียทางจิตใจจะเห็นได้ว่าทั้งการไหลเวียนของเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจและอาการปวดสมองต่างก็พากันแสดงออกมาให้เห็นเมื่อเลือดหัวใจผ่องใสหรือสมองปลอดโปร่งก็จะส่งผลให้เกิดความนึกคิดที่ปลอดโปร่งโล่งสบายเช่นกัน เนื่องจากว่าจะ จุกขุปสาทรูแ เป็นต้น ล้วนเป็นรูที่มีความบอบบางและละเอียดมากจึงทำให้ได้รับการกระทบกระเทือนง่ายชำรุดเสียหายง่ายเหมือนกับ คำพังเพย ที่เผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของดวงตา และหูไว้ว่า ตาคือดวงใจ ความปราชัย คือการเสียหู ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลาย จงตระหนักถึงความสำคัญของอวัยวะเหล่านี้ มิให้ได้รับการกระทบต่อเดือนเกิดความชำรุดเสียหาย อย่างเด็ดขาด แม้ในปสาทรูปที่เหลือก็พึงทราบว่ามีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะถ้าหากเกิดความผิดปกติ บกพร่องทางร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ชื่อว่าเป็นคนไม่สมประกอบ อาจเป็นคนที่ไม่ได้มาตรฐานของความเป็นมนุษย์ได้ หากเราทั้งหลายสูญเสียเลือดในหัวใจนั้นไซร้ ก็จะกลายเป็นคนบ้าแต่ถ้าหากสมองไม่ทำงาน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนตาย สุดท้ายนี้ขอให้ท่านทั้งหลาย จงตระหนักถึงความสัมพันธ์ของวัตถุรูป อันเป็นนิสสยปัจจัยทั้งหลายเหล่านั้น โดยการให้ความรักความทะนุถนอมบำรุงรักษาอย่าให้เจ็บไข้ได้ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บใดๆเลย
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |