ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สังขารกับนิพพาน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62392 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 29 ก.ค. 2022, 13:44 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | สังขารกับนิพพาน | ||
ภิกษุทั้งหลาย อายตนะ(อารมณ์)คือนิพพานนั้น ย่อมมีปรากฎอยู่โดยสภาว ปรมัตถ์ ก็ที่ใดไม่มีปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ไม่มีอากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ และเนวสัญญ านาสัญญายตนะ" ไม่โลก ปัจจุบัน ไม่มีโลกหน้า" ไม่มีพระจันทร์ ไม่มีพระอาทิตย์ ภิกษุทั้งหลาย ที่นั้นเป็นนิพพาน เราไม่ได้กล่าวว่า การมา การไป การตั้งอยู่ การจุติ การอุบัติ(มีอยู่)ในนิพพานนั้นเลย์# นิพพานนี้เป็นสภาวะที่ไม่มีที่ตั้ง เป็นสภาวะที่ไม่มีความเกิด-ดับ เป็นสภาวะที่ไม่รับรู้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น นิพพาน ที่ว่านี้เองเป็นความสิ้นสุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวล สังขารกับนิพพาน ยสุมา นิพุพานำ สพุพสงขารวิธุรสภาวํ, ตสุมา ยถา สงุขตธมฺเมสุ กตุถจิ นตุถิ, ตถา ตตุถปิ สพุเพ สงุขตธมฺมา, น ทิ สงขตาสงขตธมมานำ ส'โมธานํ (อุทาน. อฎ.๔๐๔) เพราะเหตุที่นิพพานเป็นสภาวธรรมที่ตรงกันข้ามกับสังขารทั้งปวง (ประดุจ ไฟกับน้ำ ความร้อนกับความเย็น ความมืดกับความสว่าง ฉะนั้น) ดังนั้น นิพพาน จึงเป็นธรรมที่ไม่มีอยู่ในสังขตธรรม(สังขาร)ใดๆ และโดยทำนองเดียวกัน สังขตธรรม ก็ไม่มีอยู่ในนิพพนนั้นเหมือนกันด้วยว่าธรรมชาติแห่งสังขตธรรมและอสังขตธรรมฟ เป็นสิ่งที่เดินสวนทางกัน ไม่มีวันที่จะบรรจบกันได้ ตราบใดที่ยังมีสังขารเกิด-ตับอยู่ก็ถือว่ายังไม่พบนิพพานและทันทีที่ถึงนิพพาน สังขารทั้งปวงก็ถึงแก่ความดับ ไม่ปรากฎให้เห็นเลย ดังนั้น นิพพานจึงได้ชื่อว่า เป็นที่สงัดจากสังขาร บุคคลสามารถรู้นิพพานได้ด้วยมรรคญาณ และในขณะที่รู้ นิพพานนั้น ตัณหาต่างๆ เช่น อปายคมนียตัณหา โอฬาริกกามตัณหา สุขุม- กามตัณหา และ รูปตัณหา อรูปตัณหา ก็ถึงแก่ความดับโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางที่ จะเกิดขึ้นได้อีกต่อไป เป็นอันว่า นิพพานได้ทำการสะสางแก้เครื่องจองจำออกแล้ว ดังนั้น นิพพานซึ่งเป็นอารมณ์ของอริยมรรค ๔ จึงเป็นที่สำหรับคลายตัณหาหรือ ดับตัณหา ดังที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า กตมญฺจ ภิกุขเว ทุกุชนิโรโธ อริยสจุจํ, โย ตสุสาเยว ตณุหาย อเสส- วิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสุสคุโค มุตติ อนาลโย... อิทํ วุจุจติ ภิกฺขเว ทุกขนิโรโธ (ม. มู. ๑๒/๑๓๔/๙๒-๔) ภิกษุทั้งหลาย อริยสัจธรรมอันเป็นที่ดับทุกข์ คืออะไร ภิกษุทั้งหลาย สภาวธรรมอันเป็นที่คลายตัณหาและดับตัณหา สลัดตัณหา ทอดทิ้งตัณหา พ้นจาก ตัณหา และเป็นที่หมดอาลัยจากตัณหานั้นโดยสิ้นเชิง นี้แหละเราเรียกว่า ทุกขนิโรธ- อริยสัจ (อริยสัจธรรมอันเป็นที่ดับทุกข์) และเมื่อใดที่ได้รับรู้นิพพานด้วยมรรคญาณ ๔ เมื่อนั้น สังขารทั้งปวงย่อมถึง แก่ความดับ ตลอดถึงกิเลสและขันธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็เป็นอันดับลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ นิพพานจึงเรียกได้ว่า เป็นที่ดับสังขารทั้งมวล เป็นที่ดับแห่งอุปธิ ๔ คือ ขันธ์ กิเลส อภิสังขาร และกามคุณ สรุปแล้ว นิพพาน ได้แก่สภาวธรรมเป็นที่ดับสิ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวล สมดัง กับที่พระบรมศาสดาได้ตรัสไว้ว่า อิทมฺปิ โข ซานํ ทุทฺทสํ, ยทิท สพุพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสุสคุโค ตณุหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. (ที. มหา. ๑๐/๖๔/๓๐) แม้ฐานะนี้ ก็ป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก ฐานะดังกล่าว ได้แก่พระนิพพานอันเป็นที่ สงบแห่งสังข้ารทั้งมาล เป็นที่สลัดจากอุปธิทั้มวล เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นที่ สำรอกต้ณทา เป็นที่ดับแห่งต้นหาแล
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |