ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อิทธิบาท ๔ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62472 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 08 ส.ค. 2022, 10:45 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อิทธิบาท ๔ | ||
โพธิปักขิยสังคหะกองที่ ๓ อิทธิบาท ๔ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโทฯ ธรรมที่เป็นเหตุให้ถึงซึ่งความสัมฤทธิผลนั้น อิทธิบาท คำว่า สัมฤทธิผล ในที่นี้หมายถึง ความสำเร็จ ถือ บรรลุถึงกุศล ฌานจิตและ มัคคจิต ฉนฺโท เอว อิทฺธิปาโทติ ฉนฺทิทฺธิปาโท ฯ ฉันทะเป็นเหตุให้ถึงสัมฤทธิผล ได้ชื่อว่า ฉันทิทธิบาท วิริโย เอว อิทฺธิปาโทติ วิริยิทฺธิปาโท ฯ วิริยะเป็นเหตุให้ถึงสัมฤทธิผล ได้ชื่อว่า วิริยิทธิบาท จิตฺตญฺเญว อิทฺธิปาโทติ จิตฺติทฺธิปาโท ฯ จิตตะ เป็นเหตุให้ถึงสัมฤทธิผล ได้ชื่อว่า จิตติทธิบาท วิมํสา เอว อิทฺธิทปาโทติ วิมํสิทฺธิปาโท ฯ วิงสา คือ ปัญญา เป็นเหตุให้ถึงสัม- ฤทธิผลได้ชื่อว่า วิมังสิทธิบาท ดังนี้จะเห็นได้ว่า องค์ธรรมของอิทธิบาทนี้ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และ ปัญญา ซึ่งเหมือนกับองค์ธรรมของอธิบดี และมีความหมายว่า เป็นไปเพื่อให้กิจการงานนั้น ๆ เป็นผลสำเร็จเหมือนกัน ถึงกระนั้นก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ กล่าวคือ อธิบดีนั้นเป็นไปเพื่อดวามสำเร็จในกิจการงาน อันเป็น กุศล อกุศล และ อพยากตะ ได้ทั้งนั้น ส่วนอิทธิบาทนี้ เป็นไปเพื่อความสำเร็จในกิจการงานอันเป็นกุศล แต่ฝ่ายเดียว และเป็นกุศลที่จะให้บรรลุถึงมหัคคตกุศล และโลกุตตรกุศลด้วย ดังนั้น ฉันทะ วิริยะ จิดตะ (กิริยาจิต) และ ปัญญา ของพระอรหันต์ จึงไม่ซื่อว่า อิทธิบาท เพราะพระรหันต์เป็นผู้ที่สัมฤทธิผลจนสุดยอดแล้ว ไม่ต้องทำให้สัมฤทธิผล อย่างใด ๆ อีก ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และ ปัญญา ที่อยู่ในโถกุตตรวิบากจิต คือผลจิตนั้น ก็ไม่ชื่อว่า อิทธิบาท เพราะผลจิตเป็นจิตที่ถึงแล้วซึ่งความสัมฤทธิผล อิทธิบาท มี ๔ ประการ คือ ๑. ฉันทิทธิบาท ความเต็มใจความปลงใจกระทำ เป็นเหตุให้สัมฤทธิ์ผล องค์- ธรรมได้แก่ ฉันทเจตสิก ที่ใน กุสลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗ ๒. วิริยิทธิบาท ความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวด เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล องค์ธรรม ได้แก่ วิริยเจตสิก ที่ใน กุสลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗ ๓. จิตติทธิบาท ความที่มีจิตจดจ่อปักใจอย่างมั่นคง เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล องค์- ธรรมได้แก่ จิต คือ กุสลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗ ๔. วิมังสิทธิบาท ปัญญา เป็นเหตุให้สัมฤทธิผล งค์ธรรมได้แก่ ปัญญาเจตสิก ที่ใน กุสลญาณสัมปยุตตจิต ๑๗ กิจการงานอันเป็นกุศลที่ถึงซึ่งความสัมฤทธิผลนั้น ย่อมไม่ปราศจากธรรมทั้ง ๘ ที่เป็นองค์ธรรมของอิทธิบาทนี้เลย แต่ว่าความเกิดขึ้นนั้นไม่กล้าเสมอกัน บางทีฉันทะกล้า บางทีวิริยะกล้า บางทีจิตตะกล้า บางทีก็ปัญญากล้า ถ้าธรรมใดกล้าแล้ว ก็เรียกธรรมที่ กล้านั่นแต่องค์เดียวว่าเป็น อิทธิบาท
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |