ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ลักษณะการปรากฏของรูปนาม
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62560
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ส.ค. 2022, 08:12 ]
หัวข้อกระทู้:  ลักษณะการปรากฏของรูปนาม

ลักษณะการปรากฏของรูปนาม

รูปและนามทั้งหลายย่อมปรากฏชัดเจนในขณะทีเห็น เช่น รูปตาทีใสที่เรียกว่า
จักขุปสาทรูป วรรณรูปที่บุคคลสามารถเห็นได้ที่เรียกว่ารูปารมณ์จิตที่ทำหน้าที่เห็น
ทีเรียกว่าจักขุวิญญาณและจิตในวิถีเดียวกันแห่งจักขุวิญญาณนั้นทั้งหลาย รวมถึง
เจตสิกที่ประกอบกับจิตทั้งหลายเหล่านั้น ก็จะปรากฎเกิดขึ้นอย่างประจักษ์แจ้งใน
ขณะที่บุคคลเห็นรูปารมณ์ ถึงกระนั้น ในบรรดารูปนามที่ปรากฎเกิดขึ้นในขณะที่
เห็นรูปารมณ์นั้นก็จะปรากฎเฉพาะรูปใดรูปหนึ่งที่มีสภาวสักษณะเป็นต้นอย่างชัดเจน
อนึ่ง การที่กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวิถีเดียวกันนั้น หมายถึง จิต ๓๔ ดวง เหล่านี้ คือ
ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง, สัมปฏิจฉนจิต ๒ ดวง, สันตีรณจิต ๓ ควง.
โวฏฐัพพนจิต ๑ ดวง, กามกุศลชวนะ ๘ ดวง, อกุศลชวนะ ๑๒ ดวง, และ
ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง, ซึ่งจิตเหล่านี้ได้เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุทวาร ซึ่งถ้าเป็นการ
นับด้วยวิธีแบบอัคคหิตคหณนัยกล่าวคือนัยที่ไม่นับเอาสิ่งที่นับไปแล้วคือไม่นับช้ำ
ก็จะได้จิดทั้งหมด ๓๕ ดวงเท่านั้น นี้คือตัวอย่างของการปรากฎรูปนามในขณะที่เห็น
แม้ในขณะที่ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส เป็นต้น ก็พึงทราบโดยทำนองเดียวกันนี้
เพราะฉะนั้น ในที่นี้ จะแสดงไว้พอเป็นแนวสังเขปเท่านั้น ก็แล จิตต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น
สามารถเปรียบเทียบได้ในขณะที่จักขุวิญญาณเกิดขึ้นนั่นเอง

ไฟล์แนป:
troll-3328570_960_720.png
troll-3328570_960_720.png [ 371.66 KiB | เปิดดู 1536 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ส.ค. 2022, 08:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ลักษณะการปรากฏของรูปนาม

ในขณะที่บุคคลได้ยินอยู่นั้น รูปนามทั้งหลาย เช่น โสตปสาทรูป สัททรูป
ที่เป็นอารมณ์หรือที่เรียกว่าสัททารณ์โสตวิญญาณกล่าวคือจิตที่ได้ยินและจิตเจตสิก
ที่เกิดขึ้นในวิถีเดียวกันกับโสตวิญญาณนั้น ก็จะปรากฎชัดในขณะที่บุคคลได้ยินเสียง

รูปนามทั้งหลาย เช่น ฆานปสาทรูป คันธารมณ์หรือคันธรูป ฆานวิญญาณที่
เป็นจิตที่ได้กลิ่น รวมถึงจิตเจตสิกที่เกิดขึ้นในวิถีเดียวกัน ย่อมปรากฏเกิดขึ้นในขณะ
ที่บุคคลได้กลิ่นหรือดมกลิ่น

รูปนามทั้งหลาย เช่น ชิวหาปสาทรูป รสารมณ์ ชิวหาวิญญาณที่เป็นจิตที่
ลิ้มรส รวมทั้งจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นในวิถีเดียวกันกับชิวทาวิญญาณนั้น ก็จะเกิด
ปรากฎชัดในขณะที่บุคคลกินหรือลิ้มรสอาหารอยู่

รูปนามทั้งหลาย เช่น กายปสาทรูป โผฎฐัพพารมณ์ ซึ่งได้แก่ ปฐวีรูปที่มีทั้ง
หยาบหรืออ่อนนุ่น เตโชรูปที่เป็นทั้งอ่อนทั้งนุ่ม วาโยรูปที่เป็นรูปเคลื่อนไหว และ
กายวิญญาณซึ่งเป็นจิตที่ทำหน้าที่กระทบสัมผัส รวมถึงจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นใน
วิถีเดียวกันกับกายวิญญาณนั้น ก็จะปรากฎชัดในขณะที่บุคคลได้สัมผัสทางกาย

ในขณะที่บุรุษและสตรีทั้งหลายเกิดจิตสำคัญว่าตนเป็นหญิงเป็นชาย อิตถิภาวรูป
ซึ่งเป็นรูปที่เป็นเชื้อให้เกิดความเป็นหญิง ปุมภาวรูปซึ่งเป็นรูปที่เป็นเชื้อให้เกิด
ความเป็นชาย ก็จะปรากฎขึ้นชัดเจนในขณะที่บุคคลมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิง
เป็นชาย นั่นเอง ส่วนในขณะที่บุคคลกลืนน้ำลาย ก็ดี หลั่งน้ำตาหรือน้ำมูกไหลเป็นตัน
ก็ดี อาโปธาตุซึ่งทำหน้าที่ไหลเอิบอาบ ก็ปรากฎชัดในขณะนั้นๆ

ในขณะที่เกิดความตรึกนึกคิดหรือทำการกำหนดพิจารณาอยู่นั้นจิตที่ทำหน้าที่
คิดหรือจิตที่ทำการกำหนดพร้อมทั้งหัวใจหรือหทยวัตถุอันเป็นที่อาศัยของจิตนั้น
ก็จะปรากฏชัดเจนในขณะนั้น อนึ่ง คำว่า จิตที่คิดนั้น หมายถึง จิต ๒๐ ดวง ที่เกิด
ขึ้นในวิถีเดียวกันซึ่งประกอบด้วยมโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง. กามกุศลจิต ๘ ดวง.
อกุศลจิตรวม ๑๒ ดวง, ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง, รวมทั้งหมด ๓๒ ดวงด้วยกัน
ส่วนจิตที่ทำการกำหนดนั้นมี ๒๐ ดวง ซึ่งประกอบด้วยมโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง
มหากุศลชวนจิต ๘ ดวง, ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง, รวมทั้งหมด ๒๐ ดวง

ไฟล์แนป:
troll-3328599_1280.png
troll-3328599_1280.png [ 432.62 KiB | เปิดดู 1534 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ส.ค. 2022, 09:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ลักษณะการปรากฏของรูปนาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในคัมภีร์อัฏฐสาลินี(หน้า ๒๐๘) ท่านได้กล่าวไว้ว่า ภาเวนฺโตบิ
เตสํเยว อญฺญตเรน ภาเวติ และในคัมภีร้อภิธัมมัตถวิภาวินีตอนที่อธิบายเจตสิก
รื่องอัปปมัญญาสัมปโยคนัย ในปริเณท ๒ ได้อธิบายไว้ว่า กทาจิ ปริจยพเล
ญาณวิปฺปยุตตจิตฺเตหิปี สมฺมสนํ ในคัมภีร์อิติวุตตกอรรถกถา(หน้า ๑๙๖) ก็ได้
กล่าวไว้เช่นกันว่า ปคุณํ สมถวิปสฺสนาภาวนํ อนุยุญฺขนฺตสฺส อนฺตรนฺตรา ญาณ-
วิปฺปยุตตจิตฺเตนาปิ มนสิกาโร ปวตฺตติ. อาศัยข้อความที่ได้ยกมาจากคัมภีร์เหล่านี้
พึงทราบว่า ในบางครั้ง วิปัสสนาชวนจิตที่เป็นญาณวิปฺปยุต ก็ยังสามารถเกิดขึ้น
ได้บ้าง นอกจากนี้ พึงทราบว่า ดทาลัมพนจิตยังสามารถกิดขึ้นได้หลังจากทีตรุณ
วิปัสสนาชวนะเกิดขึ้น คังที่ในข้อความพระบาสีจากคัมภิรัมหาปัฏฐาน(๑/๑๓๓)
ได้แสดงไว้ว่า อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺติ. กุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก
ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชติ.

ในเวลาที่โยคีกินดี่มแล้วเกิดพละกำลังขึ้นและในเวลาทีโยคีไม่ได้กินดื่มพละ
กำลังอดถอยลงนั้น โอซรูปซึ่งเรียกว่าอาหารอันมีสักษณะที่เป็นสารของอาหารนั้น
ก็จะปรากฎชัดเจน ส่วนในเวลาที่รูปทั้งหลายกล่าวคือปสาทรูป ภาวรูป และหทยรูป
ปรากฎเกิดขึ้นโดยไม่ขาดสายนั้น พึงทราบว่า ชีวิตรูปกล่าวคือรูปชีวิตซึงเป็น
สภาวะที่ทำให้รูปทั้งหลายเหล่านั้นไม่มีการหมดพละกำลังหรือไม่เสื่อมโทรมไม่
เหี่ยวย่น ก็จะปรากฎชัดในขณะนั้น อนึง ตามที่แสดงมานี้ ชี้ให้เห็นว่า ในบรรดา
สภาวธรรมที่ปรากฎโดยประจักษ์แจ้งในขณะนั้นๆ พึงทราบว่า สภาวธรรมที่
ปรากฎชัดเจนที่สุดเท่านั้นที่จะปรากฎเกิดขึ้นโดยความเป็นประธานหลัก

ไฟล์แนป:
troll-3331579_1280.png
troll-3331579_1280.png [ 365.99 KiB | เปิดดู 1534 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 28 ส.ค. 2022, 09:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ลักษณะการปรากฏของรูปนาม

ถามว่า ในบรรดาอัชฌัตตธรรมและพหิทธธรรมทั้งสองนั้น ธรรมใดที่โยคี
พึงกำหนดพิจารณา? ตอบว่า โยคีพึงกำหนดพิจารณาได้ทั้งสองอย่างนันเทียว
จะอย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัชผัดตธรรมนั้น สำหรับโยคีผู้เป็นสาวกทั้งหลายย่อม
เหมาะกับวิธีการกำหนดพิจารณาสองวิธี คือ (๑) การกำหนดพิจารณาอัชฌัตตธรรม
ด้วยปัจจักขญาณ ตามลำดับการเกิคตามสมควรแก่บารมีญาณของโยคีนั้น และ
[๒] การกำหนดเทียบเคียงด้วยอนุมานญาณในพหิทธธรรมซึ่งเป็นธรรมที่ไม่
สามารถกำหนดพิจารณาเห็นโดยประจักษ์แจ้งในขันธสันดาน แต่เป็นการ
พิจารณาเทียบเคียงกับธรรมที่ตนได้เห็นแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถทำได้ในตอน
ที่วิปัสสนาญาณนั้นแก่กล้า เพราะณะนั้น โยคีพึ่งเนันการกำหนดอัซฌัตตธรรมที่เป็น
ธรรมภายในเกิดขึ้นในชันธสันดานของตน ซึ่งขอให้พิจารณากับหลักการในคัมภีร์
ฎีกาที่ท่านได้แสดงเกี่ยวกับการสำเร็จเป็นพระอรหันต์ของพระมหาโมคคัลลานเถระ
ด้วยการกำหนดพิจารณาธรรมบางส่วน ซึ่งต่อมาได้ถือเป็นต้นแบบแห่งการกำหนด
ของพระสาวกทั้งหลาย ดังต่อไปนี้

ไฟล์แนป:
troll-3330172_1280.png
troll-3330172_1280.png [ 492.53 KiB | เปิดดู 1534 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/