ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ชีวิตินทรีย์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63149 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 05 ก.พ. 2023, 13:53 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ชีวิตินทรีย์ | ||
ชีวิตินทรีย์ [๔๓๙] ชีวิตินทรีย์ (ชีวิตินทริย์) :- ๑. มีลักษณะคือการตามรักษากรรมชรูปซึ่งเกิดร่วมกัน (สหชรูปานุปาลนลกฺขณํ) ๒. มีหน้าที่ทำให้กรรมชรูปเหล่านั้นเป็นไปได้ (ตั้งแต่อุปปาทขณะจนถึงภังคขณะ] ๓. ปรากฏ(แก่ญาณของผู้ปฏิบัติ]ด้วยการทำให้กรรมชรูปซึ่งเกิดร่วมกันเหล่านั้น ดำรงอยู่(จนถึงภังคขณะ (เตสญฺเญว ฐปนปจฺจุปฏฺฐานํ) ๔. มีมหาภูตรูปที่ตนจะพึงให้เป็นไป(ด้วยการตามรักษา ซึ่งกำลังเกิดขึ้นยังไม่ดับไป] เป็นเหตุใกล้ (ยาปยิตพฺพภูตปทฎฺฐานํ) กรรมชรูปมักดำรงอยู่เพียงชั่วขณะที่เกี่ยวกับคน แต่ชีวิตินทรีย์ตามรักษา กรรมชรูปนั้นด้วยความเป็นเหตุทำให้กรรมชรูปคำเนินไปได้ ดังนั้น จึงมีลักษณะตาม รักษากรรมชรูปซึ่งเกิดร่วมกัน เนื่องจากกรรมอย่างเดียวไม่ควรเป็นเหตุทำให้กรรมช- รูปตำรงอยู่ให้ เหมือนอาหารเป็นต้นที่เป็นเหตุทำให้อาหาระรูปดำรงอยู่ให้ เพราะกรรม ย่อมไม่มีในขณะที่เกิดกรรมชรูปนั้น ข้อความว่า "มีหน้าที่ทำให้กรรมชรูปเหล่านั้นเป็นไปใด้(ตั้งแต่อุปปาทขณะจนถึงภังคขณะ] หมายความว่า ทำให้กรรมชรูปที่เกิดร่วมกันมีกำลังดำเนินต่อไปในขณะทั้ง ๓ ของรูป คือ อุปาทขณะ ฐีติขณะ และภังคขณะ โดยทำให้กรรมชรูปที่เกิดขึ้นใหม่ๆ มีกำลังดำเนินต่อไปไม่ ขาดช่วง วิสุทธิมหาฎีกา ๒๔๓๔๑๐๖
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 05 ก.พ. 2023, 14:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ชีวิตินทรีย์ |
เมื่อลักษณะคือการตามรักษาเป็นต้นมีอยู่ ชีวิตรูปย่อมรักษากรรมชรูปที่เกิดร่วมกัน เหล่านั้นในขณะ[รูปที่ถูกรักษา]มีอยู่ เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงดอกอุบลเป็นต้น และยังรักษาธรรมเคือ รูปที่เป็นผล)ซึ่งแม้จะเป็นผลของกรรมที่เกี่ยวข้อง เหมือนพี่เลี้ยงดูแลกุมารที่เป็นบุตรของผู้อื่น อนึ่ง ชีวิตินทรีย์นั้นมักเป็นไปเนื่องด้วยรูปธรรมที่ตนเองให้เป็นไป ประดุจนายเรือไป หร้อมกับเรือที่ตนพาย] มิได้เป็นไปภายหลังภังคขณะ เพราะไม่มีตนและรูปที่จะพึงให้เป็นไป อีก ทั้งไม่อาจทำให้รูปที่เกิดร่วมกันดำรงอยู่ในภังคขณะที่ตนเองกำลังดับไปอยู่ ประดุจใส้และน้ำมัน กำลังดับไม่อาจคงเปลวไฟให้ตั้งอยู่ให้ แต่ก็ยังสามารถตามรักษา การให้เป็นไป และการทำให้ ดำรงอยู่ เพื่อทำให้สำเร็จหน้าที่นั้นๆ ในขณะตามที่กล่าวมาแล้ว (คือ ตั้งแต่อุปปาทขณะจนถึง ภังคขณะ] คัมภีร์ปรมัตถที่ปนีฎีกา"ㆍ อธิบายชีวิตรูป ตังนี้ ชีวิตรูป คือ รูปที่ทำให้ธรรมซึ่งเกิดร่วมกันดำรงอยู่ได้ อินทรีย์ ถือ รูปที่ทำตนให้เป็นใหญ่ เพราะประกอบด้วยความเป็นใหญ่ในการ ตั้งอยู่ของรูปที่เกิดร่วมกันดังกล่าว ชีวิดินทรีย์ คือ ชีวิตรูปที่เป็นใหญ่ เปรียบเหมือนดอกอุบล ชีวิตินทรีย์มีลักษณะตามรักษารูป[อื่น)ที่เกิดร่วมกัน เป็นตันที่เกิดจากเมล็ด แม้ว่าเมล็ดจะผุพังไปก็มีน้ำหล่อเลี้ยงคงอยู่ได้ตลอดกาลนาน เช่นเดียวกัน กรรมชรูปที่เกิดจากกรรมซึ่งดับไปแล้ว แม้ไม่มีกรรมอยู่ก็มีชีวิตินทรีย์ตาม รักษา ก็ดำรงอยู่ใด้อย่างต่อเนื่องตลอดร้อยปีบ้าง พันปีบ้าง กัปหนึ่งบ้าง หนึ่งหมื่น หกพันกัปบ้าง |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 05 ก.พ. 2023, 15:00 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ชีวิตินทรีย์ | ||
โดยความพิสดารดังนี้ รูปอื่นที่ปราศจากชีวิตินทรีย์ก็ย่อมดำรงอยู่ไปได้ เพราะเมื่อ จิต อุตุ พรืออาหารที่เป็นเหตุดับไป รูปดังกล่าวย่อมดับไป ไม่อาจจะสืบต่อกระแสรูป ต่อไปได้อีก ความจริงในบรรดารูปเหล่านั้น ส้นตติปัจจุบัน (เปัจจุปันต่อเนื่อง) ของจิตตช รูปมีกำทนดด้วยวิถีจิตหนึ่ง ชวนวาระหนึ่ง หรือสมาปัตติวาระหนึ่ง ส่วนส้นตติปัจจุบัน ของอุตุชรูปและอาทารชรูปมีกำหนดไว้ด้วบอุตุและอาทารอย่างหนึ่งที่มีสภาพเหมือนก้น แต่กรรมชรูปไม่มีสันตติปัจจุบันโดยเฉพาะ มีแต่อัทธาปัจจุบัน (ปัจจุบันโดยระยะกาล) ที่ กำหนดด้วยภพหนึ่ง ถามว่า : นามธรรมมีอัทธาปัจจุบันได้อย่างไร หากเป็นเพราะดำรงอยู่ได้ด้วย การประกอบกับชีวิตินทรีย์เจตสิก นามธรรมก็มีสันตติปัจจุบันได้มิไช่หรือ ? ตอบว่า : ก่อนอื่นถ้าจะเปรียบกับนามธรรม กรรมชรูปก็เหมือนกับวิปากจิต กล่าวคือ เมื่อวิถีจิตไม่เกิดขึ้น วิปากจิตจักดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายตลอดชีพ ส่วนกุศลจิต อกุศลจิต และกิริยาจิตอื่นย่อมเกิดขึ้นเพราะมีอารมณ์มาปรากฏ แม้เมื่อ อารมณ์นั้นดับแล้ว กระแสจิตจำนวนมากที่รับรู้อารมณ์ซึ่งดับไปแล้วนั้นย่อมดำเนินต่อไป ได้ด้วยอำนาจของชีวิตินทรีย์เจตสิก อีกอย่างหนึ่ง เนื้อความนี้กล่าวไว้โดยความที่กระแสจิตเป็นไปไม่ขาดช่วงด้วย ความเป็นอนันตรปัจจัยตราบจนถึงการดับขันธ์ ดังพระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า กิเลลสีสํ อวิชฺชา, ปวตฺตลีสํ ชีวิตินฺทริยํ. อวิซซาเป็นผู้นำของกิเลส ชีวิตินทรีย์[ที่เป็นทั้งรูปและนาม เป็นผู้นำของการเกิด ในคัมภีร์วิภาวนีกล่าวว่า ยถาสกํ ขนมตฺตฎจายีนํปี หิ สหชาตานํ ปวตฺติเหตุภาเวน อนุปาลกํ. น หิ เตส่ กมฺมํเยว จิติการณํ โหติ อาหารซาทีนํ อาหาราทิ วิย กมฺมสฺส ตงฺขณาภาวโต. ชีวิตรูปตามรักษาโดยการทำให้กรรมชรูปที่เกิดร่วมกันดำรงอยู่ชั่วขณะ
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 05 ก.พ. 2023, 15:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ชีวิตินทรีย์ |
ตามสมควร เพาะกรรมอย่างเดียวมีได้ทำให้กรรมชรูปดำรงอยู่ได้ เนื่องจากกรรมไม่มือยู่ใน ปัจจุบันเหมือนดังอาหารเป็นต้นที่ทำให้อาหาาขรูปดำรงอยู่ได้ โดยมุ่งหมายว่า "อาหารเป็นต้น ทำให้อาหารชรูปเกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้ เพราะปรากฏในปัจจุบัน ขณะ ส่วนกรรมทำให้เกิดกรรมชรูป แต่มีได้ทำให้กรรมชรูปดำรงอยู่เพราะไม่ปรากฎใน ปัจจุบันขณะ การที่กรรมชรูปดำรงอยู่ได้ชั่วขณะเพราะมีชีวิตรูปตามรักษา" ข้อความนั้นไม่สมควร เพราะการที่รูปธรมดำรงอยู่ชั่วขณะเป็นสภาพเนื่องด้วย ปัจจัยที่เกิดร่วมกันในรูปกลาปหนึ่ง มิได้เนื่องด้วยปัจจัยที่ทำให้เกิดรูปขึ้นในรูปกลาปต่างกัน มิเช่นนั้นพระพุทธองค์ก็พึงตรัสว่า ซรตารูปซึ่งเกิดในฐิติขณะเกิดจากเหตุอย่างใด อย่างหนึ่งเหมือนอุปจยรูปและสันตติรูปที่เกิดในอุปปาทขณะ อีกอย่างหนึ่ง การดำรงอยู่ชั่วขณะสำเร็จโดยสภาวะ ธรรมที่เกิดขึ้นแล้วย่อมไม่ ดับไปในระหว่างโดยไม่ตั้งอยู่ครบขณะของตนเพราะปัจจัยบกพร่องไป ทั้งไมตั้งอยู่นาน กว่าเดิมเพราะมีปัจจัยมาก ดังนั้น อาหารเป็นต้นที่อุปถัมภ์ในฐิติขณะและชีวิตรูปที่ตาม รักษาอยู่จึงอุปถัมก็รักษาให้กระแสรูปที่มีกำลังเกิดขึ้นได้ในภายหลัง มิไช่เพื่อให้เป็นไปใน ฐิติขณะ ข้อความนี้แสดงว่า ฐิติขณะของรูปธรรมกับนามธรรมทั้งหมด ไม่ใช่เนื่องด้วย ปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นซึ่งปรากฏอยู่ หรือเกี่ยวกับชีวิตินทรีย์(ที่เป็นทั้งรูปและนาม ถ้าข้อความในคัมภีร์วิภาวนีหมายถึงความเป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นสันตติบัญญัติ ข้อนั้นย่อมสมควร แม้ข้อความในคัมภีร์อรรถกถาก็พึ่งพิจารณาแล้วถือเอาโดยหมายถึง การดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องดังข้อความเป็นตันว่า สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เต ธมฺเม ปาเลติ. เมื่อลักษณะคือการตามรักษาเป็นตันมีอยู่ ชีวิตรูปย่อมรักษาธรรมเหล่านั้นในขณะ กำลังเกิดขึ้น อนึ่ง ชีวิตรูปนี้ดำรงอยู่ซึมซาบทั่วร่างกายที่มีใจครองทั้งหมดรวมทั้งไฟธาตุย่อย อาหาร อภิ.ส่.อ ๑๔๑๗๓ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |