ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

อัปปนาวิถี
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63445
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 มี.ค. 2023, 07:17 ]
หัวข้อกระทู้:  อัปปนาวิถี

อัปปนาชวนวิถี

(รูปาวจรชวนจิตดังกล่าวประกอบด้วยวิตก วิจาร ปีติ สุข และจิตเตกัคคตาที่มี
กำลังกว่า(วิตกเปินต้นที่มีใน)จิตปกติ(คือกามาวจรจิต เพราะถึงสภาวะปรากฎชัดเจนด้วย
กำลังภาวนา) ได้ชื่อว่า

๑. บริกรรม เพราะเริ่มปรุงแต่ง[ให้เกิด]อัปปนา
๒. อุปจาระ เพราะอยู่ใกล้อัปปนา หรือเพราะดำเนินไปใกล้อัปปนา เปรียบดั่ง
สถานที่ใกล้หมู่บ้านเป็นต้น ได้ชื่อว่า คามูปจาระ (ที่ใกล้หมู่บ้าน), นครูปจาระ (ที่ใกล้เมือง)
๓. อนุโลม เพราะเกื้อกูลแก่บริกรรมในนานาวัชชนวิถี (วิถีที่มีอาวัชชนจิตต่าง
กัน) ซึ่งอยู่หน้าเอกาวัชชนวิถี (วิถีที่มีอาวัชชนจิตดวงเดียวกัน) นี้ และเกื้อกูลแก่อัปปนา
ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
๔. โคตรภู หมายเฉพาะจิตดวงที่ ๓ หรือที่ ๔ สุดท้ายของชวนจิต ๓ หรือ
๔ ควงคือบริกรรม อุปจาระ และอนุโลมเหล่านี้ เพราะข้ามพันโคตรฝ่ายกามาวจร และ
ก่อให้เกิดโคตรฝ้ายมหัคคตะ

นานาวัชชนวิถื คือ วิถีที่มีอาวัชชนจิตต่างกันกับอัปปนา หมายความว่าในวิถีจิต
จำนวนมากที่เจริญภาวนาเพื่อให้บรรลุฌาน ก่อนจะบรรลุฌานมีอาวัชชนจิตเกิดขึ้นมากมาย
ตามวิถีจิตดังกล่าว แม้อาวัชชนจิตของอัปปนาชวนะที่นับเข้าในอัปปนาวิถีก็เป็นคนละ
ดวงกัน ดังนั้น ภาวนาวิถีก่อนจะบรรลุณานจึงมีอาวัชชนจิตต่างกัน

เอกาวัชชนวิถื คือ วิถีที่มีอาวัชชนจิตดวงเดียวกันกับอัปปนา หมายความว่า
อาวัชชนจิตของกามาวจรชวนะที่เรียกว่า บริกรรม อุปจาระ อนุโลม และโคตรภู ซึ่งเป็น
ดวงเดียวกันกับอาวัชชนจิตของอัปปนาชวนะ

กามาวจรชวนะที่เป็นาาวนาจิตอันนับเข้าในอัปปนาวิถี เกื้อกูลแก่บริกรรมภาวนา
ในวิถีจิตต่างกันที่อยู่ข้างหน้า และเกื้อกูลแก่อัปปนาชวนจิตที่จะเกิดขึ้นต่อไป ดังนั้น อนุโลม
จึงเป็นชวนจิตที่เกื้อกูลแก่บริกรรมภาวนาในวิถีจิตต่างกันที่เกิดขึ้นก่อนอนุโลม และเกื้อกูล
แก่อับปนาที่จะเกิดขึ้นต่อไปในวิถีจิตเดียวกัน

ไฟล์แนป:
20230329_065408.jpg
20230329_065408.jpg [ 54.44 KiB | เปิดดู 1062 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 30 มี.ค. 2023, 18:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: อัปปนาวิถี

อัปปนาเกิดชั่วขณะจิตเดียว

อัปปนานั้นเกิดขึ้นชัวขณะจิตเดียวเท่านั้น กล่าวคือ การกำหนดระยะกาลไม่มี
ในฐานะทั้ง ๗ [เพราะบางฐานะมีขณะจิตไม่จำกัดจำนวน บางฐานะกีมีขณะจิตน้อยยิ่งนัก
เนื่องจากไม่มีชวนวิถีที่บริบูรณ์แน่นอนในฐานะเหล่านั้น ดังนี้

๑. อัปปนาจิตที่เกิดครั้งแรก(ในขณะเริ่มบรรลุฌาน) มีขณะจิตเดียวเท่านั้น
๒. โลกิยอภิญญาจิต (รูปาวจรกุศเจิตหรือรูปาวจรกิริยาจิตดวงที่ ๕ ตามปัญจก-
นัย) มีขณะจิตเดียวเท่านั้น
๓. มรรดจิด ๔ มีขณะจิตเดียวเท่านั้น
๔. ผลจิตที่เกิดต่อจากมรรคจิต ไม่มีเกิน ๓ ขณะจิต
๕. ฌานจิตที่เป็นภวังค์ในรูปภูมิและอรูปภูมิ ไม่จำกัดจำนวน
๖. เนวสัญญานาสัญญายตนฌานที่เป็นปัจจัยแก่นิโรธสมาบัติ ไม่มีเกิน ๒ 'ขณะจิต
๗. ผลสมาบัติของพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติ มีขณะ
จิตเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุดังกล่าว อัปปนาจึงเกิดขึ้นชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น แต่นั้นก็ตกภวังค์
ต่อจากนั้น อาวัชชนจิตย่อมเกิดขึ้นเพื่อตัดภวังค์แล้วพิจารณาฌาน หลังจากนั้นจึงเกิด
ปัจจเวกขณชวนจิตที่พิจารณาฌาน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/