ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
การบรรลุทุติยฌาน http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63479 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 01 เม.ย. 2023, 09:51 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | การบรรลุทุติยฌาน | ||
การบรรลุทุติยฌาน [อนึ่ง ผู้เพียรปฏิบัติที่สั่งสมวสี ๕ เหล่านี้จนชำนาญแล้ว ออกจากปฐมฌาน ที่คล่องแคล่ว พิจารณาว่า (ปฐมฌานสมาบัตินี้อยู่ใกล้ปฏิปักษ์คือนิวรณ์ (พราะละนิวรณ์ ได้เป็นครั้งแรก) และมีองค์ฌานอ่อนกำลัง เพราะวิตกและวิจารเป็นสภาพหยาบ จึงเห็น โทษในปฐมฌานนั้นแล้ว ไฝ่ใจ[ทุติยฌาน]ว่าสงบ แล้วคลายความยินติในปฐมฌาน ควรทำ ความเพียรเพื่อบรรลุทุติยฌานเถิด ลำคับนั้น ครั้นเธอออกจากปฐมผาน มีสติสัมปธัญญะพิจารณาองค์ฌานอยู่ วิตก วิจารย่อมปรากฏว่าเป็นองค์หยาบ ปีติ สุข และเอกัดคตาปรากฏว่าละเอียด เมื่อนั้น ครั้นเธอเพ่งไปฏิภาคนิมิตนั้นอยู่บ่อยๆ ว่า ปฐวี ปฐวี (ดินๆ) เพื่อละองค์ฌานหยาบ บรรลุองค์ฌานละเอียด มโนทวาราวัชชนจิตที่ตัดภวังคจิตแล้วรับเอาปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ ย่อมเกิดขึ้น (ในชวนวาระที่ควรกล่าวว่า "บัดนี้ ทุติยฌานจักเกิดขึ้น" ต่อแต่นั้น ชวนจิต ย่อมแล่นไปในปฐวีกสิณอารมณ์นั้น ๔ ขณะบ้าง ๕ ขณะบ้าง (ตามสมควรแก่ดิกขบุคคล และมันทบุคคล)] วิสุทธิมรรคนิสสัย (เล่ม ๑ หน้า ๔๗๙) อธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อความว่า สัมปชัญญะ" หมายถึง การมีสติในการพิจารณาองค์ฌานหลังจากออกจากฌานแล้ว ถ้าปฏิบัติ ปฏิบัติมิได้พิจารณาองค์ฌานเช่นนั้น แต่ไปคิดเรื่องราวอื่น ก็จะทำให้เวลาหมดสิ้นไปโดย เปล่าประโยชน์ ส่วนสัมปชัญญะคือการพิจารณาว่ามีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ (สาตถก- สัมปชัญญะ) และการพิจารณาว่าสมควรหรือไม่สมควร (สัปปายสัมปชัญญะ) หมายถึง ความเข้าใจว่าการพิจารณาองค์ฌานในขณะนี้มีประโยชน์เพื่อให้บรรลุฌานขั้นสูงต่อไป และ เวลานี้ก็เหมาะสมเพื่อพิจารณาองค์ฌาน เพราะเพิ่งออกจากฌานไม่นาน องค์ฌานจึงปรากฏ ชัดเจนอยู่ ดำนั้นมิใช่หมายถึงโคจรสัมปชัญญะและอสัมโมหสัมปชัญญะ เพราะไม่เกี่ยวกับ การปฏิบัติเพื่อพัฒนาสมาธิและปัญญา ในจิตดวงสุดท้ายของชวนจิตดังกล่าว ชวนจิตควงหนึ่ง (ดวงที่ ๔ หรือที่ ๕ รูปาวจรทุติยฌานชวนจิต ชวนจิต (๓ หรือ ๔ ดวง) ที่เหลือ เป็นกามาวจรชวนจิตที่ได้กล่าว ประเภทไว้แล้วเว่าเป็นบริกรรม อุปจาระ อนุโลม และโคตรภู] อนึ่ง ด้วยลำคับภาวนาเพียงเท่านี้ ผู้เพียรปฏิบัตินั้นเข้าถึงทุติยถานที่มีใจภายใน ผ่องใส อันยังสมาธิให้เกิดขึ้น เพราะวิตกวิจารระงับลง ไม่มีวิตกและวิจาร มีปีติและสุข อันเกิดจากสมาธิอยู่ เธอได้บรรสุทุติยฌานที่มีปฐวีกสิณเปินอารมณ์ ละองค์ ๒ ประกอบ ด้วยองค์ ๓ มีความงาม ๓ ถึงพร้อมด้วยลักษณะ ๑๐ ด้วยประการฉะนี้ ประโยคที่กล่าวถึงการบรรลุทุติยฌานว่า วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺ- ปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺก่ อวิจารํ สมาธิชั ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ (เข้าถึงทุติยฌานที่มีใจภายในผ่องใส อันยังสมาธิให้เกิดขึ้น เพราะวิตกวิจารระงับลง ไม่มีวิตก และวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิอยู่) พบในพระไตรปิฎกหลายแห่ง"* ท่านจะอธิบาย ความหมายของบทเหล่านั้นต่อไป
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 01 เม.ย. 2023, 10:55 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: การบรรลุทุติยฌาน | ||
คำอธิบาย วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา (เพราะวิตกวิจารระงับลง) [๔๘๐] ในคำอธิบายทุติยฌานนั้น คำว่า วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา (เพราะวิตกวิจาร ระงับลง) หมายความว่า เพราะการระงับคือล่วงพันธรรมทั้ง ๒ เหล่านี้ คือ วิตกและวิจาร ความหมายก็คือ เพราะวิตกวิจารไม่ปรากฎในขณะเข้าถึงทุติยฌาน ในเรื่องนั้น แม้ธรรมที่เป็นปฐมฌานทั้งหมดไม่มีอยู่ในทุติยฌาน เพราะผัสสะ เป็นต้นในปฐมฌานและทุติยฌานนี้แตกต่างกัน แต่หึงทราบว่าได้ตรัสอย่างนี้ว่า วิตกฺก วิจารานํ วูปสมา (เพราะวิตกวิจารระงับลง) เพื่อแสดงว่าการบรรลุทุติยฌานเป็นต้นอื่นจาก ปฐมฌานย่อมมีได้เพราะล่วงพ้นองค์หยาบๆ คำอธิบาย อชฺฌตฺตํ (ภายใน) พระพุทธองค์ทรงประสงค์เอาธรรมที่เกิดขึ้นในคน (นิยกัชมัตตะ)ในคำว่า อชฺฌตฺตํ (ภายใน) นี้ ดัง[ฌาน]วิภังค์ตรัสเพียงเท่านี้ว่า อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ (เป็นภายใน คือ เฉพาะตน) ดังนั้น คำว่า อชฺฌตฺตํ นี้จึงมีความหมายว่า เกิดขึ้นในตน คือ เกิดขึ้นในกระแส จิตของตน เพราะทรงประสงค์เอานิยกัชมัตตะ ธรรมที่เรียกว่า อัชมัตตะ ที่ตรัสไว้ในที่ต่างๆ จำแนกออกเป็น ๔ ประการตามฐานะ คือ ๑. โคจรัชฌัดตะ อารมณ์ที่บุคคลกำหนดรู้ด้วยสมถะหรือวิปัสสนา ๒ นิยกัชฌัดตะ หมู่ธรรมที่เกิดขึ้นในตน ๓. อัชฌัตตัชฌัตตะ อายตนะภายใน ๖ ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ๔ วิสยัชฌัตตะ สิ่งที่พระพุทธเจ้าเป็นใหญ่ในจิตของพระองค์ ได้แก่ ผล- สมาบัติ เพราะพระองค์สามารถข้าผลสมาบัติในทุกขณะที่ต้องการ อัชฌัตตะในที่นี้ป็นนิยกัชมัตตะ คือ ฌานที่เกิดขึ้นในตน เพราะในพระบาลืฌานวิภังค์ ตรัสอธิบาย อชฺฌตฺตํ (เป็นภายใน) ด้วยบทที่มีความหมายคล้ายกันว่า ปจฺจตฺตํ (เฉพาะตน) จึงหมายถึงนิยกัชมัตตะในที่นี้ ดังข้อความในพระบาลีว่า อชฺฌตฺตนฺติ ยํ อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺตํ คำว่า อชฺฌตฺตํ (ภายใน) คือ ฌานใดเป็นภายใน คือ เฉพาะตน" คำว่า อชฺฌตฺต มาจาก อธิ (เกิดขึ้น) + อตฺต (ตน) ส่วนคำว่า ปจฺจตฺต มาจาก ปติ (เฉพาะ) + อตฺต (ตน) คำทั้งสองมีรูปวิเคราะห์ว่า - อตฺตนิ ชาตํ อชฺฌตฺตํ - ฌานที่เกิดขึ้นในตน ชื่อว่า อัชมัตตะ (อัพยยีภาว- สมาส อธิ ศัพท์ + อตฺต ศัพท์) - อตฺตาน อตฺตาน ปติ ปจฺจตฺตํ = เฉพาะตนๆ ชื่อว่า ปัจจัตตะ (อัพยยีภาวสมาส ปติ ศัพท์ + อตฺต ศัพท์)
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |