วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 14:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2023, 17:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20231118-160636_Google.jpg
Screenshot_20231118-160636_Google.jpg [ 97.39 KiB | เปิดดู 1560 ครั้ง ]
คำว่า เหตุ ในเหตุปัจจัย หมายถึงเหตุที่เป็นมูลเป็นรากเหง้า
เมื่อประกอบกับจิตทำให้จิตมีกำลังแข็งแรงมั่นคง เช่น บุคคลที่ปฏิสนธิ
ด้วยติเหตุ มีปัญญาประกอบก็มีความสามารถดีกว่าบุคคลทวิเหตุ บุคคล
ทวิเหตุก็ดีกว่าบุคคลอเหตุ
บุคคลติเหตุ เมื่อทำกุศลก็สามารถทำให้เกิด
ฌาน อภิญญา สมาบัติ มัค ผล ได้ แม้ทำาอกุศลก็ทำได้แนบเนียน แยบ
คายมีอุบายลึกซึ้ง เพราะมีปัญญาเป็นกำลังแข็งแรง
ถ้าบุคคลทวิเหตุทำ
สมถะก็จะได้ถึงอุปจารสมาธิ ทำวิปัสสนาสามารถเห็นไตรลักษณ์ได้ แม้ทำ
อกุศลก็ทำได้แยบคายเหมือนกัน แต่ก็สู้คนติเหตุไม่ได้
ส่วนบุคคลอเหตุเป็นคนบ้าใบ้ บอดหนวก ปัญญาอ่อน ทำกุศลได้ยาก แม้ทำอกุศลได้ก็ไม่
แข็งแรง ได้แต่ทำตาม ๆ เขา สักแต่ว่ากระทำเท่านั้น

อีกอย่างหนึ่ง คำว่า เหตุในเหตุปัจจัย ยังหมายถึงส้มปยุตตเหตุ
คือเหตุที่ประกอบพร้อมกับจิตด้วย เช่น กุศลเกิดขึ้น มีกุศลเหตุเข้า
ประกอบ และกุศลเหตุที่ประกอบนี้ ก็ทำให้กุศลจิตมีกำลังมาก น้อยตาม
เหตุที่ประกอบ
เหตุในเหตุปัจจัย จึงหมายถึง เหตุที่เป็นมูล เป็นราก
เหง่า และเป็น สัมปยุตตเหตุที่เกิดพร้อมกันในจิตดวงเดียวกันด้วย เหตุ
ในเหตุปัจจัย ไม่ใช่ เป็นเหตุให้กุศลหรือ อกุศลและอัพยากตะที่ยังไม่เกิดให้
เกิดขึ้น เพราะเหตุที่ทำให้เกิดกุศล อกุศล และ อัพยากตะนั้นมีอยู่ คือ

กุศล
เกิดขึ้นได้ด้วยอำนาจของโยนิโสมนสิการ ที่เคยทำบุญ
ไว้ในกาลก่อนเป็นปัจจัย

อกุศล
เกิดด้วยอำนาจของอโยนิโสมนสิการที่เคยทำบาป
ไว้ในกาลก่อนเป็นปัจจัย

อัพยากตะ
คือวิบากจิตเกิดจากกรรม คือ กุศลกรรม อกุศลกรรม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2023, 05:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20231118-155844_Facebook.jpg
Screenshot_20231118-155844_Facebook.jpg [ 120.77 KiB | เปิดดู 1445 ครั้ง ]
ของพระอนาคามี หรือพระหันต์ที่เข้านิโรสมาบัติแม้จิต เจตสิก จิตตชรูป
ดับหมด แม้แต่กัมมชรูปก็ยังตั้งอยู่ได้ ส่วนปฏิสนธิกัมมชรูปเป็นรูปที่ต้องอาศัย
จิตเกิด เพราะปฏิสนธิจิตไม่เกิดขึ้นก่อนกัมมชรูปก็เกิดไม่ได้ ดังที่กล่าวใน
ปฏิจสมุปบาทว่า "วิญญาณป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป" คือ นาม รูป
ปรากฏมีได้ก็เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย เมื่อวิญญาณนั้นตั้งมั่นล์แล้ว การ
หยั่งลงของนามรูปจึงมีได้ เพระฉะนั้นกัมมชรูปในขณะปฏิสนธิจึงมีฐานะ
เทียบเท่ากับจิตตชรูป เพราะรูปนั้นต้องอาศัยปฏิณธิจิตเกิดก่อน แต่ส่วนใน
ปวัตติกาลถึงแม้จิตจะมีอยู่ด้วย แต่รูปนั้นก็เป็นไปเนื่องกับกรรมในอดีต เท่านั้น
กัมมรูปเหล่านั้นไม่ต้องอาศัยจิตในปัจจุบันเลย ดังท่านอุปมาว่า กรรมเปรียบ
เหมือนเนื้อนา หรือที่ดิน ปฏิสนธิวิญญาณเปรียบเหมือนเมล็ดพืช
ความอยาก คือตัณหาเปรียบเหมือนยางในพืช กิเลสเปรียบเหมือนน้ำ
กัมมชรูปเปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีอยู่ในเมล็ดพืช หมายความว่า รูปที่เกิด
จากกรรมในครั้งแรก จะเกิดได้ต้องอาศัยเมล็ดพืชเกิดก่อน ถ้าเมล็ดพืชไม่
มึ ถึงแม้จะมีดินกับน้ำ ตันไม้ก็เกิดไมได้ ต่อเมื่อต้นไม้นั้นอาศัยเมล็ดพืช
เกิดขึ้นแล้ว ต่อไปก็ไม่จำเป็น ต้องอาศัยเมล็ดพืซอีก อาศัยแต่เพียงที่ดินกับน้ำ
ต้นไม้ก็เจริญเติบโตตั้งอยู่ได้ ฉันใด รูปที่เกิดจากกรรมในปวัตติกาลก็อาศัย
แต่กรรมในอดีตอย่างเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องอาศัยจิตในปวัตติกาลเลย
เพราะฉะนั้นปัจจยุบบันของเหตุปัจจัย จึงเอาแต่ปฏิสนธิกัมมชรูปอย่างเดียว
ไม่เอา ปวัตติกัมมชรูป

ส่วนรูปที่เกิดไนปฏิสนธิกาล เกิดได้แต่ก้มมชรูปอย่างเดียว
จิตตชรูป ยังเกิดไม่ได้ เพราะปฏิสนธิจิตเพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกยังมีกำลังไม่พอ
เนื่องจากปฏิสนธิจิตนั้นถูกกำลังของกรรมซัดมา ทั้งวัตถุรูปคือหทยวัตถุก็ยัง
ตั้งไม่มั่นคง ดังนั้นปฏิสนธิจิตจึงยังไม่มีกำลังให้รูปเกิดขึ้นได้ จิตตชรูป
จึงไม่เกิดในปฏิสนธิกาล ท่านอรรถกถาจารย์ จึงได้เปรียบจิตขณะนั้นว่า
เหมือนบุรุษที่โจนมาจากหน้าผามาตกที่ตลิ่งชัน ขณะนั้นย่อมไม่สามารถจะ
ทำศิลปะใดๆให้เกิดได้ฉันใด ปฏิสนธิจิดที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกก็ไม่สามารถ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2023, 06:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20231118-160533_Google.jpg
Screenshot_20231118-160533_Google.jpg [ 79.78 KiB | เปิดดู 1444 ครั้ง ]
ให้เกิดจิตตชรูปได้ฉันนั้น แต่ท่านก็กล่าวว่า กัมมชรูปที่เกิดในปฏิสนกาล
นั้นแหละย่อมมีฐานะเหมือนกับจิตตชรูป เช่นกัน เพราะถ้าปฏิสนธิจิตไม่เกิด
กัมมชรูปก็เกิดไม่ได้ ต่อเมื่อปฏิสนธิแล้ว ภวังค์ดวงแรกเกิดขึ้น ที่เรียกว่า
ปฐมภวังค์ จิตตชรูปจึงได้เกิดขึ้นตั้งแต่อุปาทขณะของจิตจนถึง ๑๗ ขณะ
จิดก็ดับ และก็เกิดเรื่อยมาทุกๆอุปาทขณะของจิตทุกๆดวง จนถึงอุปาทขณะ
ของจุติจิต (เวันทวิปัญจ. ๑๐ อรูป.วิ. ๕ จุติจิดพระอรหันต์ไม่มีจิตตชรูป) ส่วน
กัมมชรูปในปวัตติกาลไม่ได้อาศัยจิตเกิดเพราะเกิดจากกรรมก็จริง แต่ก็ต้อง
อาศัยจิตอุปถัมภ์ เพราะถ้าจิตไม่มีแล้ว เช่นคนตายกัมมชรูปก็เกิดไม่ได้เหมือน
กัน

เหตุปัจจนิกได้แก่ อเหตุกจิต ๑๘ เป็นจิตที่ไม่ได้เกิดเพราะเหตุ
จึงเป็นผลของเหตุไม่ได้ อัญญสมานาเจ, ๑๒ (เว้นฉันทะ) ซึ่งเป็นเจตสิกที่เกิดกับ
อเหตุกจิต โมหเจตสิกที่ในโมหจิต ๒ ก็ไม่มีเหตุที่สัมปยุตกับตน เพราะ
เป็นเอกเหตุ คือเป็นได้แต่เหตุอย่างเดียว เป็นผลไม่ได้ จึงเป็นปัจจนิก และ
รูป ๗ หมวดที่เป็นผลของเหตุไม่ได้ คือ

๑. อเหตุกจิตตชรูป เป็นรูปที่ไม่ได้เกิดกับจิตที่มีเหตุ (รูปที่เกิด
กับ อเหตุกจิตได้มี ๘ ดวง เว้นทวิปัญจ. ๑๐ ให้เกิดรูปไม่ได้)

๒. อเหตุกปฏิสนธิกัมมชรูป ที่เกิดพร้อมด้วยอเหตุกปฏิลนธิ ๒ ดวง
คือ อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบาก ๑ อกุศลวิบาก ๑ ก็ไม่ได้เกิดจากเหตุ
คือรูปที่ไม่มีวิญญาณ เช่น

๓. พาหิรรูป ได้แก่รูปภายนอก
ต้นไม้ ภูเขา หรือรูปที่เป็นอารมณ์ภายนอก เช่น รูป เสียง กลิ่น รส
โผฎฐัพพะ รูปเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจัย แต่เกิดขึ้นด้วยอุตุ

๔. อุตุชรูป รูปที่เกิดจากอุตุ คือความเย็น ความร้อน จึงพัน
จากความเป็นผลของเหตุปัจจัย

๕. อาหารชรูป รูปที่เกิดจากอาหาร ก็พ้นจากความเป็นผล
ของเหตุปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2023, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8123


 ข้อมูลส่วนตัว




1700296768194.jpg
1700296768194.jpg [ 84.57 KiB | เปิดดู 1434 ครั้ง ]
๖. อสัญญสตตกัมมชรูป ไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจัย เพราะ
อสัญญลัตตพรหมไม่มีจิต กัมมชรูปของอสัญญสัตตพรหม จึงพ้นจากเหตุปัจจัย

๗. ปวัตติกัมมชรูป คือกัมมชรูปที่เกิดต่อจากปฏิสนธิจิต.จะมี
ก้มมซุรูปเกิดทุกๆ อณุขณะของจิตทุกๆ ดวง พอถึง ๑๗ ขณะจิตก็ดับ และ
ก็เกิดเรื่อยมาทุกๆอณุขณะของจิต จนถึงก่อนหน้าจุติจิต ๑๗ ขณะกัมมชรูป
ก็จะหยุดเกิด ส่วนที่เกิดแล้วก็จะไปดับพร้อมกับจุติจิต ปวัตติกัมมชรูป
เหล่านี้ไม่ได้อาศัยเหตุปัจจัยเกิด เพราะเกิดจากกรรมในอดีต ปวัตติกัมมชรูป
จึงไม่เป็นผลของเหตุปัจจัย

รูปภายนอก ๕ หมวด ที่ไม่ได้เกิดจากเหตุ เรียกว่า พาหิรทวิปัญจ
คือ รูป ๕ หมวด นับตั้งแต่พาหิรูป เป็นต้น ถึงปวัตติกัมมชรูปไม่ได้เกิด
จากเหตุ จึงเป็นปัจจนิกของเหตุปัจจัย

มหาปัฏฐานแบ่งรูป ๒๘ ออกเป็น ๗ หมวด คือ

๑. ปฏิสนธิกัมมชรูป ๒๐

๒. ปวัตติกัมมธรูป ๒๐ องค์ธรรมเหมือนกัน คือ อวินิพโภครูป ๘
ปริจเฉทรูป ๑ ปสาทรูป ๕ ภาวรูป ๒ ชีวิตรูป ๑ หทยรูป ๑
อุปจยะ ๑ สันตติ ๑

๓. จิตตชรูป ๑๗ องค์ธรรม คือ อวินิพโภครูป ๘ ปริจเฉทรูป ๑
วิญญัติรูป ๒ วิการรูป ๓ สัททรูป ๑ อุปจยะ ๑ สันตติ ๑

๔. อุตุชรูป ๑๕ องค์ธรรม คือ อวินิพโภครูป ๘ ปริจเฉทรูป ๑
วิการรูป ๓ สัททรูป ๑ อุปจยะ ๑ สันตติ ๑

๕. อาหารซรูป ๑๔ องค์ธรรม คือ อวินิพโภครูป ๘ ปริจเฉทรูป ๑
วิการรูป ๓ อุปจยะ ๑ สันตติ ๑

๖. พาหิรรูป ๔ องค์ธรรม คือ อวินิพโภครูป ๘ สัททรูป ๑

๗. อสัญญสัตตกัมมชรูป ๙ องค์ธรรม คือ อวินิพโภครูป ๘
ชีวิตรูป ๑

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 62 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร