ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ธัมมุทธัจจะ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=64858 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 09 ก.ย. 2024, 07:14 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ธัมมุทธัจจะ | ||
ธัมมุทธัจจปหานนัย ไม่ว่าจะเป็นสมถยานิกะหรือวิปัสสนายานิกะ เมื่ออุทยัพพยญาณเกิดขึ้น ครั้งแรก วิปัสสนูปกิเลส เช่น แสงสว่างหรือโอภาส ญาณ ปิติ ปิติ ปัสสัทธิ. เป็นต้น ย่อมเกิดขึ้นแก่โยคีนั้น บางครั้งโยคีอาจะนึกว่าวิปัสสนูปกิเลสเหล่านั้น เป็นธรรม วิเศษ นึกว่าตนเองได้ธรรมวิเศษแล้วก็เป็นได้ ซึ่งการกำหนดรู้หรือเข้าใจเช่นนั้น ท่านเรียกว่า ธัมมุทธัจจะ เป็นความฟุ้งซ่านที่เกี่ยวกับสภาวธรรม บุคคลผู้ที่ได้ ธัมมุทธัจจะนี้ บางครั้งอาจจะทำให้มองเห็นรูปนามที่ปรากฏอยู่ได้ไม่ชัดเจน อาจทำ ให้การกำหนดหยุดชะงักได้ หรือในที่สุดอาจเสื่อมลงได้ หรืออาจทำใจทำให้สิ่งที่กำหนด นั้นเสื่อมลงไปได้ เพราะฉะนั้น โยคีพึงกำหนดพิจารณาละธัมมุทธัจจะนั้นให้ได้ อย่าไปสนใจหรือให้ความสำคัญกับวิปัสสนูปกิเลสเหล่านั้นแต่ให้ตระหนักถึงการกำหนด จิตที่มีกำหนดพิจารณาวิปัสสนาเท่านั้น ถ้าสามารถทำได้อย่างนี้ ธัมมุทธัจจะที่ว่า ก็จะ หายไปโดยอัตโนมัติ ชื่งเมื่อเป็นเช่นนั้น รูปนามที่ปรากฎชัดมากเป็นพิเศษ จิต นั้นก็จะกำหนดพิจารณา ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์รูปนามที่เรียกว่าโคจรัชฌัตตะ นับจาก นั้น วิปัสสนาญาณก็จะแก่กล้าขึ้นไปตามลำดับ จนกระทั้งถึงมรรคญาณ ก็วิธีการที่โยคีกำจัดความฟุ้งซ่านออกแล้วยังมรรคให้เกิดขึ้นขั้นนั้น ท่านเรียกว่า ธัมมุทธัจจปหานภาวนานัย แปลว่า "หลักการเจริญภาวนาที่มีการละความฟุ้งซ่าน ทีเกี่ยวกับสภาวธรรมออกเแล้วเข้าถึงอริยมรรค" ซึ่งหลักการนี้มีความเกี่ยวข้องกับ สมถยานิกะและ วิปัสสนายานิกะทั้งสอง จึงสามารถสงเคราะทั้งเข้าในทั้งสมถปุพพัง คมนัยและวิปัสสนาปุพพังคมนัย เพราะฉะนั้น ในคัมภีร์อรรถกถาท่านจึงกล่าวนัย ไว้เพียงแค่ ๒ นัยเท่านั้น สำหรับบุคคลผู้เป็นวิปัสสนายามิกะไม่จำเป็นต้องนำเอาสมถะมาเพื่อให้เกิด จิตตวิสุทธิ แต่สามารถเจริญวิปัสสนาได้เลย เมื่อวิปัสสนานั้นแก่กล้าแล้ว ชณิกสมาธิ ก็จะเกิดขึ้นกลายเป็นจิตตวิสุทธิสำหรับวิปัสสนายานิกบุคคลนั้น ซึ่งความหมายใน ประโยคข้างต้นนี้มีหลักฐานปรากฏชัดเจนทั้งในพระบาลีโตรปิฎก อรรถกถา และ ฎีกาที่ได้แผลงไปแล้วนั่นเอง แม้แต่คัมภีร์วีวิวัธธนาซุนีที่ท่านทั้งหลายถืออยู่นี้ก็ เป็นคัมภีร์ที่มุ่งแสดงวิธีการปฏิบัติโดยเอาวิธีการของวิปัสสนายานิกะเป็นวิธีการการหลัก คือ นำเอาวิธีของวิปัสสนายามิกะมาแสดงไว้โดยความเป็นประธาน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ได้แสดงวิธีการปฏิบัติเพื่อจิตตวิสุทธิสำหรับสมถยานิกบุคคลไว้เป็นเอกเทศ แต่จะอย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลผู้ได้เจริญขณิกสมาธิซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่อง จากวิปัสสนานั้น เมื่อได้ถึงลักษณะเนยยานาวรณธรรม ๔ ประการ. รู้ซึ่งในธรรมที่ เป็นอันตรายแก่สมาธิ ๖ ประการ. รู้จักวิธีการแก้ไขให้พ้นจากธรรมที่เป็นอันตราย ๖ เหล่านั้น ๖ ประการ และเข้าใจวิธีการทำให้วิปัสสนาจิตตั้งมั่นในอารมณ์เดียวแล้ว ย่อมได้เปรียบมากทีเดียว เพราะฉะนั้น ผู้เขียนจะขอยกธรรมมีนิยยานาวรณธรรม ประการเป็นต้นเหล่านั้น จากคัมภีร์ปฏิสัมทามรรค อาณาปานกถาพอเป็น ตัวอย่างดังนี้
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |